ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 865 – เกราะสายฟ้า
“เห้ ราชินีของข้า ดูซะเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ข้าใช้พลังของมันจริงๆ.”
ชูเฟิงยิ้ม ในตอนนั้นดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง และมีพลังของสายฟ้าเก้าสีปรากฏขึ้นในตาเขา
แต่นั่นเป็นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น สายฟ้า4สีนั้นไม่เพียงปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา แต่มันยังระเบิดออกจากร่างของเขา ในตอนนั้นสายฟ้านับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งออกมาจากร่างของเขาและครอบคลุมเขาไว้
ในตอนนั้น ชูเฟิงก็ถูกปกคลุมโดยสายฟ้าทั้ง 4 สี และมันต่างจากสายฟ้าทั่วไป เพราะมันส่องสว่างราวกับแสงและครอบคลุมตัวคน
และกลายเป็นหมวก ชุดเกราะ และรองเท้า ให้กับเขา
พวกมันไม่ได้เพียงส่องแสงรอบๆตัวเขา แต่มันเป็นการปกคลุมตัวเขา
ที่สำคัญที่สุดเมื่อชูเฟิงใส่ชุดเกราะสายฟ้านั่น ระดับพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นกลายเป็นระดับ 6 จ้าวแห่งสงคราม
ระดับพลังของเขาไม่เพียงเพิ่มสูงขึ้น แต่บรรยากาศรอบๆตัวเขาก็เปลี่ยนแปลงไป มันน่ากลัวมาก บรรยากาศที่เกิดจากสายฟ้าที่ล้อมรอบตัวเขานั้นน่ากลัวยิ่งนัก
กลิ่นอายนี้นั้นรุนแรงมากจนคิดว่าไม่ควรมีอยู่ในโลกนี้ “หวา เจ้าเพิ่มพลังโดยใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว ไม่เพียงแค่ระดับพลังเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเจ้านั้นยังเพิ่มอีก ชูเฟิง เจ้าแข็งแกร่งมากในตอนนี้!”
ต้านต้าน ประหลาดใจมาก เพราะนางสัมผัสได้ว่าชูเฟิงไม่เพียงระดับขึ้นเป็นระดับ 6 จ้าวแห่งสงคราม แต่พลังของเขาก็พุ่งสูงขึ้น ราวกับเขาสวมยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์
ชูเฟิงในตอนนี้นั้นด้วยพลังระดับ 6 ก็ไม่มีปัญหาที่จะจัดการกับระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม แต่ถ้าเขาถือยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์นั้น ถ้าเขาเอาชนะราชันย์สงครามไม่ได้ เขาก็ไม่แพ้เช่นกัน
ชูเฟิงที่มีพลังระดับนี้นั้น ถ้าเขาสู้กับ มู่หรง ซุน อีกครั้งเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวมู่ หรงซุน อีกต่อไป
อาจพูดได้ว่าในในภูมิภาคทะเลตะวันนออกนั้น นอกจาก ทันไท เซว่แล้ว ไม่มีใครที่อยู่ในระดับจ้าวแห่งสงครามสามารถเอาชนะชูเฟิงได้เลย “ต้านต้าน เจ้าพูดถูก เจ้าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี่มันเหนือจินตนาการของข้ามาก ข้าเข้าใจมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และตอนนี้เขารู้สึกต่างจากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด ราวกับเป็นคนใหม่ หากข้าครอบครองมันอย่างสมบูรณ์ละก็ …””ข้าต้องทำมันให้ได้!”
ชูเฟิง ยิ้มแล้วพูดขึ้น “เจ้า และ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ นั้นเป็น 1 เดียวกัน หากมันยอมรับเจ้า มันก็จะสนับสนุนเจ้าแน่นอน นอกจากนี้ยังมีอีก 5 สีที่เจ้าต้องทำให้มันยอมรับ” “อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นั้นเจ้ารีบกลับไปยังหุบเขาสายหมอกเถิด””เพราะสุดที่รักของเจ้านั้น กำลังรอเจ้าอยู่ และอีกอย่างคือในตอนนี้นั้น เจ้าสามารถเรียนรู้ทักษะต้องห้ามระดับพสุธาได้แล้ว”ต้านต้าน พูด “อืม.”
ชูเฟิงพยักหน้า จากนั้นเขาก็ยิ้มแปลกๆและพูดขึ้นว่า”อย่างไรก็ตามก่อนที่จะออกไปข้านั้นนมีที่ที่ต้องไปเยี่ยมอยู่””ถ้าข้าเดา ไม่ผิด คงเป็นประมุขนิกายดาบศิลาอย่างนั้นสินะ”ต้านต้านพูด “อืม ถูกต้อง ประมุขนิกายดาบศิลานั้นสมควรตายอย่างยิ่ง เพราะเขากล้าที่จะโจมตี พรรคมารทะลายราตรี ข้าจะไม่ปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่และ ข้าจะฆ่าคนที่กล้าเป็นศัตรูกับพรรคมารทะลายราตรี””นอกจากนี้ มีมหาอำนาจมากมายที่ได้เป็นพันธมิตรกับ หมู่เกาะประหาร ถ้าสงครามมาถึงมันย่อมไม่ดีแน่นอน”
ชูเฟิงพูดขึ้น “ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นก็ใช้นิกายเล็กๆนั่นและประมุขของมันในการทดสอบพลังของเจ้าสิ .”
ต้านต้านพูดขึ้น นางต้องการเห็นพลังของชูเฟิงในตอนนี้
*วูบ* หลังจากตัดสินใจได้ ชูเฟิงก็ทะยานตรงไปที่นิกายดาบศิลา
นิกายดาบศิลานั้นตั้งในพื้นที่เขตหนาว แม้ว่ามันจะไม่ได้เป้นมหาอำนาจของที่นี่ แต่ก็นับได้ว่าเป็นนิกายใหญ่ในระดับนึง
ตอนนี้นั้น อยู่ในช่วงเวลาดึกแต่นิกายดาบศิลานั้นก็มีแสงส่องออกมา และมีการเต้นร้องรำทำเพลง อยู่ที่ลานกว้างของนิกาย ผู้คนหลายพันคนต่างมารวมตัวกันที่นั่น
นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่คนจากนิกายดาบศิลา เท่านั้น แต่ผู้โด่งดังจากพื้นที่เขตหนาวก็มารวมตัวกันที่นี่
เหตุผลที่พวกเขามาก็เพื่อร่วมแสดงความยินดี กับประมุขนิกายดาบศิลา ฉือ จิงเทียน
เขาถูกช่วยโดยนิรันดร์ที่ 3 และไม่เพียงเขามีชีวิตรอดกับมา แต่เขายังสามารถนำนิกายศิลาให้กลายเป็นพรรคพวกของหมู่เกาะประหารได้
อย่างไรก็ตาม ในการต่อสู้กับชูเฟิงนั้น นิกายดาบศิลานั้นสูญเสียหนักมา ไม่เพียงผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งแต่รวมไปถึงศิษย์ที่แข็งแกร่งได้ตายไปเยอะมาก แม้กระทั่ง 6 ผู้อาวุโส ก็ยังถูกข้าโดยชูเฟิง ในตอนนี้นิกายดาบศิลานั้น ได้สูญเสียจิตวิญญาณขนาดใหญ่ไป และตกต่ำกว่าก่อนหน้านี้มาก เพราะนอกเหนือจากประมุขนิกายดาบศิลาแล้ว คนอื่นๆไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงเลย
แต่เมื่อหลังจากได้เข้าร่วมกับหมู่เกาะประหารแล้ว ประมุขนิกายดาบศิลา ด้วยนามของคนจากหมู่เกาะประหารก็ได้เชิญเหล่าผู้โด่งดังมาร่วมกับนิกายเขาและเข้าร่วมกับหมู่เกาะประการด้วย
แต่พันธมิตรนี้ก็ฟังดูดีเพียงผิวเผยเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่านิกายอื่นๆหรือใครก็ตามต่างก็ไม่ต้องการมาเช่นนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะชื่อของหมู่เกาะประหารพวกเขาก็จะปฏิเสธไป พวกเขาทำได้เพียงยอมรับเป็นพรรคพวกกับนิกายดาบศิลา
เพื่อความจริงใจของเขา ประมุขนิกายดาบศิลาได้เป็นเจ้าภาพในงานครั้งนี้
วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่มีงาน และเป็นวันสุดท้าย หลังจากคืนนี้ นิกายดาบศิลาจะนำผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายไปยังหมู่เกาะประหาร เขาจะนำคนออกจากพื้นที่เขตหนาวและไปตั้งตัวในหมู่เกาะประหาร “ทุกๆท่านในที่นี้คงคิดถึงเรื่องอสูรสายฟ้าทั้ง 4 ที่อยู่ในท้องฟ้าใช่หรือไม่ บางทีมันอาจจะเป็นสัญญาณของ กายศํกดิ์สิทธิ์ก็เป็นได้”
กลางลาน นิกายดาบศิลา และบนยอดวิหารนั้นเต็มไปด้วยงานเลี้ยงที่หรูหรา
เหล่าคนที่มาร่วมงานเลี้ยงนั้นเต็มไปด้วยคนดังของพื้นที่เขตหนาว และในตอนนี้นั้นพวกเขากำลังพูดคุยกันเรื่องปรากฏการณ์ที่เกิดจากชูเฟิง
แม้ว่าตอนนี้ นิกายดาบศิลานั้น จะกลับมาร้องรำทำเพลงได้แล้ว แต่ความกลัวในก่อนหน้านี้ก็ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของพวกเขา และถ้าพวกเขาไม่สามารถลืมมันได้ พวกเขาก็ไม่สามารถทำใจให้สงบได้
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : ใช้พวกแม่งนี้แหละเป็นเป้าซ้อมมือ!!!
B : งานเลี้ยงแห่งความยินดีจะกลายเป็นงานเลี้ย แห่งโศกนาฏกรรม
A : ตอนหน้าสนุกแน่!!!
B : ตอนหน้า เหมือนเป็นวงสนทนาซะมากกว่า เกี่ยวกับเรื่องกายศักดิ์สิทธิ์
C : แต่ตอนต่อๆไปเด๋วมีฆ่ากันแน่นอน . . . .