ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 999 – สุสานของชูเฟิง
วานรเฒ่ารีบเเนะนำเเละพาชูเฟิงมุ่งหน้าลึกลงไปในสถานที่เเห่งนี้หลังจากเดินมาสักพักพวกเขาก็ค่อยๆหยุดลง
ในขณะนั้นได้ปรากฏหลุมศพด้านหน้าของชูเฟิงการเเสดงออกของเขาค่อนข้างเปลี่ยนไปเมื่อทันทีที่เขาได้เห็นชื่อที่สลักบนนั้นอารมณ์สุดยากจะหยั่งถึงได้ตราตรึงเข้าไปในใจเขาในทันที
ชื่อที่เขียนบนป้ายหลุมศพนั้นชื่อ ‘ชูเฟิง’ ด้วยเนตรสวรรค์ของเขา เขาได้รู้ว่า หินที่สร้างมันนั้นสลักซับซ้อนอย่างมาก เเละเวลาหรือเครื่องหมายต่างๆที่สลักลงไปนั้น เป็นเช่นเดียวกับอายุปัจจุบันของเขาอย่างชัดเจน
ที่สิ่งเดียวที่น่าเศร้าคือเมื่อเขาพบชื่อที่สลักลงในป้ายหลุมศพ เเต่ในทันทีที่เขามองลึกเข้าไปในหลุมฝังศพนั้นกับไม่พบสิ่งใดเลย “ผู้อาวุโส นี่คือ…”
ชูเฟิงถามวานรเฒ่า ด้วยความสงสัย “โฮ่….”
วานรเฒ่ายิ้มขึ้นทันที มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน จากนั้นค่อยๆกล่าวขึ้นว่า”
จริงๆเเล้วข้าสมควรที่จะเรียกเจ้าว่า นายน้อย” “เเต่ตอนนี้เจ้านั้นไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับชื่อเรียกขานเช่นนั้นเป็นเพราะว่า ความเเข็งเเกร่ง ในตอนนี้ของเจ้า” “สำหรับหลุมศพเเห่งนี้นั้นมันได้ช่วยชีวิตของเจ้ามาก่อนหน้านั้น เเละตอนนี้มันก็ยังสามารถช่วยชีวิตของเจ้าได้อีกครั้ง”
หลังจากกล่าวเส็รจ คลื่นพลังที่มองไม่เห็นได้พุ่งออกมาจากด้านหลังของ วานรเฒ่า เเละเข้าไปในหลุมศพในทันที
ผืนดินเริ่มที่จะสั่นสะเทือนเเละระเบิดออกในทันที ไม่นานก็ปรากฏ โรงศพขึ้น มันทำด้วยหินที่ดูลึกลับ เเละซับซ้อน มันขนาดใหญ่มากกว่า10เท่าของโลกศพทั่วไป
เมื่อเขามองลงไปอารมณ์ที่ซับซ้อนเเละหัวใจของชูเฟิงก็เต้นเเรงมากขึ้น เป็นเพราะเขาอยากรู้อย่างเเท้จริงว่าจะมีอะไรที่อยู่ในโลกศพนี้เเละมันอาจจะเกี่ยวข้องกับเขา
วานรเฒ่าได้กล่าวไว้ว่า มันได้เคยช่วยชีวิตเขาเมื่อนานมาเเล้ว เเละตอนนี้มันก็ยังสามารถช่วยเขาได้อีกครั้ง อะไรกันคือความหมายที่ว่า?
*ปั้ง*
ในช่วยเวลานั้น เสียงที่ดังอยู่ในลำคอ ก็เริ่มที่จะดังออกมา ฝาโลงศพของหินที่ลึกลับ เริ่มที่จะเปิดขึ้น เเละสิงที่ปรากฏข้างในนั้นคือเเสงสว่างที่เจิดจ้า
มันเป็นรูปแบบอำนาจวิญญานที่ลึกซึ้ง ซึ่งชูเฟิงไม่สามารถเข้าใจการก่อรูปแบบของรูปแบบอันนี้ได้ เเม้ว่ามันจะซับซ้อนเเต่เขาก็ยังคงพอบอกได้ว่ามันคือรูปแบบ เคลื่อนมิติ ไปยังสถานที่ต่างๆ มันน่าจะมาจากยุคโบราณ “ไปซะ รูปแบบการก่อตัวนี้ สามารถส่งเจ้าไปยังที่ปลอดภัยในดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ได้”
วานรเฒ่ากล่าวออกมา “ผู้อาวุโส ท่านต้องการจะให้ข้าจากไปโดยเร็วอย่างงั้นหรือ?”
ชูเฟิงถามอย่างสับสน “เเน่นอน เจ้าคงไม่ได้คิดที่จะอยู่ที่นี่หรอกใช่มั้ย?”
วานรเฒ่ายิงคำถามใส่ชูเฟิงอย่างรวดเร็ว สายตาของเขาบ่งบอกอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานเขาก็กล่าวอย่างรวดเร็วอีกว่า”
เจ้าจะต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” “ผู้อาวุโสท่านรู้หรือไม่ว่ากว่าข้าจะได้พบสถานที่เเห่งนี้มันยากเพียงใด? ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าได้ทนทุกข์ ฝ่าฟันความลำบากมาเท่าไหร่กว่าจะมาถึงได้? หลังจากที่ข้าผ่านความลำบากมามากมาย กว่าจะได้พบท่าน หลังจากความยากเย็นต่างๆที่ข้าผ่านมานั้น เป้าหมายเดียวของข้าคือมาที่เเห่งนี้ เพื่อที่ข้าอยากจะรู้ว่า ใครเป็นพ่อเเม่ของข้า ข้าเเค่อยากจะให้พวกเขารับรู้ว่าข้ามา” “เเต่สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจคือ…. พวกเขาไม่รู้หรือว่าข้าคือลูกของพวกเขา ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้ามีครอบครัวหรือไม่ ข้าไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงทอดทิ้งข้าไป เเละตอนนี้ท่านก็ต้องการที่จะให้ข้าออกไปโดยเร็ว. . .”
ชูเฟิงเเสดงออกได้อย่างชัดเจนถึงความปราถนาใคร่รู้ เขาหวังว่า วานรเฒ่า จะบอกอะไรเขาได้บ้าง เเม้มันจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม เพราะเขารู้ว่า วานรเฒ่าจะต้องรู้อะไรบ้างอย่างเเน่นอน “อ่า…”
วานรเฒ่ากล่าวออกมาเบา หลังจากที่ได้ยินคำถามของชูเฟิง”โอ้ ชูเฟิง เอ๋ย ไม่ใช่ว่าข้าไม่เต็มใจที่จะบอกกล่าวกับเจ้า เพียงเเต่ว่า พ่อของเจ้า นั้นไม่เต็มใจที่จะให้ข้าบอกกับเจ้า เขาได้อยู่ที่นี่ตอนนี้ก็จริง เเต่เขาไม่ต้องการที่จะเห็นหน้าเจ้า เป็นเพราะเจ้าอ่อนเเอเกินไป ความอ่อนเเอของเจ้าในตอนนี้นั้นไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกชายของเขาด้วยซ้ำ” “ท่านว่าอะไรนะ”
หัวใจของชูเฟิงนั้นสั่นสะท้าน เพียงเเค่คำสั้นๆด้วยเหตุผลที่ว่านั้นค่อนข้างกระทบจิตใจของเขาอย่างมาก
พ่อของเขาที่เขาวาดฝันไว้ต่างๆนาๆด้วยความชื่นชมเเละยอมรับอย่างจริงใจ เเต่ในตอนนี้เขาได้อยู่ที่นี่ เเละไม่เพียงเเค่นั้นเขายังไม่ต้องการที่จะเห็นชูเฟิง เหตุผลที่ว่าชูเฟิงนั้นอ่อนเเอเกินไป? “โฮ่…”
ทันใดนั้นชูเฟิงก็ยิ้มออกมาด้วยความสุขผิดปกติ เเต่ในความจริงหัวใจของเขาบีบรัดไปด้วยความโกรธอย่างสุดขีด
เเต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ระเบิดเสียงคำรามออกมา มันดังอย่างกึกก้องเป็นเพราะว่าลึกของสถานที่เเห่งนี้ทำให้มันได้ยินชัดเจนเเจ่มเเจ้ง”
นี่คือเหตุผลบ้าอะไรกัน” “ท่านได้ทอดทิ้งข้าตั้งเเต่เด็ก เเละทำให้ข้าไม่ได้รับความสุขเหมือนเด็กคนอื่นๆ เเละตอนนี้ท่านยังจะไม่เต็มใจที่จะเห็นหน้าข้า ด้วยเหตุผลที่ว่าข้าอ่อนเเอเกินไปอย่างงั้นหรือ?” “ข้ายอมรับว่าข้าอ่อนเเอ เมื่อเทียบกับพวกท่านทั้งสองเเน่นอนว่าข้าอ่อนเเอมาก ข้ามันอ่อนเเออย่างน่าสมเพช เเต่ว่านี่คือสิ่งที่กล่าวกับคนในครอบครัวอย่างงั้นหรือ? วิธีการที่พวกท่านทำกับข้า จะมีพ่อเเม่คนใดบ้างที่จะทำเเบบพวกท่านในโลกใบนี้กัน?!” “หุบปาก!”
เเต่ก่อนที่ชูเฟิงจะกล่าวสิ่งที่จะบอกอีกครั้ง วานรเฒ่าก็ตระโกนออกมาด้วยความรวดเร็ว เสียงของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่ากลัว
เมื่อมันเกิดขึ้น หูของชูเฟิงได้อื้อชาในทันที ในหัวของเขาได้กระทบกระเทือนอย่างรุนเเรงเพราะความดังของเสียง จากนั้นอารมณ์เเห่งความโศกเศร้าเเละความโกรธก็ได้ถูกปัดทิ้งไปในขณะนั้นทันที “เจ้าไม่มีคุณสมบัติเเม้เเต่จะตำหนิเขา ไปซะ เมื่อเจ้ามีความเเข็งเเกร่งพอค่อยกลับมาที่นี่ เเน่นอนว่าถ้าเจ้ารู้สึกว่าเขาไม่ใช่พ่อของเจ้า เเละเจ้าไม่ต้องการเขา เจ้าก็เลือกที่จะไม่กลับมาก็ได้ เจ้าสามารถไปใช้ชีวิตของเจ้าได้ตามต้องการเช่นเดียวกัน”
วานรเฒ่ากล่าวอีกครั้งเเต่ในน้ำเสียงของมันเเฝงไปด้วยความเศร้าโศก
ชูเฟิงที่เพิ่งกลับมาสงบได้อีกครั้งจากความรู้สึกเจ็บปวด เขาได้เห็นการเเสดงออกของ วานรเฒ่าทันที ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ดีว่าเป็นเพราะว่าเขามีปัญหาที่ไม่สามารถจะกล่าวออกมาได้ หรือบางทีพ่อของเขาเเละครอบครัวของเขากำลังมีปัญหาที่พวกเขาไม่สามารถพูดถึงมันได้
เมื่อคำนึงถึงตอนที่ ฮวางฟู่ ห่าวเย่ ได้ช่วยเขา เเละสุนัขขนาดใหญ่ได้ช่วยชีวิตเขาอีกทีตอนนั้นภายในเส้นทางสวรรค์ อาจจะเป็นครอบครัวของเขาที่อยู่เบื้องหลังก็เป็นได้ บางทีในตอนนี้ พวกเขาอาจจะเป็นหรือตายก็ไม่เเน่ชัด
ดังนั้นไม่สำคัญว่าพวกเขาปฏิบัติยังไงกับเขา ความจริงก็คือพวกเขาปกป้องชูเฟิงด้วยทุกอย่างที่มีไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รักชูเฟิง ถ้าเขาไม่รักจริงดังนั้นเมื่อตอนนั้นเขาจะช่วยชีวิตของชูเฟิงทำไม มันจะต้องเป็นเพราะปัญหาบางอย่างอย่างเเน่นอน
เเต่ปัญหาใดกันที่จะทำให้พวกเขาสามารถที่จะละทิ้งลูกของพวกเขาได้กัน? “ผู้อาวุโส ถ้าตามที่ท่านกล่าวเป็นเพราะพ่อของข้าไม่เต็มใจที่จะออกมาพบข้าเป็นเพราะข้าอ่อนเเอ อย่างไรก็ตามท่านสามารถถามเขาได้หรือไม่ว่า ข้าจะต้องมีการบ่มเพาะระดับใดเขาถึงจะไม่เมินข้ากัน ข้าจะต้องมีพลังเท่าใดกัน เขาถึงจะเต็มใจที่จะยอมรับว่าข้าคือลูกชายของเขา?”
ชูเฟิงกล่าวอย่างเย็น ในดวงตาของเขาไม่ได้ปรากฏถึงความขอร้องซักนิด
การจ้องมองของ วานรเฒ่า เปลี่ยนไปอีกครั้ง สายตาของเขาตอนนี้ราวกับว่าสามารถที่จะจ้องน้ำเเข็งให้ละลายกลายเป็นน้ำได้ในทันที “อ่า…”
มันถอนหายใจอีกครั้งเเละกล่าวว่า”
ถ้าข้าจำไม่ผิดเจ้าจะต้องได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะในทะเลภาคตะวันออกอย่างเเน่นอน เเต่เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงพูดว่าเจ้านั้น อ่อนเเอ”
P’Film ////////////////////////////////////////