ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1000 – ภาระที่เเบกรับ
“ข้ารู้” “ดั่งสุภาษิตที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนก็ยังมีคนที่อยู่เหนือกว่า” “ผู้ที่อยู่ในรุ่นของข้าความเเข็งเเกร่งของข้าในทะเลภาคตะวันออกถือว่าไม่อ่อนเเอ” “เเต่ในดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเเน่นอนว่ามีหลายคนที่เเข็งเเกร่งกว่าข้าในรุ่นเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขาเเน่นอนว่าข้านั้น อ่อนเเออย่างเห็นได้ชัด” “ไม่ใช่เสมอไป มันไม่เเน่นอนเสมอไป ในทะเลภาคตะวันออกหรือดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ อย่างใดอย่างหนึ่งพวกเขาก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโลกใบนี้เท่านั้น ความเเตกต่างพวกนั้นไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายใน พวกเขาก็ยังคงขาดบางสิ่งเมื่อเทียบกับเจ้า?”
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ยินคำตอบของชูเฟิง วานรเฒ่าก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เขามองไปที่ชูเฟิงเเละตวาดด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง”
นั้นเพราะเจ้ามีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เก้าสีที่อยู่ในร่างกายของเจ้า เเละมันก็ถูกมอบให้กับเจ้าโดยพ่อของเจ้านั้นเอง” “เเม้กระทั่งอสูรจากโลกวิญญานพิภพอสูรฟ้าที่ถูกผนึกในร่างกายของเจ้า มันก็ถูกส่งมอบให้เจ้าโดยเเม่ของเจ้า” “เเละในตอนนี้สายเลือดของพวกเขา มันเป็น สายเลือดพิเศษ ที่ตอนนี้มันไหลอยู่ภายในตัวของเจ้า เเต่เจ้าก็ยังคงเปรียบเทียบตัวเองเป็นขยะของโลกใบนี้อย่างงั้นหรือ? ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ยังกล้าที่จะพูดว่าเจ้าอ่อนเเอถึงเพียงนั้น” “เจ้าไม่เพียงเเต่ดูน่าสงสาร ที่อ่อนเเอด้านการบ่มเพาะพลัง เเต่เจ้าก็ยังน่าสงสารเมื่อเทียบกับความรู้อันน้อยนิด ชูเฟิงเเท้จริงเเล้วเจ้าไม่เพียงเเต่ทำตัวอ่อนเเอ ไม่เพียงเเต่เจ้าตะขิดตะขวงชื่อครอบครัวของเจ้า เเต่เจ้าได้ดูถูกหรือตะขิดตะขวงเเม้กระทั่งพ่อเเม่ของเจ้า”
คำที่วรนรเฒ่ากล่าวออกมานั้น ทำให้ชูเฟิงชะงักไปชั่วครู่ ถึงเเม้ว่าคำพูดจะพูดเเทงใจของเขาเเต่มันก็ได้บ่งบอกถึงบางสิ่งบางอย่างให้กับเขาเช่นเดียวกัน
สายฟ้าศักสิทธิ์ 9สี เขาได้รับจากพ่อของเขา เเละ ต้านต้าน ที่ทรงพลังเเละน่ากลัวที่เป็นอสูรวิญญานพิภพอสูรฟ้าได้รับจากเเม่ของเขา จากน้ำเสียงของวานรเฒ่า เขาได้กล่าวอย่างชัดเจนต่อความคาดหวังของชูเฟิง เขาได้บอกว่าพ่อเเละเเม่ของเขานั้นเเข็งเเกร่งเพียงใด เเละในน้ำเสียงของเขาเมื่อพูดถึงการมีอยู่ของทั้งสองคน ทำให้น้ำเสียงของมันฟังดูเคารพเเละกล่าวชื่นชมพวกเขาทั้งสอง
วานรเฒ่าที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับ จักรพรรดิ์เเห่งสงคราม ยังเเสดงออกถึงขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบุคคลที่ทำให้เขาเคารพได้นั้นจะต้องเเข็งเเกร่งมากอย่างเเน่นอน….
ถึงเเม้ว่าเขาจะตกใจต่อคำพูด เเต่เขาก็ทำเพียงเงียบเเละรอคอย วานรเฒ่ากล่าวข้อมูลสิ่งที่เขาต้องการออกมาอีก ถึงเเม้เขาจะไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูล เเต่ชูเฟิงก็วิเคราะห์ข้อมูลที่เขาได้รับไปทีละเล็กละน้อย “อ่า..”
หลังจากที่ระบายอารมณ์ออกมาจากคำพูดอย่างรุนเเรงอารมณ์ของวานรเฒ่าก็สงบลงในทันที ในขณะนั้นมันได้มองไปที่ชูเฟิง นัยน์ตาของมันได้สงบเต็มไปด้วยความปราถนาบางอย่างก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเเละกล่าวว่า”
พวกเขาได้กล่าวไว้ว่า ถ้าเจ้าได้อยู่ใกล้กับสีเเดงเจ้าก็จะกลายเป็นสีเเดง หากเจ้าอยู่ใกล้สีดำก็จะกลายเป็นดำ เจ้าที่ได้อยู่ในดินเเดนของขยะดังนั้น นั่นจึงไม่แปลกที่เจ้าคิดว่าเจ้าอ่อนเเอ เป็นเพราะเจ้าไม่ได้อยู่ในสถานที่เเห่งนี้” “ไม่ได้อยู่ในสถานที่เเห่งนี้?”
ใจของชูเฟิงเต้นระสับระส่าย เขาไม่สามารถที่จะถามต่อได้เลยว่า”
เเล้วข้ามาจากไหน” “เจ้ามาจากโลกภายนอก”
วานรเฒ่ากล่าว “โลกภายนอก”
ชูเฟิงตกใจเล็กน้อย “อ่านั่นคือความจริง เนื่องจากเจ้าไม่รู้ข้าจะยกเว้นเเละบอกเจ้ากับเรื่องนี้เเทนละกัน ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าเจ้าได้กำลังเเบกภาระเเละฝากฝังอันใดบนตัวเจ้ากันเเน่”
วานรเฒ่ากล่าว “ตระกูลของเจ้ามาจากโลกเเห่งนี้ เเต่มันก็ได้ถูกลืมเลือนโดยคนในโลกนี้เพราะว่านานมากเเล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าความเเข็งเเกร่งของตระกูลของเจ้าได้เป็นที่ประจักษ์ เเละเป็นที่ยอมรับจากทุกคนบนโลกนี้รวมถึงกองกำลังจำนวนมากของดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์””เป็นเพราะสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์9สีของเจ้า เเละมันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูลของเจ้า ที่สืบทอด มีเพียงสายเลือดของตระกูลของเจ้าเท่านั้นที่มีคุณสมบัติครอบครอง นั่นคืออำนาจที่เเข็งเเกร่งเเละช่วยให้เจ้าเหนือกว่าสิ่งใดในโลกนี้” “ในตอนนั้นพ่อของเจ้าได้เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเจ้ามาก เเต่ที่น่าเศร้าเป็นเพราะเขาได้มีเจ้าเเละดังนั้นพ่อของเจ้าจึงถูกขับไล่ออกไปโดยตระกูล เกียรติยศพ่อของเจ้าได้ถูกช่วงชิงไป เเละยังมีความผิดร้ายเเรงนั่นก็คือการมีเจ้า”
วานรเฒ่ากล่าว “อะไรนะ? ข้านะรึต้นเหตุถึงความเสื่อมเสียของท่านพ่อ?”
ชูเฟิงตกใจอีกครั้ง เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เเต่เมื่อนึกถึงท่าทางของ วานรเฒ่าที่มองเขา ทำให้ชูเฟิงเหมือนเข้าใจบางสิ่ง
วานรเฒ่าได้กล่าวว่า สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ 9 สีเป็นอำนาจพลังพิเศษของตระกูลของเขา เเต่ว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เขาได้ครอบครองมันก็ตอนอายุ10ปี ซึ่งหมายความว่าก่อนเขาจะอายุเท่านั้นเเต่ก่อนเขาไม่มีอำนาจสายเลือดสืบทอดใดๆในร่างกายของเขา เเสดงว่าตอนนั้นเขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ 9 สี
นั่นคือหลักฐานที่เพียงพอที่บอกว่าเขา”
อ่อนเเอ”
วานรเฒ่าพูดถึงเเต่ก่อน เป็นเพราะเขาไม่ได้สืบสายเลือดของครอบครัว เเละตัวเขาเองไม่ได้มีอำนาจสายเลือดใดๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นร่างกายของเขาก่อนที่จะอายุ10ปีนั้น ถือว่าอ่อนเเอสุดๆ
ดังนั้นเขาจึงถามออกไป”
ผู้อาวุโสมันเป็นเพราะข้า? เป็นเพราะข้าอ่อนเเอเกินไปดังนั้นตระกูลของข้าจึงขับไล่ข้าเเละท่านพ่อออกไป เป็นเพราะข้าได้ทำให้เกียรติของท่านพ่อของข้าเสื่อมเสีย” “ไม่ นั่นก็เป็นเพียงเเค่หนึ่งในเหตุผลเเต่เหตุผลที่สอง ย่อมเป็นตระกูลของเจ้า พวกเขาได้ปล้นเกียรติยศของพ่อของเจ้าซึ่งมันก็คือตัวเจ้า ทั้งหมดเป็นเพราะ เจ้า! เจ้าเข้าใจใช่ไม๊ว่าข้าจะกล่าวอันใด?”
วานรเฒ่ากล่าวคำรามในทันทีมันชี้ไปที่ชูเฟิงเฉกเช่นชี้ศัตรูความเกลียดชัดได้แฝงในตาของเขา
ในทันทีชูเฟิงรู้สึกซับซ้อนอย่างมากในใจเขา ความเศร้าโศกสุดจะพรรณาได้เพิ่มขึ้นในใจ นี่เป็นอารมณ์ที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ชูเฟิงรู้ดีว่าตระกูลของเขานั้นเเข็งเเกร่งมาเป็นเวลานาน เขารู้ดีว่าตัวเขานั้นทำให้ตระกูลเสื่อมเสียเเละคือความผิดหวังของพ่อของเขา ถึงเเม้ว่าเขาจะนึกภาพตามไปเเต่ก็ไม่สามารถจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ได้เลย
ดังนั้นเขาจึงบ่มเพาะพลังอย่างหนักเพื่อเพิ่มความเเข็งเเกร่ง เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายของตัวเอง เเต่ในอีกด้านก็คือทำให้พ่อของเขาภาคภูมิใจ เเละจะต้องทำให้ตระกูลของเขาภูมิใจ เขาจะต้องกลับไปรวมตัวกับคนในตระกูล เเละทำให้พวกเขารับรู้ว่าเขาก็เป็นคนในตระกูลเช่นเดียวกัน
เเต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ว่า ตัวเขานั้นเองคือตัวตนที่ขับไล่พ่อของเขาออกจากตระกูล เเม้กระทั่งเกียรติยศของพ่อของเขาก็เป็นตัวเขาเองที่ทำลายมันลง มันยากที่จะยอบรับเรื่องนี้จริงๆ “เเกล๊ป”
เมื่อชูเฟิงเเสดงอาการท่าทางที่งุนงงการเเสดงของวานรเฒ่าก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ความน่าเกรงกลัวของเขาได้ปรากฏในนัยน์ตาทันที
*ครืนนน* ทันใดนั้นเเสงจากอำนาจการก่อตัวในโลงศพก็เปร่งเเสงขึ้น มันเริ่มที่จะทำงานทันที จากนั้นเขาก็ได้คว้าชูเฟิงเเละโยนลงไปในโลงศพเเละกล่าวว่า”
อยู่ตรงนั่นเเละไม่ต้องขยับ ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น มันจะนำตัวเจ้าไปจากที่นี่”
หลังจากที่คำพูดของวานรเฒ่าสิ้นสุด ฝาหินที่ลึกลับก็ได้เเปลงเปลี่ยนเเละปิดผนึกชูเฟิงภายในนั้นทันที
เมื่อเห็นว่าฝากำลังจะปิดประทับลง เขาได้มองหาวานรเฒ่าเเละถามว่า”
ผู้อาวุโสเกิดสิ่งใดขึ้น” “ไม่ต้องถามอันใดมาก เพียงทำตามที่ข้าพูด”
เสียงของวานรเฒ่าได้กลับกลายเป็ฯอ่อนโยนเเละมีกระทั่งความเศร้าโศกเเละโหยหา เสียงของเขาค่อนข้างอบอุ่นเเละกล่าวกับชูเฟิงว่า”
ชูเฟิงเจ้าจะต้องจำไว้ว่าเจ้าเป็นคนเอาเกียรติยศพ่อของเจ้าไป เเละคนที่สามารถจะนำมันกลับมาได้ก็คือเจ้าเช่นเดียวกัน เจ้าคือความหวังของเขา” “ความหวัง”
หัวใจของ ชูเฟิงเต้นสั่นระรัว เมื่อเขาได้ยินบางอย่างเเละเข้าใจมัน ดังนั้นเขาจึงเร่งถามอีกครั้ง”
ผู้อาวุโสถ้าเกิดว่าข้าต้องการจะกลับมาที่นี่อีก? ข้าจะต้องมีการบ่มเพาะระดับใดถึงจะทำให้ท่านพ่อของข้ายินดีที่จะพบข้าเเละรับรู้ถึงตัวตนของข้า”
วานรเฒ่าลังเล็กซักพักก่อนที่จะตอบคำถามของชูเฟิงเเละกล่าวออกไปว่า”
เจ้าสามารถที่จะกลับมาเมื่อใดก็ได้ตามที่เจ้ารู้สึกว่าตัวเจ้านั้นเเข็งเเกร่งเพียงพอแล้ว”
*ปั้ง*หลังจากนั้นพลังงานอันอ่อนโยนได้ปิดฝาโลกที่มีชูเฟิงอยู่ เเละมันก็ได้ปิดสนิทลงในทันที
P’Film