ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 929 – มรดกไข่มุกนิรันดร์
ท่านหญิง เพียวเมี่ยว จมไปกับความคิดของนาง ก่อนที่จะหายใจยาวๆ ออกมาราวกับว่านางตัดสินใจบางอย่างได้ ก่อนที่นางจะยิ้มบางๆ พร้อมกล่าวออกมาว่า”
ฟู่หยาน ไปตามท่านพ่อเจ้ามา ข้ามีเรื่องบางอย่าจะพูดกับเขา !!””จริงเหรอ !! เยี่ยมเลย ท่านแม่อยากพบท่านพ่อแล้ว !!”
เมื่อท่านหญิง เปียวเหมี่ยว ต้องการที่จะพบ ไต้กู๋ นั้น ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ก็รู้สึกตื่นเต้นยินดีอย่างมาก
หลังจาก ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ออกไปนั้น ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ได้จัดเสื้อผ้า และทรงผมของนางอย่างละเอียด แม้ว่าใบหน้าของนางจะเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น แต่นางก็ต้องการจะดูดีมากที่สุด ก่อนที่นางจะพบกับ ไต้กู๋ “ท่านพ่อ ท่านแม่อยากพบท่าน !!”
ฉิววุ่ย ฟู่หยาน กล่าวออกมาอย่างร่าเริง จากด้านหลังของ ไต้กู๋ “อะไรนะ !? แม่เจ้าอยากพบข้าเช่นนั้นรึ !!นางอยากพบข้าจริงๆ เหรอ !!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไต้กู๋ ก็สะดุ้งเฮือกด้วยความประหลาดใจและสับสน “ถูกต้อง ท่านแม่ต้องการจะพบท่าน !! มาเร็วเข้า ท่านแม่รออยู่ !!”ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ยิ้มบาง “อ่าๆ !!”
ไต้กู๋ ไม่ลังเลอีกต่อไป เขากระโดดเข้าไปในวิหารด้วยขาข้างเดียวของเขา หากเป็นปกตินั้น เขาคงจะบินเข้าไปมากกว่า แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะความกังวลในหัวใจของเขา
ชูเฟิง อดยิ้มไม่ได้เมื่อเขาเห็นฉากนี้ เพราะ ไต้กู๋ คือคนแก่ที่แปลกประหลาด และไม่เคยกลัวต่อสิ่งใด แต่ในขณะนี้ เขากลับแสดงท่าทีออกมาราวกับว่าเขากำลังหวาดกลัว แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนที่เขากลัวคือคนที่เขารัก
เมื่อเขาตั้งคำถามกับตัวเองนั้น เขาก็หวาดกลัวต่อ จื่อหลิง , ซูรู่ และคนอื่นๆ เขากลัวว่าพวกนางจะไม่พอใจ ไม่สบายใจ แต่ความกลัวเช่นนี้ ไม่เหมือนความกลัวปกติ มันคือการแสดงออกถึงความรักต่อพวกนาง
และเหตุผลที่ ชูเฟิง ยิ้มออกมานั้น เพราะ ไต้กู๋ และท่านหญิง เพียวเมี่ยว พร้อมทั้ง ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน กำลังจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา คู่สามีภรรยาที่แยกกันเป็นเวลาหลายปี ในตอนนี้พวกเขากำลังจะได้พบกัน
เป็นอย่างที่คิดไว้ ไต้กู๋ กระโดดออกมาจากวิหารด้วยความร่าเริง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสดชื่น พร้อมรอยยิ้มที่ปิดไม่มิดบนใบหน้าของเขา เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขอย่างมาก “เร็วเข้า ชูเฟิง ภรรยาข้าต้องการจะบอกบางสิ่งแก่เจ้าทั้งสองคน !! ฮ่าๆ ….”
ไต้กู๋ หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เขากล่าวออกมาว่า ภรรยา อย่างเต็มปากเต็มคำ เห็นได้ชัดว่าท่านหญิง เพียวเมี่ยว และเขา ได้คืนดีกันแล้วอย่างแน่นอน
ชูเฟิง และ ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ต่างมองหน้ากันไปมาก่อนที่จะก้าวเข้าไปในวิหาร
หลังจาก ไต้กู๋ ออกมาตามพวกเขานั้น เขาก็กลับเข้าไปยังวิหาร พร้อมกับนั่งลงข้างๆ ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ในเวลานี้ ทั้งคู่ดูมีความสุขอย่างมาก พวกเขาสมกับเป็นคู่รักที่พลัดพรากจากันมาหลายปี และพบกันอีกครั้งในยามคับขัน
พวกเขาแสดงออกถึงความคุ้นเคย โดยที่เวลาหลายปีที่จากกันนั้นไม่มีผลใดๆ ต่อพวกเขา
หลังจากที่ทุกคนเข้ามาแล้วนั้น ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ได้หันมามอง ไต้กู๋ พร้อมยิ้มบาง ความงดงามของนางในอดีตได้พาดผ่านดวงตาของนางอย่างชัดเจน
***** วูบบบบบบ *****
ในขณะนั้น ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ได้ยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง พร้อมกับหลับตาลง และใช้ทักษะบางอย่างออกมา พลันออร่าพลังมหาศาลก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของนาง พร้อมกับการบ่มเพาะพลังของนางลดลงอย่างรวดเร็ว
ขั้นราชันย์สงครามระดับสี่
ขั้นราชันย์สงครามระดับสาม
ขั้นราชันย์สงครามนะดับสอง
ขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่ง
ขั้นจ้าวสงครามระดับเก้า
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงครามก็มีพลังลดลงถึงขั้นจ้าวสงคราม และการบ่มเพาะพลังของนางยังคงลดลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง และ ฉิวซุ่ย ฟู่หยาน ต่างตกตะลึง แต่เมื่อพวกเห็นว่า ไต้กู๋ ยังคงมีท่าทีที่เงียบสงบ พวกเขาจึงไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เพราะเห็นได้ชัดว่า พวกเขาทำในสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ออร่าพลังของท่านหญิง เพียวเมี่ยว ก็หายไปอย่างสมบูรณ์ ในตอนนี้ นางกลายเป็นคนธรรมดา ที่ไม่หลงเหลือพลังของการบ่มเพาะแม้แต่นิดเดียว
***** ตุ่บ *****
หลังจากนั้น ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ก็ถ่มน้ำลายออกมากองหนึ่ง พร้อมกับวัตถุบางอย่างที่ตกลงมา มันส่องแสงสลัวๆ ออกมาอย่างงดงาม
ดวงตาของ ชูเฟิง เป็นประกายทันทีเมื่อเขาเห็นไข่มุกเม็ดนั้น เพราะมันอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาล และเขารู้ดีว่าการบ่มเพาะพลังทั้งหมดของท่านหญิง เพียวเมี่ยว อยู่ภายในไข่มุกเม็ดนั้น
ชูเฟิง เข้าใจในทันทีว่า พลังของนางไม่ได้ลดลงโดยไม่มีเหตุผล แต่มันเป็นความตั้งใจของนางที่จะอัดพลังของนางลงไปในไข่มุกเม็ดนั้น “ชูเฟิง ทักษะที่ข้าใช้นั้นเรียกว่าทักษะนิรันดร์ผันเปลี่ยน ด้วยพลังของทักษะนี้ มันจะสามารถทำให้เพิ่มพลังขึ้นได้ด้วยการเผาผลาญพลังของตนเอง และมันสามารถบีบอัดพลังทั้งหมดให้อยู่ในรูปของไข่มุกได้ !!””และไข่มุกเม็ดนี้เรียกว่า มรดกไข่มุกนิรันดร์ การบ่มเพาะพลังทั้งหมดของข้าถูกอัดแน่นอยู่ภายในไข่มุกเม็ดนี้ แต่เพราะข้าต้องใช้พลังในการบีบอัดมัน ดังนั้น พลังที่อยู่ในไข่มุกเม็ดนี้จึงไม่ใช่ขั้นราชันย์ระดับห้า แต่เป็นขั้นราชันย์ระดับสี่ !!””หากเจ้าสามารถดูดซับพลังของมันได้ เจ้าก็น่าจะสามารถจัดการกับ เจียง ฉีซา ได้ !!”
ท่านหญิง เพียวเมี่ยว กล่าวพลางยิ้มบาง “ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก !!”
ชูเฟิง รีบกล่าวปฏิเสธ “ฟังข้าพูดก่อน เพราะข้าใช้ทักษะลับในการเผาผลาญพลังของข้า และบีบอัดไข่มุกเม็ดนี้ พลังของข้าจะไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ และมันจะจางหายไปในเวลาไม่นาน สุดท้าย ข้าก็จะกลายเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีพลังแต่อย่างใด !!””แทนที่จะปล่อยให้มันหายไปอย่างไร้ประโยชน์ สู้ให้ข้าบีบอัดมันออกมาเป็นไข่มุกไม่ดีกว่าหรือ !! ไม่เพียงเจ้าจะสามารถช่วยเหลือ จื่อ หลิง และคนอื่นๆ ได้เท่านั้น เจ้ายังสามารถช่วยข้าล้างแค้น และนำหุบเขาสายหมอกกลับมา เพราะข้าสัญญากับท่านอาจารย์เอาไว้ ว่าจะไม่ยอมให้หุบเขาสายหมอกตกอยู่ในมือของผู้อื่น !!””ในตอนนี้ มีเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยข้าได้ นั่นก็คือเจ้า เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดไหม !?”
ท่านหญิง เพียวเมี่ยว กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม หากเทียบกับความเย็นชาของนางในก่อนหน้านี้นั้น ในเวลานี้ นางกลับดูอ่อนโยนอย่างมาก “ข้าเข้าใจ !!”
ชูเฟิง พยักหน้ารับ
ด้วยทักษะต้องห้ามที่ท่านหญิง เพียวเมี่ยว ใช้นั้น ไม่ช้าก็เร็วพลังของนางจะหายไปจนหมดสิ้น ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
เหตุผลที่นางบีบอัดไข่มุกเม็ดนี้ออกมา เพราะนางต้องการให้ ชูเฟิง ทวงทุกอย่างที่นางสูญเสียไปกลับคืนมา
นี่คือสิ่งที่นางสามารถทำได้ หากมันสำเร็จ นางก็สามารถช่วยทุกคนเอาไว้ได้
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : รอพี่เฟิงกูได้ทักษะเร้นลับครบ 4 ตัว + ดาบผนึกมาร แล้วใช้ไข่มุกเม็ดนี้ รับรอง ไอเจียง ฉีซา มืงได้ตายหยังเขียด
B : ฆ่า เจียง ฉีซา นั้นเท่ากับตั้งตัวเป็นศัตรูกับ นิกายสาปพสุธาเลยนะ!!!
C : กลัวทำไม เสี่ยวยู่ อยู่ทั้งคน ตอนนี้ นางกำลังเฝ้ามองพี่เฟิงอย่างเงียบๆ อยู่ในหอยสังข์
A : จริงดิ!!!
C : เปล่า กูโกหก!!!