ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 928 – เพียวเมี้ยวได้สติ
“พี่สาว ฟู่หยานดูเหมือนว่าข้าไม่ควรถามอย่างนั้นสินะ”
ชูเฟิงพูดออกมา “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เจ้าอยากรู้อะไรก็ถามมาเถิด”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน พูดขึ้น “ท่าน และ อาวุโสทั้ง 2 นั้นเป็นครอบครัวกันใช่หรือไม่ ทำไมพวกท่านแยกกันอยู่ล่ะมีเหตุผลอะไรหรือ”
ชูเฟิงถามขึ้น “ปัญหานั่นเป็นเพราะข้า อาจารย์ของแม่ข้านั้นได้สั่งห้ามนางไว้ว่าห้ามมีความรู้สึกชอบกับชายใด นางกลัวว่าความรู้สึกนั้นจะผู้มัดหัวใจของแม่ข้า เพื่อไม่ให้แม่ข้านั้นลังเลต่อการเป็นผู้สืบทอดของผู้พิทักษ์หุบเขาสายหมอก” “ท่านแม่นั้นผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับอาจารย์แล้วมีอะไรกับพ่อของข้า จนตั้งครรภ์ ดังนั้นท่านแม่จึงไม่ต้องการพบท่านพ่ออีก” “อย่างไรก็ตาม ข้านั้นรู้ว่านางรักเขามาก นางพยายามโทษตัวเอง และนางนั้นรู้สึกว่าที่กระทำไปนั้นไม่ยุติธรรมต่อท่านพ่อของข้านัก” “สำหรับท่านพ่อแล้วเขาก็รักท่านแม่มากเช่นกัน แม้ว่าท่านแม่จะขับไล่เขาออกไปและไม่ต้องการพบหน้าเขา แต่ท่านพ่อก็ไม่ได้มีหญิงอื่นอีก ดูเหมือนว่าเขานั้นจะเข้าใจท่านแม่ของข้าดี ดังนั้นเขาจึงไม่มาพบข้าและท่านแม่ของข้าเลย” “ตอนนี้นั้น ข้าคิดว่าท่านแม่นั้นจะตำหนิข้าที่ข้าเรียกท่านพ่อมา เพราะเขานั้นไม่เคยเห็นรูปร่างที่แท้จริงของนางเลย ข้าจึงคิดว่า นางไม่ต้องการให้เขาเห็นภาพนางในตอนนี้นัก”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน พูดขึ้นด้วยความรู้สึกกังวล “แต่นั้นก็เป็นเพราะผู้อาวุโสไต้กู๋นั้นสามารถช่วยผู้อาวุโสเพียวเมียวได้ใช่หรือไม่ ถ้าท่านไม่เรียกเขามา บางทีนางอาจจะไม่รอด ข้ามั่นใจว่านางไม่โทษท่านหรอก,”
ชูเฟิง พูดขึ้น “อืม แม้ว่าท่านแม่จะตำหนิข้า ข้าก็จะเรียกเขามาอยู่ดี ข้านั้นไม่ยอมปล่อยให้นางตายได้”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน พูด
หลังจากนั้น ชูเฟิงและฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ก็อยู่ข้างนอกต่อไป เขานั้นไม่ได้เข้าไปรบกวน การรักษาท่านหญิงเพียวเมียว
นางนั้นบาดเจ็บหนักมาก และเวลาที่จะใช้ฟื้นฟูนั้นมากนัก มันกินเวลาไป 2 วัน หนึ่งคืนแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไป ทั้ง 2 นั้นก็กังวลมาก พวกเขากลัวว่าท่านหญิงเพียวเมียวนั้นจะไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้ไหว “ฟู่หยาน ฟู่หยาน”
ในที่สุด ไต้กู๋ก็เดินออกมาแล้วเรียก ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน “เป็นอย่างไรบ้าง ท่านแม่เป็นอย่างไรบ้าง”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยานรีบลุกขึ้น ชูเฟิงเห็นเช่นนั้นก็ลุกขึ้นตาม เขาตรวจสอบไต้กู๋อย่างเงียบๆ แล้วเขาก็พบว่า จริงๆแล้วไต้กู๋นั้น อยู่ในระดับราชันย์สงครามแล้วเขายังมีระดับที่ 4 ราชันย์สงครามอีกด้วย
แม้ว่าระดับพลังของเขาจะด้อยกว่า ท่านหญิงเพียวเมียว มู่หรง หมิงเทียน และ มู่หรง เนี่ยคง แต่ระดับของเขาก็แข็งแกร่งมากในภูมิภาคทะเลตะวันออก
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นกลิ่นอายของเขาอ่อนแอมาก ในตอนนั้นใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษ เห็นได้ชัดว่าเขาเหนื่อยมากจากการช่วยท่านหญิงเพียวเมียว “อาการบาดเจ็บของนางนั้นวางใจได้แล้ว นางจะตื่นขึ้นในไม่ช้า อย่างไรก็ตามข้านั้นอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำนางถึงขนาดนี้”
ไต้กู๋พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ชูเฟิงนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงความโกรธในดวงตาเขา มันมทีเป็นความโกรธที่มากจนแทบคลั่ง “มันคือคนที่มาจากหมู่เกาะประหาร และยังมีคนจากแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย พวกมันนั้นแข้งแกร่งมาก พวกมันสามารถทำให้ท่านแม่มีอาการหนักขนาดนี้ได้ ท่านอย่าได้ใจร้อนเลยถ้าเกิดอะไรกับท่าน ท่านแม่คงไม่ให้อภัยตัวเอง .”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยานพูด “แม่ของเจ้าไม่ได้เป็นหนี้ข้า ทำไมนางถึงต้องเสียใจด้วย แต่ไม่ว่านางจะเห็นข้าเป็นอย่างไร ในใจข้าฉิวชุ่ย ไต้กู๋นั้นมีเพียงนางเท่านั้นที่เป็นภรรยา และมีเจ้าเท่านั้นที่เป็นบุตรสาวของข้า” “ในตอนนี้ ภรรยาและลูกสาวข้าโดนรังแกมา ในตอนนี้นั้นข้าจะทนได้อย่างไร”
ไต้กู๋ พูดขึ้น “ฟู่หยาน” “ฟู่หยาน…”
เสียงเรียกที่อ่อนแรงดังมาจากข้างในอาราม เห็นได้ชัดว่าท่านหญิงเพียวเมียว รู้สึกตัวแล้ว “ฟู่หยาน รีบเข้าไปดูอาการของแม่เจ้าเร็ว”
ไต้กู๋ มีความสุขมากแต่เขาก็ไม่กล้าเข้าไป “ทั้ง 2 รอข้าก่อน ท่านพ่ออย่าพึ่งไปล่ะ”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน พูดขึ้น
ในตอนนั้น ท่านหญิงเพียวเมียว ได้รู้สึกตัวแล้ว นางกำลังนั่งไขว้ขวาอยู่ แม้ว่าท่าทางของนางจะดูอ่อนแรงมาก แต่นางก็ดูดีกว่าแต่ก่อนนี้มากนัก
อย่างไรก็ตาม ระดับพลังของนางนั้นอยู่ที่ 5 ราชันย์สงคราม มันไม่ได้คืนไปยัง 6 ราชันย์สงคราม เห็นได้ชัดว่านางนั้นได้จ่ายราคาที่สูงมาก ต่อชีวิตของพวกนาง “พ่อของเจ้ามาที่นี่ ใช่หรือไม่”
ท่านหญิงเพียวเมียว ถามฉิวชุ่ย ฟู่หยาน “เขาไม่ได้มา,”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ปฏิเสธ “อย่าโกหก ข้าเลย ข้าต้องการรู้ความจริง ข้ารู้เขามาที่นี่ นอกจากเขาแล้วไม่มีใครสามารถช่วยข้าได้”
ท่านหญิงเพียวเมียวพูดขึ้น “ท่านแม่ อย่าได้ตำหนิข้าเลย ข้ารู้มีเพียงท่านพ่อเท่านั้นที่ช่วยท่านได้ ดังนั้นข้าจึงเรียกเขามา นอกจากนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับท่าน เขาคงตำหนิข้าแน่นอน”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน พูดขึ้นด้วยความกังวล นางกลัวท่านหญิงเพียวเมียวมาก “เจ้าเด็กโง่ ทำไมข้าจะต้องตำหนิเจ้าล่ะ แต่ถึงกระนั้น เขาได้เห็นรูปร่างที่น่ารังเกียจของข้าแล้ว เขาต้องปฏิเสธตัวข้าแน่นอนใช่หรือไม่”เมื่อท่านหญิงเพียวเมียวพูดขึ้น แม้ว่านางจะดูใจเย็น แต่ว่านางก็กังวลมาก “เขาไม่ได้รังเกียจท่าน เขาเพียงแค่โกรธ โกรธคนที่ทำให้ท่านเป็นเช่นนี้ และเขาต้องการจะไปล้างแค้นให้ท่าน” “อย่างไรก็ตาม ท่านพ่อนั้นมีพลังเพียงระดับ 4 ราชันย์สงคราม ไม่ต้องพูดถึง เจียง ฉีซา หรือ มู่หรง หมิงเทียน แม้กระทั่ง มู่หรง เนี่ยคงเขาก็ มิอาจเอาชนะได้” “แต่เขาไม่ยอมฟังข้าเลย และข้าไม่สามารถเตือนเขาได้ ท่านแม่ ท่านช่วยเตือนเขาได้หรือไม่ บางทีท่านพ่ออาจจะฟังท่านก็ได้”
ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน พูดขึ้น “พ่อของเจ้าไม่ได้รังเกียจข้าจริงหรือ เขาไม่ได้ตำหนิที่ข้าทิ้งเขาให้รอเสียนานใช่หรือไม่”
ท่านหญิงเพียวเมียว ถามขึ้น “ท่านแม่ ไม่ต้องกังวล ท่านพ่อรักท่านมาก และเขาไม่ได้รังเกียจท่านแน่นอน ในใจของเขานั้นมีเพียงท่านเท่านั้น มิฉะนั้นทำไมเขาถึงอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาหลายปี ทั้งๆที่ระดับเขานั้นสตรีมากมายก็ต้องการที่จะจับคนเช่นเขา”
ฉิวชุ่ย ฟุ่หยานพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ReaDMGA////////////////////////////////////////A : ไต้กู๋ ระดับ 4 ราชันย์ งั้นหรอ!!! แล้วจะสู้กับพวกนั้นยังไงล่ะ
B : ไม่ต้องห่วง เด๋วพี่เฟิงจะเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่าง