I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1067 – ข้าไม่บอกเจ้าหรอก

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1067 – ข้าไม่บอกเจ้าหรอก

 

“ปล่อยมือข้าซะ นี่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้าที่เจ้าจะสอดมือเข้ามายุ่ง”

 

เมื่อเห็นว่ามีคนที่คิดจะมาหยุดเขาเเละบุคคลนั้นยังเป็นหนึ่งในศิษย์ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ ใบหน้าของเขาตอนนี้ล้วนบิดเบี้ยวไปด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจใบหน้าของเขาเริ่มที่จะเเสดงถึงอารมณ์ของความโกรธ เขารีบยกเเขนขึ้นเพื่อที่จะสลัดมือให้หลุดจากมือของชูเฟิงทันที

 

เเต่เเขนของชูเฟิงเเข็งอย่างกับครีมเหล็กที่ยากจะดึงออก ถึงเเม้ว่าศิษย์ของวิหารหมู่ดาวนักล่าจะขึ้นชื่อด้านความเเข็งเเกร่งเเต่เขาก็ไม่สามารถที่จะสลัดมือออกจากมือของชูเฟิงได้เช่นกัน “ปล่อยเธอซะ”

 

ชูเฟิงพูดด้วยเสียงที่เรียบง่าย เเต่ภายในน้ำเสียงนั้นสอดเเทรกไปด้วยอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกคุกคาม

 

นอกจากนี้ชูเฟิงได้เพิ่มพละกำลังในการบีบของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยซึ่งทำให้เเรงกดดันบนข้อมือของศิษย์จากวิหารหมู่ดาวนักล่าเริ่มที่จะรู้สึกถึงข้อมือของตนเองกำลังถูกบดขยี้ “เจ้า”

 

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีถึงเเม้ศิษย์ของวิหารหมู่ดาวนักล่าจะไม่เต็มใจเเต่เขาก็ยังคงรีบปล่อยมือจากเธอในทันที นั่นเป็นเพราะที่นี่มีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน ในฐานะที่เป็นศิษย์หลักของวิหารหมู่ดาวนักล่าเขาไม่ต้องการที่จะทำให้ตนเองรู้สึกอับอายต่อฝูงชน

 

เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอรีบที่จะวิ่งออกมาจากน้ำมือของศิษย์จากวิหารหมู่ดาวนักล่าในทันทีเเละรีบซ่อนตัวเบื้องหลังของชูเฟิงเธอกำเสื้อผ้าของชูเฟิงเเน่นด้วยฝ่ามือเล็กๆของเธอราวกับว่านี่คือผู้ช่วยชีวิตที่ช่วยเธอได้ในตอนนี้ลักษณะของเธอในตอนนี้นั้นน่ารักเเละขี้อายเสียจริง “เจ้ารู้จักผู้หญิงคนนี้งันรึ?”

 

ทันใดนั้นก็มีคนเอ่ยขึ้น เขาไม่ได้เป็นคนที่จับเธอไว้เเต่ก็ยังคงเป็นศิษย์ของวิหารหมู่ดาวนักล่า

 

คนผู้นี้มาจากวิหารหมู่ดาวนักล่าเเละในขณะนี้ทุกคนรอบข้างเขาก็มาจากวิหารหมู่ดาวนักล่าเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายพวกเขาก็กำลังมองมาที่ชูเฟิงด้วยความไม่เป็นมิตร “ก็ไม่นิ”

 

ชูเฟิงส่ายหัวทันที ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะมองชูเฟิงยังไงเขาก็ยังคงรู้สึกสงบอยู่เช่นเดิมใบหน้าของเขาไม่มีเเม้เเต่ร่องรอยของความหวาดกลัว “ถ้าเจ้าไม่รู้จักเธอเเล้วทำไมเจ้าถึงมายุ่งเกี่ยวกับพวกเรา?”

 

ศิษย์จากวิหารหมู่ดาวนักล่าอีกคนก็ตระโกนออกมาใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้นเเสดงออกได้ถึงอารมณ์ที่ไม่เป็นมิตรเเละทั้งหมดของพวกเขาตั้งใจจะกดขี่ข่มเหงชูเฟิงด้วยจำนวน “เกิดอะไรขึ้น?”

 

ในขณะเดียวกันที่เสียงฝูงชนดังกึกก้อง ทันใดนั้นก็ได้ปรากฏเสียงมาจากเบื้องหลังของกลุ่มศิษย์ของวิหารหมู่ดาวนักล่าเขาเอ่ยขึ้นมาเเละขยับกายของเขามาใกล้ชูเฟิงเรื่อยๆทันทีที่ได้ยินเสียงพวกเขาก็หันไปมองกลับปรากฏเห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูสวยเเละสง่าเดินออกมา

 

เมื่อบุคคลผู้นั้นออกมาปรากฏว่าศิษย์จากวิหารหมู่ดาวนักล่าทั้งหมดต่างเเสดงถึงร่องรอยของความเคารพมันสามารถบอกได้เลยว่าบุคคลนี้นั้นจะต้องมีตำเเหน่งพิเศษหรืออะไรยังไงในวิหารหมู่ดาวนักล่าอย่างเเน่นอน

 

สำหรับบุคคลที่โผล่ออกมานั้นชูเฟิงเเละคนอื่นๆเคยพบมาก่อน เขาเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของวิหารหมู่ดาวนักล่า ‘หยวน ฉิง’ “พี่ใหญ่ หยวน ฉิง แม่สาวน้อยนั้นได้ขโมยยาของข้าไป ข้าวางเเผนที่จะนำมันกลับมาจากเธอเพียงเเต่ข้าไม่คิดไม่ฝันเลยว่าศิษย์จากหุบเขาไม้ครามตอนใต้ จะเข้ามาขัดขวางเเละปกป้องเธอถ้าท่านไม่เชื่อทุกคนที่นี่ล้วนเป็นพยานได้”

 

เมื่อเห็น หยวน ฉิง เหล่าศิษย์ที่โดนขโมยยานั้นรีบบ่นกับ หยวน ฉิง ในทันที “โอ้?”

 

เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น หยวน ฉิงก็โยนสายตาจ้องมองไปยังชูเฟิงด้วยสายตาของความไม่พอใจต่อเขา “มันก็เป็นเพียงเเค่เม็ดยาเท่านั้น ข้าจะให้คืนพวกเจ้าเอง เเละหยุดยุ่งกับเธอซะ”

 

ชูเฟิงรู้ว่าเม็ดยาได้ถูกกลืนลงไปโดยเธอเเล้วนั้น เขาทำได้เพียงโยนเม็ดยา 3 เม็ดในมือของเขาออกไปให้พวกนั้น “เมื่อเห็นเม็ดยาในมือของชูเฟิง เหล่าศิษย์จากวิหารหมู่ดาวนักล่าดวงตาเป็นประกายเขาขยายมือออกไปหวังที่จะรับเม็ดยาพวกนั้นเเต่เเล้วใครจะคิดว่าจู่ๆหยวน ฉิงก็คว้ามือคนพวกนั้นเเละบอกให้หยุดทันทีจากนั้นเขาก็กล่าวกับชูเฟิงออกไป”

 

เจ้าคิดว่าพวกเราจะปล่อยให้บุคคลด้านหลังของเจ้าหลุดไปง่ายๆอย่างงั้นหรือ? หากมันสามารถที่จะยกโทษให้อภัยกันง่ายๆ เเล้วจะมีกฏตั้งไว้เพื่ออะไร?” “เเล้วเจ้าต้องการอะไร?”

 

เมื่อเห็นร่องรอยของความไม่พอใจของพวกเขาสายตาของชูเฟิงจดจ้องไปที่ หยวน ฉิง เเละกล่าวออกมาเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวหรืออะไรเป็นพิเศษ “สิ่งที่ข้าต้องการงั้นรึ? เจ้าก็รู้ว่าบุคคลที่ขโมยนั้นคือเธอ เเต่เจ้ากำลังวางท่าทีปฏิบัติกับเธอราวกับปกป้องนี่มันเหมาะสมเเล้วหรือ” “ใช่เเล้ว เจ้ากำลังปกป้องหัวขโมยอยู่! เเต่เจ้ายังทำท่าทีไม่พอใจนั้นอีก! เจ้าคิดว่าวิหารหมู่ดาวนักล่าของเราเป็นตัวตลกหรืออย่างไร! พวกเราไม่ต้องการให้เจ้าสอดมือเข้ามายุ่งไม่งั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เตือน”

 

เมื่อเห็นว่าชูเฟิงกล้าพูดกับศิษย์ของวิหารหมู่ดาวนักล่าเเบบนั้น พวกเขาล้วนเกิดอารมณ์ไม่พึงพอใจอย่างมากใบหน้าของเขาล้วนโกรธเคืองอย่างมากเเม้กระทั่งบางคนยังเปิดเผยเจตนาฆ่าฟันออกมาอย่างรุนเเรง “สหายน้อย หยวน ฉิง ข้า กงซุน ขัว ในนามของผู้อาวุโสของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ ข้าขอกล่าวอภัยต่อเจ้าละกัน” “เธอก็เป็นเพียงเเค่เด็กตัวน้อยๆ ถึงเเม้ว่าเธอจะขโมยยาของพวกเจ้าไปก็จริงเเต่ก็คงไม่ได้ตั้งใจ เกี่ยวกับวิธีการเช่นนั้นข้าขอให้เจ้าปล่อยเธอไปได้หรือไม่? เจ้าคิดยังไงเกี่ยวกับวิธีนี้?”

 

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี ผู้อาวุโส กงซุน ขัว รีบออกมาห้ามปรามในทันที “เอาเป็นว่าข้าเห็นเเก่หน้าท่านหรอกถึงได้ยอม เพียงเเต่ข้าคิดว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะยุ่งเกี่ยวกับเธอคนนั้นไม่ใช่ว่าเขาได้ให้การปกป้องเธอคนนั้นอย่างงั้นหรือ? ถ้าข้าถามท่านที่มีประสบการณ์ชีวิตมายาวนานท่านก็สมควรจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีที่สุด ที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของผู้อื่น เเน่นอนว่าถ้าหากเขาชอบเเส่หาภัยเข้าตัวนั่นก็อีกเรื่อง”

 

หลังจากนั้น หยวน ฉิงก็กล่าวออกมาพลางมอบไปรอบก่อนจะเดินจากไป

 

เมื่อเห็นเช่นนั้นเหล่าสาวกของวิหารหมู่ดาวนักล่าก็รีบคว้าเม็ดยาจากมือของชูเฟิงในทันทีหลังจากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นหน้าเฉยเมยเเละจ้องไปทางชูเฟิงด้วยสายตาที่กราดโกรธหลังจากนั้นพวกเขาก็เดินจากไป “ฟู่~~”

 

หลังจากที่คนจากวิหารหมู่ดาวนักล่าจากไป อาวุโส กงซุน ขัว ก็ถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความโล่งอกหลังจากนั้นเขามองไปทางชูเฟิงด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงก่อนจะกล่าวว่า”

 

ชูเฟิงรู้สึกว่าเจ้านั้นจะชอบ นำภัยเข้าสู่ตัวเองเสียจริง” “เจ้าไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับพวกวิหารหมู่ดาวนักล่า ถึงเเม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าทำอะไรเจ้าที่นี่ เพราะมีกฏของภูติบรรพกาล เเต่เมื่อเจ้าออกจากสถานที่เเห่งนี้พวกเขาสามารถทำอะไรเจ้าได้ตั้งหลายๆอย่าง” “โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอนาคตหากเจ้ายังก้าวเข้าสู่หุบเขาไม้ครามเเละกลายเป็นศิษย์ ในเวลานั้นพวกเขาจะตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับเจ้าอย่างเเน่นอนเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งของวิหารหมู่ดาวนักล่าในหุบเขาไม้คราม นั้นค่อนข้างโดดเด่นถ้าพวกเขาเปิดเผยเจตนาที่ไม่ดีต่อเจ้าเเท้จริงเเล้ว เจ้าอาจจะไม่ได้อยู่ในหุบเขาไม้ครามอย่างสงบสุข” “ผู้อาวุโส กงซุน ที่หุบเขาไม้คราม พวกเขาอนุญาตให้เหล่าศิษย์ของพวกเขาต่อสู้กันเองได้อย่างงั้นหรือ”

 

ชูเฟิงถาม “เเน่นอนว่าพวกเขาไม่ยอมอย่างเเน่นอน เเต่ทุกคนรู้ว่าเหล่าศิษย์ของหุบเขาไม้ครามจะเเข่งขันหรือต่อสู้กับผู้อื่นอย่างลับๆไม่ว่าจะเปิดเผยหรือเเอบกระทำนอกจากการต่อสู้ของเหล่าศิษย์หลักพวกเขาอาจจะหลับหูหลับตาไม่สนใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น”

 

อาวุโส กงซุน กล่าว “ตราบใดที่พวกเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับข้าก็พอ นอกจากนี้หากพวกเขาลงมือจริงข้าก็เพียงเเค่ให้การปฏิเสธเเละไม่ยุ่งเกี่ยว หากว่าพวกเขาไม่ยอมลามือเเละจะลงมือกับข้าจริงๆละก็ ข้าจะทำให้พวกเขาได้รู้จักข้า ว่าไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่ายๆ”

 

ถึงเเม้ว่าเขาจะรู้ว่าการกระทำก่อนหน้านี้ของเขาจะสร้างศัตรูของเขาไว้มากมายเเต่ชูเฟิงก็ไม่ได้ปรากฏร่องรอยของความหวาดกลัวเเม้เเต่น้อย “เฮ้อ ข้าหวังว่ามันจะเป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ตามถึงเเม้อำนาจของ หุบเขาไม้ครามตอนใต้ ของเราจะลดลงก็ตามทีเเต่เราก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหุบเขาไม้ครามหากพวกเขาวางเเผนที่จะจัดการกับเจ้าอย่างเเท้จริงมันก็คงเป็นไปได้ยากอยู่สำหรับพวกเขาถ้าเกิดพวกเขาต้องการชีวิตของเจ้าจริงพวกเขาก็เป็นเรื่องยากอย่างเเน่นอน”

 

อาวุโส กงซุน กล่าว “อ่าส์ เด็กสาวนั่นหายไปไหนเเล้ว”

 

ทันใดนั้นอาวุโสกงซุน ก็รีบหันไปทางชูเฟิงเเละกล่าวด้วยอาการผงะเล็กน้อย “อะไรนะ?!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น จู่ๆชูเฟิงก็หันไปมองด้านหลังของเขาด้วยความตกใจใบหน้าของเขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากเพราะว่าสาวน้อยที่ด้านหลังของเขาได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยนอกจากนี้เขายังไม่รู้สึกตัวเเม้เเต่น้อย “เฮ้ เจ้าชื่ออะไร น่ะ”

 

ในขณะเดียวกันเสียงหวานๆนุ่มๆ ของสาวน้อยก็ได้ดังออกมาจากสถานที่ไม่ไกลมากสายตาหวานๆของเธอจ้องมองมาที่ชูเฟิงเเละขยับมาใกล้เขาเรื่อยๆ “เอิ่ม ข้าชื่อชูเฟิง,เจ้าละชื่ออะไร?”

 

ชูเฟิงก้มลงถามด้วยรอยยิ้ม “โอ้ นั่นคือชื่อเจ้าหรอ ชูเฟิง? เป็นชื่อที่ดีจัง ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้า ชูเฟิงที่ช่วยข้าไว้ นี่เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆเเทนการขอบคุณ”

 

เด็กสาวยัดถุงเก็บของใบเล็กวางบนมือของชูเฟิง

 

หลังจากนั้นเขาได้มองไปในมือของเขาก็พบถุงเก็บของขนาดเล็ก ทันใดนั้นชูเฟิงก็ตอบสนองในทันทีเขาพบว่าเด็กสาวคนนั้นได้เดินจากไปในฝูงชนด้วยท่าทีสองมือไขว้หลังเสียเเล้ว “เฮ้ สาวน้อย เจ้ายังไม่ได้บอกชื่อของเจ้าเเก่ข้าเลยนะ”

 

เมื่อเห็นเเบบนั้นชูเฟิงถามออกไปด้วยรอยยิ้ม

 

เมื่อได้ยินคำถามของชูเฟิงเด็กสาวพลันหันไปรอบๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มหวานน้อยๆของเธอเเละกล่าวว่า”

 

ข้าไม่บอกเจ้าหรอก”

 

หลังจากพูดคำนั้นเสร็จเด็กสาวพลันหันไปรอบๆก่อนที่จะข้ามเข้าไปในฝูงชนมองจากลักษณะของเธอนั้นเธอค่อนข้างที่จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

 

P’Film ////////////////////////////////////////

 

C : อีเด็กคนนี้ กวนตีนแท้ เด๋วลุงจะสอนให้รู้ ว่าอะไรคือมารยาท!!!

 

A : โห เห็นเด็กหน่อยไม่ได้เลย!!! หาเรื่องติดคุกแล้วซะงั้น!!!

 

B : สันดานใช่จะแก้กันได้ง่ายๆ!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments