บทที่ 932 – ทำลายการก่อตัว
 
 
 
หลังจากนั้น ไต้กู๋ก็ตัดสินใจ ที่จะเชื่อวิธีของ ชูเฟิง พร้อมกับทำตามที่เขาแนะนำ ทางด้าน ชูเฟิง ก็ลงมือช่วยเขาอีกแรง “ชูเฟิง นั้นเจ้า ?!”
 
 
 
หลังจากเริ่มต้นวางสัญลักษณ์ ฉิว ซานเฟิง ก็ฟื้นขึ้นมา “อาจารย์ ท่านฟื้นแล้ว!”
 
 
 
ชูเฟิง รีบทำความเคารพ 
 
 
 
มี สุภาษิตกล่าวไว้ว่า”
 
 
 
เป็นอาจารย์เพียงหนึ่งวัน เท่ากับเป็นพ่อไปทั้งชีวิต”
 
 
 
ฉิว ซานเฟิง ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชูเฟิงและไม่เคยให้เขาต้องทำอะไรพิธีรีตอง แต่เขาก็ยังทำหน้าที่ของศิษย์ เพราะว่าภายในใจเขา ฉิว ซานเฟิง คืออาจารย์ของเขา และความสัมพันธ์นี้ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปชั่วชีวิตของเขา 
 
 
 
เช่นเดียวกับ จูเกอ หลิวหยุน และ ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังวิญญาณด้อยกว่าชูเฟิง แต่ ชูเฟิงก็ยังให้ความเคารพต่อพวกเขา การให้ความสำคัญต่อผู้มีพระคุณ แสดงออกถึงการอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่จำเป็นต้องคำนึงเรื่องความแข็งแกร่ง ในใจ ชูเฟิง พวกเขาถือเป็นอาจารย์ไปชั่วนิรันดร์ดังนั้น ชูเฟิงจึงให้เกียรติพวกเขา “ชูเฟิง เป็นเจ้าจริงๆ ?”
 
 
 
เมื่อ ฉิว ซานเฟิง ฟื้นขึ้น และพบกับชูเฟิง ที่อยู่ด้านนอกรูปแบบฯ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แต่เขากับคิดว่ามันคือความฝัน “ก็ศิษย์เจ้านะสิ! เขามาที่นี้ก็เพื่อช่วยเจ้าออกไป””อาจารย์ ข้าจะแนะนำให้ท่านได้รู้จัก นี่คือ อาวุโส ไต้กู๋ เขาเป็นคนที่ฝ่าฝันกับดักเข้ามาที่นี่เพื่อนำศิษย์มาหาท่านอาจารย์”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวขณะที่ชี้ไปที่ ไต้กู๋ “ฉิวซุ่ย ไต้กู๋ ?!”
 
 
 
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เห็น ไต้กู๋ ตาของ ฉิว ซานเฟิง ก็เบิกกว้าง เขาตกใจอย่างมาก และเมื่อเห็นอาการของเขาบอกได้ทันทีว่า เขารู้ว่าคนคนนี้เป็นใคร “ฉิว ซานเฟิง เราไม่ได้พบกันเสียนาน แต่เจ้ากับดูไม่เปลี่ยนไปเลย”
 
 
 
ไต้กู๋ ยิ้มเบาๆ ชัดเชนแล้วว่าพวกเขารู้จักกันมาก่อน แต่หลังจากที่เห็นท่าทางของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นมิตรกัน และมีแนวโน้มว่า พวกเขามีความขัดแย้งบางอย่าง “ชูเฟิง ทำไมเจ้าถึงพาเขามาที่นี่ ? เจ้าไม่ได้พบ ฟู่ เหลียนเซิง งั้นหรอ ?!”
 
 
 
ฉิว ซานเฟิง ถามขึ้นด้วยความสับสน แต่เขาไม่ได้ตำหนิใดๆ เขาแค่ไม่เข้าใจว่า ทำไมชูเฟิงถึงรู้จัก ไต้กู๋ ได้ “อาจารย์ศิษย์ผิดไปแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับพรรคมารทลายราตรี ข้าจึงไม่มีโอกาสบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับ ฟู่ เหลียนเซิง””นอกจากนี้ มันยังเป็นสถาการณ์เร่งด่วน ข้าจึงจำเป็นต้องรีบช่วยท่านให้เร็วที่สุด อาวุโส ไต้กู๋ คือคนที่ข้าสามารถไว้วางใจได้มากที่สุด และ เขาเองก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั่น ศิษย์จึงไม่มีทางเลือก จึงขอให้เขามาที่นี่””อาจารย์ ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้ศิษย์สำหรับความผิดนี้”
 
 
 
ชูเฟิงรีบกล่าวขอโทษ “เด็กโง่ เจ้าทำสิ่งที่จำเป็น เพราะต้องการช่วยข้า แล้วทำไมข้าถึงต้องโทษเจ้า ?!”
 
 
 
ฉิว ซานเฟิง ส่ายหัวเบาๆ เขาไม่ได้ต่อว่า ชูเฟิง แต่ตรงกันข้ามเขากับรู้สึกขอบคุณ 
 
 
 
จากนั้นเขาก็จ้องมองมาที่ ไต้กู๋ พร้อมกับกล่าวว่า”
 
 
 
ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่จะมาช่วยข้าจะเป็นเขา ดี! งั้นเราไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมา ฉิวซุ่ย ไต้กู๋ ข้า ฉิว ซานเฟิง จะต้องตอบแทนน้ำใจเจ้าสำหรับเรื่องในวันนี้””ไม่จำเป็น!!! ข้ามาที่นี่เพราะอยากช่วยชูเฟิง ไม่ใช่เจ้า!””แต่ ฉิว ซานเฟิง ข้ามีบางอย่างต้องบอกเจ้า ว่าเจ้านั้นโชคดีมาก ที่มีศิษย์เช่นชูเฟิง เขาจะต้องกลายเป็นความภาคภูมิใจของเจ้า”
 
 
 
ไต้กู๋ กล่าว ขณะที่วางรูปแบบฯ 
 
 
 
ชูเฟิงเองก็รีบช่วยอีกแรง เนื่องจากการก่อตัวนี้มันซับซ้อนอย่างมาก แต่ทุกอย่างก็อยู่ในความเข้าใจของ ชูเฟิง ด้วยการผสานงานร่วมกัน ในไม่ช้านี้ มันต้องเสร็จอย่างแน่นอน “ชูเฟิง ตอนนี้เจ้าทำได้ขนาดนี้เลย ?!!”
 
 
 
ฉิว ซานเฟิง ที่ได้ประจักษ์ทักษะอำนาจพลังวิญญาณของเขาด้วยสายตา ดวงตาของเขาก็เกิดความประหลาดใจ เขาสามารถบอกได้ว่าพลังหลักๆที่แฝงอยู่ในการก่อตัว ไม่ใช่ของ ไต้กู๋ แต่เป็นของ ชูเฟิง 
 
 
 
แม้ว่าเขาจะรู้แต่แรกว่า ชูเฟิงนั้นคืออัจฉริยะ แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่า ชูเฟิง จะมาถึงได้ขนาดนี้ ด้วยเวลาไม่ถึง 2 ปี ชูเฟิงกับเติบโตได้เพียงนี้ ซึ่งนั้นมันเกินกว่าจินตนาการของเขา นั้นจึงทำให้คนที่เป็นอาจารย์แบบเขาเกิดความรู้สึกประทับใจต่อศิษย์ “อาจารย์ เร็วๆเข้า 4 รูปแบบมายานี้กำลังจะตื่นแล้ว ในขณะที่เราควบคุมรูปแบบฯจากภายนอก ท่านต้องช่วยเราประสานพลังจากภายใน พวกเราจะสามารถปลดการก่อตัวนี้ได้โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน”
 
 
 
ชูเฟิงกล่าวหลังจากเตรียมการเสร็จสิ้น “OK!”
 
 
 
ฉิว ซานเฟิง พยักหน้า แน่นอนว่าเขาเข้าใจได้ทันที 
 
 
 
ทันใดนั้นก็มีแสงออกมาจากที่ๆ ชูเฟิง และ ไต้กู๋ ยืนอยู่ 
 
 
 
***** ครึ้นนน ***** 
 
 
 
ทันที่รูปแบบฯถูกเปิดใช้งาน อักขระนับไม่ถ้วนกระจายออกมาจากพื้น ราวกับกองกำลังนับล้านกำลังเข้าโจมตี พวกมันยังคงวิ่งวนอย่างบ้าคลั่ง ไปที่ 4 รูปแบบฯมายา 
 
 
 
* * * * * โฮ่กกกก * * * * * 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถทำลายรูปแบบผนึกนี้ได้ง่ายๆ ความรู้สึกที่เหมือนถูกโจมตี และเสียงคำรามที่เกรี้ยวกราด ดังสนั่น จากนั้นสัตว์ทั้งสี่ ได้แก่ มังกรฟ้า , พยัคฆ์ขาว , วิหคเพลิง และ เต่าดำ ก็พลันปรากฏออกมา 
 
 
 
พวกมันดูร้ายกาจอย่างมาก พวกมันยืนคุมทั้งสี่ทิศ ซึ่งตั้งอยู่แต่ละด้านของการก่อตัว พวกมันแต่ละตนมีความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งลักษณะของมันดั่งผู้พิทักษ์ทุกสรรพสิ่ง นำซ้ำพวกมันยังหยุดการโจมตีของอักขระนับไม่ถ้วนได้อย่างง่ายดาย 
 
 
 
แต่ ชูเฟิง และ ไต้กู๋ ก็คาดการณ์เอาไว้แล้ว ว่าต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หวาดกลัวต่ออำนาจของการก่อตัว หรือแม้กระทั้งการโจมตีอันรุนแรงของพวกมัน 
 
 
 
* * * * โฮกก * * * * 
 
 
 
เมื่อถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง สัตว์ขนาดใหญ่ ทั้ง 4 ก็พลันเกิดโทสะ พวกมันคำรามพร้อมออกจากการก่อตัว เพื่อหยุดคุกคามของ ชูเฟิง และ ไต้กู๋ ด้วยการโจมตีที่ทรงพลานุภาพ 
 
 
 
* บูมมมมมมมมมมมมม * 
 
 
 
โชคดีที่สัญลักษณ์ของชูเฟิงและไต้กู๋ที่วางไว้ มันเป็นรูปแบบฯการรุกและรับ ความแข็งแกร่งของสัตว์ทั้งสี่จึงไม่น่ากลัว นำซ้ำการโจมตีของพวกมันยังถูกหยุดเอาไว้ได้ 
 
 
 
แต่จิตวิญญาณของมนุษย์ย่อมมีขีดจำกัด แม้ว่าสัญลักษณ์ที่พวกเขาวางมันจะสมบูรณ์ แต่มันก็ต้องใช้ อารมณ์ของทั้งคู่เป็นพลัง ยิ่งพวกเขาต้องวางรูปแบบฯรุกและรับพร้อมๆกัน ดังนั้นความแข็งแกร่งของมันจึงลดลง หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆมีหวังจบสิ้นแน่ 
 
 
 
* * * * โฮกกกก * * * * 
 
 
 
สัตว์ทั้งสี่มันมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร นำซ้ำมันยังถูกสร้างมาจาก อำนาจพลังวิญญาณ ไร้ซึ่งกายดิบ แต่พวกมันก็ดูเหมือนกับมีชีวิตจริงๆ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่า หากโจมตีต่อไปแบบก็ไม่มีประโยชน์ 
 
 
 
สัตว์ทั้ง 4 มีความสามารถที่หลากหลายต่างกันไป และพลังวิญญาณที่พวกมันครอบครองก็อยู่ในระดับ 4 ราชันย์แห่งสงคราม นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของพวกมัน ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า ไต้กู๋เลย 
 
 
 
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ อำนาจพลังของพวกมันยังเหมือนกับจะเพิ่มขึ้น ราวกับว่าจะเข้าสู่ระดับ 5 ราชันย์แห่งสงคราม ดังนั้น ชูเฟิงและไต้กู๋ จึงรู้สึกได้ถึงความกดดันที่เพิ่มพูน และถ้าหากสัตว์ทั้งสี่นี้เข้าถึงระดับ 5 ราชันย์แห่งสงคราม ไม่ต้องพูดถึงการที่จะทำลายการก่อตัวของพวกมัน ดีไม่ดีพวกเขายังจะต้องตายที่นี่อีกด้วย “ไอพวกบัดซบ พวกเจ้าผนึกข้ามานานแล้ว ยังไม่เบื่อขี้หน้าข้างั้นหรอ ?!”
 
 
 
ในเวลานั้น ฉิว ซานเฟิง ที่ติดอยู่ใน 4 รูปแบบมายา ที่สงบเงียบมานาน ก็ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ 
 
 
 
เมื่อเขาตะโกนคำราม พลังของเขาก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องภายใน 4 รูปแบบมายา 
 
 
 
เพียงไม่นาน พลังของมันก็พังทลาย 4 รูปแบบมายา โดยที่บริเวณการก่อตัวของผนึกเกิดการยุบตัว เพียงแค่การระเบิดพลังของ ฉิว ซานเฟิง ก็สามารถปลดพันธนาการ และหลุดออกจากการผนึกของมัน “อาจารย์พลังวิญญาณของท่าน . . . .”
 
 
 
ชูเฟิง และ ไต้กู๋ ไม่ สามารถเก็บความตกใจเอาไว้ได้ เนื่องจากพวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจาก ฉิว ซานเฟิง 
 
 
 
เขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญระดับ 4 ราชันย์แห่งสงคราม แต่เป็น ระดับ 5 ราชันย์แห่งสงคราม นอกจากนี้กลิ่นอายของเขายังรุนแรงและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งนั้นหมายความว่า เขาได้มาถึงจุดสูงสุดของระดับ 5 ราชันย์แห่งสงคราม 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
A : วันนี้พวกเรา ขอหยุดงานนึงวัน เพราะไข้กิน ปวดหัวขั้นรุนแรง 
 
 
 
B : กินยาดองสิ เด๋วก็หาย!!! 
 
 
 
C : ไม่มีพวกมืงเขาก็อยู่กันได้ ช่วงนี้ยิ่งกำลังมันส์ได้ที่ พวกมืงมันชอบปากหมา หลุดสปอยซั่วๆ 
 
 
 
B : มืงล่ะ ชอบสปอยมั่วๆ!!! นี้ก็ช่วยอาจารย์ได้แล้ว ต่อไปก็ ชิง ตำแหน่งประมุขพรรคมาร ตื่นเต้นสุดๆ!!! 
 
 
 
A : เราไม่สบายอ่ะ ขอหยุดงดลง นึงวันไม่ได้หรอ ?!!! 
 
 
 
C : จะตายก็เรื่องของมืง แต่ห้ามงดเด็ดขาด!!!