บทที่ 943 – ชูเฟิงเคลื่อนไหว
 
 
 
“ใช่ แล้วชูเฟิง หายไปไหนแล้วล่ะ แม้ว่า โหยว ตงหาน จะแข็งแกร่งแต่เขาก็เทียบไม่ได้กับชูเฟิง!””พูดตามตรง ข้าอยากจะถามคำถามนี้มาตั้งนานแล้ว ทำไมชูเฟิง ถึงไม่มาปรากฏตัว”
 
 
 
ผู้เฒ่า หลิวพูดขึ้น เหมือนเป็นการจุดระเบิดความสงสัยให้กับฝูงชน ทำให้ผู้คนนั้นเดากันไปต่างๆนานา “เห้ เจ้าต้องไม่รู้แน่นอน ข้าเคยได้ยินว่าชูเฟิงนั้นขี้ขลาด เป็นเพราะเขากลัวหมู่เกาะประหารจึงไม่ต้องการติดต่อกับพรรคของเรา เขาถึงหนีหายไป!””เจ้าพูดบ้าอะไรของเจ้า ข้าเคยเห็นความแข็งแกร่งของน้องชายชูเฟิงมาก่อน มีหรือคนเช่นเขาจะกลัวความตายหรือ หมู่เกาะประหาร””นอกจากนี้ ชูเฟิงได้ทำลายร้ายนิกายหลายนิกาย ในที่ราบแห่งความหนาวเย็น เพื่อช่วยพี่น้องของเรา แล้วยังฆ่าผู้เชี่ยวชาญของหมู่เกาะประหารอีกด้วย!””ข้าได้ยินมาว่า ชูเฟิงเคยสู้กับมู่หรง ซุน ในที่ราบพายุโหมกระหน่ำ แล้วยังช่วย 3 อัจฉริยะของพวกเรา และยังช่วย ราชันย์วารี และราชันย์อัคคีไว้อีกด้วย เรื่องนี้นั้น มีคนมากมายสามารถเป็นพยานให้ได้””ชูเฟิง นั้นเป็นของพรรคแน่นอน เขาเสี่ยงชีวิตของเขามาหลายต่อหลายครั้ง แล้วมีหรือที่เขาจะทรยศเราเพียงเพราะเกรงกลัวความตาย ถ้าถามข้า ข้าคิดว่าต้องมีบางคนนั้นเกรงกลัวต่อความสามารถของเขาแล้วบีบให้เขาออกไป””ชู่วว. . . เจ้าไม่ควรพูดเช่นนี้ 3 ผู้พิทักษ์นั้นต่างต้องการให้ศิษย์ของตนเป็นประมุข เจ้าไม่เข้าใจหรือว่านี่หมายความว่าอย่างไร””อย่าพูดพล่อยๆ ทำไม 3 ผู้พิทักษ์ของเราต้องทำเช่นนั้น ในตอนที่ หมู่เกาะประหารกับ 3 ตระกูลเผ่าปีศาจ เข้าโจมตี หุบเขาสายหมอก ชูเฟิงก็อยู่ที่นั้น เขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสในวันนั้น หรือไม่ก็เขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้วนั่นเป็นเหตุผลทิ่เขาไม่มาแสดงตนในวันนี้.””อ้า เขาตายแล้วจริงๆหรือ ช่างน่าเสียดายจริงๆ ข้าต้องการเห็นความรุ่งโรจน์ของชูเฟิง ถ้าเขาก้าวเข้าไปในรูปแบบนี้ เขาอาจจะไม่ได้อยู่แค่ชั้น 5 ใช่หรือไม่”
 
 
 
ผู้คนต่างเดาเรื่องของ ชูเฟิงไปต่างๆนานา และมีหลายคนที่รู้สึกว่าชูเฟิง ถูกกระทำแบบไม่ยุติธรรม บางคนก็รู้สึกว่า ชูเฟิงนั้นออกจากพรรคไปแล้ว 
 
 
 
แต่ก็มีบางคนคิดว่าชูเฟิงนั้นตายไปที่หุบเขาสายหมอกแล้ว 
 
 
 
แต่ดูจากท่าทางแล้ว พูดได้ว่าหลายๆคนนั้นอยากให้ชูเฟิงกลายเป็นประมุขของพวกเขามาก “ข้าไม่คิดว่าเจ้าเด็กนั่นจะสร้างชื่อเสียงในพรรคมารทะลายราตรีได้ถึงขนาดนี้ในเวลาแค่ 2 ปี”
 
 
 
ฉิว ซานเฟิง ที่แทรกซึมอยู่ในฝูงชนยิ้มแล้วพูดขึ้น จากนั้นเขาก็มองไปที่ลูกศิษย์ของเขา เขาอดที่จะภูมิใจไม่ได้เลย “ทุกคนเงียบ!”
 
 
 
โหยว หมิงเติง ตะโกนออกมา ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปมาก “ทุกคนจงฟัง เราไม่รู้ว่าชูเฟิงนั้นมีพื้นเพมาจากไหน และไม่รู้ว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่ บางทีทุกสิ่งที่เขาทำเขาอาจจะมีแผนซ่อนอยู่””นอกจากนี้ ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตาย ไม่ว่าเขาจะมาหรือไม่ เขาก็ไม่สามารถเป็นประมุขของพวกเราได้””อย่าคิดว่าข้าเอาแต่พูดพล่อยๆ ราชันย์ปฐพี บอกเขาไปว่า เจ้าตอนที่ลงสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวที่ชูเฟิงไปนั้น มันเกิดอะไรขึ้น”
 
 
 
โหยว หมิวเติงพูดขึ้น””นี่มัน… ร่างของชูเฟิงนั้นวิเศษมาก และ ข้าไม่สามารถลงสัญลักษณ์ได้”
 
 
 
ราชันย์ปฐพี พูดขึ้น “อะไรนะ รูปแบบสัญลักษณ์ก็ไม่สามารถลงบนร่างชูเฟิงได้อย่างนั้นหรือ?””รูปแบบสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยว คือเครื่องหมายของพรรคเรา ถ้าไม่มีมันแสดงว่าเขาไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเรา!””นี่หมายความว่าชูเฟิงไม่ได้เป็นคนพรรคตั้งแต่แรกอย่างนั้นหรือ?”
 
 
 
ผู้คนจำนวนมากรู้สึกว่า โหยว หมิงเติงนั้นมีเหตุผล เพราะคนจากพรรคนั้นล้วนมี รูปแบบจันทร์เสี้ยวอยู่บนหลังทุกคน เพื่อบ่งบอกว่าพวกเขานั้นเป็นคนของพรรค ดังนั้น คนที่ไม่มีสัญลักษณ์นั้นหมายความว่าไม่ใช่คนของพรรคมารทะลายราตรี “ข้ารู้ว่าเจ้านั้นเป็นสหายกับ ชูเฟิง แต่เจ้านั้นเป็นผู้ติดตามของพี่ใหญ่ ฉิว ซานเฟิง เจ้าต้องรู้ว่าเจ้าควรทำอะไร ถ้าเจ้ากล้าสนับสนุนเขาอีก อย่าหาว่าข้าไร้มารยาทเลย”
 
 
 
โหยว หมิงเติงพูดขึ้นแล้วชี้ไปที่หน้าของ ผู้เฒ่าหลิว 
 
 
 
ในตอนแรก เขาจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาก็ถูกหยุดไว้โดย เหล่าน้องชายของเขา เขาจึงเงียบไป “ไม่ใช่ว่า ข้า โหยว หมิงเติง นั้นเห็นแก่ตัว แต่รูปแบบนี้นั้นถูกร่างขึ้นโดยพวกเขาเหล่าผู้พิทักษ์ มันต้องยุติธรรมอยู่แล้ว””และศิษย์ของข้า โหยว ตงหานนั้นสามารถ ก้าวเข้าไปใกล้ดาบผนึกมารที่สุดบางที เขาควรจะเป็นประมุขคนใหม่ มีใครต้องการคัดค้านหรือไม่”
 
 
 
โหยว ตงหาน พูดขึ้นอีกครั้ง 
 
 
 
ในตอนนั้นฝูงชน ต่างเงียบ ไม่มีผู้คนพูดอะไร หรือคัดค้านอะไรเลย 
 
 
 
ปากของ โหยว หมิงเติง ยกสุงขึ้นจากนั้นก็พูดว่า”
 
 
 
ดี ถ้าไม่มีใครคัดค้าน ข้าขอแต่งตั้งให้ โหยว ตงหาน เป็น …””ช้าก่อน!”
 
 
 
ในตอนนั้นก่อนที่ โหยว หมิงเติง จะพูดจบ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น. 
 
 
 
ผู้คนในที่นั้นต่างตกใจอย่างมาก และรีบมองไปที่ต้นเสียงทันที 
 
 
 
ต่อจากนั้น ผู้คนก็เห็นชูเฟิงที่ปลอมตัวอยู่ “เจ้าเป็นใคร ?!”
 
 
 
โหยว หมิงเติง ถามขึ้น เขามองไปที่ชูเฟิง แล้วขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่านี่คือชูเฟิง เพราะชูเฟิงนั้นเปลี่ยนหน้าเขาแล้ว 
 
 
 
แต่การที่พูดขึ้นมาเช่นนี้ทำให้ โหยว หมิงเติงไม่พอใจมาก มันเหมือนกันท้าทายอำนาจของเขา “ข้าได้ยินมาว่า สมาชิกคนใดของพรรคก็ตาม ที่สามารถดึงดาบนั้นได้ ย่อมได้เป็นประมุข ดังนั้นข้าจึงอยากจะลอง ท่านผู้พิทักษ์ให้โอกาสข้าจะได้หรือไม่”
 
 
 
ชูเฟิง พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เขาเป็นใครกัน มีหลายคนนั้นพลาดพลั้งมามากมาย เขาคิดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าโหยว ตงหานหรือ เขาจะประเมินตนสูงไปหน่อยแล้ว”ในตอนนั้นเสียงฝูงชนก็ดังขึ้น 
 
 
 
แต่เดิมแล้ว โหยว หมิงเติงไม่พอใจมาก แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงเยาะเย้ย เขาก็ยิ้มขึ้น 
 
 
 
เขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับทุกคน อีกฝ่ายนั้นโง่เขลาจริงๆ แต่เมื่อชูเฟิง นั้นไม่กลัวความอาย ดังนั้นเขาจึงอยากให้ชูเฟิงนั้นอับอายต่อหน้าผู้คนเสียหน่อย “แน่นอนว่าได้ ถ้าเจ้าเป็นคนจากรุ่นเยาว์ เจ้าจะได้เป็นประมุขทันที ไปซะ แต่ระวังด้วย รูปแบบนี้นั้นแข็งแกร่งมาก เจ้าอาจบาดเจ็บได้ และไม่มีใครสามารถช่วยเจ้าได้”
 
 
 
โหยว หมิงเติง ยิ้มแล้วพูดขึ้น ความหมายของเขาชัดเจนแล้ว การทำเช่นนี้นั้นหมายความว่า ไม่ว่าอย่างไรโหยว หมิงเติงก็จะไม่ช่วยเด็ดขาดหากเจ้าเด็กเหลือขอนี่ ถูกลงโทษโดยรูปแบบของดาบผนึกมาร 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
วันนี้ของด A-B-C นะคร้าฟ 
 
 
 
พอดีเวลามันกระชั้นชิด เลยอาจทำให้เวลาลงอาจล่าช้าขึ้นไป 
 
 
 
C : มืงว่า เป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจป่ะว่ะ ?! 
 
 
 
A : ชู่วววว . . . . . เดียวก็โดนปลดกลางอากาศหรอกมืง 
 
 
 
B : กู นี้คันปากยิ๊บๆเลย พี่เฟิงกูจะแสดงฝีมือสักที รับรอง รูปแบบฯเน่าๆนี้ทำไรพี่เฟิงกูไม่ได้แน่นอน 
 
 
 
A : นั้นสินะ หากวันนี้จบภาคดึงดาบแบบไม่ค้างก็คงจะดี!!!