ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 944 – ดึงดาบตราประทับผนึกมาร
“ท่าน ผู้พิทักษ์ ไม่ต้องกังวล”
ชูเฟิงยิ้มแล้วประสานมือคารวะ โหยว หมิงเติง จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปยังรูปแบบ
คนจำนวนมากต่างเห็นว่า ท่าทางของชูเฟิงนั้นราวกับแสดงตลก
อย่างไรก็ตาม เมื่อชูเฟิง ก้าวเข้ารูปแบบไป ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะเป็นท่าทางหรือความเร็ว แล้วเขายังก้าวต่อไปเรื่อยๆ จากชั้น 10 ไป 9 8 7 ราวกับไม่ได้รับผลอะไรเลย “เกิดอะไรขึ้นทำไม เจ้าเด็กเหลือขอนี่เดินเข้าไปแบบไร้แรงกดดันเลยล่ะ”
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นแม้แต่ 3 ผู้พิทักษ์ก็ต้องตะลึง พวกเขานั้นเป็นคนวางรูปแบบนี้เอง ดังนั้นจึงรู้ความสามารถของมันดี
แม้แต่ซวน เสี่ยวจาว และคนอื่นๆนั้น เขาก็ได้รับแรงกดดันทุกชั้นแรงสุดที่ชั้น 5 ดังนั้นเขาจึงสงสัยว่าทำไมเด็กนี้นั้นเดินสบายๆเสียจริง
ต่อหน้าความตกตะลึงผู้คน ชูเฟิงก็เดินเข้าไปเรื่อยๆ ราวกับไม่ได้รับแรงกดดัน เขาผ่านชั้น 6 5 4 ที่แม้กระทั่งศิษย์ของผู้พิทักษ์ก็ไม่ได้เข้าไป โดยท่าทางไม่เปลี่ยนและความเร็วไม่ตกเลย ราวกับเขาเดินอยู่บนพื้นปกติ “สวรรค์ นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว เขาทำได้อย่างไร”
ผู้ชมต่างรู้สึกตกใจมาก เพราะชูเฟิงนั้นยังดูสบายมากแม้จะเข้าชั้นที่ 4 ไปแล้ว
ในตอนนั้น ซวน เสี่ยวจาว และคนอื่นๆนั้น ต่างพูดไม่ออกและรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว
หลังจาก เข้าชั้นที่ 4 มา ชูเฟิงก็หยุด แล้วพูดว่า”
ท่านผู้พิทักษ์ นี่คือรูปแบบใช้คัดเลือกประมุขคนใหม่หรือ ช่างน่าผิดหวังจริงๆ”
ชูเฟิง พูดเย้ยหยัน “เจ้า…”
โหยว หมิงเติง โกรธมาก เขาขบฟันแน่น แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่กัดฟันด้วยความโกรธ “เป็นไปไม่ได้ เขาเข้าไปชั้นที่ 4 ได้ง่ายๆเลย ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับรูปแบบนี้แน่”
โหยว ตงหาน พูดขึ้น
หลังจากสูดลมหายใจเฮือก ใหญ่ เขาก็พุ่งเข้าไปยังรูปแบบทันที หลังจากเข้ามายังชั้น ที่ 5 เขาก็ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด “หาน เอ๋อ!”
โหยว หมิงเติง ท่าทางเปลี่ยนทันที โหยว ตงหานนั้นรีบร้อนเกินไปจึงไม่ได้ระวังตัว เขาถูกแรงกดดันในชั้นที่ 4 กดทับตัวจนล้มลง “นี่… สวรรค์ พลังของรูปแบบมันยังไม่หายไปอย่างนั้นหรือนี่ แล้วเขาก้าวเข้าไปยังชั้นที่4ได้ทั้งๆแบบนี้เนี่ยน่ะหรือ!””นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ เขาเป็นใครกัน ทำไมข้าไม่เคยได้ยินว่ามีสัตว์ประหลาดเช่นนี้ในพรรคเรา”
การกระทำของโหยว ตงหาน นั้นสะเทือนจิตใจผู้คนมาก เห็นได้ชัดว่ารูปแบบนั้นไม่ได้เปลี่ยนไป มันยังคงน่าเกรงขามเช่นเดิม เจ้าเด็กไร้ที่มานั้นกับเดินเข้าไปยังชั้นที่ 4 ได้แสดงว่าเขาต้องแข็งแกร่งมาก
ชูเฟิงนั้นถอนหายใจ พวกเขานั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ต้องการทำร้ายอีกฝ่าย
แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นั่นเป็นเพราะความใจร้อนของอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิงได้หันหน้ามาที่ โหยว หมิงเติง แล้วสุมไฟความโกรธให้เขา เขาไม่ได้สนใจโหยว ตงหาน เขาเยาะเย้ย โหยว หมิงเติงว่า “ท่าน ผู้พิทักษ์รู้สึกว่ำตำแหน่งประมุขนั้นเปลี่ยนไปแล้ว.”
หลังจากพูดขึ้น ชูเฟิงก็หันกลับแล้วก้าวเข้าไป ท่ามกลางสายตาอันตกตะลึงอีกครั้ง เขาผ่าน ชั้น 3 ชั้น 2 และตรงเข้าไปยังชั้น 1
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจมาก แม้กระทั่ง เซว่ ซีเยว่ และ ฟู่ เหลียนเฉิง นั้นตกใจมาก
แต่ชูเฟิงก็ไม่ต้องการหยุดเช่นนี้เขาหันกลับมามอง 3 ผู้พิทักษ์ แล้วพูดว่า”
ท่าน ผู้พิทักษ์ ท่านประมุขเคยสั่งไว้ว่าใครก็ตามที่ดึงดาบนี้ขึ้นมาได้ จะกลายเป็นประมุขใช่หรือไม่”
เซว่ ซีเยว่ และ โหยว หมิงเติง ขมวดคิ้วแน่น ทั้งคู่นั้นพูดไม่ออก
แต่ในตอนนั้น ฟู่ เหลียนเฉิง ก็ยิ้มแล้วพูดว่า”
ถูกต้อง ประมุขนั้นได้กล่าวไว้จริงๆ เขาได้กล่าวว่าคนที่ดึงดาบได้จะได้เป็นประมุขคนต่อไป.”( T/N นี่สินะเป็นเหตุผลที่ ฉิว ซานเฟิง ให้ไปตาม ฟู่ เหลียนเฉิงมาช่วย เพราะ ฟู่ เหลียนเฉิงไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัว เหมือนคนอื่นๆ ) “ถ้าอย่างนั้น ถ้ามีคนเป็นประมุขได้แล้วหมายความว่า พวกท่านทั้ง 3 ต้องฟังคำสั่งใช่หรือไม่”
ชูเฟิงถามขึ้นอีกครั้ง “แน่นอน ประมุข คือผู้นำของเรา พรรคมารทะลายราตรี ไม่ใช่แค่พวกเรา ทุกคนในพรรค นั้นจะต้องฟังคำสั่งคนผู้นั้น โดยไม่คัดค้าน”ฟู่ เหลียนเฉิง พยักหน้า แล้วพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้น ตอนแรกข้าว่าจะไม่เป็นประมุขเสียหน่อย แต่ดูแล้วมันก็คุ้มค่าจริงๆ ถ้าได้ขึ้นเป็นประมุข”
ชูเฟิง ยิ้มแล้วพูดขึ้นจากนั้นก็มองไปที่ ดาบผนึกมาร. “ช่างโอหังยิ่งนัก แม้แต่พวกเรา 4 ผู้พิทักษ์ก็ไม่สามารถดึงดาบผนึกมารได้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำได้อย่างนั้นหรือ”
เซว่ ซีเยว่ พูดเยาะเย้ย ชูเฟิง “เซว่ ซีเยว่ พูดถูกแล้ว ดาบผนึกมารนั้นแข็งแกร่งมาก ข้าแนะนำให้เจ้าหลีกเลี่ยงที่จะดึงมันดีกว่า นอกจากนี้ถ้ามันไม่ชอบเจ้ามันจะฆ่าเจ้าทันทีพวกเราไม่สามารถช่วยอะไรได้”
โหยว หมิงเติงพูดขึ้น “นี่ไม่ใช่เรื่องของท่าน แต่เป็นเรื่องของข้า”
ชูเฟิง แสยะยิ้ม จากนั้นก็มองไปที่ฝูงชน แล้วเขายื่นมือไปวางไว้ที่ดาบผนึกมาร
*ตูม*
ในตอนนั้น เมื่อชูเฟิง จับดาบผนึกมาร กลิ่นอายก็ถูกมาราวกับพายุ
กลิ่นอายนั้นแข็งแกร่งมาก ผู้คนจำนวนมากไม่อาจยืนได้ไหว จึงล้มลงไป และแม้แต่วิหาร ก็เกิดการสั่นอย่างรุนแรง “สวรรค์ เขาต้องการดึงดาบผนึกมาจริงๆ เขานั้นช่างกล้าเสียจริง”คนของพรรคมารทะลายราตรี รู้สึกตะลึงอย่างมาก
ถ้าการกระทำของชูเฟิงในก่อนหน้านี้ทำให้เขาตกใจมาก การกระทำของชูเฟิงในตอนนี้นั้น จะทำให้เขากลัวอย่างสมบูรณ์ “เห้ ดาบเยี่ยม ให้ข้าเป็นนายของเจ้าซะ!”
ชูเฟิง ยิ้มแล้วพูดขึ้น เขากำมือแน่นจากนั้นก็สะบัดมือ หลังจากเสียงดังเคร้ง พื้นดินก็สั่นสะเทือน วัตถุขนาดยักษ์นั้นถูกดึงออกจากพื้นดิน ขึ้นมาอยู่ในมือของชูเฟิง
ชูเฟิงนั้นสามารถดึงดาบผนึกมารสีดำจากรูปแบบออกมาได้แล้ว
ReaDMGA ////////////////////////////////////////////// A : โอ้ว หงิดเลยดิ ไอโยว่ หมิงเติง!!!
B : ได้เวลาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วล่ะ เหล่าสาวกพรรคมารทั้งหลาย
C : โยว่ หมิงเติงไม่ยอมรับง่ายๆหรอกเว้ย!!! ตำแหน่งประมุขที่ใฝ่ฝันมานาน แล้วเด็กเปรตที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้มาชุบมือเปิบ มีหรือมันจะยอม?!
B : ดูด้วยพี่เฟิงมากะใคร ต่อให้ไม่ยอมแล้วมันจะทำไรได้ หากพี่เฟิงใช้มันเป็นเป้าทดสอบดาบล่ะยุ่งเลย