I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1004 – ความตั้งใจที่เเน่วเเน่ของ ชูเฟิง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1004 – ความตั้งใจที่เเน่วเเน่ของ ชูเฟิง

 

หลังจากที่ ชู คงท่ง จากไป ผืนดินกกลับคืนสู่สภาพเดิม ในความมืดมิด มีเพียงกองฟืนเท่านั้นที่เปร่งเเสงออกมาทำให้พื้นที่สว่างเเละสดใสเล็กน้อย

 

*ฮึ่ม* ชู ซวนหยวน ยกมือขึ้นล็กน้อยก่อนที่เขาสบัดมือซ่อมเเซมโลกที่พังทลายนั้นเเละหลุมฝังศพก็พลิกคว่ำกลับไปเเบบเดิม “อาวุโสวานร ขออภัยสำหรับปัญหานี้”

 

ชู ซวนหยวน กล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษขณะที่มองไปยังเขา “ซวนหยวน เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องพูดเป็นทางการกับข้าก็ได้ มันก็เป็นเเค่เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ถ้ามันสามารถที่จะช่วยเหลือชูเฟิงได้เเม้เพียงน้อยนิดต่อให้ข้าโดยกระทำมากกว่านี้ข้าก็ไม่คับข้องใจ?”วานรเฒ่ากล่าวอย่างเรียบง่ายน้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความเต็มใจที่จะทำมันเอง “อาวุโสวานร ถึงท่านจะกล่าวเช่นนั้น เเต่ว่า….”

 

ในขณะที่ ชู ซวนหยวน กล่าวออกมาเขาได้มองไปที่วานรเฒ่า สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเเละเขาได้ตำหนิตัวเองในสายตาของเขา เขารู้ดีถึง ความเเข็งเเกร่งของ วานรเฒ่า เมื่อกาลก่อนนั้นเเข็งเเกร่งขนาดไหน “อ่า..ข้าเต็มใจที่จะทำเรื่องทั้งหมดนี้ นอกจากนี้สำหรับเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการบ่มเพาะพลังของข้า เมื่อมันหายไปได้มันก็กลับมาได้เช่นเดียวกัน ถึงเเม้ความเเข็งเเกร่งของข้าในตอนนี้จะเล็กน้อย ไม่ช้าก็เร็วข้าจะต้องฟื้นฟูพลังกลับมาเหมือนเดิมได้อย่างเเน่นอน”

 

วานรเฒ่ากล่าวอย่างเเผ่วเบาก่อนที่จะยิ้มเเละกล่าวออกมาอีกครั้งว่า”

 

จริงๆเเล้วความสามารถของชูเฟิงก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เเละมันไม่น่าเชื่ออย่างมากตรงที่เขาสามารถบ่มเพาะพลังในทะเลภาคตะวันออกที่ขาดเเคลนทรัพยากรเช่นนั้นจนมีความเเข็งเเกร่งที่ดีได้ นอกจากนี้เจ้ายังได้ทำบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับสายเลือดของเข้าด้วยนิ” “ถึงเเม้ว่าเขาจะได้รับความทุกข์ทรมาณอย่างมากกว่าจะบ่มเพาะพลังมาจนถึงตอนนี้ได้ก็เถอะ เเต่มันก็ช่วยให้เขาสามารถที่จะวางรากฐานอนาคตที่ดีสำหรับเขา มันเกินความคาดหมายของข้ามากที่เขาเติบโตได้ขนาดนี้ ไม่เพียงเเต่ในเเง่ของการบ่มเพาะพลัง เเม้เเต่เเง่ในตัวตนของเขาก็เช่นเดียวกัน” “หลายปีที่ผ่านมาน้นข้าไม่สามารถที่จะอยู่เคียงข้างเขาได้ เเละยังไม่สามารถที่อยู่ปกป้องหรือหนุนหลังเขาหรือไม่เเม้เเต่จะเป็นคนคอยสอนเขาอีก” “สิ่งที่ข้ากังวลมากที่สุดไม่ใช่การบ่มเพาะพลังของเขา เเต่มันเป็นตัวตนของเขามากกว่า” “เพียงเเต่ตอนนี้ข้าได้คลายความกังวลทิ้งไปหมดสิ้น เป็นเพราะโดยธรรมชาติทำให้เขาเป็นคนที่กล้าหาญเเละเข้มเเข็งอย่างมาก ข้ารู้สึกโล่งใจมากที่เขาสามารถทำเช่นนั้นได้”

 

ชู ซวนหยวน ยิ้มออกมาเล็กน้อยในขณะที่กล่าวออกมา “ไม่ใช่ว่าเหตุผลที่เจ้ากล่าวมาเป็นเพราะเจ้า ได้ยอมรับเขาเเล้วครึ่งนึงหรอกหรือ ให้การยอมรับว่า เจ้าได้เป็นพ่อของเขาไม่ใช่หรอกหรือ? เพราะถึงยังไงเขาก็ยังคงเป็นลูกชายของเจ้า” “ใช่ เพียงเเต่ว่าตอนนี้เขาได้เข้ามาใน ดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่ต่างจากปลาตัวเล็กในฝูงปลาใหญ่ที่อยู่ในมหาสมุทรกว้าง ถึงเเม้ว่าเขาจะเป็นคนพิเศษเเละมีสายเลือดที่เเข็งเเกร่งกว่าคนอื่น เเต่ว่าเขาไม่ได้เติบโตเลยเเม้เเต่น้อย” “ในสถานที่ต่างๆหรือสถานการณ์ต่างๆมันมีอันตรายที่มองไม่เห็นเสมอ เเละ มันก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ในฐานะที่เจ้าเป็นพ่อของเขา เจ้าไม่ไดกังวลเลยอย่างงั้นรึ” “ข้า…. ข้าจะไม่เป็นห่วงเขาได้เช่นไร? เเละมันจะมีกี่สิ่งกันที่ข้าสามารถช่วยเขาได้ในตอนนี้? ถ้าข้าให้เขาอยู่ที่นี่เฉยๆ เขาก็จะกลายเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ในสถานที่เช่นนี้ก็เท่านั้น เเละเขาจะไม่สามารถปกป้องตัวเองหรือรับมือภัยต่างๆได้เมื่อมันเกิดขึ้น? ข้าเพียงเเต่ปราถนาสิ่งเดียวคือส่งเขาออกไป? เพื่อที่เขาจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เเละได้ผจญภัยโลกข้างนอก”

 

ชู ซวนหยวน กล่าวออกมา “จริงๆเเล้วเหตุผลที่ข้ากังวลไม่ใช่บุคคลจากโลกภายนอก เเต่มันเป็นคนจากตระกูล ชู ข้าเพียงเเต่หวังว่าพวกเขาจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับโลกเเห่งนี้ถึงเเม้พวกเขาจะส่งคนออกไปสำรวจก็ตามที” “ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ได้ทำบางสิ่งในสายเลือดของเขา มันคืออำนาจลักษณะที่เเตกต่างจากสายเลือดของตระกูล ชู ของเจ้า ถึงเเม้ว่ามันจะเเตกต่างเเต่มันก็ยังมีความคล้ายคลึงกัน” “ถึงเเม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับสถานที่เเห่งนี้ เเต่ว่า ตราบใดที่เขาปลอยภัยเเละยังคงสามารถพัฒนาความเเข็งเเกร่งไปได้ตลอดเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็วชื่อเสียงของเขาจะกระจายไปทั่วโลกนี้อย่างเเน่นอน หากผู้ที่มีความคับเเค้นบางอย่างกับตระกูลของเจ้า รับรู้ ตัวตนของเขา มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเขา” “นั่นคือเหตผลที่ข้าร้องขอให้เจ้า เปลี่ยนเเซ่ของเขา เป็นเเซ่ อื่นโดยตอนนั้นที่คนจากทะเลภาคตะวันออกพาเขาออกไป”

 

วานรเฒ่ากล่าว “นั่นไม่จำเป็น ถึงยังไงเขาก็ยังคงเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูล ชู ไม่ว่าอย่างไร เเซ่ของเขา ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้” “ในขณะเดียวกัน ชื่อของเขากถูกมอบให้โดยเเม่ของเขาเช่นเดียวกัน มันไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกัน” “ถึงอย่างไรโลกใบนี้ก็กว้างใหญ่ไพรศาล ยังคงมีคนอีกมายมายที่มีชื่อเดียวกันกับเขา หาก เฟิงเอ๋อ พบกับหายนะอย่างเเท้จริง ก็ยังคงมีบุคคลอีกหลายคนให้สงสัย ตราบใดถ้ามันเกิดขึ้นกับเขา นั่นก็คงเป็นชะตากรรมของเขาที่โชคชะตาจะกำหนด” “เส้นทางเเห่งการบ่มเพาะพลังไม่ใช่เส้นทางที่ง่ายดายเสมอไป ในฐานะที่ข้าเป็นพ่อของเขา เเน่นอนว่าข้าจะต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา เเม้เเต่อันตรายสักนิดข้าก็ไม่อยากที่จะให้เกิดขึ้นกับเขา เเละข้าหวังว่าเขาจะสามารถรอดพ้นจากอันตรายต่างๆได้จนพ้นภัย” “ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่ได้คิดที่จะปกป้องอนาคตเขา เเท้จริงเเล้วข้าหวังไว้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับอันตรายได้ด้วยตัวคนเดียว” “บางสิ่งบางอย่างเขาก็สมควรได้รับประสบการณ์ส่วนตัวเองเเละความยากลำบากนั้น ก็คือทรัพยากรในการบ่มเพาะพลัง” “ที่เจ้าจะกล่าวคือเจ้าต้องการให้เขาเป็นดั่งเช่นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงเเละเเข็งเเกร่งในโลกหล้าที่ผ่านมาอย่างงั้นหรือ การที่พวกเขาได้เผชิญปัญหาเเละผ่านประตูนรกมานับครั้งไม่ถ้วนทำให้พวกเขาเเข็งเเกร่งใช่หรือไม่?” “ก็อาจเป็นเช่นนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับโลกภายนอก โลกใบนี้เปรียบเสมือนเพียงโลกกระจกเท่านั้น ถ้าข้า ชู ซวนหยวน มีลูกชายคนหนึ่งที่ไม่เเม้เเต่จะสามารถที่จะพัฒนาได้ในโลกเเห่งนี้เเล้วละก็ เขาก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกชายของข้าเช่นเดียวกัน”

 

ถึงเเม้ว่าคำพูดของเขาจะเต็มไปด้วยความเมตตาที่ปรากฏในสายตาของคนเป็นพ่อ เเต่ว่า สายตาของ ชู ซวนหยวน ตอนนี้ไม่ใช่เช่นนั้นน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดุดันอย่างรุนเเรง “อ่า…”

 

วานรเฒ่าไม่ได้กล่าวไรมากเขาได้ถอนหายใจออกมาพักใหญ่ มันให้ความรู้สึกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน

 

ในเวลาเดียวกัน ชูเฟิงก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในทันที เขาพบว่าเขาได้ออกมาจากโลงศพเเห่งนั้นเเละปรากฏที่อุโมงค์บางอย่าง

 

ภายในอุโมงค์นั้น ชูเฟิงรู้สึว่าร่างกายของเขาได้สูญเสียการควบคุม บางอย่าง เขาไม่สามารถที่จะขยับได้ตามใจชอบนักทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วได้ในตอนนี้

 

เเต่ว่าเขาก็รู้ว่า อุโมงค์เเห่งนี้เเท้จริงเเล้วอยู่ บนเส้นทางสวรรค์ เเละมันก็คือหนทางที่จะนำเขาไปสู่ดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์

 

ในทันทีชูเฟิงรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน เขาได้ฉุดคิดเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหัวของเขาเเละเริ่มเรียบเรียงเหตุการณ์ในทันที เขาได้เริ่มนึกถึงความปลอดภัยของ วานรเฒ่า ว่าปลอดภัยหรือไม่ เเละเขาก็ยังคงนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป นั้นคือเขาคือคนที่ทำให้พ่อของเขาต้องอับอาย เเละเสื่อมเสียเกียรติ

 

ชูเฟิงไม่ได้ตำหนิพ่อของเขาเเละไม่ได้ตำหนิวานรเฒ่า เขาได้รู้เหตุผลเเล้ว เป็นเพราะ พ่อของเขาหรือเเม้เเต่วานรเฒ่าได้ประสบปัญหาบางอย่างถึงได้ทำเช่นนั้น

 

ชูเฟิงไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าพ่อของเขาได้ช่วยเหลือเขาไว้มากเพียงใด เเละเรื่องหลุมฝังศพอีก ถึงเเม้ว่าจะดูแปลกไปหน่อยเเต่ว่าพ่อของเขาก็ทำให้คนในตระกูลรู้ว่าเขา ชูเฟิง ได้เสียชีวิตไปเเล้ว เพื่อที่พ่อของเขาจะได้นำตัวเขาออกไปจากสถานที่เเห่งนี้

 

ดินเเดนเเห่งนี้เป็นดินเเดนที่อันตราย มิฉะนั้นวานรเฒ่าหรือการบ่มเพาะพลังของเขาคงไม่ได้ลดลง พ่อของเขาคงไม่ได้ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเฉยๆอย่างเเน่นอน เเละยังมีภาระที่วานรเฒ่าเเบกรับอีก

 

ชูเฟิงไม่รู้เลยว่าเกิดสิ่งใดที่ตระกูลเขากันเเน่ เเต่บางอย่างที่พ่อและเเม่ในใจของเขา นั้นยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก เเข็งเเกร่งเเละทรงพลัง ถึงเเม้พ่อของเขาจะไม่ได้ดีอย่างที่เขาหวังไว้ก็ตาม

 

จากคำพูดของวานรเฒ่า ชูเฟิงรู้ว่าพ่อของเขาคงมีเหตุผลในการทำเช่นนั้นด้วยเหตุผลนั้นคงทำให้เขาได้รับความเจ็บปวดไม่น้อย อนึ่งเเละยังกล่าวอีกทางได้ว่าตัวเขาเอง ชูเฟิง คือคนที่ทำให้พ่อของเขาต้องอยู่ในสภาพนี้

 

ดังนั้นชูเฟิงจึงต้องรับผิดชอบในการกระทำนั้น เขารู้ว่าจะต้องเเบกรับภาระอันมากมายเพียงใดที่เขาได้รับฝากฝังมาถึงเเม้เขาจะตายไปก็คงจะยังไม่หมดเป็นเเน่ “ชูเฟิงเจ้าไม่สมควรถือความทุกข์เช่นนั้นเอาไว้ เเละโทษตัวเอง ไม่ว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นถึงยังไงมันก็ไม่สามารถที่จะเเก้ไขได้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เกิดไปเเล้ว ไม่ว่ามันจะเป็นใครที่ทำเช่นนั้น เเต่ที่เเน่ๆคือพวกเขามีความเเข็งเเกร่งที่จะทำเช่นนั้นอย่างเเน่นอน” “ถึงจะเป็นเช่นนั้น เเต่ว่าเจ้าสามารถที่จะเปลี่ยนอนาคตได้ จำคำที่วานรเฒ่านั่นบอกได้ไม๊ว่ามันยังไม่สายเกินไป? เขาเป็นผู้หนึ่งที่ติดตามพ่อของเจ้า เขากล่าวว่า พ่อของเจ้าถูกพรากเกียรติทั้งหมดไปเพราะเจ้า เเละคนที่สามารถนำมันกลับมาได้ก็คือเจ้า พวกเขาได้คาดหวังกับเจ้าไว้มากเป็นเพราะพวกเขาวางใจเจ้าว่าเจ้าจะต้องทำสำเร็จ”

 

ต้านต้าน กล่าวปลอบเมื่อนางเห็นว่าชูเฟิงรู้สึกเศร้าใจ “ข้าจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังในตัวของข้า ข้าจะไม่เพียงนำเกียรติยศของพ่อของข้ากลับมา ข้าจะทำให้ผู้ที่มาเหยียบย่ำหรือเกี่ยวข้องกับเกียรติของพ่อของข้าต้องจ่ายด้วยราคาที่เหมาะสมอย่างเเน่นอน ถึงเเม้ว่ามันจะเป็นตระกูลของข้า ข้าก็จะไม่ละเว้นเช่นกัน”

 

ความคิดอันเเรงกล้าได้ประทุเข้าไปในดวงตาของชูเฟิง สำนวนที่เขากล่าวออกมาคล้ายกับพ่อของเขาที่ได้เเสดงออกมาก่อนหน้านี้ ถึงเเม้ว่ามันจะต่างกันเล็กน้อย เเต่ความหมายเเละความรุนเเรงของคำพูดเช่นนี้ค่อนข้างเหมือนกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

 

เพราะนี้คือความตั้งใจอันเเน่วเเน่ของ ชูเฟิง

 

P’Film

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments