I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1055 – ความอัปยศต่อสาธารณะชน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1055 – ความอัปยศต่อสาธารณะชน

 

“นั่นก็ไม่ความจริงซะทีเดียว ตามตำนานกล่าวว่า ภูติเกิดมาจากสระนิรันดร์บรรพกาล พวกเขามีพลังทางสายเลือดที่ได้รับมาจากสระนิรันดร์บรรพกาล ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถฝึกฝนในนั้นได้เท่าที่พวกเขาต้องการ !!””แต่พวกเรานั้นต่างออกไป แม้ว่าพวกเราจะสามารถเข้าไปยังสระนิรันดร์บรรพกาล ได้ก็ตาม แต่หากพวกเราต้องการจะเข้าไปยังส่วนลึกนั้น มันก็เปรียบได้กับการทดสอบจิตใจของพวกเรา ไม่ช้าก็เร็วมันจะเป็นอันตรายถึงชีวิตของพวกเรา !!”

 

หวาง เว่ยกล่าวเตือนออกมา ตลอดเวลาที่ได้ร่วมเดินทางมากับ ชูเฟิง นั้น มันก็ทำให้นางพอจะเข้าใจ ชูเฟิง อยู่บ้าง แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็มักจะผลีผลาม และทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงผลลัพท์ที่จะตามมานัก

 

นางกลัวว่าด้วยความแข็งแกร่งของ ชูเฟิง นั้น อาจจะทำให้เขาต้องการที่จะเข้าไปยังส่วนลึกของสระนิรันดร์บรรพกาล เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่เผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าตามตำนานนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และมันก็อันตรายอย่างมากสำหรับเขา “ศิษย์พี่ หวาง เว่ย ขอบคุณสำหรับความหวังดีของท่าน แต่ถึงอย่างไรข้าก็อยากเข้าไปยังส่วนลึกของสระนิรันดร์บรรพกาล เพราะยังไงพวกเราก็เสียค่าเข้าไปไม่ใช่น้อย หากข้าไม่ลองเข้าไปยังที่นั่น มันก็ค่อนข้างน่าเสียดาย !!” “ยังไงก็ตาม ศิษย์พี่ หวาง เว่ย ท่านไม่ต้องกังวลหรอก แม้ว่าบางครั้งข้าอาจจะเลินเล่อไปบ้าง แต่ข้าก็สามารถเอาตัวรอดได้ และข้าเองก็มั่นใจว่าข้าจะไม่ตายที่นี่ !!””ถ้าหากข้าเป็นเพียงคนโง่ ข้าคงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ และสามารถเข้ามายังดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์เแห่งนี้ได้ !!”

 

ราวกับว่า ชูเฟิง รู้ความคิดของนาง เขาจึงกล่าวออกมาพลางยิ้มบาง

 

หลังจากได้ยิน ชูเฟิง กล่าวออกมาเช่นนี้ หวาง เว่ย ก็ผงะไปเล็กน้อย ใบหน้าของนางแสดงออกถึงความละอายออกมาเล็กน้อย เพราะนางประเมิน ชูเฟิง ต่ำเกินไป เพราะหากมันเป็นเช่นที่นางคิด ชูเฟิง ย่อมไม่ปลอดภัยมาจนถึงขณะนี้

 

ดังนั้น หวาง เว่ย จึงไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก และเพียงแค่ยิ่มในเชิงขอโทษออกมาเท่านั้น “เอาล่ะ !! หากดูตามทิวทัศน์รอบๆ นี่ ข้าคิดว่าพวกเราก็น่าจะถึงสระนิรันดร์บรรพกาล แล้ว !!”

 

ในขณะนั้น ฉีคง ไจ้ชิง ก็กล่าวพลางยิ้มบางออกมา

 

ในขณะนั้น เรือรบได้บินต่ำลงมาภายในหมอกสีขาว พลันพวกเขาทั้งหมดก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาวที่หนาแน่น

 

หลังจากผ่านทะเลหมอกมาได้นั้น ทิวทัศน์ทุกอย่างก็ปรากฏต่อสายตาของทุกคน

 

และสิ่งแรกที่ ชูเฟิง เห็นก็คือคนจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเหล่าสัตว์มหึมา และเผ่าพันธุ์อื่นๆ หากประมาณคร่าวๆ นั้นก็มีมากกว่าล้านคนที่อยู่ในบริเวณนี้

 

กลุ่มคนทั้งหมดนี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสามถึงห้ากลุ่มใหญ่ๆ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นอยางที่ ฉีคง ไจ้ชิง และอาจารย์ใหญ่ของตำหนักเมฆาอัสนีบาตกล่าวไว้ ว่าที่นี่จะมีคนจำนวนมากที่มาเข้าร่วม

 

ในขณะนั้น ชูเฟิง ไม่ได้สนใจต่อผู้คนจำนวนมากที่เปรียบได้กับมด แต่เขากลับมองไปยังผนังในส่วนลึกภายใต้ทะเลหมอก

 

รูปร่างบนผนังนั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยละเอียด มันถูกสร้างขึ้นมาจากหินสีขาว มันแสดงออกถึงควมมั่นคง และสวยงามอย่างชัดเจน

 

ส่วนสำคัญที่สุดนั้นก็คือ ผนังนั้นปิดกั้นอำนาจพลังวิญญาณโดยสมบูรณ์ แม้ว่า ชูเฟิง จะรู้ว่าภายใต้ผนังนั้นจะเป็นที่อยู่อาศัยของภูติ แต่เขาก็ไม่สามารถมองเห็นได้

 

เพราะผนังนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ ซึ่งแม้แต่เนตรสวรรค์ของ ชูเฟิง ก็ไม่อาจมองผ่านมันไปได้ และในขณะที่ ชูเฟิง มองผ่านทะเลหมอกไปนั้นเขาก็ต้องตกใจอยางมากเพราะเขารู้ได้ทันทีว่ามันคือรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่ไม่สามารถมองเห็นได้ “ดูนั่น !! หุบเขาไม้ครามต้อนใต้ !!””หุบเขาไม้ครามตอนใต้ !! พวกเขาเป็นสาขาของหุบเขาไม้ครามนี่ !!””ว้าว !! นั่นหุบเขาไม้ครามตอนใต้จริงๆ ทุกคนมาดูเร็ว พวกเขาเป็นคนของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ !!”

 

ในเวลานั้น เสียงเอะอะก็ดังขึ้นมาจากด้านล่าง พร้อมกับที่หลายๆ คนเริ่มขยับเข้ามาใกล้ และเริ่มมองขึ้นมาที่เรือรบที่ ชูเฟิง และคนอื่นๆ อยู่ ด้วยความชื่นชม

 

แม้ว่าเรือรบที่ ชูเฟิง และคนอื่นๆ อาศัยมานั้นจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่มันก็มีตราสัญลักษณ์ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ติดไว้อย่างชัดเจน มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนจะรู้ว่าพวกเขาคือหุบเขาไม้ครามตอนใต้

 

หุบเขาไม้ครามนั้นถูกจัดให้เป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก และก็ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะรุกรานพวกเขา ในเมื่อหุบเขาไม้ครามตอนใต้เป็นสาขาของหุบเขาไม้คราม แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังเป็นจุดสนใจของทุกๆ คนอย่างชัดเจน

 

ในเวลาเดียวกันนั้น เหล่าผู้อาวุโส และผู้จัดการของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ต่างยืดอกขึ้น และใบหน้าของพวกเขาก็ถูกประดับไว้ด้วยความภาคภูมิใจ

 

พวกรู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้รับความชื่นชมเช่นนี้ “โอ้ว !! ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็สาขาย่อยของหุบเขาไม้คราม หุบเขาไม้ครามตอนใต้นี่เอง !!”

 

ในขณะที่ทุกๆ คนกำลังเบิกบานอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมา

 

เมื่อหันไปมองตามต้นเสียงนั้น เหล่าผู้อาวุโสของหุบเขาไม้คราม และตำหนักเมฆาอัสนีบาตต่างขมวดคิ้วแน่น พร้อมทั้งแสดงความไม่พอใจออกมา

 

นั่นเป็นเพราะในขณะนั้นได้มีคนกลุ่มหนึ่งตรงมายังพวกเขาทและคนกลุ่มนี้เป็นเหล่าผู้อาวุโส อีกทั้งพวกเขายังมีจำนวนกว่าพันคนโดยประมาณ

 

พวกเขามีจำนวนมากกว่าคนของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ และตำหนักเมฆาอัสนีบาตรวมกันเสียอีก อีกทั้งพวกเขายังสวมเสื้อผ้าที่ดูสง่างามอย่างมาก

 

คนเหล่านี้มาจากขุมพลังที่แตกต่างกันทหนึ่งในนั้นมาจากนิกายทรงปัญญา พวกเขามีสถานะเช่นเดียวกับหุบเขาไม้ครามตอนใต้ และตำหนักเมฆาอัสนีบาต นั่นคือเป็นขุมพลังภายใต้การนำของ หุบเขาไม้คราม

 

และอีกหนึ่งคือ ปราการอสรพิษดำ พวกเขาก็เป็นขุมพลังภายใต้การนำของ หุบเขาไม้คราม เช่นกัน

 

ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ในสถานะเดียวกับ หุบเขาไม้ครามตอนใต้ และตำหนักเมฆาอัสนีบาต แต่เมื่อในเร็วนี้พวกเขาได้แสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าฝูงชนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะปราการอสรพิษดำนั้นมีชื่อเสียงเหนือกว่า หุบเขาไม้ครามตอนใต้อย่างมาก

 

นอกจากสองขุมพลังอันดับสองแล้วนั้น ยังมีอีกหลายร้อยขุมพลังในอันดับสามอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้อีกด้วย

 

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นถูกชักจูงโดยปราการอสรพิษดำ นอกจากนี้พวกเขายังเข้ามาโดยที่ไม่มีความเป็นมิตรแม้แต่น้อย เพราะคนที่ตะโกนออกมานั้นคือประมุขของปราการอสรพิษดำ เขาเป็นชายชราผิวคล้ำ ที่มีผมสีขาวโพลน ใบหน้าของเขาถูกประดับไว้ด้วยรอยยิ้มจางๆ แต่ดูก็รู้แล้วว่าภายใต้รอยยิมนั้นคือความโหดเหี้ยมอย่างชัดเจน “ท่านอาจารย์ใหญ่ ข้าไม่คิดเลยว่านะได้พบทานในวันนี้ หลังจากที่ไม่ได้พบกันนาน และข้าก็หวังว่าพวกท่านทุกคนจะสบายดี !!”

 

ในขณะน้น โดยที่ไม่คำนึงถึงเจตนาของคนกลุ่มนั้น เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นขุมพลังภายใต้เงาของหุบเขาไม้คราม ฉีคง ไจ้ชิง ก็กุมมือขึ้นคาราวะ และกล่าวทักทายออกไปอย่างสุภาพ

 

แต่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น พวกเขาไม่ตอบกลับความสุภาพของ ฉีคง ไจ้ชิง แม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยื่ง ประมุขของปราการอสรพิษดำนั้น ยังได้กวาดสายตามองไปยังทุกคน และกล่าวออกมาเสียงดังว่า “หุบเขาไม้ครามนั้นเป็นขุมพลังหลักของพวกเรา ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยในความแข็งแกร่งของหุบเขาไม้คราม ภายในนั้นเต็มไปด้วยเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง และอาจจะมีกายศักดิ์สิทธิ์มากกว่าหนึ่งคนอยู่ภายในหุบเขาไม้คราม !!””ด้วยความแข็งแกร่งของหุบเขาไม้ครามนั้น ทำให้มีขุมพลังย่อยนับไม่ถ้วนภายใต้เงาของหุบเขาไม้คราม มีห้าร้อยขุมพลังในระดับหนึ่ง อีกกว่าหลายร้อยขุมพลังในระดับสอง และอีกหลายพันขุมพลังในระดับสาม !!””แต่ข้าเชื่อว่าทุกคนในที่นี้ต่างรู้ดีว่าหุบเขาไม้ครามนั้นมีขุมพลังย่อยที่แท้จริงเพียงสี่สาขา นั่นก็คือหุบเขาไม้ครามตอนเหนือ เขตตะวันตะตก เขตตะวันออก และตอนใต้ !!””และหุบเขาไม้ครามตอนเหนือ เขตตะวันออก และเขตตะวันตก ได้แสดงความแข็งแกร่งของพวกเขา และถูกจัดอยู่ในสามอันดับแรกของระดับหนึ่ง ของขุมพลังย่อยภายใต้เงาของหุบเขาไม้คราม !!””แต่หุบเขาไม้ครามตอนใต้ที่เป็นสาขาย่อยที่แท้จริงของหุบเขาไม้คราม กลับถูกจัดให้อยู่ในระดับสอง และอยู่รั้งท้ายในระดับสองอีกต่างหาก !!””อาจารย์ใหญ่ ฉีคง ข้าขอถามท่านหน่อยว่า ท่านไม่ละอายใจบ้างหรือ !?”

 

ประมุขปราการอสรพิษดำกล่าวพลางยิ้มบางขณะที่มองมายัง ฉีคง ไจ้ชิง

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : เด๋วคอยดูเถอะ ไอ้ปราการอสรพิษ!!!

 

B : กูว่า น่าจะมีค้างกันบ้างล่ะ!!!

 

C : กูว่าชัวร์เลยล่ะ!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments