ตอนที่แล้วตอนต่อไปบทที่ 1167 – แผนการพลิกผัน
“ฮ่าๆ ถ้า ชูเฟิง กล้าโผล่หัวมาที่นี่ล่ะก็ ข้าจะตีมันจนกว่ามันจะฉี่ราดกางเกงไปเลย !!”
เมื่อเห็นข้อความในกระดาษนั้น หัวหน้ากองทัพพยัคฆ์มังกรก็หัวเราะออกมา พร้อมกับที่แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นในทันที
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขานั้น คนจากกองทัพพยัคฆ์มังกรทุกคนต่างสับสนในทันที
และในเวลานั้น ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ดอบชำเลืองมองไปที่กระดาษแผ่นนั้น
เมื่อนางเห็นข้อความที่เขียนอยู่ในนั้น นางก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
เพราะในกระดาษแผ่นนั้นมีเพียงข้อความสั้นๆ ที่เขียนไว้ว่า”
ชูเฟิง มันรนหาที่ ใช้ความท้าทายของเขา กำจัดเขาซะ !!””กองทัพพยัคฆ์มังกรออกมารับความตายซะ !!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นราวกับเสียงของฟ้าผ่า
เสียงนี้ดังอย่างมาก มันดีงราวกับเสียงของฟ้าผ่า อีกทังจากการประมาณนั้น ต้นเสียงนี้อยู่ไกลออกไปมาก เขาเพียงตะโกนออกมาเท่านั้น “มาได้เวลาจริงๆ !!”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น หัวหน้าของกองทัพพยัคฆ์มังกรก็ยิ้มหยันออกมาในที พร้อมกับที่เขานำสมาชิกของกองทัพพยัคฆ์มังกรออกมาที่ทางเข้าสู่กองทัพของเขา “ดูนั่น คนของกองทัพพยัคฆ์มังกรออกมาแล้ว !!”
ในขณะนั้น มีคนจำนวนมากที่อยู่รอบนอกของกองทัพพยัคฆ์มังกร ในตอนแรกพวกเขาต่างจ้องมองไปยังที่มาของเสียงที่ดังขึ้น เพราะพวกเขาอยากเห็นกองทัพอสูรฟ้า
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คนของกองทัพพยัคฆ์มังกรปรากฏตัวออกมานั้น ทุกคนต่างหันมามองที่พวกเขากันเป็นตาเดียว แม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่ามีเรื่องขัดแย้งแบบไหนเกิดขึ้นกับพวกเขา แต่พวกเขาก็รู้ว่ากองทัพพยัคฆ์มังกร คือหนึ่งในสองของความขัดแย้งในครั้งนี้ ดังนั้น ทุกคนจึงต่างให้ความสนใจกับวิธีการของกองทัพพยัคฆ์มังกรอย่างมาก
****** ครืนนนนนน ******
ในขณะที่ทึกคนกำลังสนใจกองทัพพยัคฆ์มังกรอยู่นั้น เสียงดังสนั่นก็ดังขึ้นมาจากขอบฟ้าไกล เมื่อทุกคนหันไปมอง พวกเขาต่างได้เห็นเปลวไฟวิ่งผ่านเมฆสีดำอย่างชัดเจน “แข็งแกร่งมาก !!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนต่างชมเชยออกมา เพราะด้วยความที่พวกเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญนั้น พวกเขาย่อมรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เมฆฝนธรรมดา แต่มันคือการบีบอัดพลังที่แข็งแกร่ง จนสามารถทำให้สภาพอากาศผิดเพี้ยนไปได้
ในขณะเดียวกันนั้น เปลวไฟที่วิ่งผ่านเมฆสีดำนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง มันเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดขึ้นขณะที่กลุ่มเมฆสีดำเคลื่อนที่เท่านั้น
มันคล้ายกับสภาพอากาศที่มีผู้ทะลวงพลังขั้นราชันย์ขึ้นมาได้ นี่ย่อมหมายความว่ากองทัพอสูรฟ้าได้เตรียมตัวมาอย่างดี เพราะในกองทัพอสูรฟ้าก็ไม่ได้อ่อนแอไปเสียทุกคน “หึ !! กล้ามาแสดงปาหี่ถึงที่นี่เชียวรึ !!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น หัวหน้าของกองทัพพยัคฆ์มังกรก็สูดหายใจอย่างเย็นชา อีกทั้งใบหน้าของเขายังแสดงออกถึงความเย้ยหยันอย่างชัดเจน
แต่หลายคนในที่นั้นไม่ได้คิดเหมือนเขาทุกคน เพราะด้วยความสำเร็จของ ชูเฟิง นั้น พวกเขาต่างตั้งความหวังเอาไว้มาก และแม้กระทั่งบางคนที่คิดว่าอีกไม่ช้ากองทัพพยัคฆ์มังกรจะต้องพบกับภัยพิบัติอย่างแน่นอน
ดังนั้น ในขณะนี้จึงมีหลายคนที่เริ่มเว้นระยะห่างจากกองทัพพยัคฆ์มังกรออกไป
สุดท้ายในสายตาของทุกๆ คนนั้น ชูเฟิง และคนอื่นก็ได้ปรากฏตัวออกมา ในเวลานี้ กองทัพอสูรฟ้าได้ปรากฏตัวออกมาต่อหน้าทุกๆ คนอย่างชัดเจน “เขาค่อนข้าพิเศษทีเดียว !!”
เมื่อเห็น ชูเฟิง และคนอื่นๆ นั้น ทุกๆ คนต่างพยักหน้าออกมาด้วยความชื่นชม
ชูเฟิง ก้าวออกมาด้านหน้า พร้อมกับตะโกนออกมาว่า”
ใครคือหัวหน้าของกองทัพพยัคฆ์มังกร !!””เจ้าคงเป็นหัวหน้ากองทัพอสูรฟ้า สวะจากหุบเขาไม้ครามใต้ ชูเฟิง สินะ !!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวหน้าของกองทัพพยัคฆ์มังกรก็ก้าวออกไป พร้อมกับปลดปล่อยออร่าพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสี่ออกมา อีกทั้งแววตาของเขายังเต็มไปด้วยจิตสังหารอย่างรุนแรง “ข้าเอง ชูเฟิง !!”
ชูเฟิง ตอบเสียงดัง “ขั้นราชันย์สงครามระดับสอง น่าประทับใจจริงๆ !!””ข้าสงสัยมาตลอดว่าคนเช่นไรที่กล้ามาทำลายอาณาเขตของสมาชิกกองทัพพยัคห์มังกร แต่ไม่นึกว่าจะเป็นเจ้าที่มีพลังเพียงขั้นราชันย์สงครามระดับสอง !!”
หัวหน้าของกองทัพพยัคฆ์มังกรกล่าวเยาะเย้ย ชูเฟิง หลังจากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ ชูเฟิง ก่อนจะตะโกนออกมาว่า”มีพลังเพียงขั้นราชันย์สงครามระดับสอง แต่กลับกล้าท้าทายกองทัพพยัคฆ์มังกร เช่นนี้ อีกทั้งยังกล้าพูดอีกว่าให้พวกข้าออกมารับความตาย คำพูดของเจ้ามันไม่โอ้อวดไปหน่อยหรือ !!”
***** ตูมมมมม *****
หลังจากที่หัวหน้าของกองทัพพยัคฆ์มังกรกล่าวออกมาเช่นนั้น แรงกดดันมหาศาลก็แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของ ไป๋ รู่วเฉิน ในทันที
ในเวลานั้น ทุกคนสามารถสัมผัสแรงกดดันของนางได้อย่างชัดเจน แต่แรงกดดันของนางนั้นพุ่งตรงไปที่หัวหน้าของกองทัพพยัคฆ์มังกรอย่างชัดเจนมากที่สุด
ด้วยแรงกดดันของนางนั้น ทำให้ผม และเสื้อผ้าของกองทัพพยัคห์มังกรต่างปลิวไหวอย่างรุนแรง ในขณะที่พวกเขาทั้งหมดก้าวถอยหลังออกมาอยางต่อเนื่อง “ผู้หญิงคนนั้นมีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับห้า !!”
เมื่อสัมผัสแรงกดดันของนางได้นั้น เหล่าผู้คนต่างพากันประหลาดใจ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าในกองทัพอสูรฟ้านั้น ชูเฟิง มีความแข็งแกร่งอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่ากองทัพอสูรฟ้าจะซ่อนบุคคลที่แข็งแกร่งเหมือนนางเอาไว้เช่นนี้
หลังจากที่ทุกคนเห็น ไป๋ รู่วเฉิน และรู้ถึงการบ่มเพาะพลังของนางนั้น ทุกคนต่างยอมรับว่านางคืออัจฉริยะปิศาจที่แท้จริง
ทุกคนต่างคิดว่า ชูเฟิง คืออัจฉริยะปิศาจ และพวกเขาก็ไม่เคยคิดว่ากองทัพอสูรฟ้าจะมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้นอกจาก ชูเฟิง แต่ยังมีผู้หญิงที่มีท่าทีเย็นชาคนนี้ซ่อนอยู่ “การบ่มเพาะพลังของศิษย์น้องหญิง รู่วเฉิน มาถึงระดับห้าแล้ว !! ทำไมนางถึงได้ก้าวหน้าได้รวดเร็วเช่นนี้ !!”
เมื่อเห็นเช่นนั่น แม้แต่ หลง เฉินยี่ และคนอื่นๆ ต่างสูดหายใจได้อย่างยากลำบาก
หลังจากนั้น ทึกคนที่เกี่ยวข้องกับ หลง เฉินยี่ รู้ดีว่า ไป๋ รู่วเฉิน คืออัจฉริยะจากนิกายสวรรค์ แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่านางจะสามารถก้าวหน้าได้รวดเร็วเช่นนี้ มันจึงทำให้พวกเขาตกตะลึงอย่างมาก “เจ้า !! เจ้ามีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับห้าจริงหรือนี่ !!”
เมือเทียบความตกใจของทุกๆ คนแล้วนั้น ใบหน้าของหัวหน้ากองทัพพยัคฆ์มังกรมีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในเวลานี้
เพราะเขาไม่คิดว่ากองทัพอสูรฟ้าจะมีคนที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ อีกทั้งนางยังเป็นเพียงเด็กเท่านั้น
ที่สำคัญนั้น จากแรงกดดันของ ไป๋ รู่วเฉิน เขาก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของนางที่ยากจะอธิบาย หากจะอธิบายนั้น เขาสามารถบอกได้เลยว่านางแข็งแกร่งกว่าเขาอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันเกินกว่าสิ่งที่เขาคาดเอาไว้มาก เพราะเขาไม่คิดว่ากองทัพอสูรฟ้าจะมีคนที่แข็งแกร่งระดับนี้อยู่
แต่แรกนั้น เขาตั้งใจที่จะมอบบทเรียนให้แก่ ชูเฟิง เพื่อฉีกหน้าของ ชูเฟิง ต่อหน้าทุกๆ คน และเขายังจะใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงความแข็งแกร่งของตัวเขาเอง
อีกทั้ง เขายังจะใช้โอกาสในการสังหาร ชูเฟิง โดยใช้ข้ออ้างว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น
และในเรื่องนี้ หากเขาสามารถกำจัด ชูเฟิง ได้นั้น ด้วยความช่วยเหลือของกองทัพนักล่า เขาจึงไม่มีความกังวลแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ไป๋ รู่วเฉิน ปรากฏตัวออกมาเช่นนี้ มันได้ทำให้แผนการของเขาทั้งหมดต้องพังทลายลง และด้วยความแข็งแกร่งของนางนั้นแน่นอนว่ากองทัพพยัคฆ์มังกรจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ยับเยิน
ReaDMGA ////////////////////////////////////////