I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 991 – วิญญาณอาฆาต

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 991 – วิญญาณอาฆาต

 

ชูเฟิง ถึงกับขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้เกรงกลัว แต่คนอื่นๆที่อยู่เบื้องหลังเขาถึงกับตัวสั่น ด้วยความตกใจ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตพวกนั้นเข้ามาใกล้พวกเขา

 

ชูเฟิง ย้อนนึกกับไปถึงข้อความบนแผ่นศิลาในวิหารเพลิงผลาญสวรรค์และคำพูดของ ทันไท่ เซว่ แต่การ พูดมันง่ายกว่าทำ

 

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสวรรค์นี้ แน่นอนไม่ใช่อะไรที่จะผ่านไปได้ง่ายๆ

 

เขามีลางสังหรว่า คนส่วนใหญ่ที่มา จากนี้จะต้องพบกับความตายที่แสนเจ็บปวด “ไม่ต้องกลัว จงจำไว้ ไม่ว่าพวกมันจะน่ากลัวแค่นั้นมันก็เป็นเพียงสิ่งลวงตา ตามข้ามา หากพวกเจ้าอยากรอด”

 

ชูเฟิง เตือนพวกเขาอีกครั้ง “จริงด้วย!”

 

ผู้คนพากับตอบเป็นเสียงเดียวกัน แม้ว่าพวกจะรู้ แต่เมล็ดแห่งความสังสัยก็ถูกหว่านลงภายในใจของพวกเขา “ตามข้ามา!”

 

ชูเฟิง พูดพร้อมกับทะยานไปในอากาศ ผ่านสิ่งที่น่าหวาดกลัว ส่วนคนอื่นๆก็รีบตามเขาไปติดๆ

 

พวกเขายังคงเดินหน้าต่อไป เข้าใกล้กับสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จัก เสียงของพวกมันแปลกประหลาดและน่าหวาดกลัว เสียงนั้นยังคงดังขึ้น ดังขึ้น ลึกเข้าไปในเส้นทางสวรรค์ มีมวลสารมหาศาลดั่งหมอกสีแดงโลหิตปกคลุมไปทั่ว

 

มันครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง จนไม่สามารถมองเห็นปลายทางของมัน มันยังคงเกาะกลุ่มหนาขึ้น หนาขึ้น ปิดเส้นทางด้านหน้า เสียงที่น่าหวาดกลัวดังออกมาจากหมอกโลหิตอย่างต่อเนื่อง

 

มันมีความเร็วที่น่ากลัว พุ่งเข้าหา ชูเฟิง และคนอื่นๆ ความรู้สึกมันเหมือนกับปีศาจ ที่ราวกับว่าได้พบอาหารจานโอชะ มันต้องการที่จะเขมือบ ชูเฟิง กับคนอื่นๆ

 

หลายๆคนเกิดความตกใจ แต่พวกเขาก็ยังก้าวไปต่อ เมื่อหมอกโลหิตเข้ามาหาพวกเขา เขาก็มองเห็นบางอย่างถึงสิ่งที่อยู่ด้านใน

 

มันมีซากร่างมนุษย์ที่ถูกฉีก แขนบ้าง หัวบ้าง แม้กระอวัยวะทุกส่วน ก็ยังอยู่ภายในหมอกโลหิต . . . .

 

ที่สำคัญ พวกมันยังส่งเสียงประหลาดออกมา แม้ว่าพวกมันจะดูไร้ซึ่งอำนาจ แต่มันก็ปล่อยออร่าที่น่าขยะแขยง และแสนอึดอัดออกมา “ทุกคนฟังข้า นี้ไม่ใช่ภาพลวงตาธรรมดาๆ มันมีผลต่อจิตใจมนุษย์ ตามข้ามา อย่าหันหลังกลับเด็ดขาด”

 

ชูเฟิง ตะโกน อีกครั้ง ขณะที่เขากวาดสายตามอง หมอกโลหิต

 

ด้วยอำนาจของเนตรสวรรค์ เขารู้อยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านี้เป็นภาพลวงตา แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะพวกมันมีอำนาจในการสังหาร แม้ว่าพวกมันจะแตกต่างสิ่งทั่วๆไป แต่ท้ายสุดแล้ว พวกมันก็เป็นเพียงสิ่งที่น่าหวาดกลัว แม้คนอื่นๆจะกลัวมัน แต่ไม่ใช่สำหรับ พี่เฟิง

 

ชูเฟิง พุ่งทะยานตรงเข้าไปในหมอกโลหิต

 

ทุกคนต่างกลัวในสิ่งที่เขาทำอย่างมาก เพราะในสายตาพวกเขา ไม่ว่าจะดูยังไงก็เหมือนกับว่า ชูเฟิง กระโจนเข้ากองไฟ อย่างกับการฆ่าตัวตาย

 

แต่นึกถึงคำพูดของก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จึงต้องกัดฟันทน และรีบตาม ชูเฟิง ไป

 

อย่างไรก็ตาม ก็มีบางส่วนที่ไม่สามารถทนต่อออร่าของหมอกโลหิตที่น่ากลัวได้ พวกเขาได้เกิดความกลัว หลังจากที่ลังเลอยู่พัก พวกเขาก็ไม่ได้ตาม ชูเฟิง โดยเลือกที่จะหันหลังหนี

 

ชูเฟิง คาดไว้แล้วจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาจึงไม่สนใจผู้ที่หันหลังวิ่งหนี เขาไม่พูดอะไรใดๆ เพราะเขาเคยบอกไว้แล้ว ว่าการที่พวกเขาจะสามารถผ่านเส้นทางสวรรค์มันจะขึ้นอยู่กับโชคชะตาของพวกเขาเอง ตอนนี้ ชูเฟิง จำเป็นจะต้องดูแลตัวเอง ไม่มีเวลาไปเสียกับคนเหล่านั้น

 

* อ๊ากกกก *

 

ขณะที่ ชูเฟิง ถลาเข้าไปในหมอกโลหิต ตอนนั้นก็มีเสียงคนกรีดร้อง โหยหวนออกมาจากทุกทิศทาง ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่สบายใจ

 

นอกจากนี้ มันยังเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอย่างท่วมท้น เขารู้สึกเหมือนจะเสียการควบคุมร่างกาย มันเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง

 

ตอนนั้นชูเฟิงและคนอื่น ดูเหมือนกำลังแวกว่ายอยู่ในสระเลือดที่แสนกว้างใหญ่ ในนั้นเต็มไปด้วยชิ้นส่วนมนุษย์ที่เน่าเปื่อย กระทั้ง แขน ขา ส่วนที่ไม่สมประกอบ

 

นอกจากนี้ ภายในสระโลหิตมีวิญญาณที่รอพรากเอาชีวิตพวกเขา พวกมันรอที่จะทำให้คนที่เข้ามาใหม่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง

 

แต่ไม่ว่า มันจะดูน่าสยดสยองแค่ไหน ก็ไม่มีผลใดๆต่อ ชูเฟิง ด้วยอำนาจของเนตรสวรรค์ แม้มีศพมากมายมาขวางด้านหน้า พวกมันก็ไม่ได้ยุ่งกับ ชูเฟิง เสียงคำรามของหมอกโลหิตถูกเมินเฉย ทำให้มันเหมือนกับว่าเขา แค่ลอยผ่านบนท้องฟ้าในยามปกติ เขาสามารถผ่านไปได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกคนจะมีจิตใจที่เข้มแข็งเหมือน ชูเฟิง ในความเป็นจริงคนส่วนก็ตกใจไม่น้อย ถ้าจะบอกไม่กลัวเลย ก็เหมือนเป็นการโกหก พวกเขาทำได้แค่ก้าวตาม ชูเฟิง ไป เหมือนกล้าหาญ พร้อมกับความรู้สึกที่หลอกลวง

 

หมอกโลหิตไม่ใช่สิ่งที่จะผ่านได้ง่ายดายขนาดนั้น แม้ว่าคนอื่นๆจะตาม ชูเฟิง ไปโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมอง แต่แขนขาและวิญญาณ ก็ได้เข้าโจมตีพวกเขา

 

การโจมตีจากวิญญาณเหล่านั้น ไม่สามารถป้องกันได้ ณ ตอนนั้นก็ได้เกิดเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังออกมา คนส่วนใหญ่ที่ตามชูเฟิงไป ต่างพากันถูกฉีกกิน

 

หลังจากนั้นเสียงร้องก็ดังระงม เนื่องจากแท้จริงแล้วพวกเขาเกิดความกลัวขึ้นมาในจิตใจ มันเป็นผลพวงที่รามเป็นลูกโซ่ ทำให้พวกเขาเกิดความตกใจ ระแวง เป็นเหตุผลทำให้พวกเขาถูกโจมตี “ไต้เท้า ชูเฟิง ไหนท่านบอกว่าพวกมันเป็นภาพลวงตา แล้วเราก็ไม่ได้สนใจพวกมัน แล้วเหตุใด พวกมันถึงฆ่าพวกเรา”

 

บางคนเริ่มสงสัยในคำพูดของ ชูเฟิง ท่ามกลางความตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่ มีแต่ความตาย

 

เสียงร้องดังขึ้นอย่างไม่รู้จบ จากทางด้านหลังของ ชูเฟิง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หันหลังกลับไปมอง เขาเอาแต่มุ่งหน้าตรงไป ในที่สุดเขาก็พ้นออกมา

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อ ชูเฟิง หยุดและหันหัวไปมอง เขาก็ไม่พบอะไรอย่างอื่น นอกจากหมอกโลหิตสีแดงกับเสียงที่น่ากลัว

 

สำหรับหลายร้อยคนที่ตามเขามา พวกเขาถูกฉีกร่างออกอย่างสมบูรณ์ จนจำโครงเคร้าเดิมไม่ได้ “เห้ออออ . . . .”

 

ชูเฟิง ได้แต่ถอนหายใจยาวๆ เมื่อมองเข้าไปที่หมอกโลหิตในส่วนลึกเข้าไป เพราะภายในนั้นเต็มไปด้วยร่างของผู้คนหลายร้อยชีวิตที่มาจาก ทะเลตะวันออก

 

ชูเฟิง ก็หวังให้พวกเขาได้เข้าไปถึงดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์พร้อมๆกับเขา แต่น่าเสียดายที่จิตใจพวกเขาไม่มั่นคง พวกเขาไม่สามารถแม้จะผ่านด่านแรก อย่าว่าแต่จะผ่าน พวกเขานั้นถูกกำหนดให้ล้มเหลวตั้งแต่แรก “เจ้าอย่าโทษตัวเอง นี้ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องมามีส่วนรับผิดชอบ หากเส้นทางสวรรค์ผ่านได้ง่ายๆ ทุกคนคงพากันแห่ไปดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์แล้วจริงไม๊ ?!”

 

ต้านต้าน กล่าวพร้อมกับหัวเราะคิกคัก แม้เสียงนางจะไพรเราะ แต่ในน้ำเสียงของนางกับไม่มีความสงสารอยู่เลยแม้แต่น้อย

 

ReaDMGA////////////////////////////////////////A : อยากซ่า แห่ตามเข้ามากันดีนัก!!!

 

B : เอาน่า คนแต่งเค้าอยากให้พี่เฟิงมีเพื่อนร่วมทาง!!! แต่ว่าด่านที่ 2 ต้องผ่านยังไงนะ ?!

 

A : สับตีนแตก! เท่าที่ได้ยิน ฮวางฟู่ ห่าวเยว่ เล่ามา

 

C : ทำไมไม่ฆ่ามัน แล้วดูดแห่งพลังวิญญาณซะเลย!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments