ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1022 – ระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม
เมื่อเห็นการกระทำของ ชูเฟิง ปู่ลู่ว พลันพยักหน้าให้การยอมรับ แต่เดิม เขาก็เคยกล่าวกับ ชูเฟิง ไว้ว่าจะมอบหีบสมบัตินี้ให้เป็นของตอบแทนชูเฟิง ที่ช่วยเขาในการชำระความแค้น
ในความเป็นจริง เขานั้นมั่นใจว่าเขาตอนนี้ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะใช้ของล้ำค่านี้ นอกจากมันไม่มีประโยชน์กับเขา ยังอาจทำให้พวกที่โลภมากตามฆ่าเขาเพื่อชิงของสิ่งนี้ แทนที่เขาจะเก็บไว้กับให้เป็นภัย สู้เขามอบมันให้กับ ชูเฟิง ไม่ดีกว่าหรอ
แต่เมื่อ เขาเห็นการกระทำต่อไปของชูเฟิง เขาก็ถึงกับตกตะลึง เพราะ ณ เวลานั้น ชูเฟิง ได้นำผลวิญญาณลึกลับใส่เข้าไปในปาก “สหาย ชูเฟิง เจ้ากำลังจะทำอะไร ?! แม้ว่ามันจะดูคล้ายกับผลไม้ แต่มันไม่ใช่ผลไม้ธรรมดาๆ มันมีพลังวิญญาณที่แสนน่ากลัวอัดแน่นอยู่ภายใน หากเจ้ากินมันเข้าไปเจ้าอาจจะตายก็ได้!”
ปู่ลู่ว รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ เขาจึงเตือนออกไป
ขณะเดียวกัน ดวงตาของผู้นำวิหารโลหิตลี้ลับที่ถูกปักด้วยดาบผนึกมารถึงกับเบิกกว้าง เมื่อเห็นการกระทำของ ชูเฟิง เขาก็ยิ่งประหลาดใจ เขาไม่ได้ต้องการที่จะหยุด ชูเฟิง กลับกัน เขายังแอบยิ้มเยาะอย่างเงียบๆ
ทรัพยากรที่จะกลั่น จะต้องทำตามขั้นตอน และกระบวนการทีละลำดับ โดยการค่อยๆดูดซับพลังจากมัน สำหรับการกระทำของชูเฟิงนั้นเท่ากับรนหาที่ตาย ซึ่งเขาเองก็คิดเหมือนกับ ปู่ลู่ว และ รู้สึกว่า ชูเฟิง นั้นไร้สมอง ที่คิดจะกินผลไม้วิญญาณเข้าไปตรงๆเพื่อรับพลังทั้งหมดของมัน
เขารอดู ความผิดพลาดของ ชูเฟิง จนร่างระเบิดหลังจากที่กินผลวิญญาณลึกลับ เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะหาโอกาสเพื่อที่จะหนี นอกจากนั้นเขายังจะเอา ผลวิญญาณ และ ทุกอย่างที่มีค่าของชูเฟิง มาเป็นของเขา
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง ก็ต้องทำให้เขาผิดหวัง ชูเฟิงไม่สนใจคำเตือนของ ปู่ลู่ว เขารีบกลืนผลวิญญาณลึกลับเข้าไป หลังจากนั้นเขาก็หลับตาและนั่งลงกับพื้นเพื่อดูดซับพลัง “ฟู่วววววววววว ~~~~~~~”
หลังจากที่กลืนผลวิญญาณลึกลับเข้าไป ร่างกายของชูเฟิงก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มีบางสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายของเขา มันเป็นพลังวิญญาณที่ทรงพลังอำนาจ ก่อตัวขึ้นเป็นพายุ และเริ่มหมุนรอบๆตัวเขาอย่างรวดเร็ว มันไม่เพียงแต่จะทำให้ชุดของชูเฟิงปลิวไสว มันยังพัดปู่ลู่วที่อยู่ข้างๆให้ถอยกระเด็น หากไม่ได้ต้านต้าน ด้วยพลังที่รุนแรงขนาดนี้ คงทำให้ ปู่ลู่ว เป็นอันตราย “สวรรค์ นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?!”
เมื่อเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ ชูเฟิง ปู่ลู่วก็แสดงอาการตื่นตระหนก นั้นเพราะว่าสามารถบอกได้ว่า พลังวิญญาณของ ชูเฟิง ตอนนี้มันกำลังเพิ่มสูงขึ้น และในอีกไม่ช้าการเพาะปลูกของเขาจะต้องเลื่อนระดับขึ้นไป
แต่เขาไม่อาจเข้าใจว่า ทำไม ชูเฟิง ถึงก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว อย่างแรกเลยต้องรู้ว่า การเลื่อนในแต่ละระดับจะเป็นไปอย่างล่าช้า แม้เขาจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญขั้น ราชันย์แห่งสงคราม แต่เขาก็อยู่ในขั้น จ้าวแห่งสงคราม ดังนั้นการเพิ่มระดับมันไม่น่าจะรวดได้ขนาดนี้ “เจ้าแก่ ไม่ต้องตกอกตกใจไป ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเรื่องอะไร เจ้าคงกลัวว่าผลวิญญาณลึกลับนี้จะทำร้าย ชูเฟิง ใช่หรือเปล่า ?!””ช่างมันเถอะ แต่ข้าอยากจะบอกอะไรกับเจ้าไว้อย่าง ชูเฟิง นั้นไม่ได้อ่อนด๋อยอย่างที่เจ้าคิด แม้ว่าผลวิญญาณลึกลับจะเปี่ยมล้นไปด้วยจิตวิญญาณทางธรรมชาติ แต่มันนั้นไม่สามารถทำร้าย ชูเฟิง ได้ กลับกัน มันยังจะช่วยเขาซะด้วยซ้ำ”
เห็นปู่ลู่วที่ลนลาน จนเหมือนกับหัวใจจะวาย ต้านต้านจึงตัดสินใจบอกเขา “ว่าไงนะ ?! ผลวิญญาณลึกลับมันช่วยเขางั้นหรอ ?!”
ได้ยินคำของ ต้านต้าน ปู่ลู่ว ที่ได้เห็นเองกับตา ก็ต้องเชื่อสิ่งที่นางกล่าว นั้นหมายความว่า ชูเฟิง นั้นสามารถปรับแต่งผลวิญญาณนี้ได้ “บูมมมม~~~~”
ในตอนนั้น ก็มีพลังวิญญาณที่ไร้ขีดจำกัด โคจรรอบๆตัวของ ชูเฟิง จากนั้นก็เริ่มรวมตัวเข้าด้วยกัน ท้ายสุด มันก็กลายเป็นแม่น้ำที่ไหลย้อนกลับเข้าสู่ร่างกายของ ชูเฟิง จากนั้นดวงตา ชูเฟิง ก็เปิดขึ้น
เมื่อ ดวงตาของ ชูเฟิง เปิดขึ้น สายฟ้าทั้งสาม ก็พลันเกิดประกายในดวงตา ออร่าของเขาแตกต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง ปัจจุบัน ชูเฟิง ไม่ได้มีพลังวิญญาณระดับ 9 แต่เขามีพลังวิญญาณในระดับ 1 ราชันย์แห่งสงคราม “นี่. . . เป็นไปได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้ จะ . . จะ . . เจ้า ไม่เพียงจะปรับแต่งผลวิญญาณลึกลับได้ แต่เจ้ายังดูดซับพลังจากมันได้ทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ ไม่จริง! มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถทำกันได้ เจ้ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ ?! เจ้ามาจากไหนกัน ?!”
เมื่อ พบว่า ชูเฟิง ไม่เพียงแต่จะไม่บาดเจ็บ แต่เขายังดูดซับพลังของมันได้สำเร็จ จนทะลวงระดับขึ้นไป ผู้นำวิหารโลหิตฯ ถึงกับไม่อยากยอมรับความจริง “สะ . . สหายชูเฟิง จะ . .จะ . . . เจ้า ทะลวงผ่านขั้นราชันย์แห่งสงครามแล้วงั้นหรอ ?!”
ในตอนนั้น แม้แต่ปู่ลู่วเองก็ยังตกใจ จนเขาอดนึกถึงระดับการเพาะปลูกของ ชูเฟิง ไม่ได้
เห็นเช่นนั้น ชูเฟิง ก็เพียงยิ้มเบาๆออกมา พร้อมกับปลดเกราะสายฟ้าที่ใช้อยู่ออก จากนั้นการเพาะปลูกของเขาก็ลดระดับลงมา ที่ระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม จากนั้นเขาก็กล่าวว่า”
อาวุโส ลู่ว ก่อนหน้านี้ ผู้น้อยใช้บางอย่างเพื่อเพิ่มระดับพลังวิญญาณ แต่ข้ายังไม่ได้ทะลวงสู่อาณาจักรราชันย์ แต่เดิมข้ามีพลังวิญญาณระดับ 8 ตอนนี้มันจึงเพิ่มขึ้น เป็นระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม””สำหรับการที่พลังวิญญาณข้าเพิ่มขึ้นเป็นขั้น ราชันย์ ก่อนหน้านี้ มันมีสาเหตุจากเทคนิคพิเศษของข้า เมื่อยามที่ข้าใช้เกราะสายฟ้า ข้าก็จะสามารถเพิ่มระดับพลังวิญญาณได้ 1 ระดับ แม้ข้าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 9 จ้าวแห่งสงคราม ตราบใดที่ข้าใช้เกราะสายฟ้า พลังข้าจะกลายเป็น ระดับ 1 ราชันย์แห่งสงคราม””นี่ สหาย ชูเฟิง เจ้าคือ อัจฉริยะที่โดดเด่นจริงๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดของ ชูเฟิง สายตาที่ปู่ลู่วมองมา ก็ดูซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในแววตาเขามันเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความชื่นชม
เขาตระหนักถึงพลังที่ทรงอานุภาพของ ชูเฟิง และรับรู้ได้ว่า ชูเฟิงไม่ใช่คนธรรมดา เขานั้นเป็นอัจฉริยะด้านการเพาะปลูก ไม่งั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีทักษะและความสามารถที่น่าทึ่งดังกล่าว “อาวุโสลู่ว ผู้น้อย ได้รับของขวัญที่ท่านเคยสัญญามาแล้ว ดังนั้น ผู้น้อย ควรจะรีบจัดการงานที่ท่านมอบหมายให้เสร็จ!”
หลังจากที่กล่าวจบประโยคนั้น ชูเฟิง ก็ยกฝ่ามือขึ้น พร้อมกับทำลายหีบสมบัติที่ใส่ของ 3 อย่าง จนกลายเป็นผุยผง
ก่อนที่หีบสมบัติมันจะถูกเปิด อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นวัตถุที่วิเศษ มันแสนจะลึกลับ แต่หลังจากที่มันถูกเปิดออก มันก็กลายเป็นของธรรมดาๆ ไม่มีค่าใดๆ อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงมีที่มาที่ไม่ธรรมดา ดังนั้น แทนที่จะนำมันติดตัวให้เกะกะ จะดีกว่าหากทำลายมันทิ้งไป เพราะคงไม่มีใครเอามันไปใช้งานได้
หลังจากที่เขาทำลายหีบสมบัติ ชูเฟิง ก็ค่อยๆก้าวเข้าไปหา ผู้นำวิหารโลหิตฯ และ ถามปู่ลู่ว ว่า”
อาวุโสลู่ว ท่านอยากให้เขาตายยังไง ?””อย่าฆ่าข้าเลย อย่าฆ่าข้า พี่ลู่ว ท่านยังจำสัญญาที่ให้กับข้าไว้ได้หรือเปล่า ? จำได้มั้ยที่ท่านเคยบอกว่าจะดูแลน้องชายคนนี้ไปชั่วชีวิต ? ท่านยังจำได้ไม๊ที่เราเคยร่วมทุกข์ ร่วมสุข และผ่านสิ่งต่างๆมากมายมาด้วยกัน””ท่านเคยพูดใช่ไม๊ ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของคน ก็คือมิตรภาพ ท่านบอกว่า แม้น้องชายจะทำผิดอะไร ท่านก็จะให้อภัย””พี่ใหญ่ลู่ว ตอนนี้ข้าสำนึกความผิดทุกอย่าง ได้โปรดให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง ตราบใดที่ท่านปล่อยข้าไป ข้าจะชดใช้ความผิดบาปทั้งหมด และกลับตัวเสียใหม่ ข้าจะเลิกทำชั่วอีกต่อไป”
เห็นว่า ชูเฟิง ต้องการฆ่าเขา ผู้นำวิหารโลหิตฯ ก็เปิดปากขอร้อง ปู่ลู่ว ทั้งน้ำหู น้ำตา เพื่อหวังให้เขายกโทษให้
ที่เขาเอาแต่ขอโทษ ปู่ลู่ว เพราะเขารู้ว่า แม้ ชูเฟิง จะเป็นเด็ก แต่เขานั้นจิตใจอำมหิตและแสนจะเลือดเย็น ดังนั้นเขาคงไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่ๆ ถ้าหากเขาอยากรอด คนเดียวที่จะช่วยเขาได้ นั้นก็คือคนที่เขากำลังขอร้อง และเป็นคนที่ที่เขาเคย ทรยศ “ทำลายการเพาะปลูกของเขา และปล่อยเขาให้มีชีวิต”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากปากของผู้นำวิหารโลหิต ปู่ลู่วก็ลังเลอยู่นาน แต่ท้ายสุด เขาก็หลับตาลงพร้อมกับกล่าวคำนั้น “อาวุโสลู่ว โปรดอภัยให้ผู้น้อย ที่ไม่อาจทำตามที่ท่านบอก หากว่าท่านต้องการให้ข้าสังหารคนผู้นี้ ข้าจะปฏิบัติตามทันที แต่จะให้ข้าปล่อยเขาไป ผู้น้อยไม่อาจทำตามได้””นั่นเพราะเขา ได้ฆ่าคนบริสุทธิ์จำนวนมากมาย บาปที่เขาก่อขึ้นนั้นจึงไม่สมควรที่จะอภัย หากเราไม่ฆ่าเขา เด็กๆที่เขาฆ่า คนบริสุทธิ์ที่ตายอย่างอนาถจะตายตาหลับได้ยังไง””ไม่เป็นไร ในเมื่อความผูกพันธ์ของพวกท่าน ทำให้ท่านเลือกที่จะไม่ฆ่าเขา งั้นผู้น้อยจะเป็นคนลงมือเอง”
นั้นทำให้ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ แม้ว่าปู่ลู่ว จะพูดปฏิเสธที่จะฆ่าเขา แต่ ชูเฟิง ก็ไม่คิดที่จะปล่อยผูู้นำวิหารโลหิตฯไป ตอนนั้น ชูเฟิง ดึงดาบผนึกมารออกแล้วสะบัดมันลงไปที่ร่างดัง ‘ ฉั่วว ‘ จนร่างกายและดวงจิตของผู้นำวิหารโลหิตแตกสลาย
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : ก็คิดแล้วล่ะ ว่าพี่เฟิงแม่งไม่เคยปลอยให้ใครรอด แม้มันจะร้องขอชีวิตแค่ไหน
C : จริงๆกูไม่ต้องเสียเวลาที่จะต้องไปเดา ว่ามันจะรอดหรือไม่รอด เพราะท้ายสุด พี่เฟิงก็ฆ่าอยู่ดี
B : นี้แหละ จุดแข็งของพี่เฟิง ไร้ความปราณี ไม่มีความเห็นใจและไม่เคยเมตตาคนชั่ว ยิ่งเป็นศัตรูที่ทำให้เขาเจ็บปวด เขายิ่งจะมอบความตายที่แสนทรมานให้ และคนในตระกูล ที่ขับไล่พ่อชูเฟิง ก็เตรียมตัวไว้ดีๆเถอะ
A : ว่าแต่พี่เฟิงจะไปเข้าร่วมกับขุมอำนาจไหน อยากให้เป็น 3 คฤหาสน์มากกว่า ท่าทางจะเจ๋งสุด
B : 4 ตระกูลจักรพรรดิ ก็ไม่เลว!!!
C : กูอยากให้พี่เฟิง สร้าง นิกายขึ้นมาเองมากกว่า เห็นว่าหลังจากนี้พวก ซูรู่ และ คนอื่นๆ ฝึกอย่างหนัก จนเมื่อได้พบกันอีกที เห็นว่าเก่งกว่าพี่เฟิง
A : ก็แต่ละคนมีสิ่งที่พิเศษด้วยกันทั้งนั้น สายเลือด ตลอดจน ทักษะลับต้องห้าม แต่ว่า ไข่มุกของทั้งสองสาวจะเทียบกับ ทักษะลับต้องห้ามได้หรอ อย่างกายศักดิ์สิทธิ์คงไม่ต้องถาม
B : ได้ดิ!!! พลังมันไม่ใช่ว่าจะกระจอกๆ ไม่ว่ากายศักดิ์สิทธิ์ สายเลือดสืบทอด หรือ ทักษะลับต้องห้าม ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งพิเศษที่ใช้ดึงพลังพิเศษออกมา ไข่มุกก็น่าจะเหมือนๆกัน