I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1149 – พบดาวร้าย

| Martial God Asura | 3808 | 2516 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1149 – พบดาวร้าย

 

“กุญแจหนึ่งแสนดอก !!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไป๋ รู่วเฉิน ก็ตกใจอย่างมาก

 

ไม่ต้องกล่าวถึงหนึ่งแสนดอกเลย แม้แต่ดอกเดียวนางก็ไม่รู้ว่าจะหามันได้จากที่ไหน ดังนั้น กุญแจทั้งหนึ่งแสนดอกจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้สำเร็จได้ “บรรพบุรุษนิกายสวรรค์นี่บ้าจริงๆ ทำไมพวกเขาต้องทำให้มันลำบากกับคนรุ่นหลังแบบนี้ !!””ถ้าพวกเขาต้องการมอบมันให้คนรุ่นหลังจริงๆ ทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากแบบนี้ด้วย !!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน ที่มักจะสงบเงียบตลอดกลับบ่นอุบออกมาในทันที “ใจเย็นๆ แม้ว่ากุญแจทั้งหนึ่งแสนดอกจะเป็นปริมาณที่มาก แต่มันก็มีประโยชน์ !!”

 

ชูเฟิง กล่าวออกมาอย่างสงบ “ประโชน์ !! ชูเฟิง เจ้าหมายความยังไง !?”

 

ไป๋ รู่วเฉิน กล่าวถาม “น้องสาว รู่วเฉิน เจ้าคิดว่ารูกุญแจพวกนี้มันคล้ายกับสิ่งนี้ไหม !!”ชูเฟิง กล่าวพร้อมกับหยิบเอาสมุนไพรนภาออกมา และบนต้นของสมุนไพรนั้นจะมีเมล็ดกลมๆ ต้นละหนึ่งเม็ด ซึ่งมีสามารถเข้ากันได้กับรูกุญแจนั้นพอดี “นี่หมายความว่ากุญแจคือเมล็ดของสมุนไพรนภาเช่นนั้นหรือ !?”

 

ไป๋ รู่วเฉิน ฉุกคิดได้ในทันที แต่แล้วนางก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะกล่าวว่า”

 

ถ้าเป็นเช่นนี้พวกเราก็ต้องรวบรวมสมุนไพรนภาหนึ่งแสนต้นอยู่ที่นี่ และกว่าจะครบพวกเราคงต้องใช้เวลาหลายวันทีเดียว !!””ไม่มีอะไรที่พวกเราทำไม่ได้ หากต้องการสมบัติของบรรพชนของนิกายสวรรค์ทิ้งไว้ให้ พวกเราก็แค่รวบรวมสมุนไพรนภาเท่านั้น อีกอย่าง ข้าก็อยากอยู่ที่นี่เพื่อรวบรวมพวกมันอยู่แล้ว แต่ข้าเป็นห่วงอยู่เรื่องหนึ่ง ข้ากลัวว่าสมบัตินี่อาจจะไม่คุ้มค่ากับความพยายามของพวกเรา !!””แล้วเจ้าคิดเช่นไร !?”

 

ชูเฟิง กล่าวถาม “ข้าจะทำอะไรได้ ก็ต้องทำตามวิธีของเจ้า เอายันต์ติดตามนี่ไป หากเจ้ารวบรวมสมุนไพรนภาครบห้าหมื่นต้นก็มาพบข้า !!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน กล่าวพร้อมกับส่งยันต์ติดตามให้ ชูเฟิง ไป “ตามนั้น !!”

 

ชูเฟิง เก็บยันต์ติดตามในทันที จากนั้นเขาก็สร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณปิดบังประตูเอาไว้อย่างรวดเร็ว

 

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็แยกย้ายกันออกไปรวบรวมสมุนไพรนภา บนสวนสมุนไพรนภาในทันที

 

แม้ว่าความเร็วในการรวบรวมของ ชูเฟิง นั้นจะรวดเร็วอย่างมาก หากเทียบกับผู้อื่นนั้น แต่การจะรวบรวมให้ครบหนึ่งแสนต้นเช่นนั้น ก็ถือว่าช้าอย่ามาก

 

โชคดีที่สวนสมุนไพรนภามีขนาดใหญ่อย่างมาก ไม่เช่นนั้น ชูเฟิง ก็คงจะกังวลอย่างมากว่าเขาจะไม่สามารถรวบรวมพวกมันได้ทั้งหนึ่งแสนต้น “พูด !! พูดมา ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าจะตีเจ้าให้ตาย !!””ผู้อาวุโส ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าสมุนไพรนภาอยู่ที่ใด ต่อให้ท่านทีข้าจนตาย ข้าก็ไม่รู้จริงๆ !!””หึ !! เจ้าเป็นคนดูแลสวนนี้ เจ้าจะไม่รู้ได้ยังไงว่าสมุนไพรนภาอยู่ที่ใด !!””ข้าไม่รู้ !! ข้าไม่รู้จริงๆ !! ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ !!””สวะเอ๊ย !! ข้าถามเจ้าดีๆ แต่เจ้ากลับไม่บอก ไหนมาดูสิว่าเจ้าจะทนได้สักกี่น้ำ ………”

 

***** เปรี้ยง !! ตูมมมมมมมม ***** “อ๊าาาาาา……..”

 

ในขณะที่ ชูเฟิง กำลังรวบรวมสมุนไพรอย่างเพลิดเพลินนั้น เยาก็ได้ยินเสียงต่อสู้ดังขึ้นมาจากระยะที่ห่างออกไป ในตอนแรกนั้น เขาไม่ต้องการจะเข้าไปสอดเรื่องของผู้อื่น แต่หลังจากได้ยินบทสนทนานั้น เขาก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้อีก

 

เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างศิษย์ แต่มันกลายเป็นศิษย์หลักกำลังรังแกผู้ดูแลสวนสมุนไพรนภาแห่งนี้

 

คนดูแลสวนนั่นไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้ แม้ว่าศิษย์จะโจมตีคนเช่นนี้ พวกเขาก็จะไม่ได้รับโทษใดๆ อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง ไม่อาจนิ่งเฉยได้ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นคนที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าตัวเองเช่นนี้ได้

 

ดังนั้น ชูเฟิง จึงรีบวิ่งตามเสียงนั้นไป หลังจากที่เขาวิ่งผ่านป่ามานั้น เขาก็ได้พบกับคนห้าคน เป็นชายสี่คน และหญิงหนึ่งคน

 

ผู้ชายทั้งสี่คนนั้นเป็นศิษย์หลักทั้งหมด อีกทั้งการบ่มเพาะพลังของพวกเขานั้นค่อนข้าดี แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนที่มีพลังกลุ่มใหญ่ของหุบเขาไม้คราม พวกเขามีพลังเพียงขั้นจ้าวสงครามระดับเก้าเท่านั้น

 

นอกจากนี้ เพื่อพิจารณาจากลักษณะภายนอกแล้วนั้น พวกเขาไม่ได้มีอายุมากนัก อีกทั้งที่ต้นแขนของพวกเขายังไม่สัญลักษณ์ใดๆ นี่จึงหมายความพวกเขายังไม่ได้เข้าร่วมกับกองกำลังใด ชูเฟิง ยังสงสัยอีกว่าคนทั้งสี่นี้น่าจะเป็นศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่นานเหมือนกับเขา

 

ส่วนผู้หญิงคนนั้น นางสวมเสื้อผ้า และมีใบหน้าที่ธรรมดาอย่างมาก แต่ผิวของนางกลับเรียบเนียน และมันวาวราวกับหยก

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น นางกำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น พร้อมกับบนใบหน้าที่เรียบเนียนของนางมีรอยฝาดของเลือด และตามแขนของนางยังมีจ้ำสีเขียวๆ พร้อมกับที่นางกำลังร้องไห้ออกมา สภาพของนางในตอนนี้น่าสงสารอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่านางจะมีสภาพเช่นนี้ แต่ชายคนที่ยืนใกล้กลับนางมากที่สุดก็ยังไม่หยุดตีนาง เขาใช้มือหนึ่งคว้าผมของนางขึ้น พร้อมกับใช้มืออีกข้าตบไปที่ใบหน้าของนาง “หยุด !!”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง ก็ตะโกนออกไปในทันที

 

เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของ ชูเฟิง นั้น พวกเขาก็หันกลับมาด้วยใบหน้าแห่งความละอาย เพราะสิ่งที่พวกเขาทำนั้น ไม่ใช่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจแม้แต่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาเห็น ชูเฟิง พวกเขากลับยิ้มหยันออกมาในทันที พร้อมกับที่คนหนึ่งกล่าวออกมาว่า”

 

ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็แค่เด็กเท่านั้น !!””ไอ้เวร !! เจ้ากล้ามาสอดเรื่องของพวกเราเช่นนี้ คุกเข่าลง แล้วกราบขออภัยพวกเราซะ ข้าจะให้อภัยเจ้า ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้รับบทเรียนที่ดี !!”

 

ชายคนที่ตบผู้หญิงคนนั้นเดินตรงเข้าไปหา ชูเฟิง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการจะมอบบทเรียนให้แก่ ชูเฟิง ในทันที

 

***** วืดดดด *****

 

ในขณะเดียวกันนั้น ชูเฟิง ก็ยื่นมือของเขาออกไป พร้อมกับสร้างแรงดึงดูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวนั้น คอของชายคนนั้นก็เข้ามาอยู่ในฝ่ามือของ ชูเฟิง

 

ในเวลาเดียวกันนั้น แรงกดดันจากพลังขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่งก็แผ่ขยายออกมาในทันที พื้นพลันสั่นไหวอย่างรุนแรง แม้แต่ต้นไม้โดยรอบยังโบกสะบัดอย่างรวดเร็วด้วยแรงกดดันจาก ชูเฟิง “อึ้กก…..”

 

เมื่อคอของชายคนนั้นอยู่ในกำมือของ ชูเฟิง ใบหน้าของเขาก็เริ่มแสดงความเจ็บปวดทรมานออกมาอย่างชัดเจน ส่วนอีกสามคนนั้น ร่างกายของพวกเขาต่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว “พวกเจ้าเป็นถึงศิษย์หลักของหุบเขาไม้คราม แต่กลับรังแกคนอ่อนแอเช่นนี้ พวกเจ้าต้องการสมุนไพรนภาถึงกับต้องตีคนดูแลสวนแบบนี้ !! ไหนลองบอกข่าสิ ว่าหากข้าเอาเรื่องนี้ไปแจ้งกับผู้อาวุโส พวกเจ้าจะถูกลงโทษเช่นไร !?”

 

ชูเฟิง กวาดสายไปอย่างนวดเร็วที่ชายที่อยู่ในกำมือของเขา เพียงแค่พลิกฝ่ามือ ชูเฟิง ก็สามารถทำให้คนเหล่านี้กลายเป็นฝุ่นได้อย่างง่ายดาย “ศิษย์พี่ !! ไว้ชีวิตพวกเราด้วย !! ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย !! พวกเราเพียงแค่สับสนเท่านั้น ให้โอกาสพวกเรา ได้โปรดอย่าบอกอาวุโสเรื่องนี้เลย !!”

 

ในเวลานั้น ชายทั้งสามคนก็คุกเข่าลงกับพื้นและอ้อนวอนต่อ ชูเฟิง ในทันที “หึ !!”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง ก็คำรามอยู่ในลำคอ ก่อนที่เขาจะโยนชายคนที่อยู่ในกำมือของเขากลับไปที่ชายอีกสามคนอย่างรุนแรง “ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป แต่พวกเจ้าต้องตบหน้าตัวเองจนกว่าข้าจะพอใจ !!”

 

ชูเฟิง กล่าวออกมาอย่างเย็นชา ไม่มีความเมตตาแม้แต่นิดเดียวในน้ำเสียงของเขา

 

หลังจากได้ยิน ชูเฟิง กล่าวออกมาเช่นนั้น พวกเขาทั้งสี่คนต่างมองหน้ากันไปมา ก่อนที่จะคุกเข่าลงอย่างเป็นระเบียบ ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มตบไปที่ใบหน้าของตัวเอง “เพี๊ยะ !! เพี๊ยะ !! …………”

 

ในเวลานั้น เสียงตบก็ดังขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยที่ไม่ขาดตอนแม้แต่น้อย

 

และในขณะที่พวกเขาตบหน้าของตัวเองนั้น พวกเขายังกล่าวยอมรับความผิดออกมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาหวาดกลัวต่อ ชูเฟิง อย่างแท้จริง หลังจากที่พวกเขาเห็นความแข็งแกร่งของ ชูเฟิง นั้น ด้วยประสบการณ์ของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่า ชูเฟิง คือคนที่พวกเขาไม่อาจต่อกรด้วยได้

 

นอกจากนี้ สิ่งที่พวกเขายังเป็นสิ่งผิด หาก ชูเฟิง รายงายเรื่องนี้นั้น มันอาจจะทำให้พวกเขาถูกไล่ออกจากหุบเขาไม้ครามก็เป็นได้

 

เมื่อเทียบกับที่พวกเขาต้องตบหน้าตัวเองเช่นนี้ แม้ว่ามันจะทำให้พวกเขาเจ็บปวด และอับอาย แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะทำเช่นนี้ และพวกเขาไม่ได้โทษใคร ได้แต่โทษตัวเอง ที่ต้งมาพบกับดาวร้ายเช่น ชูเฟิง

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : สมไอ้เวร รังแกคนอื่นดีนัก!!!

 

B : น่ากระทึบให้จมตีน!!! แต่อย่างว่าพี่เฟิงไม่มีเวลาว่างขนาดนั่น

 

A : แม่สาวน้อยคนนี้ เด๋วพาพี่เฟิงไปที่ดีๆ!!!

 

C : โรงแรมม่านรูด ?!

 

A : รูดปากมืงอ่ะดิ!!!

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments