ตอนที่แล้วตอนต่อไปบทที่ 1160 – เข้าร่วม
“คุณชาย ชูเฟิง ท่านจะให้เราไปตาม แม่นาง หวาง เว่ย ท่าน ฟาง โถ่วไห่ พร้อมกับคนอื่นๆ ตอนนี้เลยหรือไม่ ?!”
สาวใช้ถามขึ้นอย่างกระทันหัน “ศิษย์พี่ หวาง เว่ย ศิษย์พี่ ฟาง กับคนอื่นๆ รู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง ?! “ชูเฟิง ถาม “สมาชิกของกองทัพอสูรฟ้า รู้เรื่องนี้ทุกคน พวกเขาไม่ไปทำภารกิจใดๆ พวกเขาจะรอจนกว่าคุณชายจะกลับมา เพื่อให้คุณชายตัดสินใจว่าจะต้องทำยังไง”
สาวใช้ตอบ “ดีมาก พวกเจ้าไปตามพวกเขามา”
ชูเฟิง พยักหน้า ขณะที่พูดเขาก็หยิบยันต์สื่อสารออกมา มันเป็นยันต์สื่อสารที่ใช้ ติดต่อ ไป๋ รู่วเฉิน
ยันต์สื่อสารนั่นมีระยะทางในการใช้งานจำกัด แม้ว่า หุบเขาไม้คราบจะมีดินแดนกว้างใหญ่ แต่มันก็ยังอยู่ในระยะของยันต์สื่อสาร
ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกหวาง เว่ย , ฟาง โถ่วไห่ , และคนอื่นๆ จึงเดินทางมาถึงที่พักของ ชูเฟิง
หวาง เว่ย , ฟาง โถ่วไห่ และ สาวกที่เหลือของหุบเขาไม้ครามใต้ ต่างรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั่น พวกเขาจึงรีบพากันเดินทางมา
สำหรับ ไป๋ รู่วเฉิน นางไม่ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น นางจึงเดินทางกลับไปยังที่พักของนางเพื่อพักผ่อน ขณะที่หัวเสีย
ยิ่งนางคิดถึงกับสิ่งที่ ชูเฟิง ทำก่อนหน้า มันยิ่งทำให้ ไป๋ รู่วเฉิน รุ้สึกว่า ตัวเองเป็นของเล่นของ ชูเฟิง มันจึงทำให้นางหงุดหงิด อย่างไรก็ตาม เมื่อ ชูเฟิง ติดต่อมา นางจึงรู้ว่า ชูเฟิง มีเรื่องด่วน ต้องการพบนาง นางจึงระงับความโกรธและรีบเดินทางไปยังที่พักของ ชูเฟิง
เมื่อนางเดินทางมาถึงทางเข้าดินแดนของชูเฟิง นางก็ได้พบกับประตูและป้ายสัญลักษณ์ที่หักพัง นางก็เข้าใจเรื่องทุกอย่าง
ความโกรธปะทุขึ้นในใจนาง จนกลายเป็นจิตสังหารที่เอ่อล้นออกจากแววตา จิตสังหารเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะที่พัก ชูเฟิง ถูกทำลาย แต่เป็นการที่มีคนมาทำลายประตูและป้ายสัญลักษณ์ ของกองทัพอสูรฟ้า
แต่เดิม ไป๋ รู่วเฉิน เป็นคนที่นิ่งสงบ และ ควบคุมอารมณ์ได้ดี และนางก็ไม่ได้ยึดติดเรื่องชื่อเสียงกองกำลังย่อย แม้ภายนอกนางจะดูใจเย็น แต่จริงๆแล้วนางเป็นคนที่อารมณ์ร้อน ดังนั่น นางจึงทำเหมือนไม่สนใจเรื่องภายนอก
แต่เมื่อมีคนมาทำลายศักดิ์ศรีของกองทัพอสูรฟ้า มันกับทำให้นางโกรธมากกว่าใครๆ และแน่นอนว่านางจะไม่ยอมอยู่เฉย
ขณะนั่นสมาชิกทุกคนของกองทัพอสูรฟ้า ก็ได้มาถึงดินแดนของชูเฟิง แต่มีเพียง สี่คน ที่ยืนรออยู่ในห้องโถง
คนพวกนั่น หน้าตาดูไม่ค่อยคุ้น เป็น ชาย 3 หญิง 1 พวกเขาสวมปลอกแขนของกองทัพอสูรฟ้า เห็นแบบนั่น ชูเฟิง จึงถาม ฟาง โถ่วไห่ ว่า”
ศิษย์พี่ฟาง สี่คนนั่นเป็นใคร ?!” “ศิษย์น้อง ชูเฟิง พวกเขาทั้งหมดเป็นสาวกของหุบเขาไม้ครามใต้ของเรา” “ในช่วงเวลาที่เจ้าไม่อยุ่ ข้าได้ไปแจ้งข่าวเรื่องการก่อตั้งกองกำลังใหม่ให้กับ สาวกหุบเขาไม้ครามใต้ได้รู้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงพวกเขา สี่คน ที่เต็มใจเข้าร่วมกับ กองทัพอสูรฟ้า ของเรา”
ฟาง โถ่วไห่ ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “คนพวกนั่นไม่สามารถแยกแยะ ว่าสิ่งไหน ดี สิ่งไหน ไม่ดี พวกเขาต่างก็ได้เผชิญกับความอัปยศ ในหุบเขาไม้คราม โดยไม่มีกองกำลังไหนเต็มใจรับพวกเขา แต่นี่พวกเราเปิดแขนอ้ารับพวกเขา พวกเขากับปฏิเสธ นี่มันน่าโมโหจริงๆ”
เมื่อได้ยินว่า สาวกหุบเขาไม้ครามใต้ บางส่วนปฏิเสธเข้าร่วมกับกองทัพอสูรฟ้า สาวกหุบเขาไม้ครามใต้รอบๆก็ต่างพากันบ่น “พวกเขาจะเลือกแบบนั่นก็ไม่ผิด เพราะพวกเขาได้เผชิญกับความอัปยศมานาน และต้องจมอยู่กับความขี้ขลาด มันจึงทำให้พวกเขาหวาดระแวง ถึงยังไงพวกเขาก็เป็นสาวกของหุบเขาไม้ครามใต้ อยู่วันยังค่ำ ดังนั่น กองทัพอสูรฟ้าของเขายังคงเปิดประตูรอรับพวกเขา”
เมื่อเทียบกับความโกรธของคนอื่นๆ ชูเฟิง กับดูนิ่งสงบ
ทันใดนั่น หวาง เว่ย ก็กล่าว”
จริงสิ ศิษย์น้อง ชูเฟิง ศิษย์น้อง รู่วเฉิน ข้ามีเรื่องที่จะต้องบอกเจ้าสองคน” “หลังจากที่เจ้าสองคนไม่อยู่ ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น แม้ว่า สาวกหุบเขาไม้ครามใต้ส่วนใหญ่จะปฏิเสธคำเชิญของเรา แต่กลับมีสาวกนิกายสวรรค์กมาขอเข้าร่วมกับกองทัพอสูรฟ้าของเรา ศิษย์น้อง ชูเฟิง ศิษย์ ไป๋ รู่ว พวกเจ้าคิดว่ายังไง ? “”สาวกของนิกายสวรรค์นะหรอ ?!”
ทั้ง ชูเฟิง และ ไป๋ รู่วเฉิน ต่างรู้สึกประหลาดใจ กับสิ่งที่ได้ยิน “ใช่ พวกเขาคือสาวกของนิกายสวรรค์ ที่เดินทางมาหุบเขาไม้ครามพร้อมกับพวกเรา พวกเขาทั้งหมดมีการเพาะปลูกที่ไม่ธรรมดา เพราะพวกเขาทุกคนต่างก็อยู่ในระดับ 1 ราชันย์สงคราม สำหรับคนที่มาขอเข้าร่วมกับกองทัพอสูรฟ้า ทั้งหมดมี 25 คน”
หวาง เว่ยตอบ “เป็นพวกเขานี่เอง”
เมื่อได้ยิน เรื่องระดับการเพาะปลูก จากหวาง เว่ย ชูเฟิง ก็รู้ได้ทันทีว่าทั้ง 25 คน นี้มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นกลุ่มคนที่โดน ชูเฟิง อัด บนนิกายสวรรค์ หน้าเจย์ดีไม้ครามใต้
วันนั่น ชูเฟิง ได้สั่งสอนสาวกอัจฉริยะของ นิกายสวรรค์ทั้ง 99 และพวกเขาก็รู้ว่า ชูเฟิง ไม่ใช่คู่มือของพวกเขา นำซ้ำ ชูเฟิง ยังแสดงความแข็งแกร่ง ในการเอา ไป๋ รู่วเฉิน อีก
แต่ ชูเฟิง ก็ไม่สามารถเข้าใจพวกเขาได้ เพราะปกติพวกเขาเป็นคนที่หยิ่งยโส พวกเขาน่าจะไปเข้าร่วมกับกองทัพสวรรค์ หรือ กองกำลังอื่นๆที่แข็งแกร่งกว่า แทนที่จะมาอยากเข้าร่วมกับ กองทัพอสูรฟ้า “เนื่องจากเราไม่รู้จักพวกเขาดีพอ พวกเราจึงไม่กล้าตัดสินใจรับพวกเขาเข้ากองทัพอสูรฟ้าโดยภาระการ ” “แต่พวกเขาก็พยายามอย่างมาก พวกเขาบอกว่าต้องการเข้าร่วมกับพวกเรา เพราะได้ยินว่า ศิษย์น้อง ชูเฟิง กับ ศิษย์น้อง ไป๋ รู่วเฉิน ได้สร้างกองทัพอสูรฟ้าขึ้น พวกเขาจึงอยากมาเป็น 1 ใน สมาชิกของกองทัพอสูรฟ้า ดังนั่น พวกเขาจึงป้วนเปี้ยนอยู่ในหุบเขาไม้คราม นอกจากนี้พวกเขายังทิ้งยันต์สื่อสารไว้ให้ติดต่อหาพวกเขา” “พวกเขาบอกให้เรา รีบติดต่อกลับไป ทันทีที่เจ้าทั้งสองกลับมา หากเจ้าทั้งสองคนปฏิเสธพวกเขา พวกเขาก็จะยอมรับ หากไม่อย่างงั้นพวกเขาก็จะไม่เลิกตื้อ”
หวาง เว่ย กล่าวอย่างต่อเนื่อง “ศิษย์น้อง ชูเฟิง ข้าคิดว่า พวกเขามีฝีมือไม่ธรรมดา นอกจากนี้พวกเขายังมากความสามารถ ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังของเรา แม้กระทั้ง กองกำลังอื่นๆก็ต่างยินดีต้อนรับพวกเขา ดีไม่ดี กองกำลัง 1 ใน 10 ก็อาจจะยินดีต้อนรับพวกเขาเข้าเป็นสมาชิก” “ดังนั่น แทนที่จะปล่อยให้พวกเขาไปเข้าร่วมกับกองกำลังอื่น สู่พวกเราต้อนรับพวกเขาไม่ดีกว่าหรอ”
ในตอนนั่น ฟาง โถ่วไห่ และคนอื่นๆ ต่างพากันกระตุ้น ชูเฟิง เพราะพวกเขาทุกคนรู้ดีว่า สาวกของนิกายสวรรค์กลุ่มนี้มีความสามารถมาก นำซ้ำพวกเขายังต้องการเข้าร่วมกับกองทัพอสูรฟ้า ทุกคนจึงคิดว่านี้เป็นโอกาสที่จะเพิ่มกำลังให้กับกองทัพอสูรฟ้า “น้อง รู่วเฉิน เจ้ามีความคิดเห็นยังไงบ้าง ?!”
ชูเฟิง ไม่ได้รีบร้อนที่จะตอบ เขาหันไปถามความเห็นของ ไป๋ รู่วเฉิน เพราะนางเป็นคนของนิกายสวรรค์ นางจึงน่าจะพอรู้จักพวกเขา “ให้พวกเขาเข้าร่วมเถอะ แม้ว่าข้าจะไม่ได้สนิทสนมกับพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ที่สำคัญพวกเขาดูเหมือนอยากที่จะเข้าร่วมกับเราเอามากๆ”
ไป๋ รู่วเฉิน ตอบ “อืม สงสัยข้าคิดมากไป ในเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ศิษย์พี่ หวาง เว่ย ท่านลองติดต่อไปหาพวกเขา” “เวลาก็เลยมามากแล้ว ข้ายังมีเรื่องที่จะต้องพูดอีกมาก แต่ข้าจะพูดก็ต่อเมื่อ สมาชิกของกองทัพอสูรฟ้ามาที่นี่ครบทุกคนแล้ว”
ชูเฟิง กล่าว
หวาง เว่ย ได้ยินแบบนั่น ก็รีบติดต่อไปหา สาวกทั้ง 25 คน ของนิกายสวรรค์ด้วยยันต์สื่อสาร
สาวกที่ได้รับการติดต่อ ก็ต่างพากันรีบมุ่งหน้ามายังดินแดนของ ชูเฟิง
หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าของพวกเขา ชูเฟิง ก็นึกออกในทันที พวกเขาทั้ง 25 คนเป็นคนที่ ชูเฟิง สั่งสอนเมื่อตอนนั่น
นอกจากนี้ ชูเฟิง ก็ดูเหมือนจะตระหนักได้ถึงเหตุผลที่พวกเขาอยากเข้าร่วมกับ กองทัพอสูรฟ้า
นั่นเป็นเพราะ ชูเฟิง สามารถมองเห็นบางอย่างในแววตาของพวกเขา มันเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ ยำเกรง พวกเขานับถือ ชูเฟิง จากก้นบึ้งของหัวใจ
การที่เขารู้สึกเคารพนับถือจากก้นบึ้งหัวใจ อาจจะมาจากการที่ ชูเฟิง อัดพวกเขา พร้อมกับแสดงความแข็งแกร่งของเขา ด้วยการมอบความพ่ายให้กับ ไป๋ รู่วเฉิน พวกเขาจึงรู้สึกว่าในอนาคต ชูเฟิงจะต้องเป็นคนที่น่ากลัวอย่างมาก ดังนั่นพวกเขาจึงตัดสินใจมาเข้าร่วมกับกองกำลังที่ ชูเฟิง ก่อตั้ง
ชูเฟิง รู้สึกว่าคนพวกนี้รู้จักคิด อย่างน้อยๆการตัดสินใจของเขาก็นับว่าถูกต้อง จำนวนคนที่ชูเฟิงสั่งสอนมีมากกว่า 25 แต่อย่างไรก็ตาม มีแค่ 25 คนนี้ที่ตัดสินใจติดตาม ชูเฟิง
ชูเฟิง ตัดสินใจแล้วเมื่อ หากในวันข้างหน้าเขากลายเป็นคนที่มีประสิทธิภาพ แน่นอนชูเฟิงจะตอบแทนพวกเขาสำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ อย่างน้อยๆ พวกเขาที่อยู่ในห้องโถงทั้งหมด ก็สมควรได้รับการตอบแทน
ในตอนนี้ กองทัพอสูรฟ้ายังอ่อนแอไร้กำลัง จนทำให้ผู้คนพากันดูถูก สำหรับคนที่เต็มใจเลือกที่จะอยู่กับเขาในเวลาแบบนี้ นับว่าเป็น ภักดี อย่างแท้จริง
ReaDMGA