I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1159 – ท้าทาย

| Martial God Asura | 3521 | 2368 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1159 – ท้าทาย

 

“ผู้อาวุโส เว่ย ศิษย์หยวน ชิง มาจาก วิหารหมู่ดาวนักล่า”

 

หยวน ชิง ตอบอย่างกลับสุภาพ “วิหารหมู่ดาวนักล่า คอยฟูมฝักและดูแลเจ้าเป็นอย่างดี แต่เจ้ากับเข้าร่วมกับกองทัพไตร่สวรรค์ เกิดเป็นบุรุษต้องไม่ลืมรากเหง้าของตน”อาวุโส เว่ย ตอบ

 

ได้ยินคำพูดเหล่านั่น ท่าทางการแสดงออกของหยวน ชิง ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบอธิบายอย่างตะกุกตะกัก”

 

ผู้อาวุโส เว่ย ศิษย์หยวน ชิง ไม่กล้าลืมรากเหง้า ศิษย์ สำนึกในบุญคุณของ วิหารหมู่ดาวนักล่า และ จดจำไว้ในใจเสมอมา เพียงแต่ . . ” “เจ้าไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องมาอธิบาย แค่จำไว้ว่า คำพูดบางอย่าง อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา ข้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติ ของมนุษย์ที่ต้องการโอ้อวดความสามารถ แต่จำไว้ว่าอย่าได้เที่ยวไปพูดจาดูถูกใคร มิฉะนั่น ไม่ช้าก็เร็ว เจ้าจะต้องพบกับความข่มขื่นเพราะการกระทำของเจ้า”

 

อาวุโส เว่ย กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “อาวุโส เว่ย ข้า . . .”

 

ตอนนั่น หยวน ชิง ต้องการที่จะอธิบาย แต่อาวุโสเว่ย ไม่ปล่อยให้เขาได้มีโอกาส เพราะช่วงเวลานั่น เขาได้หายไปจากตำหนักภารกิจภายในพริบตา

 

หลังจาก ที่ อาวุโสเว่ย หายไปจากห้องโถง ในตำหนัก ผู้คนทั่งหมดก็ต่างพากันเงียบปากสนิท ขณะที่ พวกเขาจ้องมอง ชูเฟิง และ ไป๋ รู่วเฉิน ด้วยความซับซ้อน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับคนที่พากันพูดจาเยาะเย้ย ดูถูก ชูเฟิง เมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้พวกเขาต่างสำนึกเสียใจกับสิ่งที่พวกเขาพูดออกไปในก่อนหน้านี้

 

พวกเขาเห็นได้ชัดว่า อาวุโส เว่ย ถูกชะตากับ ชูเฟิง และ ไป๋ รู่วเฉิน จนเขาออกปากเชิญชวนให้ไปเยี่ยมชม แผนกปรุงยา ในขณะที่ อัจฉริยะอย่างหยวน ชิง ถูกอาวุโสเว่ย ตอกหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาได้สร้างความรู้สึกด้านลบ ให้กับ อาวุโสเว่ย

 

ดังนั่น การกระทำของพวกเขาก่อนหน้า เป็นการตัดช่องทางการเชื่อมความสัมพันธ์กับ ชูเฟิง แม้เขาจะเป็นศิษย์จากหุบเขาไม้ครามใต้ แต่หากเขาได้รับการปกป้องจาก อาวุโส เว่ย ในวันหน้า ก็จะไม่มีใคร ในหุบเขาไม้ครามที่กล้าแตะต้อง ชูเฟิง ต่อให้พวกเขามีการเพาะปลูก สูง กว่าก็ตาม

 

เมื่อพวกเขา คิดถึงความเป็นไปได้ว่า ชูเฟิง ต้องมีอนาคตที่สดใส แล้วการที่พวกเขาไปพูดจาดูถูก ชูเฟิง ในวันนี้ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะเกิดความหวาดวิตก พวกเขากลัวว่า สักวัน ชูเฟิง อาจจะกลับมาเอาคืน “น้อง รู่วเฉิน เราไปกันเถอะ”

 

ชูเฟิง ไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของผู้คนรอบๆ หลังจากที่ อาวุโส เว่ยจากไป ชูเฟิง ก็เดินออกจากตำหนักภารกิจหมาป่า พร้อมกับ ไป๋ รู่วเฉิน

 

สำหรับ หยวน ชิง ที่โดนอาวุโส เว่ย ตำหนิ ต่อหน้าผู้คน ธรรมดาที่เขาจะรู้สึกเสียหน้า ดังนั่น เขาจึงรีบไปจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็ว

 

แต่ก็มีเรื่องนึงที่แพร่สพัดไปทั่วหุบเขาไม้คราม เนื่องจากมีศิษย์ของหุบเขาไม้ครามใต้ ชูเฟิง ได้รับแต้มภารกิจ 450 จุด จากภารกิจระดับ หมาป่า

 

หลังจาก ผู้คนได้พากันทราบข่าวลือ ก็เกิดกันถกเถียงเรื่องนี้ จนทำให้หุบเขาไม้ครามสั่นสะเทือน ผู้คนที่รู้เรื่องต่างพากันอ้าปากค้าง ด้วยความชื่นชม

 

แม้ว่า ภารกิจระดับ หมาป่า จะเป็นภารกิจระดับ ต่ำสุด แต่การที่ได้รับแต้มภารกิจของเขา เป็นการทำลายสถิติในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะรางวัลที่ได้นั่นสูงกว่า ภารกิจระดับพยัคฆ์หลายเท่า แล้วคนที่ทำภารกิจพยัคฆ์ได้สำเร็จต่างก็ไม่ธรรมดา แม้แต่ผู้ที่ได้สมยานาม ว่า ปีศาจ ก็ยังไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้

 

ดังนั่น ชื่อของ ชูเฟิง จึงถูกแพร่กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่หลัก ทุกตารางนิ้ว

 

ชูเฟิง ตอนนั่นกำลังมุ่งหน้ากลับมายังที่พักของตัวเอง บนหน้าของเขา เต็มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ แม้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะทำให้เขาต้องลำบาก แต่ รางวัลที่เขาได้รับมา ก็ถือว่า คุ้มค่ามากทีเดียว “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?!”

 

ในตอนทันที ที่ ชูเฟิง มาถึงที่พัก เขาก็รีบโดดลงมาจากอากาศ

 

ประตูทางเข้าอาณาเขตของเขา นั่นถูกทำลาย แม้แต่ ป้ายสัญลักษณ์ของกองทัพอสูรฟ้า ที่แต่เดิมถูกติดไว้บนประตูทางเข้า ก็ยังถูกทำลายเป็นชิ้นๆ

 

สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ ประตู กับ สัญลักษณ์ ที่แตกพังเป็นเสี่ยงๆ พื้นที่รอบๆยังมีสภาพเละเทะไปหมด นี้นับเป็นความอัปยศอย่างมาก มันไม่ใช่ แค่ ชูเฟิง คนเดียว แต่มันเป็นความอัปยศของ กองทัพอสูรฟ้า ทั้งหมด “ใครกันที่มาท้าทายเรา ?!”

 

นั่นเป็นความคิดแรกที่ ชูเฟิง คิดได้

 

มีกองกำลังย่อยจำนวนมากมาย ในหุบเขาไม้คราม วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการจะเพิ่มชื่อเสียงให้กับกองกำลังตนเอง ก็คือการ เอาชนะกองกำลังอื่นๆ ด้วยการ ‘ ท้าทาย ‘

 

แต่เดิม หุบเขาไม้คราม ไม่อนุญาตให้กองกำลังท้าดวลกัน แต่พวกเขาก็รู้ว่านี้มันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา และถึงห้ามยังไงก็เกิดปัญหานี้ขึ้นเรื่อยมา เนื่องจากมันไม่อาจควบคุมได้ พวกเขาจึงยอมให้มีการ ท้าทาย โดยแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น

 

ตราบใดที่ไม่มีใครตาย เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แม้ว่า จะมีฝ่ายใดจะชนะ แล้วทำให้อีกฝ่ายถึงกับพิการก็ตาม เมื่อมีการ ถูกทำลายประตูกับป้ายสัญลักษณ์ นั่นคือ สัญญาณ ของการท้าทาย

 

เคยมีข่าวลือมาว่า เมื่อก่อนนี้มีสองกองกำลังย่อย ต่อสู้กันมาเป็นเวลานาน ท้ายที่สุดก็มีคนนึงที่เป็นผู้นำของกองกำลังย่อยอีกฝ่าย ได้บุกเข้าไปที่ดินแดนฝ่ายศัตรู แล้วไล่สังหารคนกองกำลังนั่นจนหมดพร้อมกับทำลายตำหนักพวกเขา

 

ผู้นำคนนั่น ได้ถูกนำตัวไปโดย แผนกลงทัณฑ์ หลังจากวันต่อมาเขาก็ถูกปล่อยตัว

 

สำหรับเหตุผลที่เขาถูกปล่อยตัวนั่น เดาได้ง่ายมาก เพราะเขาคืออัจฉริยะ อัจฉริยะนั่นจะฝ่าฝืนกฏของหุบเขาไม้ครามได้โดยได้รับการอภัย นั่นเพราะพวกไม่เขาต้องการที่จะสูญเสียอัจฉริยะ เพราะสิ่งที่จำเป็นต่อหุบเขาไม้คราม หาใช่พวกขยะ แต่เป็น อัจฉริยะ

 

ดังนั่นเมื่อเวลาเปลี่ยน การท้าทายของกองกำลังย่อยจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการ สะสรางความแค้น

 

นั่นเป็นเหตุผล ว่าทำไม พวกสาวกของหุบเขาไม้ครามใต้ มักอยู่สันโดษมากกว่าการเข้าร่วมกับกองทัพซ่อนเร้น นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ว่า กองทัพซ่อนเร้น ยังอ่อนแอเกินไป

 

หากพวกเขาเข้าร่วมกับกองทัพซ่อนเร้น พวกเขาก็จะต้องพบกับ ชะตากรรม ที่ต้องถูกท้าทาย และพวกเขาจะต้องพ่ายแพ้ในที่สุด จากนั่นก็จะถูกรังแก ดังนั่นหากพิจราณาให้ถี่ถ้วน การที่พวกเขาไม่เข้าร่วมกับกองทัพซ่อนเร้น น่าจะเป็นหนทางที่พวกเขาจะอยู่ได้อย่าง ปลอดภัย

 

นอกเหนือจากประตูทางเข้ากับป้ายสัญลักษณ์ ข้าวของภายในไม่มีความเสียหาย ชูเฟิง ก็เริ่มสงบอารมณ์ โดยไม่สนสายตาของคนบริเวณรอบๆ เดินเข้าไปในที่อาณาเขตของเขา “คุณชาย ชูเฟิง ในที่สุดท่านก็กลับมา ในวันที่ท่านไม่อยู่ ได้เกิดเรื่องขึ้น”

 

เมื่อคนรับใช้ เห็น ชูเฟิง พวกเขาก็รีบวิ่งเข้ามา

 

บนใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เห็นได้ชัดว่าพวกนางตำหนิตัวเอง พวกนางเตรียมใจที่จะโดนลงโทษ เพราะพวกนางไม่สามารถปกป้องดินแดนของเจ้านายได้ “พวกเราถูกท้าทายใช่หรือเปล่า ?!”

 

ชูเฟิงถาม “ถูกต้อง คุณชาย”

 

สาวใช้ตอบ “เป็นฝีมือใคร ?!”

 

ชูเฟิงถาม “กองทัพพยัคฆ์มังกร”

 

สาวใช้ตอบ [ T/N กองทัพหู่หลง ] “กองทัพพยัคฆ์มังกร ?!”

 

เมื่อได้ยินชื่อนั่น ชูเฟิง ก็จมลงไปในความคิด

 

เขาจำได้ว่า ชื่อกองกำลังนี้ เขาเคยได้ยินเมื่อตอน ที่เขาเข้าไปสั่งสอนศิษย์เก่า ที่ก่อตั้งกองทัพซ่อนเร้น และในตอนนั่น ก็มีคนอีกกลุ่มโผล่มา คนเหล่านั่นเอาแต่พูดจาฉีกหน้าหุบเขาไม้ครามใต้ พวกเขาจึงโดนชูเฟิงอัดต่อหน้าผู้คน และ วิ่งหนีหางจุกตูดไป

 

ชูเฟิง รู้มาว่า กองทัพพยัคฆ์มังกร มีสมาชิกเพียงไม่กี่คน

 

เหตุผลที่เขาตรวจสอบสมาชิกของกองทัพพยัคฆ์มังกรเป็นเพราะว่า คนที่พ่ายแพ้ให้กับ ชูเฟิง เมื่อตอนนั่น จะต้องกลับมาล้างแค้นสักวัน เนื่องจากเขารู้ว่าจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นกับ กองทัพอสูรฟ้า เขาจึงได้ค้นหาข้อมูลเผื่อเอาไว้

 

แต่ ชูเฟิง รู้สึกว่า เรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ดังนั่นเขาถึงถามว่า”

 

เกิดเรื่องนี้ขึ้นเมื่อไหร่ ?!” “หลังจากที่คุณชายออกไป พวกเขาก็มาทันที”

 

สาวใช้ตอบ “พวกมัน มาหลังจากที่ข้าออกไปงั้นหรอ นี้ก็หมายความว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเช้าวันที่ข้าออกไป สินะ ?!”

 

ชูเฟิงถาม “ใช่ค่ะ คุณชาย!”

 

สาวใช้ตอบ “หากเป็นอย่างที่ข้าคิด จะต้องเป็นพวกมันแน่ “ชูเฟิง เริ่มขมวดคิ้วลง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น พร้อมกับความโกรธที่ปะทุขึ้นในใจ

 

การที่กองทัพพยัคฆ์มังกรกล้าทำเช่นนี้ พวกเขาจะต้องถูกใครบงการมา ไม่งั้นพวกเขาคงไม่รีบลงมือในตอนที่ ชูเฟิง ไม่อยู่ นี้เห็นได้ชัดว่า คนที่สั่งการต้องรู้จักกับ ชูเฟิง และรู้ความเคลื่อนไหวเขา นำซ้ำยังเป็นคนที่จ้องจะจัดการกับเขา แม้ ชูเฟิง รู้ว่าไม่ใช่ความตั้งใจของกองทัพพยัคฆ์มังกร แต่ชูเฟิงก็ต้องมอบบทเรียนให้พวกเขา พวกเขามีชาตะกรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงหายนะครั้งนี้ไปได้ “คุณชาย ชูเฟิง โปรดอภัยให้พวกเราด้วย พวกมันขู่ไม่ให้เราเปลี่ยนประตูและซ่อมป้ายลักษณ์ ดังนั่นพวกเราจึง . . . “สาวใช้รู้สึกผิดอย่างมาก นางเอาแต่โทษตัวเองครั้งแล้ว ครั้งเล่า “นี่มันไม่ใช่ ความผิดของเจ้า”

 

ชูเฟิง ปลอบใจพวกนาง เพราะเขารู้ว่าพวกนาง ไม่อาจจะรับมือกับสมาชิกของกองทัพพยัคฆ์มังกรได้ ดังนั่น การที่พวกนางจะกลัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะพวกนางเป็นเพียงแค่คนรับใช้

 

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องระหว่างสาวก

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments