บทที่ 1006 – การต่อสู้ของราชันย์สงคราม
 
 
 
ร่างแสงทั้งร้อยตัวนั้นยืนอยู่ในอากาศ 
 
 
 
ไม่เพียงแต่พลังของพวกมันจะเพิ่มขึ้นเป็นระดับเก้าขั้นจ้าวสงคราม แต่ในมือของพวกมันยังมีหอกแสงอยู่ทุกตัว 
 
 
 
หอกนั้นไม่ใช่หอกธรรมดาแต่อย่างใด มันมีพลังที่แข็งแกร่งเป็นของพวกมันเอง และส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างแสงที่ถือพวกมันอยู่ 
 
 
 
***** ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ***** 
 
 
 
พวกมันทั้งร้อยตัวเข้าโจมตีใส่ ชูเฟิง อย่างรวดเร็ว แต่พวกมันไม่ได้โจมตีออกไปธรรมดาๆ เท่านั้น พวกมันเริ่มวางรูปแบบสังหาร และประสานกันโจมตีใส่ ชูเฟิง 
 
 
 
ไม่เพียงแต่ร่างแสงจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่มันยังมีความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง ในเวลานี้ ยังดูเหมือนว่าพวกมันเริ่มจะมีความคิดเป็นของตัวเอง “ข้าไม่รู้ว่าผู้อาวุโสท่านใดที่สร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณนี้ข้ามา แต่ข้าน้อยเพิ่มมาถึงสถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าข้าได้ทำให้ท่านต้องผิดใจสิ่งใด ถึงได้ใช้รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ทำให้ข้าต้องตกที่นั่งลำบาก !!”
 
 
 
หลังจากที่เห็นร่างแสงทั้งร้อยตัวโจมตีเขาเช่นนั้น ชูเฟิง ที่ได้ผ่านการปะทะมาสองครั้ง ก็รู้ว่าหากกำจัดพวกมันไปอีก เขาจะต้องต่อสู้อย่างไม่จบสิ้น ดีงนั้น เขาจึงไม่โจมตีออกไป แต่กลับหลบหลีกกการโจมตีเหล่านั้นแทน 
 
 
 
แต่หลังจากที่เขาตะโกนออกไปเช่นนั้น ก็ยังไม่มีสิ่งใดตอบสนองเขากลับมาแม้แต่น้อย และร่างแสงทั้งร้อยตัวก็ยังคงโจมตีเขาอย่างบ้าคลั่ง “ดี !! งั้นขอข้าดูหน่อยเถอะว่ารูปแบบของท่านจะสามารถพัฒนาไปได้ถึงขั้นใด !!”
 
 
 
เมื่อมีการตอบสนองออกมาเช่นนี้ ชูเฟิง จึงรู้สึกโกรธอย่างมาก 
 
 
 
ด้วยความแข็งแกร่งของเขานั้น แม้ว่าจะเป็นเพียงขั้นจ้าวสงครามระดับแปด แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามทั้งหมดก็ไม่อาจรับมือเขาได้ แม้แต่ขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่ง ก็ไม่อยู่ในสายตาของเขา 
 
 
 
ดังนั้น แม้ว่าร่างแสงทั้งร้อยตัวจะแข็งแกร่ง แต่พวกมันก็ไม่ใช่คู่มือของ ชูเฟิง พวกมันไม่สามารถทนต่อการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเขาได้ ในเวลานี้ มันก็เปรียบได้กับว่าเขากำลังบดขยี้กองทัพมด 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง กำลังโกรธอย่างมาก เขาไม่ได้ฆ่าพวกมันอย่างง่ายดาย เขาวิ่งเข้าไปกลุ่มของพวกมันและฟันมันออกเป็นแปดส่วนทุกๆ ตัว 
 
 
 
ต้องบอกว่าวิธีสังหารของเขานั้นโหดเหี้ยมอย่างมาก ดีที่พวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวืต ไม่เช่นนั้น ฉากนี้คงจะนองไปด้วยเลือด พร้อมกับเศษอวัยวะที่ค่อยร่วงหล่นลงมาอย่าน่าหวาดกลัวอย่างแน่นอน 
 
 
 
ในเวลานี้ ชูเฟิง กำลังจมลงไปในความโกรธ เพราะเขาถูกโจมตีโดยใครก็ไม่รู้ และเขาต้องระบายความโกรธแค้นของเขาออกมาให้ได้มากที่สุด ด้วยการสังหารอย่างเลือดเย็น 
 
 
 
ถึงแม้ว่า ชูเฟิง จะไม่ได้สังหารพวกมันอย่างเรียบง่าย แต่เพียงพริบตาเดียวนั้น ร่างแสงทั้งร้อยตัวก็ถูกกำจัดจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็ว “มา !! ให้ข้าได้สัมผัสความแข็งแกร่งที่มากขึ้นอีก !!”
 
 
 
หลังจากที่สังหารพวกมันทั้งหมดแล้วนั้น ชูเฟิง ก็ตะโกนออกมาอีกครั้งด้วยความกราดเกรี้ยวของเขา 
 
 
 
***** วูบบบบบ ***** 
 
 
 
และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิด หลังจากที่ร่างแสงทั้งร้อยตัวถูกจัดการไปนั้น แสงเหล่านั้นก็รวมตัวขึ้นมากอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ มันมีใบหน้าที่ชัดเจน อีกทั้งพลังของมันยังอยู่ในขั้นราชันย์สงครามอีกด้วย 
 
 
 
ในขณะที่พวกมันกำลังผสานกันเป็นรูปร่างนั้น ชูเฟิง ก็สัมผัสได้ถึงออร่าของมัน แม้ว่าจะเป็นเพียงระดับหนึ่ง ขั้นราชันย์สงคราม แต่มันก็เป็นขั้นราชันย์สงครามอย่างแน่นอน “โอ้ว !! น่าสนใจขึ้นมาหน่อย !!”
 
 
 
เมื่อเห็นพลังขั้นราชันย์สงครามนั้น แววตาของ ชูเฟิง ก็อัดแน่นไปด้วยความสุข 
 
 
 
แม้ว่าเขาจะเคยสังหาร เจียง ฉีซา แต่นั่นเป็นเพราะเขายืมพลังของคนอื่นมา แต่ในเวลานี้ เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ใช้พลังของตัวเองต่อสู้กับขั้นราชันย์สงคราม 
 
 
 
การต่อสู้กับขั้นราชันย์สงครามนั้น แตกต่างจากการต่อสู้กับขั้นจ้าวสงครามอย่างมาก แม้ว่า ชูเฟิง จะมีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น แต่เขาก็ยังรู้สึกกดดันอยู่บ้าง เมื่อต้อวเผชิญหน้ากับขั้นราชันย์สงคราม 
 
 
 
แม้ว่าเขาจะสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็ไม่อาจประมาทได้เมื่อต้องเข้าปะทะกับขั้นราชันย์สงคราม แต่อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง ก็มีความมั่นใจอย่างมาก ว่าเขาสามารถเอาชนะศัตรูตรงหน้าได้ 
 
 
 
***** ฟุ่บบ ***** 
 
 
 
ในเวลานั้น ชูเฟิง ได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาพุ่งออกไปนั้น ท้องฟ้าพลันสั่นไหว เพราะเขาไม่อาจะสะกดความตื่นเต้นที่เขาจะได้ต่อสู้กับขั้นราชันย์สงครามเอาไว้ได้ 
 
 
 
***** ตูมมมมม ***** 
 
 
 
ความเร็วของ ชูเฟิง นั้นรวดเร็วมาก เขาโจมตีใส่ร่างแสงอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้แม้แต่น้อย เขาเพียงโจมตีออกไปด้วยมือเปล่าเท่านั้น 
 
 
 
การโจมตีของ ชูเฟิง นั้นรวดเร็วอย่างมาก อีกทั้งมันยังอัดแน่นไปด้วยพลังมหาศาลทุกการโจมตี และการโจมตีของเขาก็รวดเร็วจนยากที่จะมองได้ทัน 
 
 
 
ในเวลาเดียวกันนั้น ร่างแสงเองก็ตอบโต้ ชูเฟิง กลับไปด้วยมือเปล่าเช่นกัน มันกำลังเปรียบเทียบความแข็งแกร่งของมันและ ชูเฟิง โดยไม่ใช้ทักษะต่อสู้แม้แต่น้อย 
 
 
 
ในการต่อสู้ระยะประชิดนั้น ก็เหมือนกับการทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย เพราะหากร่างกายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำมาจากเหล็ก และร่างกายของอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่เนื้อธรรมดานั้น ผลการต่อสู้ก็จะถูกกำหนดเอาอย่างชัดเจน 
 
 
 
นอกจากนี้ การต่อสู่ระยะประชิดยังเป็นการทดสอบไหวพริบของแต่ละฝ่าย เพราะในระยะประชิดเช่นนี้ ตะไม่สามารถใช้ทักษะออกได้ง่าย และต้องใช้ไหวพริบของตัวเองเท่านั้นในการแก้สถานการณ์ 
 
 
 
อีกทั้งการต่อสู้ระยะประชิดยังใช้ความรวดเร็วที่สูงมากในการพลิกแพลงการต่อสู้ และชิงชัยกลับมา 
 
 
 
แต่องค์ประกอบทั้งหมดนั้น ย่อมไม่สามารถใช้ได้ เพราะว่า ผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามยังไม่ใช่คู่มือของขั้นราชันย์สงครามแม้แต่น้อย แม้ว่าระดับพลังจะห่างกันไม่มากนั้น แต่ในด้านความแข็งแกร่ง ทั้งสองขั้นนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว แม้ว่าขั้นราชันย์สงครามจะรับการโจมตีของขั้นจ้าวสงครามไปตรงๆ พวกเขาก็แทบจะไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น 
 
 
 
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง มีร่างกายที่แข็งแกร่งด้วยพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งเขายังมีประสบการณ์การต่อสู้มาอย่างโชกโชน ไม่เพียงแต่เขาไม่เสียเปรียบเท่านั้น เขายังสามารถชิงความได้เปรียบมาได้อย่างง่ายดาย 
 
 
 
หากใครได้มาเห็นการต่อสู้นี้ พวกเขาจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน เพราะว่าในเวลานี้ ผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามระดับแปด สามารถกำราบผู้เชี่ยวชาญขั้นราชันย์สงครามระดับหนึ่งได้อย่างชัดเจน 
 
 
 
***** ปึ้ก ***** 
 
 
 
ในเวลานั้น ชูเฟิง ได้ใช้ความรวดเร็วของเขา หลบมาที่ด้านหลังของร่างแสง พร้อมกับโจมตีหลอกไปที่ศรีษะของมัน และใช้ฝ่ามือของเขาแทงเข้าไปในร่างกายของมันอย่างรวดเร็ว 
 
 
 
ส่วนจุดที่เขาแทงเข้าไปนั้น ไม่ใช่จุดทั่วๆ ไปบนร่างกาย แต่มันคือจุดตันเถียน โชคดีที่ร่างแสงนั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ไม่เช่นนั้นจะต้องกายเป็นคนพิการที่ไร้การบ่มเพาะพลังอย่างแน่นอน 
 
 
 
หลังจากการโจมตีของ ชูเฟิง นั้น ร่างแสงได้หยุดการโจมตีของมัน และค่อยสลายกลายเป็นเป็นประกายแสงต่อหน้าของ ชูเฟิง 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////