I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1113 – ความอิจฉา และการแข่งขัน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1113 – ความอิจฉา และการแข่งขัน

 

หากไม่นับรวมหุบเขาไม้ครามสามเขต และวิหารกลุ่มดาวนักล่าแล้วนั้น ทุกๆ สายตาต่างจ้องมองไปยังเรือรบของนิกายสวรรค์ เพราะถึงอย่างไรนิกายสวรรค์ก็เป็นขุมพลังระดับหนึ่งของหุบเขาไม้คราม ดังนั้น การปรากฏตัวของพวกเขาจึงตกเป็นจุดสนใจของคนส่วนมากในทันที

 

ในขณะนั้น เรือรบของนิกายสวรรค์ได้ล่อลลงมาบนลานกว้างอย่างช้าๆ พร้อมกับเหล่าผู้อาวุโส และเหล่าศิษย์ของนิกายสวรรค์ได้ก้าวลงมา ซึ่งในขณะนั้นพวกเจาไม่ได้ปกปิกความแข็งอกร่งของตัวเองแม้แต่น้อย มันจึงทำให้ทุกคนสามารถตรวจสอบความแข็งแกร่งของพวกเขาได้อย่างชัดเจน

 

และในเวลานั้น ทุกๆ คนก็ต่างจ้องมองไปที่เหล่าศิษย์กว่าสี่พันคนของนิกายสวรรค์ เพราะพวกเขาเปรียบไพ้กับตัวแทนของนิกายสวรรค์ “ในปีนี้ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าในปีที่แล้วเลย ทั้งด้านคุณภาพ และด้านปริมาณ แต่หากเทียบกับขุมพลังระดับหนึ่งอีกสี่แห่งแล้วนั้น ก็นับว่าพวกเขายังด้อยกว่ามาก !!””คงเป็นเช่นนั้น นี่ไม่ได้หมายความว่านิกายสวรรค์อ่อนแอที่สุดในห้าขุมพลังระดับหนึ่งเช่นนั้นหรือ !?”

 

เมื่อทุกคนตรวจสอบความแข็งแกร่งของศิษย์จากนิกายสวรรค์แล้วนั้น มันก็อดไม่ได้ที่พวกเขาจะนำไปเปรียบเทียบกับคนจากหุบเขาไม้ครามสามเขต และวิหารกลุ่มดาวนักล่า

 

แม้ว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาจะนับว่ายอดเยี่ยมมาก แต่ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับหุบเขาไม้ครามทั้งสามเขต และวิหารกลุ่มดาวนักล่า ที่มีอัจฉริยะที่มีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับสามอย่าง หวัง หยาน , เจียง ห่าว , ฮวาง เจิน และ หยวน ชิง สี่อัจฉริยะ ที่ขื่อเสียงของพวกเขาได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งหุบเขาไม้ครามได้ ดังนั้น หากเทียบจากจุดนี้นั้น นิกายสวรรค์จึงถือว่าด้อยกว่ามาก

 

***** แกว๊กกกก !! *****

 

ในขณะนั้น เสียงร้องของวิหคสวรรค์ก็ดังขึ้น พร้อมกับที่ร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏออกมาต่อสายตาของทุกคนจากฟากฟ้า

 

คนผู้นั้นเป็นผู้หญิงที่สวมเสื้อผ้าสีขาว ใบหน้าของนางงดงามราวกับเทพธิดาลงมาจากสวรรค์ อีกทั้งการบ่มเพาะพลังของนางยังอยู่ในขั้นราชันย์สงครามระดับสาม

 

ในเวลานั้น ทุกคนต่างจ้องมองไปที่นาง ไม่ใช่เพียงแค่ความงดงามของนางเท่านั้น ที่สะกดทุกสายตาเอาไว้ แต่เมื่อพิจารณาจากลักษณะภายนอกของนางนั้น เห็นได้ชัดว่านางมีอายุน้อยกว่ายี่สิบปี

 

และการบ่มเพาะพลังของนางในตอนนี้ ประกอบกับอายุของนางเช่นนี้ นี่ย่อมหมายความว่านางมีความสามารถที่โดดเด่นอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้น นางคงจะไม่มีพลังขั้นราชันย์ระดับสามตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้ได้ “แม่นางน้อยผู้นี้คือใครกัน !? ทำไมข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน นิกายสวรรค์ซ่อนนางไว้ได้ดีจริงๆ !!”

 

แม้แต่ หวัง หยาน ยังแววตาเป็นประกาย เมื่อมองนางด้วยใบหน้าที่ซับซ้อน

 

หวัง หยาน นั้นเป็นคนที่ชื่นชอบสาวงาม และสาวงามที่เข้าตาเขานั้นนับว่าหาได้ยากอย่างยิ่ง แต่ ไป่ รู่วเฉิน นั้นไม่ใช่สาวงามธรรมดา ด้วยความงดงามอย่างมากของนาง ประกอบกับใบหน้าของนางยังมีแต่ความเย็นชาที่บริสุทธิ์ มันทำให้นางยิ่งงดงามยิ่งกว่าผู้ใด

 

ด้วยความงดงามของนาง รวมกับความเย็นชาของนางนั้น มันยิ่งทำให้นางงดงามโดดเด่นเหนือผู้ใด และกลายเป็นจุดสนใจของทุกๆ คน

 

เพียงระยะสั้นๆ นั้น ความงามของ ไป่ รู่วเฉิน ได้ทำให้ทุกๆ คนลืมเลือน ฮวาง เจิน หากเทียบกับ ฮวาง เจิน ที่แต่งหน้าหนา ราวกับนางโลมนั้น ไป่ รู่วเฉิน ก็เปรียบได้กับดอกไม้งามที่บริสุทธิ์ไร้การแต่งแต้มใดๆ

 

ในความเป็นจริงนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ หวัง หยาน เท่านั้น สายตาของชายหนุ่มทุกคน และแม้แต่สายตาของผู้อาวุโสที่อยู่มากว่าร้อยปียังจับจ้องไปที่นาง แววตาของพวกเขาเป็นประกายราวกับว่าพวกเขาได้พบรักแรกก็ว่าได้

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องปกติอย่างมาก เมื่อผู้ที่มีความงดงามปรากฏออกมาเช่นนี้ ทุกคนก็ต่างชื่นชมในความงดงามเช่นนี้ “หวัง หยาน เจ้าไม่รู้เหรอว่านิกายสวรรค์ได้ซ่อนสาวงามเช่นนี้เอาไว้ !?”

 

ในขณะนั้น เจียง ห่าว ก็กล่าวถามออกมา “ผู้อาวุโส เจียง ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าแม่นางคนนี้เป็นใคร !!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวัง หยาน ก็ไม่รู้จะตอบเช่นไร “หึหึ !! หวัง หยาน นี่หมายความเจ้าสนใจแม่นางคนนี้ใช่หรือไม่ !?”

 

เจียง ห่าว กล่าวพลางนิ้มบางด้วยความล้อเลียน “ถึงอย่างไรหัวใจของทุกคนก็ชื่นชอบความงดงามอย่างแน่นอน สาวงามเช่นนางนับว่าหากได้ยากในโลกนี้ หรือศิษย์พี่ที่สองจะบอกว่าพวกท่านไม่หลงเสนห์ของนาง !!”

 

หยวน ชิง กล่าวพลางยิ้มบาง เขาไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด แต่เขากลับประกาศออกมาตรงๆ ว่าเขาตกหลุมรัก ไป่ รู่วเฉิน “ฮ่าๆๆๆๆๆ…..ข้ามั่นใจว่าผู้ชายย่อมเข้าใจผู้ชายด้วยกัน !!”

 

ทั้ง เจียง ห่าว และ หวัง ย่าน ต่างรักษาภาพพจนืจากคำกล่าวของ หยวน ชิง

 

ในขณะนั้น เหล่าผู้อาวุโส และอาจารย์ใหญ่ของทั้งสี่ขุมอำนาจต่างได้ยินการสนทนาของพวกเขา แต่ไม่มีแม้แต่คนเดีนวที่จะตำหนิพวกเขา เพราะในตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนได้กลายเป็นศิษย์ของหุบเขาไม้คราม ในอนาคตนั้น ความสำเร็จพวกเขาทั้งสามคนอาจจะเหนือกว่าพวกเขาก็เป็นได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ตำหนิออกมา แม้แต่เหล่าอาจารย์ใหญ่เองก็ตาม “เชอะ !! หวัง หยาน , เจียง ห่าว เจ้าเคยบอกว่าไม่เคยหลงเสนห์สาวใด แต่วันนี้กลับตกหลุมรักสาวงามจากนิกายสวรรค์เช่นนั้นหรือ !?”

 

ในขณะนั้น ฮวาง เจิน ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ด้วยความที่นางเป็นผู้หญิงเช่นกัน แต่นางไม่สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบรับได้อย่าง ไป่ รู่วเฉิน มันจึงเลี่ยงไม่ได้ที่นางจะอิจฉา ไป่ รู่วเฉิน เช่นนี้ “เฮ้อ !! ฮวาง เจิน เจ้าไม่รู้อะไร !! เจ้ารู้ไหมว่าแม่นางคนนี้ชื่อว่าอะไร และนางคือใคร !?””ข้าจะบอกให้ แม่นางคนนี้ขื่อว่า ไป่ รู่วเฉิน นางมีอายุเพียงสิบแปดปีในปีนี้ นางมีอายุน้อยกว่าเจ้าสิบปีเต็ม และในตอนนี้นางยังเป็นผู้อาวุโสน้อยของนิกายสวรรค์อีกด้วย !!””เจ้าน่าจะรู้ว่าผู้อาวุโสน้อยหมายความว่าอะไร มันหมายว่าการบ่มเพาะของนางนั้นยอดเยี่ยมมาก อีกทั้งนางยังมีความสามารถที่โดดเด่น และที่สำคัญ นางคือแก้วตาดวงใจของ ฮูหยิน ประมุขนิกายสวรรค์ ที่เพิ่งแต่งงานเมื่อสองปีก่อน !!”

 

เจียง ห่าว กล่าว “โอ้ว !! ที่แท้นางก็คือลูกสาวของฮูหยินประมุขนิกายสวรรค์นี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลย……!!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้ง หวัง หยาน และ หยวน ชิง ยิ่งสนใจ ไป่ รู่วเฉิน มากยิ่งขึ้น

 

พวกเขาทั้งหมดต่างได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับแม่ของ ไป่ รู่วเฉิน มาบ้าง ทุกคนรู้ว่านางคือคนที่แข็งแกร่ง และลึกลับอย่างมาก แม้ในวันนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดรู้ชื่อของนาง

 

และที่สำคัญนั้น นิกายสวรรค์ก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นหลังจากการมาถึงของแม่ของ ไป่ รู่วเฉิน ดังนั้น ตัวตนของนางจึงลึกลับ และกลายเป็นที่กล่าวถึงของผู้คนด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก “หยุดคำพูดไร้สาระของเจ้าซะ !! ข้าไม่เคยได้ยินเลยว่าฮูหยินประมุขนิกายสวรรค์จะมีลูกสาวด้วย !!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮวาง เจิน ก็ขดริมฝีปากแน่น เพราะนางไม่เชื่อคำกล่าวของ เจียง ห่าว แม้แต่น้อย “นี่คือสิ่งที่ข้ารับรู้มาจากสหายของข้าในนิกายสวรรค์ นี่เป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน !! หากเจ้าไม่เชื่อ เจ้ากล้าเดิมพันกับข้าไหม !?”

 

เจียง ห่าว กล่าวพลางยิ้มบาง “ข้าไม่สนใจเรื่องไร้สาระของเจ้าหรอก !!”

 

ฮวาง เจิน ค้อนขวับไปที่ เจียง ห่าว ก่อนจะเลิกสนใจเข่ และจ้องไปที่ ไป่ รู่วเฉิน ด้วยความเป็นศัตรูอย่างชัดเจน “หึ !! ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะตกหลุมรักนางได้ขนาดนี้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้นางมาครอง !!”

 

หยวน ชิง กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ “โอ้ !! ศิษย์น้อง หยวน ชิง มั่นใจเหลือเกินนะ !!”

 

หวัง หยาน กล่าวพลางยิ้มบาง มันย่อมมีบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มของเขา ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของ เจียง ห่าว เช่นเดียวกัน

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : ไอ C โครตพ่อมืง ไปตามพี่เฟิงมาเด๋วนี้!!!

 

C : ผู้กำกับ บอก ยังไม่ถึง คิวแสดง ให้ใจเย็นๆ กำลังแต่งหน้า!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments