ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1077 – การต่อสู้ในเงามืด
“น่าสนใจ !!””ก้อนแสงพวกนี้มันเชื่อมต่อกันอยู่ !!””ดูจากพลังของพวกมันแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชื่อต่อโลกวิญญาณทั่วๆ ไปจะสามารถเข้าถึงได้เลย !!””หากว่าข้าคิดไม่ผิดล่ะก็ แม้แต่เจ้าที่ใช้พลังของเนตรสวรรค์ก็เห็นเพียงแค่เปลือกของมันเท่านั้น เจ้าไม่สามารถเห็นลักษณะที่แท้จริงของมันได้ บางทีพลังงานเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เกิดขึ้นฝีมือของใครบางคน !!”
ในขณะนั้น ต้านต้าน ที่เงียบมานาน ก็กล่าวออกมา “มนุษย์สร้างขึ้นมาหรือ !? ต้านต้าน เจ้าหมายความสิ่งที่ส่งพลังให้แก่สระบรรพกาลนิรันดร์ทั้งหมดนี่ เป็นรูปแบบอำนาจพลังวิญยาณเช่นนั้นหรือ !?”
ชูเฟิง กล่าวถาม “มันเป็นเพียงการคาดเดาของข้าเท่านั้น แม้ว่าข้าจะเพิ่งเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก แต่ความรู้ของราชินีเช่นข้าก็ไม่น้อยอยู่แล้ว มีหลายอย่างในอดีตที่ข้าเคยพบเห็นมา และหากว่าข้าคิดไม่ผิดล่ะก็ เข็มนิรันดร์บรรพกาลก็เป็นรูปแบบอำนานพลังวิญญาณเช่นกัน !!”
ต้านต้าน กล่าว “ถ้าทั้งหมดนี่เกิดจากฝีมือของใครบางคนล่ะก็ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เขาจะต้องเป็นคนที่น่าเกรงขามมากแน่ๆ !!”
เมื่อคิดเช่นนั้น ชูเฟิง ก็แสดงความเคารพออกมา “เฮ้ !! ในเมื่อเจ้าสามารถสัมผัสมันได้แต่แรก บางทีเจ้าอาจจะมีสิทธิ์ที่จะปลุกเข็มนิรันดร์บรรพกาลนี่ก็ได้ หากว่าเจ้าอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย !!” “ยังไงก็ตาม ที่นี่ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีภูติโบราณอีกตนหนึ่ง เจ้าคิดจะทำยังไงกับเขา เจ้าคิดจะสู้กับเขางั้นหรือ !?”
ต้านต้าน กล่าวถาม “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง หากว่าข้าแกร่งกว่าเขา ข้าจะสู้กับเขาซึ่งๆหน้า หากว่าข้าอ่อนแอกว่าเขา ข้าจะอยู่ในเงามืด และรอจัดการกับเขา !!”
ชูเฟิง กล่าวพลางยิ้มบาง “หึหึ !! ไม่เลว สมกับเป็นลูกน้องมหาราชินีเช่นข้า !!”
ต้านต้าน กล่าวพร้อมกับยกริ้มฝีปากขึ้น
นาย และ บ่าว ดูเหมือนจะมีความคิดเช่นเดียวกัน ……….
หลังจากนั้น ชูเฟิง ก็ปกปิดออร่าพลังของเขา พร้อมกับมุ่งหน้าไปยังเข็มนิรันดร์บรรพกาล เพราะเขาคิดว่าภูติตนนั้นจะต้องอยู่ที่เข็มนิรันดร์บรรพกาลอย่างแน่นอน
หลังจากที่เขาก้าวเข้าไปใกล้เข็มนิรันดร์บรรพกาลนั้น เขาก็พบกับร่างๆ หนึ่ง ที่นั่งอยู่ข้างๆ เข็มนิรันดร์บรรพกาล และจากเสื้อผ้าของเขานั้น สามารถระบุได้ทันทีว่าเขาคือ ภูติโบราณ
อย่างไรก็ตาม ภูติโบราณตนนี้นั้นแตกต่างจากภูติโบราณตนอื่นๆ อย่างมาก เพราะที่บริเวณหน้าอกของเขานั้นมีสัญลักษณ์บางอย่างปรากฏอยู่
สัญลักษณ์นี้เป็นสิ่งที่ยากจะตรวจสอบได้ แต่ ชูเฟิง ก็สามารถบอกได้ทันทีว่าสัญลักษณ์นี้พิเศษอย่างมาก เพราะสัญลักษณ์นี้ไม่ได้ปรากฏอยู่บนร่างกายของภูติโบราณตนอื่นๆ และนี่อาจจะคือสิ่งที่เรียกว่า อาณาจักร ที่ภูติโบราณตนอื่นๆ ได้กล่าวถึง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ ชูเฟิง ประหลาดใจมากที่สุดนั้นคือการบ่มเพาะพลังของเขา เขาไม่ได้นั่งนิ่งๆ เช่นเดียวกับภูติโบราณตนอื่นๆ แต่อย่างใด
วิธีการฝึกฝนของเขานั้นแปลกอย่างมาก แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่เช่นเดียวกัน แต่ร่างของเขากลับเปล่งออร่าพลังออกมา มันราวกับว่ามีมังกรสีขาวคอยบินวนรอบๆ ร่างกายของเขา
ความสง่างามของเขานั้นนับว่าหาได้ยากอย่างมาก มันเป็นความงดงามที่แท้จริงก็ว่าได้ “ภูติโบราณตนนี้แข็งแกร่งมาก !!”
ในขณะนั้น ใบหน้าของ ชูเฟิง ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาขมวดคิ้วแน่น
คู่ต่อสู้ของเขาในคราวนี้ไม่ได้ปิดบังออร่าพลังของตัวเองแม้แต่น้อย ดังนั้น ชูเฟิง จึงสามารถสัมผัสออร่าพลังของเขาได้อย่างชัดเจน นั่นคือพลังขั้นราชันย์สงครามระดับห้า ในรุ่นเดียวกันนั้น สามารถเรียกเขาส่าอัจฉริยะได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
แต่สิ่งที่ทำให้ ชูเฟิง ประหลาดใจนั้น ไม่ใช่การบ่มเพาะพลังของเขา แต่มันเป็นออร่าพลังที่พิเศษของเขา ด้วยออร่าพลังแบบนี้นั้น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ครอบครองมัน และคนเหล่านั้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดาแต่อย่างใด
ชูเฟิง , ทันไท่ เซว่ , เจียง ฉีซา และพี่น้องของเขา ล้วนครอบครองออร่าพลังลักษณะนี้ และมันเปรียบได้กับเครื่องหมายการันตีความแข็งแกร่งของคนๆ นั้นว่าเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง “พลังที่เขามีนั้นไม่น่าใช่พลังทางสายเลือด หากข้าคิดไม่ผิดนี่น่าจะเป็นทักษะลับต้องห้าม อีกทั้งมันยังเป็นทักษะลับต้องห้ามที่พิเศษอย่างมาก !!””ชูเฟิง คนๆ นี้ไม่ใช่คนที่สมารถจัดการได้ง่ายๆ ตามความคิดของข้า ข้าคิดว่าเขาแกร่งยิ่งกว่า เจียง ฉีซา !!”
ต้านต้าน กล่าว “ถูกต้อง !! ดูเหมือนว่าภูติโบราณจะไม่ใช่สิ่งที่เราจะจัดการได้ง่าย ด้วยพลังของข้าในตอนนี้ยังไม่อาจปะทะกับเขาซึ่งๆ หน้าได้ !!”
ชูเฟิง กล่าว และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ตระหนักถึงความน่ากลัวของภูติโบราณ
เจียง ฉีซา และพี่น้องของเขานั้น ครอบครองความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าผู้ที่มีการบ่มเพาะพลังในระดับเดียวกันอย่างชัดเจน แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในเจ็ดอัจฉริยะของนิกายสาปพสุธา แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่อ่อนแอที่สุดในเจ็ดอัจฉริยะของนิกายสาปพสุธา อย่างน้อยเขาก็แกร่งกว่าน้องของเขา
ด้วยความแข็งแกร่งของเขานั้น แน่นอนว่าอนาคตของเขาจะต้องเป็นหนึ่งในผู้นำของนิกายสาปพสุธาอย่างแน่นอน
และในเวลานี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภูติโบราณตนนี้ ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่า เจียง ฉีซา นี่ย่อมหมายความว่า เหล่าภูติโบราณนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่านิกายสาปพสุธาแม้แต่น้อย
แต่ในความเห็นของ ชูเฟิง นั้น ในขณะนี้เหล่าภูติโบราณอ่อนแอกว่าเมื่อครั้งอดีตกว่าหมื่นปีที่แล้วมาก ดังนั้น หากในช่วงเวลานั้น ไม่ต้องกล่าวถึงหนึ่งในเก้ามหาอำนาจอย่างนิกายสาปพสุธาแม้แต่น้อย แม้แต่สามคฤหาสน์ และสี่ตระกูลจักรพรรดิ ก็ไม่อาจเทียบได้กับความแข็งแกร่งของภูติโบราณได้ “เจ้ามีแผนยังไงตอนนี้ !?”
ต้านต้าน กล่าวถาม “นอกจากแค่อดทน แล้วพวกเราจะทำอะไรได้ !!”
ชูเฟิง ส่ายศรีษะของเขา ด้วยความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ของเขานั่น เขาย่อมไม่สามารถทำอะไรได้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รอเฉยๆ เท่านั้น เขายังออกค้นหาไปรอบๆ ภายใต้ก้นสระนิรันดร์บรรพกาล
นั่นเป็นเพราะนอกจากเป้าหมายของเขาแล้วนั้น ตั้งแต่ที่เขามาถึงก้นสระนิรันดร์บรรพกาล สิ่งที่ดึงดูดเขามากที่สุดก็คือสิ่งมีชีวิตลึกลับที่มีอยู่จำนวนมาก หากเขาสามารถจับพวกมันได้มากพอนั้น มันย่อมทำให้เขาสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นราชันย์สงครามได้อย่างแน่นอน
ตลอดเวลานั้น ชูเฟิง ได้ไล่จับสิ่งมีชีวิตลึกลับอย่างต่อเนื่อง และส่งมันเข้าสู่จุดตันเถียนของเขาตลอดเวลา และบางครั้งเขาก็จะเข้าไปใกล้กับเข็มนิรันดร์บรรพกาลเพื่อตรวจสอบสถานการณ์เป็นครั้งคราว
ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น ภูติโบราณไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ แม้แต่น้อย เขายังคงใช้ทักษะลับต้องห้ามของเขาในการบ่มเพาะพลัง และดูดซับแหล่งพลังงานตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปหนึ่งวันนั้น ภูติโบราณได้ลุกขึ้นยืน และเข้าไปใกล้กับเข็มนิรันดร์บรรพกาล เขาพยายามทั้งเคาะทั้งมองหาบางอย่าง เขาพยายามตรวจสอบมันอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่สองมาถึงนั้น เขาเริ่มกังวลอย่างมาก เขาไม่ได้ฝึกฝนอีกต่อไป แต่เริ่มวนไปรอบเข็มนิรันดร์บรรพกาลเพื่อตรวจสอบมันอย่างละเอียด พร้อมกับบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างต่อเนื่อง
เมื่อได้ยินสิ่งที่ภูติโบราณบ่นออกมานั้น ช่วยไม่ได้เลยที่ ชูเฟิง และ ต้านต้าน จะต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้ เพราะในเวลานี้ ชูเฟิง ได้รู้ว่าหากอยู่ที่นี่เป็นเวลาสิบหกชั่วโมง ก็เพียงพอที่จะปลุกเข็มนิรันดร์บรรพกาลได้ และหากครบยี่สิบสี่ชั่วโมงนั้น เข็มนิรันดร์บรรพกาลจะถูกปลุกอย่างแน่นอน
แต่นี่เขาอยู่ที่นี่มากว่าสองวัน หรือสี่สิบแปดชั่วโมง แต่เข็มนิรันดร์บรรพกาลกลับไม่ถูกปลุกขึ้นมา มันจึงทำให้เขากังวลอย่างมาก
แต่ ชูเฟิง รู้ดีว่าทำไมเข็มนิรันดร์บรรพกาลถึงยังไม่ถูกปลุกขึ้นมา เพราะตามจริงแล้วนั้น จะต้องอยู่ที่นี่เพียงลำพัง แต่ที่นี่ไม่ได้มีเพียงภูติโบราณอยู่ตนเดียวเท่านั้น แต่ยังมี ชูเฟิง อยู่ด้วย
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : ชิบหายล่ะ ตัวโหดโผล่มา
B : กลัวไร?! แค่ซ่อนตัวแถวๆนั่น เข็มมันก็ไม่ทำงานล่ะ เพราะ สองเผ่า มากระตุ้นเข็มพร้อมกันไม่ได้ ต้องมีคนใดคนนึง ถอดใจยอมถอย
C : งี้พี่เฟิง แม่งก็นั่งแช่ ทั้งวันทั้งคืนเลยอ่ะดิ
B : จะเหลือขี้ แม่งเป็นพวกไม่ยอมถอยด้วยสิ!!!