ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1076 – รูปแบบจากยุคบรรพกาล
ในตอนนั้น ภูติคนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสั่นกลัวชูเฟิง มันทำให้ชูเฟิงรู้ว่าพวกสายเลือดบริสุทธิ์นั้นเป็นเช่นไร พวกนั้นจะมีพลังที่ไม่ธรรมดา
จากนั้นชูเฟิง ก็แกว่งดาบผนึกมารในมือเขา ตัดคอภูติตรงนั้น ดัง ฉัวะ “แม้ว่าเจ้าจะมีใบหน้าที่งดงามเพียงใด มันก็มิอาจปิดบังความน่ารังเกียจในใจเจ้าได้ คนอย่างเจ้าสมควรตายแล้ว.”
หลังจากตัดคอภูติ ชูเฟิงก็พูดขึ้นใบหน้าของเขานั้นเย็นชา และเขาไม่ได้ทิ้งหลักฐานที่ทำให้ตามถึงตัวเขาได้
หลังจากนั้นชูเฟิง ก็ทำความสะอาดบริเวณที่เกิดการต่อสู้ เมื่อเขาตรวจดูแล้วไม่เหลือหลักฐานทิ้งไว้ ชูเฟิงก็ทำความสะอาดชุดคลุมที่ได้มาจากภูติ เมื่อเขาดูแล้วไม่มีเลือดติดบนชุดคลุม ชูเฟิงก็นำมันมาคลุมตัวเขาแล้วใช้ยาพิเศษเปลี่ยนรูปรักษ์เขา และเขาก็ได้เปลี่ยนนัยน์ตาเป็นสีเขียว จากนั้นก็ดำน้ำลึกลงไป
หลังจากเผชิญเรื่องก่อนหน้านี้ชูเฟิงก็เข้าใจอะไรได้มากขึ้น เขารู้ว่าภูตินั้นต้องการเป็นฝ่ายเดียวที่กระตุ้นเข็มนิรันดร์ดังนั้นจึงฆ่าทุกคนที่เข้ามาลึก
การกระทำเช่นนี้ได้นั้นต้องเป็นคนที่ไร้ยางอาย นอกจากนี้ เป้าหมายของชูเฟิงคือปลุกเข็มนิรันดร์ เขาจึงวางแผนที่จะโจมตีพวกโอหังอย่างพวกภูติ
แต่เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันเขาจึงปลอมตัวเป็นภูตินั่นเป็นเพราะเขารู้ว่าต้องมีภูติอีกมากกว่า 500 คนอยู่ข้างใน และอาจมีบางคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา
ดังนั้นชูเฟิงจึงรีบเข้าไปข้างในหลังจากใส่ชุดสีเขียว เขาก็ได้พบกลุ่มภูติหลาย 10 กลุ่มในระดับน้ำต่างๆกัน
เมื่อเหล่าภูตินั้นเห็นชูเฟิง เขาก็ถอนหายใจพร้อมหลับตาลงอย่างไม่แยแส เพื่อฝึกต่อไป
เมื่อเห็นพวกภูติไม่โจมตีเขา ชูเฟิงก็ไม่ทำอะไรเพียงแต่ดำไปลึกขึ้นๆ เมื่อชูเฟิงดำได้เข้ามาลึก ดวงตาของภูติเหล่านั้นก็เปิดขึ้นและมองเขาอีกครั้ง
ในตอนนี้นั้น ดวงตาของพวกเขามีหลายคู่ที่เต็มไปด้วยความชื่นชม และ หลายคู่เต็มไปด้วยความอิจฉา
ชูเฟิง นั้นดำเข้าไปลึกขึ้นๆ จนในที่สุดเขาก็ได้รับรู้ถึงแรงกดดัน แม้ว่าแรงกดดันนั้นจะไม่อ่อนแอ แต่เขาก็อดทนได้สบายๆ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าแรงกดดันในส่วนลึกนี้นั้น คนธรรมดาไม่อาจทนได้แน่นอน
ในที่สุด เหล่าภูติกลุ่มอื่นก็ปรากฏบนสายตาชูเฟิง ภูติกลุ่มนี้นั้นมีน้อยมาก มีเพียง 9 คนเท่านั้นจากการคำนวณของชูเฟิงแล้ว นี่น่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายแล้ว
ไม่สิ พวกเขามีเพียง 9 จาก 10 คนแสดงว่าถ้าที่ชูเฟิงเดาถูกต้องมันต้องมีภูติอีกคนที่ชูเฟิงยังไม่เคยพบ “อืมเจ้ามาได้ถึงขนาดนี้ เจ้าคือ อา หลุนใช่หรือไม่”
เมื่อเห็นชูเฟิง ภูติคนนั้นก็เปิดตาแล้วมองชูเฟิงด้วยความประหลาดใจ
เมื่อเห็นชูเฟิง ไม่ได้ปฏิเสธแต่ไม่ได้ตอบสนองอะไร เขาทั้งหมดก็เงียบ “อา หลุน เจ้าคืออัจฉริยะในรุ่นเยาว์ เจ้าสามารถมาถึงขนาดนี้ได้ด้วยอายุเพียงนี้ ถ้าเจ้าฝึกต่ออีกหน่อย เจ้าอาจจะกระตุ้นเข็มนิรันดร์ได้”ชายในกลุ่มภูตินั้นพูดด้วยน้ำเสียงคาดหวัง “อา หลุน นั้นแท้จริงแล้วเป็นอัจฉริยะของพวกเราในแดนใต้ แต่โชคร้าย ที่อัจฉริยะในตอนนี้นั้นคือคนที่สามารถกระตุ้นเข็มนิรันดร์ได้ “ทันใดนั้น ก็มีเสียงสตรีพูดขึ้น “อ้า ถูกต้องแล้ว เมื่อเทียบกัน พวกเขานั้นธรรมดายิ่งนัก แม้พวกเราจะมาจากรุ่นเดียวกัน แต่เขานั้นแข็งแกร่งกว่ามาก”
ในตอนนั้น ภูติที่เหลืออีก 8 คนต่างเห็นด้วย เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง ก็พยักหน้า
ชูเฟิงรู้ว่าเขาหมายถึงภูติคนสุดท้าย แต่ชูเฟิงไม่คิดว่าภูติคนสุดท้ายนั้นจะอยู่ในส่วนลึกที่สุดแล้ว นอกจากนี้ฟังจากที่พูดแล้ว เขาพบว่าพวกภูติต่างนับถือเขามาก
ในสถานการณ์เช่นนั้น เหล่าภูตินั้นคุยเรื่องอัจฉริยะ ชูเฟิงตัดสินใจฟังเรื่องอัจฉริยะ เขาไม่ได้ออกจากตรงนั้นแต่นั่งฟังพวกเขาคุยกัน “พวกเราจะเทียบกับเขาได้อย่างไร เขานั้นเป็นอัจฉริยะจาก เมืองหลวง แม้แต่ในเมืองหลวง เขาก็เป็นอันดับ 1 พวกเรามีหรือจะเทียบเขาได้””และที่เขาอยู่ที่นี่ปีนี้ เข็มนิรันดร์แดนใต้ของพวกเราต้องถูกปลุกขึ้นมาแน่นอน.””แน่นอน พวกมนุษย์และสัตว์ยักษ์ไม่มีทางผ่านเข้ามาที่แห่งนี้ได้ นั่นเป็นเพราะที่แห่งนี้นั้นมีแรงกดดันที่น่าเกรงขามมาก และท่านเซียน คุน ได้เข้าไปนานแล้ว อีกไม่นานเข็มนิรันดร์ต้องถูกปลุกขึ้นมาแน่นอน.””ฮ่าๆ ข้าคิดว่ามันคงไม่มีปัญหาแล้ว พวกมนุษย์และสัตว์ยักษ์ไม่มีทางมายังที่แห่งนี้ได้แน่นอน ไม่มันต้องบอกว่าตั้งแต่โบราณมาที่แห่งนี้ไม่เคยมีมนุษย์หรือสัตว์ยักษ์ เข้ามาถึงนี่ได้.””ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ทันใดนั้น เหล่าภูติทั้ง 9 ก็หัวเราะดังขึ้น นั่นเป็นเพราะพวกเขานั้นกำลังสนุกสนานที่ได้เยาะเย้ยพวกมนุษย์และสัตว์ยักษ์
ในตอนนี้นั้น ชูเฟิงได้รวบรวมข้อมูลมามากพอแล้ว เขารู้ว่าเจ้าภูติตนสุดท้ายคือ เซียน คุน เขาไม่ใช่คนของที่แห่งนี้ และที่ที่เขามานั้นยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย
ถ้าที่เขาเดานั้นถูกต้อง อีกฝ่ายต้องถูกส่วนลึกสุดของ สระบรรพกาลแล้วแน่นอน ถ้าไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นเข้ามา เข็มนิรันดร์ก็จะถูกปลุกโดยเขา
หลังจากวิเคราะห์สถานการณ์ ชูเฟิงนั้นไม่กล้าพูดอะไรมาก ด้วยการเคลื่อนไหวของเขา เขาก็ออกมาจากที่แห่งนั้น เขาไม่ได้เข้าไปลึกขึ้น และเลือกที่จะลอยขึ้นสุง “อา หลุน เจ้าทนไม่ไหวแล้วหรือ?””มันปกติเพราะเจ้ายังเยาว์วัยนัก ไม่เป็นไรหลังจากฝึกอีกสักปี 2 ปี เจ้าต้องทนมันได้แน่นอน”
หลังจากเห็นชูเฟิงออกมา พวกภูตินั้นก็พูดขึ้น
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าที่ชูเฟิงเลือกว่ายขึ้น มันเป็นเพราะ เขาไม่ต้องการรบกวนพวกเขา
หลังจาก ออกมาห่างจากพวกภูตินั้น ชูเฟิง ก็เลือกที่จะดำลึกเข้าไป ความเร็วของชูเฟิงนั้นเร็วมากเพราะเขารู้จุดหมายแล้ว มันคือ ก้นสระบรรพกาล
ในที่สุด ชูเฟิงก็ผ่านส่วนดำมืดมาแล้ว ในตอนนี้นั้นเขาอยู่ในที่ที่สว่าง เขาสามารถเห็นทุกสิ่งด้านหน้าเขามันมี หิน ทราย และของแข็งต่างๆอยู่ชูเฟิงรู้ดีว่านี่คือ ก้นสระบรรพกาล. “นี่มัน…”
ชูเฟิง ค่อยๆว่างลงไปอย่างช้าๆเมื่อเขาลงมาสัมผัสกับหินพวกนั้นแล้ว เขารู้สึกว่ามันมีแรงกดดันอยู่รอบตัวหลังหลังจากนั้นมันค่อยๆดูดพลังของเขา
ในตอนนั้น เมื่อพลังของชูเฟิงถูกดูดไป มันก็มีพลังแทรกเข้ามาในร่างเขาแทนที่พลังที่ถูกดูดไป
สถานการณ์ในตอนนี้นั้นพูดได้ว่ามันแปลกประหลาดอย่างมาก แต่มันก็นำความกลัวมาให้ชูเฟิง เพราะการดูดพลังอย่างฉับพลัน ดังนั้นเขาจึงค่อยๆตรวจสอบหิน และดินแถวๆนั้น
ในที่สุดชูเฟิงก็ไม่มีทางเลือกใช้เนตรสวรรค์ตรวจสอบดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะการมองด้วยตาเปล่านั้นทำให้เขาไม่รู้อะไรเลย หลังจากใช้เนตรสวรรค์แล้วเขาก็เข้าใจทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
มันกลายเป็นว่าเหนือหินและดินนั้นมีแสงส่องอยู่ และแสงนั้นเต็มไปด้วยอักขระและสัญลักษณ์จำนวนมาก
นอกจากนี้ แสงเหล่านั้นรวมตัวกันและกลายเป็นแห นับไม่ถ้วนปกคลุมสระบรรพกาลเอาไว้
นั่นอาจจะเป็นรูปแบบจากยุคโบราณรูปแบบนั้น มีพลังมากมายและยากที่จะตรวจพบ ความจริงแล้ว ทำไมรูปแบบเช่นนี้ถึงได้มาอยู่ในที่แห่งนี้กัน แต่ชูเฟิงก็รู้ว่ารูปแบบพวกนี้นั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับเข็มนิรันดร์ และ อาจจะเกี่ยวกับสระบรรพกาลด้วย
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : สายฟ้าพี่เฟิงเราจะปลุกได้กี่สีกันนะ ?!
B : มนุษย์ก็สีทอง ยังจะมีสีอะไรอีก ?!
A : ก็ถ้ากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญราชันย์สมบูรณ์ คิดหรอสายฟ้าในตัวพีเฟิงจะไม่ตื่น ?!
B : เออว่ะ สายฟ้าตัวใหม่จะเป็นสีอะไรนะ ?!