I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1099 – เรื่องที่จะขอร้อง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1099 – เรื่องที่จะขอร้อง

 

หลังจากสิ้นสุดนั้น ความเงียบทั้งหลายก็ได้เข้าปกคลุมทุกคู่ของสายตาต่างจับจ้องไปที่บุคคลที่ยืนอยู่บนผืนนภา ณ ตอนนี้

 

พวกเขาจะไม่รู้ช็อคได้อย่างไร เพราะว่า ไป๋ รู่วเฉิน ที่เป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ของนิกายสวรรค์ได้เเพ้พ่ายให้กับศิษย์จากหุบเขาไม้ครามตอนใต้ อารมณ์ของพวกเขารู้สึกประหลาดใจ ปะปนกับความสับสน “เเปะ เเปะ เเปะ….”

 

ในขณะเดียวกันเสียงในบริเวณนั้นก็ปรากฏเสียงปรบมือที่ดังสนั่นเเละชัดเจนขึ้นในทันที

 

เมื่อพวกเขาสังเกตุหันไปมองก็พบกับ ชายชราผมสีขาวที่ยืนอยู่ไม่ได้ไกลนักเเละเขาคือที่มาของเสียงปรบมือเหล่านั้น

 

ชายชราคนนี้ดูเเล้วน่าจะมีอายุอยู่พอสมควร ร่องรอยเหี่ยวย่นลักษณะของเขาดูเเล้วน่าจะมีชีวิตอยู่มาอย่างน้อยก็ 200 ปี เพียงเเต่นั้นก็เป็นเพียงเเค่ลักษณะของเขา โดยเฉพาะรอยยิ้มที่ยิ้มอยู่บนหน้าของเขามันค่อนข้างรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก “พวกเราขอคาราวะ ท่านประมุข”

 

เมื่อเห็นบุคคลคนนี้ทุกผู้คนของนิกายสวรรค์ ยกเว้น ฮูหยิน ประมุข เเละ ไป๋ รู่วเฉิน ต่างก็เเสดงความเคารพต่อเขาในทันที

 

เเม้เเต่ ฉีคง ไจ้ฉิง ก็ยังคงมีท่าทีสุภาพต่อเขา เขา ป้องคำนับขึ้นเพื่อที่จะทักทายบุคคลผู้นี้”

 

ข้าน้อยคือ อาจารย์ใหญ่ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ ขอคาราวะ ท่านประมุขนิกายสวรรค์” “นี่ท่าน อาจารย์ใหญ่ ฉีคง พวกเราต่างเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่มีความจำเป็นที่ท่านจะต้องทำความเคารพข้าเช่นนี้ ท่านเเค่เรียกชื่อของข้าก็พอ”

 

ในขณะเดียวกันประมุขของนิกายสวรรค์ต่างพูดจาท่าทีสุภาพไปยัง ฉีคง ไจ้ฉิง เเละบอกให้เขาก้มหน้าขึ้น “ถ้าท่านประมุข โจว กล่าวเช่นนั้น ข้า ฉีคง ไจ้ฉิง ก็ขอรับไว้ด้วยความเต็มใจ”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉีคง ไจ้ฉิง ก็เลิกพิธีรีตอง “ฮ่าๆ เเบบนี้้เเหละดี”

 

เมื่อประมุขนิกายสวรรค์พยักหน้าด้วยความพอใจเสร็จเขาก็หันไปมองทางชูเฟิงเเละกล่าวถามออกมาว่า “สหายน้อย ข้าอยากจะขอทราบชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าหน่อยจะได้ไม๊” “ผู้เยาว์ ชูเฟิง ขอคาราวะท่านประมุขนิกายสวรรค์”

 

ชูเฟิงตอบ “สหายน้อย เจ้านั้นมีความสามารถที่โดดเด่น เป็นความจริงที่เจ้ามีทักษะการต่อสู้ที่เเข็งเเกร่งเป็นอย่างมาก ข้านั้นไม่เเปลกใจเลยที่ลูกสาวข้าจะเเพ้ นี่เป็นเพราะเจ้าเเข็งเเกร่งเกินไปสินะ”

 

เมื่อกล่าวเสร็จประมุขนิกายสวรรค์ก็พลางพยักหน้าทันทีด้วยความชื่นชม จากนั้นเขาก็หันกลับไปกล่าวกับ ฉีคง ไจ้ฉิง ว่า”

 

อาจารย์ใหญ่ ฉีคง ท่านมีศิษย์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ข้าขอเเสดงความยินดีกับท่านด้วย ”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวของประมุขนิกายสวรรค์ ฉีคง ไจ้ฉิง ล้วนอิ่มเอมไปด้วยรอยยิ้มเขาเพียงพยักหน้าเบาๆเเละยอมรับคำสรรเสริญนั้น “ท่านประมุขนิกายสวรรค์ ก่อนหน้านี้ ลูกสาวของท่านได้กล่าวกับข้าว่าตราบใดที่ข้าสามารถบังคับให้เธอออกจากวงข้างในที่สร้างนั้นได้ เจดีย์ไม้ครามใต้ นี้ก็จะยังอยู่ภายใต้ความครอบครองของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเราต่อไป เเละนิกายสวรรค์ของท่านก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก ข้าจะบังอาจถามท่านได้หรือไม่ว่าข้อตกลงที่พวกเราตกลงกันไว้จะยังเหมือนเดิมหรือไม่”

 

ชูเฟิงถามขึ้นในทันที “เเน่นอน ว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ เรื่องนั้นพวกเราย่อมรักษาคำพูด”

 

ในขณะเดียวกัน ฮูหยิน ลอยไปหา ประมุขนิกายสวรรค์ และกล่าว”

 

ใช่ไม๊ จื่อเซียน ?!””ถูกต้อง! ในเมื่อพวกเราตกลงกันเเล้ว ก็ให้เป็นไปตามข้อตกลงทุกอย่าง นับเเต่นี้ไปพวกเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเจดีย์ไม้ครามใต้ เเละเจดีย์นี้จะเป็นของหุบเขาไม้ครามใต้ต่อไป ถึงอย่างไรเจดีย์เเห่งนี้ก็เป็นสัญญาที่พวกเราต้องรักษาอยู่เเล้ว” ลักษณะของเขาดูค่อนข้างเป็นพันธมิตร

 

อย่างไรก็ตามในมุมมองของชูเฟิงรู้สึกว่า เเม่ของ ไป๋ รู่วเฉิน นางน่าจะอายุประมานเพียง 40 ปีเท่านั้น เเต่ถึงอย่างนั้นความงามที่เลิศล้ำของนางก็ยังคงอยู่ครบสมบูรณ์ ไม่ต้องพูดถึงนางที่เป็นคนของนิกายสวรรค์ เเม้เเต่ชายชราอย่างประมุขนิกายสวรรค์ยังอยู่มาได้นับ 200 กว่าปี มันถูกใจนาง

 

ถ้าเปรียบเทียบบุคคลทั้งว่าเเข็งเเกร่งเเค่ไหนละก็ เเน่นอนว่า ความเเข็งเเกร่งของพวกเขา ชูเฟิงไม่สามารถที่จะตรวจสอบความเเข็งเเกร่งของพวกเขาได้ เเต่ถ้าให้เขาสรุปละก็เเน่นอนว่าประมุขนิกายสวรรค์จะต้องมีความเเข็งเเกร่งกว่าฮูหยิน ประมุขอย่างเเน่นอน

 

นิกายสวรรค์เเน่นอนว่าพวกเขานั้นล้วนเเข็งเเกร่ง เเท้จริงเขาไม่คิดเลยว่า ฮูหยินประมุขที่สวยงามขนาดนั้น ถึงกับขั้นถ่อมาที่นิกายสวรรค์เพราะเหตุผลอะไรกันเเน่ เพราะความเเข็งเเกร่งที่ฮูหยินประมุขครองครองนั้นเเละผนวกด้วยอายุของนาง ความเเข็งเเกร่งของนาง ไม่เพียงนางสามารถเข้าร่วมที่อื่นได้ เเต่ทำไมต้องเป็นที่นิกายสวรรค์

 

ถึงเเม้ชูเฟิงจะสับสน ถ้านางเเข็งเเกร่งขึ้นเพราะมีทรัพยากรมากมายจริงๆละก็นั่นก็ไม่นับเกินเลย เเต่ลูกที่ออกมากลับเป็นอัจฉริยะสาวเช่น ไป๋ รู่วหยวน นั้นก็หมายความว่านางไม่เพียงเเต่นางใช้ทรัพยากรไปโดยปล่าวเท่านั้นเเต่นางมีความสามารถที่เเข็งเเกร่งเเละสูงอย่างมาก เเต่เหตุใดทำไมนางถึงกับต้องเเต่งงานกับประมุขของนิกายสวรรค์

 

หรือว่านางจะมีเเรงจูงใจบางอย่าง? ชูเฟิงเพียงเเค่สันนิษฐานเพียงเท่านั้นว่าที่นิกายเเห่งนี้จะมีอะไรที่นางต้องการหรือไม่

 

นับตั้งเเต่ที่เขาไม่สามารถที่จะตรวจสอบหรือคาดเดาต่อไปได้ ชูเฟิงก็ล้มเลิกความตั้งใจเกี่ยวกัมมัน เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา นอกจากนี้ถึงเเม้ว่าเขาจะคิดว่า ทำไม ประมุขนิกายสวรรค์ถึงกับต้องเเต่งงานกับเเม่ของ ไป๋ รู่วเฉินใครก็ไม่สามารถรู้ได้ ตั้งเเต่ที่เขาเต็มใจรับนางเป็นภรรยาก็ไม่มีใครคัดค้านหรือปฏิเสธเขา

 

ดังนั้นชูเฟิงเพียงเเค่หยุดคิดเเละหลังจากนั้นเขาก็มองผ่านไปทางฝูงชน เเละชี้มือไปยังเหล่าศิษย์ทั้ง 99 ของนิกายสวรรค์เเละสถานที่เขาใช้ฝึกฝนเเละกล่าวขึ้นมาว่า”

 

เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านจะทำลายสถานที่ตั้งเเท่งเสาพวกนั้นด้วยหรือไม่” “สหายน้อย เรื่องเล็กๆเเค่นี้ข้าสามารถจัดการมันได้ รับรองว่าหลังจากที่เจ้ากลับออกมาจากเจดีย์ไม้ครามใต้ ข้านั้นจะเอาพวกพวกมันออกในทันที” “เช่นนั้นก็รบกวนท่านด้วย”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิงก็ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจเเต่อย่างใด เขาเพียงเเค่เดินตรงไปทางเข้าของเจดีย์ไม้ครามใต้ “สหายน้อยชูเฟิงได้โปรดช้าก่อน”

 

เพียงเเต่ในเวลานั้นประมุขของนิกายสวรรค์ก็ตระโกนกล่าวออกมากับชูเฟิง “ท่านประมุข ยังมีสิ่งใด ที่ท่านต้องการ ?!”

 

ชูเฟิงถาม “เเน่นอนว่าชายเเก่คนนี้มีเรื่องที่อยากจะขอร้องต่อเจ้าสักหน่อย”ในทันที ประมุขของนิกายสวรรค์ก็กล่าวออกมา “ท่านประมุขโปรดกล่าวมา”

 

ชูเฟิงกล่าว

 

ประมุขของนิกายสวรรค์ไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดของชูเฟิงเพียงเเต่เขามองไปยัง สองอาวุโสด้านหลังเเละกล่าวกับเหล่าศิษย์ทั้ง 99 ว่า “ท่านอาวุโสทั้ง 2 ได้โปรดนำพวกเหล่าศิษย์ทั้งหลายกลับออกไป” “น้อยรับคำสั่ง”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้นผู้อาวุโสทั้งสองเเละเหล่าศิษย์ทั้ง 99 ต่างพากันเดินจากไปในทันทีโดยไม่กล้ารอช้า

 

ในขณะเดียวกันชูเฟิงก็รู้สึกตระหนักได้ว่า สิ่งใดกันที่ ประมุขนิกายสวรรค์จะร้องขอต่อเขา เเน่นอนว่ามันจะต้องเป็นความลับอย่างเเน่อน อย่างน้อยที่สุด ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าง สองผู้อาวุโส เเละ เหล่าศิษย์ ต่างก็ไม่สมควรได้รับรู้

 

ในขณะเดียวกันหลังจากที่ผู้อาวุโสพาเหล่าศิษย์เดินจากไป ประมุขของนิกายสวรรค์ก็เริ่มที่จะหันไปมองทาง ฉีคง ไจ้ฉิง เเละกล่าวออกมา”ท่านอาจารย์ใหญ่ ฉีคง ท่านพอจะรู้เรื่องราวก่อนเเล้วใช่ไม๊ว่า อดีตประมุขนิกายสวรรค์คนก่อนของเรา ได้จากไปตั้งเเต่ 5 ปีที่ผ่านมาเเล้ว” “อ่า ข้าพอจะรู้มาบ้างเกี่ยวกับการจากไปของท่านอาวุโส หลิว”

 

ฉีคง ไจ้ฉิง พยักหน้าตอบรับทันที “อาจารย์ใหญ่ ฉีคง เเละท่านรู้หรือไม่ว่า สาเหตุของการเสียชีวิตของอดีตประมุขนิกายสวรรค์คนก่อนนั้นคืออะไร”

 

ประมุขนิกายสวรรค์กล่าวถาม “ถ้าให้ข้าเดานั้น การบ่มเพาะพลังของ ผู้อาวุโสหลิวนั้นเเข็งเเกร่งมาก เพียงเเต่เขาก็อายุมากเเล้ว ข้าเชื่อว่าเขาได้ตายจากไปเพราะความชรา”

 

ฉีคง ไจ้ฉิงกล่าวออกมา “ท่านเดาถูกเพียงครึ่งนึ่ง เเน่นอนว่าท่านอดีตประมุขของข้าได้ตายจากไปเพราะขีดจำกัดของอายุขัย เเต่เขาไม่ได้ตายเพราะความชรา เพียงเเต่เขาเสียชีวิตในเจดีย์หุบเขาไม้ครามใต้”

 

ประมุขนิกายสวรรค์กล่าว “เจดีย์ไม้ครามใต้?!!!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ฉีคง ไจ้ฉิง ล้วนเเต่ผงะออกมาด้วยความตกใจ “มันคือความจริงที่เขาเสียชีวิตเพราะเจดีย์ไม้ครามใต้เเห่งนี้ เเน่นอนว่าพวกเราต่างไม่รู้สาเหตุ เเม้เเต่คนรุ่นหลังของนิกายสวรรค์ของเราก็ไม่รู้ถึงข้อเท็จจริงนี้””เเน่นอนว่าท่านอดีตประมุข ในช่วงวัยเยาว์ของเขา เขาเป็นอัจฉริยะอย่างเเท้จริงในนิกายสวรรค์ของเรา หรือเเม้เเต่หลังจากที่เขาเข้าร่วมกับหุบเขาไม้คราม เขาก็เป็นเหล่าศิษย์หลังที่เเข็งเเกร่งเเละมีชื่อเสียง ถ้าเขาไม่ได้ยืนยันที่จะกลับมาที่นิกายสวรรค์เเล้วละก็เเน่นอนว่า เขาย่อมมีสถานะที่สูงส่งในหุบเขาไม้ครามอย่างเเน่นอน””เขาได้ทิ้งตำนานไว้ที่เบื้องหลังของเขาไว้มากมายอีกทั้งการบ่มเพาะพลังที่เเข็งเเกร่งของเขาก็ยากไร้จะต้านทาน เเต่เขาก็เป็นบุคคลที่ชอบความท้าทาย เขาได้หายเข้าไปในเจดีย์ไม้ครามใต้เพื่อท้าทายมัน” “นี่เป็นเรื่องที่ค้างคาใจของข้ามาทั้งชีวิต ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตจากวัยชราภาพ เขาได้พยายามที่จะท้าทายเจดีย์ไม้ครามใต้อีกครั้ง” “เพียงเเต่ใครจะคิดว่าหลังจากที่เขาเข้าไปในเจดีย์ไม้ครามใต้ เขาจะไม่กลับออกมาอีกเลย” “นับจากตอนนั้น ก็ผ่านมาพ้นหลายปี ท่านอดีตประมุขของข้าก็ยังไม่ได้กลับออกมา ข้าคิดว่าเขาอาจจะได้พบสบกับอุบัติเหตุภายในเจดีย์ไม้ครามใต้ ดังนั้นข้าจึงป่าวประกาศให้โลกภายนอกรู้ว่าท่านอดีตประมุขของข้าได้ตายจากไปเเล้ว”

 

ประมุขนิกายสวรรค์กล่าวออกมา “ท่านประมุข ท่านต้องการจะรู้ว่า ท่านอดีตประมุขคนก่อน นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ภายในนั้น นี่คือเรื่องที่ท่านต้องการจะไหว้วานข้าให้ตรวจสอบสินะ?”

 

ชูเฟิงถาม “ข้าเคยท้าทายมันมาก่อน อย่างไรก็ตามเเรงกดดันภายในเจดีย์ไม้ครามใต้นั้นเเข็งเเกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย เเน่นอนว่ามันเเข็งเเกร่งกว่าตัวข้าหลายเท่า เมื่อข้าเข้าไปถึงชั้นที่ 7 ข้าก็ไม่สามารถที่จะเดินทางไปยังชั้นต่อๆไปอีกได้” “ดังนั้นข้าจึงคิดว่า ท่านอดีตประมุขนั้น จะต้องก้าวข้ามไปยังชั้น 8 ขึ้นไปอย่างเเน่นอน น่าเสียดายที่ข้าล้วนไม่อาจขึ้นไปยังชั้นนั้น เเละรับรู้ถึงตัวตนของเขาได้”

 

ประมุขนิกายสวรรค์พลางส่ายหัวในทันที

 

P’Film

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments