I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1185 – ความดึงดันอันแรงกล้า

| Martial God Asura | 3904 | 2369 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1185 – ความดึงดันอันแรงกล้า

 

“เอิ่ม. . . ก็ได้ข้าจะบอกพวกเจ้าทุกคนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเจ้าจงตั้งใจฟังให้ดี” “ในตอนนั้นหลังจากที่ข้าได้รับธงผู้บัญชา ข้าก็ยังไม่ได้เอามันไปแลกรางวัล หลังจากที่ข้าได้เข้าร่วมกับกองทัพ เหวิ่นเทียน ข้าก็ได้ออกไปทำภารกิจกับสมาชิกของกองทัพเหวิ่นเทียน ด้วยกัน” “เเต่ในระหว่างการดำเนินภารกิจนั้นข้าบังเอิญประสบพบเคราะห์ร้าย ได้เจออสูรร้ายที่บ้าคลั่ง ความเเข็งเเกร่งของมันนั้นอยู่ในระดับ 8 ราชันย์เเห่งสงคราม เเละมันเป็นยังเป็นพวกเผ่าพิเศษที่ครอบอำนาจทางสายเลือดอีกด้วย” “ตอนที่ข้าพบมันนั้น ข้าพยายามเเอบมันเพื่อไม่ให้มันพบเจอ ไม่งั้นความปลอดภัยของเหล่าสหายของข้านั้นจะเป็นอันตราย เเละพวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสรอด หลังจากนั้นข้าก็ได้ออกจากกลุ่ม มุ่งหน้าไปล่อมันเพื่อมันไม่ให้มันสนใจเหล่าสหายของข้า” “เเต่อสูรร้ายนั้นเเข็งเเกร่งเกินไป ถึงเเม้ว่าข้าจะล่อพวกมันให้ออกห่างจากเหล่าสหาย สุดท้ายข้าทำสำเร็จ เเละข้าก็ได้หลบหนีเเละล่อมันออกไปนั้น แต่มันยังคงไล่ตามข้ามาทัน เเละในที่สุดมันก็โจมตีข้าจนทำให้ข้ากระเด็นไปไกล เเละทำให้หัวของข้าชนเข้ากับต้นไม้” “ในที่สุดข้าก็ได้ตัดสินใจทิ้งถุงจักรวาลไว้ เเละธงผู้บัญชาก็อยู่ภายในนั้น เพื่อรักษาชีวิตของตัวข้าเอง เพราะว่าข้าคิดว่ามันอาจต้องการบางอย่างจากข้าก็เป็นได้” “เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ข้าไม่ได้บอกกล่าวกับเหล่าสหายจากกองทัพเหวิ่นเทียน ของข้า เพราะข้ากลัวว่าพวกเขาจะเป็นกังวล ข้าเลยต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ” “เหล่าสหายทั้งหลาย แห่งทัพเหวิ่นเทียน หวังว่าพวกเจ้าจะเข้าใจความรู้สึกของข้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะยกโทษให้ข้า ที่ไม่ได้บอกกล่าวกับพวกเจ้าตรงๆในวันนั้น”

 

หยวน ชิง กล่าวออกมา “ศิษย์น้องหยวนชิง ข้าไม่คิดเลยว่าที่เจ้าหายไปจากกลุ่มในตอนนั้นก็เพื่อพวกเรา ข้าไม่คิดเลยว่าจริงๆเเล้วศิษย์น้องหยวน ชิงจะพบกับเรื่องเสี่ยงที่อันตรายถึงชีวิตเช่นนี้ เเละที่เจ้าทำไปนั้นก็เพื่อปกป้องพวกเรา? “โอ้ศิษย์น้องหยวน ชิงข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกเราจนจำใจต้องล่ออสูรร้ายนั่นไป เเม้เเต่ธงผู้บัญชาก็หายไปเพราะว่าเจ้าที่คิดจะปกป้องพวกเรา พวกเรารู้สึกละอายใจต่อเจ้าจริงๆ”

 

ในขณะเดียวกันสมาชิกของกองทัพเหวิ่นเทียน หลายคนไม่เพียงยืนขึ้น เเละกล่าวออกมาพวกเขายังรู้สึกขอบคุณที่ หยวน ชิง ช่วยพวกเขา “เเน่นอนว่า พวกท่านไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง เพราะสิ่งที่ข้าเสียมันไป นับว่าคุ้มมากหากมันแลกกับความปลอดภัยของพวกท่าน ข้าหยวน ชิงทำด้วยความเต็มใจของข้า ข้ายินยอมพร้อมที่จะเสียสละเเม้เเต่ธงผู้บัญชาหรือ หรือเเม้เเต่ความอัปยศที่ได้รับในหุบเขาไม้คราม”

 

หยวน ชิง กล่าวออกมาในลักษณะที่เคร่งขรึม ด้วยท่าทางที่ราวกับ นักบุญ “หืม ถ้าเป็นดั่งทีเจ้าว่าจริงเช่นนั้นธงผู้บัญชาก็ควรจะตกอยู่ในเงื้อมมือของอสูรร้ายพิเศษตัวนั้นเเล้วสินะ” “ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ธงผู้บัญชาที่อสูรร้ายพิเศษตัวนั้นได้รับไป มีลักษณะเหมือนธงอันนี้รึไม่ ?!”

 

ชูเฟิงยิ้มออกมาเบาๆก่อนที่เขาจะยกฝ่ามือขึ้นเเละในทันทีหลังจากนั้นก็ได้มีรูปลักษณะที่เหมือนธงปรากฏขึ้นในมือของเขา “นั่น…มัน!!!”

 

ฝูงชน ทั้งหมดต่างมองเห็นลักษณะธงที่อยู่ในมือของชูเฟิง ในทันทีพวกเขารู้สึกตกใจกับสิ่งที่ปรากฏขึ้น พวกเขาต่างเกิดอาการในลักษณะช็อคจนตาค้าง เพราะว่าธงที่ปรากฏตัวขึ้นในมือของชูเฟิงนั้นมันคือ”

 

ธงผู้บัญชา” “ธงผู้บัญชา! ธงผู้บัญชาไปอยู่ในมือของชูเฟิงได้ยังไง?!” “นั้นมันธงผู้บัญชาไม่ผิดเเน่ เเท้จริงเเล้วหยวนชิงไม่ได้เป็นคนได้รับธงผู้บัญชาไป เเต่ เป็นชูเฟิง ที่ได้มันไป ?!”

 

ความเป็นไปได้มากที่สุดปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา พวกเขารู้ดีว่าความเเข็งเเกร่งของชูเฟิงนั้นเป็นเช่นไร ถ้าผู้คนรู้จักความแข็งแกร่งของชูเฟิงในตอนนั่น พวกเขาก็คงคิดว่าเป็นเขาแน่ๆที่ได้รับธงผู้บัญชา

 

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หยวน ชิง ก็กุเรื่องขึ้นมาหลอกอย่างหน้าด้าน เกี่ยวกับเรื่องที่เขาครอบครองธงผู้บัญชา เพราะว่าธงผู้บัญชาอยู่ในมือของชูเฟิง หยวนชิงอาจจะใช้อุบายบางอย่างเพื่อหลอกพวกเขา เกี่ยวกับชูเฟิง เพื่อกำจัดเขาออกไปงั้นหรอ

 

ธงที่อยู่ในมือของชูเฟิงนั้น คือธงผู้บัญชา อย่างไม่ต้องสงสัย ความเเปลกปลาดใจของทุกคนนั้นถ้าเทียบกับหยวน ชิงเเล้ว เขารู้สึกกระวนกระวายขึ้นในทันที “นี่มันเป็นไปไม่ได้ มันจะต้องเป็นเรื่องผิดพลาดเเน่นอน ?!”

 

เเน่นอนว่าถ้าเทียบกับฝูงชนปกติคนจากวิหารหมู่ดาวนักล่านั้นหรือเเม้เเต่เหล่าลูกศิษย์ต่างหน้าซีดเผือดในทันที เพราะว่าการกระทำของชูเฟิงในครั้งนี้ เหมือนกับการกระบันหน้าพวกเขาอย่างจัง

 

ในวิหารหมู่ดาวนักล่า นั้นพวกเขาต่างนับถือ หยวนชิงราวกับพระเจ้า เเต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันอะไร ? เเน่นอนว่าการกระทำของหยวน ชิงที่เเล้วมานั้นต่างได้รับการเปิดเผย ไม่เพียงเเต่เขาทำลายความนับถือของพวกเขาเพียงเท่านั้น เขาอาจจะเป็นพวกลวงโลก

 

เเน่นอนว่าการกระทำเหล่านี้นั้นได้ชีกหน้าความนับถือของพวกเขาที่มีต่อหยวน ชิงโดยทั้งสิ้น ผู้คนจากวิหารหมู่ดาวนักล่านั้นต่างหน้าถอดสีในทันที “ชูเฟิงมันเป็นเจ้า!!! ข้าคิดอยู่เเล้วว่าเเต่เดิมพวกอสูรร้ายมักจะไม่สนใจถุงจักรวาล เเต่อย่างใดของข้าหรอก เเต่ข้าไม่คิดเลยว่า ถุงจักรวาลของข้าที่มีธงผู้บัญชาจะเป็นเจ้า ที่เอามันไป!!!” “ชูเฟิงข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้าเเละอิจฉาข้าถึงเรื่องต่างๆที่ข้าได้รับความดีความชอบ”

 

หยวน ชิง ยังไม่ยอมรับออกมาในทันที เพราะเขารู้สึกว่าความจริงนี้ เป็นเรื่องที่เขาไม่อาจยอมรับได้ ดังนั่นเขาจึงแถสุดใจขาดดิ้น “หยวน ชิง เจ้าบอกว่าข้า อิจฉาริษยาเจ้าถึงการกระทำที่เจ้าได้รับความดีความชอบไปทั้งหมดอย่างงั้นหรือ” “เเน่นอนว่าถ้านี่คือธงผู้บัญชาของเจ้าจริงๆละก็ ก็มาเเย่งมันไปจากข้าสิ ถ้าเจ้าสามารถนำมันไปจากมือของข้าได้ละก็ ข้าจะยอมรับว่าเจ้านั้นเป็นผู้ค้นพบมันอย่างเเท้จริง ถ้าทำไม่ได้ละก็เเสดงว่าเจ้าได้กุเรื่องหลอกขึ้นมาทั้งหมด”

 

ชูเฟิงคว้าธงผู้บัญชาเเละลดตัวลอยลงจากเมฆเเละเขาได้เข้าไปใกล้หยวน ชิงเเละเริ่มดำเนินแผนการ

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่เว้นเเม้เเต่ผู้อาวุโสหรือศิษย์ ที่ไม่อาจปิดบัง ความตกใจกับฉากที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ได้ “เจ้า…!!!”

 

เมื่อชูเฟิงลอยลงเบื้องหน้าของเขา หยวน ชิงรู้สึกพูดไม่ออกในทันที เขาไม่สามารถที่จะต่อต้านชูเฟิงได้ เเรงกดดันของชูเฟิงนั้นหนักหน่วงอย่างเห็นได้ชัด “ฟุบ~~~”

 

ทันใดนั้นเอง หลังจากที่เขาลอยลงมาไม่มีใครคาดคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั่นจะเกิด ภาพที่ปรากฏนั้น เเสดงให้พวกเขารู้สึกถึงเเรงกดดันของชูเฟิง เเละภาพเบื้องหน้าที่พวกเขาเห็นก็คือ ภาพของ หยวน ชิง ที่นอนกองกับพื้น ราวกับสุนัขที่นอนรอวันตาย

 

เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทำให้พวกเขาประหลาดใจ พวกเขาไม่คิดว่าหยวน ชิงนั้นจะอ่อนเเอขนาดนี้ ซึ่งมันต่างจากที่พวกเขาคิดมาก อย่าว่าจะลุกขึ้นมาสู้แค่จะยืนเขายังทำไม่ได้

 

ใช่เเล้วความห่างชั้นของทั้ง 2 นั้นต่างกันเกินไป ไม่ต้องพูดถึงหยวน ชิง ด้วยการกระทำของชูเฟิงนั้น พวกเขาต่างรับรู้ด้วยตัวเอง ว่าพวกเขาไม่ต่างอะไรกับสุนัขตัวนึง ที่ไร้พลังต่อต้าน

 

เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทำให้พวกเขาตาสว่างในทันที พวกเขารู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดที่พวกเขาเคยได้ยินมา พวกเขานั่นหลับหูหลับตาเชื่อ

 

เมื่อเห็นฉากที่ปรากฏขึ้น พวกเขารู้สึกได้ในทันทีว่าหยวน ชิง นั้นด้อยกว่า ชูเฟิง เเต่พวกเขาไม่คิดว่าความเเตกต่างของพลังนั้นจะมีช่องว่างขนาดใหญ่เกินไป พวกเขารู้สึกว่าชูเฟิงนั้นเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ทมากล้น พวกเขาต่างรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของพลังนั่นดี “ชูเฟิงข้ายอมรับว่าความเเข็งเเกร่งของข้าด้อยกว่าเจ้า เเต่เจ้าคิดว่าสิ่งนี้ จะทำให้เจ้าดูเหนือกว่าอย่างงั้นเรอะ!!!” “สิ่งที่ใช้ค้นหาธงผู้บัญชานั้นไม่ได้วัดกันที่ความเเข็งเเกร่งของพลัง เเต่เป็นความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของอำนาจพลังวิญญาน!”

 

หยวน ชิง ยังคงปฏิเสธหัวชนฝา ถึงเเม้ว่าเขาจะมีสภาพเหมือนสุนัขที่ใกล้ตาย เมื่อเผชิญหน้ากับ ชูเฟิง เเต่เขาก็ยังไม่หยุดหาข้ออ้าง ว่าตนเป็นคนค้นพบธงผู้บัญชา “ฮ่าๆ อำนาจพลังวิญญานงั้นเรอะ!!! ได้!!! เจ้าจะบอกว่าพวกเราควรประลองกันด้วยอำนาจพลังวิญญานงั้นสินะ”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั่น ชูเฟิง ก็ยิ้มออกมาเบาๆ แล้วจากนั่น แรงกดดันที่หนักหน่วง ก็แปรงเปลี่ยนกลายเป็นลำแสง ของรูปแบบที่ก่อตัวหมุนเป็นพายุ เข้ากระหน่ำใส่ หยวน ชิง “พระเจ้า! เเม้เเต่อำนาจพลังวิญญานก็ยังเเข็งเเกร่งถึงเพียงนี้ ไม่คิดเลยว่า ชูเฟิง จะมีความสามารถมากมายเช่นนี้ ?!”

 

อำนาจพลังวิญญาณแม้จะมองไม่เห็นด้วยตา แต่สำหรับชูเฟิง และ บรรดาผู้เชื่อมต่อ สามารถมองเห็นมัน แต่สำหรับคนที่ไร้อำนาจพลังวิญญาณนั่น ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของสิ่งที่เกิดขึ้น “ช่างเเข็งเเกร่งยิ่งนัก! ข้าไม่คิดเลยว่าอำนาจพลังวิญญานของเขา จะเเข็งเเกร่งเเละน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ด้วยอายุเท่านี้เเละผนวกเข้ากับความสามารถของเขาที่มี ข้าไม่เเปลกใจเลยทีเขาสามารถรวบรวมสมุนไพรนภาได้มากขนาดนั้น”

 

พวกเขาต่างรู้ดีว่าสมุนไพรนภานั้นไล่จับยากแค่ไหน ถ้าคนที่มีความสามารถอย่างชูเฟิงเเละมีทักษะอำนาจพลังวิญญานที่เเข็งเเกร่งเช่นนี้ เเน่นอนว่าไม่เเปลกใจเลยที่เขาจะทำได้ถึงขนาดนั้น ความสามารถที่เเข็งเเกร่งของเขา นั่นน่ากลัวเกินไป

 

ในความเป็นจริงไม่ต้องพูดถึงความตกใจของเหล่าบรรดาศิษย์ แห่งหุบเขาไม้คราม เเม้เเต่ผู้อาวุโสทั้ง 2 ที่ซ่อนตัวอยู่เหนือขอบฟ้าไกลออกไป ก็ยังไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ดวงตาพวกเขาทั้ง 2 ตอนนั่นเป็นประกาย พวกเขารู้สึกว่าอำนาจพลังวิญญานของชูเฟิงนั้น ล้ำลึกเเละดูน่ากลัวมากแค่ไหน “มาสิ มาแสดงให้ข้าได้เห็นพรสวรรค์ของอัจฉริยะเช่นเจ้า เเสดงอำนาจพลังวิญญานที่แท้จริงของเจ้าที่ใช้ในการ ชิงอำนาจบัญชา”

 

มุมปากของชูเฟิงยกขึ้น ลักษณะของเขาบ่งบอกถึงความสะใจ เขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆหยวน ชิงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ชั่วพริบตาเขาก็ได้ไปโผล่เบื้องหน้า หยวน ชิง “ไอ้สารเลว บัดซบ!”

 

ในขณะเดียวกันหยวน ชิงที่โดนอำนาจพลังวิญญานของชูเฟิง กดดัน เเม้เเต่ผมกระทั้งเสื้อผ้าของเขา ก็ต่างกระเซอะกระเซิงในทันที เขารู้สึกได้ถึงเเรงกดดันจากชูเฟิง ไม่เพียงเเต่ด้านความเเข็งเเกร่งเท่านั้น เเม้เเต่อำนาจพลังวิญญานนั้น ก็ทำให้เขารู้สึกด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

เขาไม่คิดเลยว่าชูเฟิงจะมีทักษะอำนาจพลังวิญญานที่ล้ำลึกเเละน่ากลัวถึงเพียงนี้ ในสถานการณ์นี้ถ้าเขาใช้ทักษะอำนาจพลังวิญญานของเขาออกไป เเน่นอนว่ามันจะต้องถูกทำลายลงในพริบตา

 

เขารู้ดีว่าชูเฟิงคือจุดเริ่มต้นเพียงจุดเดียว ที่สงสัยในตัวของเขา เเน่นอนว่าเขาเริ่มกระหนักมันได้ แต่มันก็สายไปซะแล้ว

 

เเต่ด้วยชื่อเสียงจอมปลอมของเขามีหรือที่เขาจะยอมแพ้ เขาคิดว่าถ้ารอดจากวันนี้ไปได้ ความเกลียดชังที่เขามี จะต้องได้รับการเอาคืนในเร็วๆวัน “ชูเฟิง ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!!!”

 

ทันใดนั้นหยวน ชิงก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ เขาได้โจมตีออกไปโดยสัญชาตญาณ เขาเริ่มที่จะใช้พละกำลังทั้งหมดทุ่มลงไป ในมือของเขาปรากฏ ยอดยุทธภันฑ์ราชวงศ์ปรากฏในมือขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ทิ่มเเทงไปที่จุดตันเทียนของชูเฟิง เขาต้องการที่จะทำลายการบ่มเพาะพลังของชูเฟิง “ฟึ่บ”

 

เเต่ตอนนั่นที่หยวน ชิง โจมตีออกไป อยู่ๆ ท่าทางของชูเฟิงก็เปลี่ยนกลายเป็นเย็นชา เขาเบี่ยงตัวหลบได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่ฝ่ามือของเขา กระแทกซัดเขาใบหน้า หยวน ชิง อย่างจัง “ฮ่าๆ หยวนชิง ข้านั้นไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำตัวน่าสมเพศถึงเพียงนี้ เจ้าไม่เพียงเเต่จะงัดเอายอดยุทธภัณฑ์ชั้นราชวงศ์ออกมา เจ้ายังเข้าจู่โจมข้าทีเผลอ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะตกต่ำได้ถึงเพียงนี้”

 

เมื่อเขาล้มลงกับพื้น ไม่เพียงเเต่เเก้มของเขาเท่านั้นที่บิดเบี้ยว เเม้เเต่เลือดก็ไหลออกมาจากมุมปาก ฟันของเขาหลุดออกมาหลายซี่ เเน่นอนว่ามันเป็นผลกระทบที่มาจากแรงจากฝ่ามือ

 

ลักษณะของเขาตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับสุนัขที่หมดสภาพ เป็นธรรมดาที่พวกผู้คนที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ ต่างพูดออกมาในเสียงเดียวกันว่า ช่างน่าอนาถ

 

เเต่หลังจากมองดูหยวน ชิง สักพักชูเฟิงก็กล่าวขึ้นว่า”

 

เจ้ากล้าลุกขึ้นมาสู้กับข้าอีกรึไม่ ?! .”

 

P’film ////////////////////////////////////////

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments