I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1173 – วันประลอง

| Martial God Asura | 3591 | 2339 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1173 – วันประลอง

 

แต่เดิมนั้น สระนิรันดร์บรรพกาลเป็นสมบัติของภูติโบราณ แต่ด้วยข้องตกลงของ ฉิง ซวนเทียน ในอดีต ทำให้มนุษย์สามารถครอบครองสระนิรันดร์บรรพกาลได้ และหุบเขาไม้ครามก็เป็นหนึ่งในขุมพลังที่ได้ครอบครองสระนิรันดร์บรรพกาล

 

อย่างไรก็ตาม สระนิรันดร์บรรพกาลที่หุบเขาไม้ครามครอบครองนั้น ไม่ได้อยู่บนพื้นที่หลัก หรืออยู่ในอาณาเขตของพวกเขา แต่อยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลออกไป

 

และเหตุผลที่สระนิรันดร์บรรพกาลอยู่ไกลออกไปนั้น เป็นเพราะว่าในหมื่นปีก่อนนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในความดูแลของภูติโบราณ อีกทั้งหุบเขาไม้ครามในตอนนั้นก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับตอนนี้

 

อย่างไรก็ตาม สระนิรันดร์บรรพกาลแห่งนั้นเปิดให้เข้าได้ตลอด แต่ก็ไม่ได้หมายความศิษย์ทุกคนจะสามารถเข้าไปได้ตลอดเวลา แต่พวกเขาต้องจ่ายด้วยคะแนนความสำเร็จของพวกเขา เพื่อที่จะเข้าไปยังสระนิรันดร์บรรพกาล

 

และคะแนนความสำเร็จที่ใช้แลกในการเข้าสระนิรันดร์บรรพกาลนั้น ยังใช้คะแนนความสำเร็จอย่างมาก ดังนั้น สระนิรันดร์บรรพกาลจึงไม่คึกคักมากนัก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ผ่านไปมาเพื่อทำภารกิจของพวกเขา

 

แม้ว่าสระนิรันดร์บรรพกาล จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการบ่มเพาะพลัง แต่มันก็ไม่ได้คึกคักอย่างที่ทุกคนคิด แต่ในวันนี้ กลับมีบางอย่างออกไป ที่ทางเข้าสู่สระนิรันดร์บรรพกาลกลับคราคร่ำไปด้วยศิษย์หลักของหุบเขาไม้ครามหลายร้อยหลายพันคน นวมทั้งเหล่าผู้อาวุโส

 

และที่พวกเขามารวมกันที่นี่จำนวนมากเช่นนี้ เป็นเพราะจะมีการประลองด้วยชีวิตระหว่าง ชูเฟิง กับ เล่ย เหยา เกิดขึ้นที่นี่

 

ดังนั้น ในช่วงเวลาเพียงสามวันนั้น ข่าวของ ชูเฟิง และ เล่ย เหยา ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกล่าวถึงในพื้นที่หลักเท่านั้น แม้แต่ศิษย์ภายใน และศิษย์ภายนอกแทบทุกคนต่างรู้เรื่องนี้

 

มันจึงทำให้คนหลายพันคนมารวมตัวกันที่นี่ “ข้าไม่คิดเลยว่าคนของหุบเขาไม้ครามในอีกสามเขตจะมาที่นี่ เพื่อดู ชูเฟิง จากหุบเขาไม้ครามใต้ เช่นนี้ ลองเดาเอาสิว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะ หรือเป็นเพียงคนบ้าเท่านั้น !!”

 

เมิ่ง เฉิน กล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำ ขณะที่เขาจ้องมองไปยังกองทัพที่อยู่ฝัางตรงข้าม

 

หากประมาณด้วยสายตาคร่าวๆ แล้วนั้นทกองทัพนี้มีสมาชิกมากกว่ากองทัพสวรรค์อย่างชัดเจน เพราะมันเป็นการรวมตัวของกองทัพจากหุบเขาไม้ครามเขตตะวันออก , ตะวันตก และเขตเหนือ พวกเขาทั้งหมดคือศิษย์จากขุมพลังอันดับหนึ่งของหุบเขาไม้คราม “ชูเฟิง เป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่สามารถกำราบกองทัพพยัคฆ์มังกรได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น !!””อีกอย่าง หากกองทัพของหุบเขาไม้ครามทั้งสามเขตต้องการที่จะหยั่งเชิง ชูเฟิง นั้น พวกเขาเพียงส่งบางคนออกมาตรวจสอบก็น่าจะเพียงพอ ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องออกมาด้วยตัวเองเช่นนี้ !!””นี่ย่อมหมายความว่าแม้แต่ หวัง ห่าวซวน ก็ยังสนใจในตัวของ ชูเฟิง อย่างแน่นอน !!”

 

หลง เฉินยี่ ยิ้มบางๆ ขณะที่เขาจ้องไปยังผู้นำของกองทัพของหุบเขาไม้ครามทั้งสามเขต

 

เขาคือผู้ชายที่มีลักษณะคล้ายกับ หลง เฉินยี่ และมีพลังขั้นราชันย์สงครามระดับหกเทียบเท่ากับ หลง เฉินยี่

 

เขาคือผู้นำของกองทัพหุบเขาไม้ครามทั้งสาม ชายผู้ที่ได้การยอมรับให้เป็นอัจฉริยะผู้แข็งแกร่ง หวัง ห่าวซวน

 

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะเช่นเดียวกับ หลง เฉินยี่ แต่ หวัง ห่าวซวน นั้นมีชื่อเสียงเหนือกว่าเขามาก เขาติดหนึ่งในห้าอัจฉริยะของหุบเขาไม้คราม

 

ความจริงนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของ หวัง ห่าวซวน นั้น เขาอาจจะก้าวขึ้นไปในอันดับที่สูงได้มากก็ว่าได้ หากเขาไม่พ่ายแพ้ให้กับ หวัง จิ่งซือ เสียก่อน

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอันดับจะเป็นเช่นไรนั้น ทุกคนต่างรู้ดีว่า หลังจากที่ หวัง ห่าวซวน พ่ายแพ้ให้กับ หวัง จิ่งซือ เขาก็ฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อกลับมาแก้แค้นอีกครั้ง

 

หลง เฉินยี่ จ้องมองไปที่ หวัง ห่าวซวน พร้อมกับยิ้มอย่างมีนัยสำคัญออกมาอย่างชัดเจน “ท่านพี่ หวัง ห่าวซวน ได้กลับไปแก้แค้นกับ หวัง จิ่งซือ อีกครั้ง ท่านคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะหรือ !?”

 

หลง เฉินฟู่ กล่าวด้วยความสับสน “พวกเขาทั้งสองคนแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ด้วยประสบการณ์ของ หวัง ห่าวซวน น่าจะทำให้เขาได้เปรียบอยู่บ้าง !!”

 

หลง เฉินยี่ กล่าว “พวกเขาแข็งแกร่งมาก แต่ข้าคิดว่าท่านพี่แข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา มันย่อมจะเป็นผลดีต่อท่าน หากพวกเขาตัดสินผลแพ้ชนะได้ และท่านเข้าไปท้าทายหนึ่งในพวกเขา เพื่อชิงเอาอันดับมา !!”

 

หลง เฉินฟู่ กล่าวออกมาอย่างน่ารังเกียจ “วันนี้พวกเรามาเพื่อดู ชูเฟิง ในอนาคตค่อยว่ากันทีหลัง !!”

 

หลง เฉินยี่ กล่าว แต่สายตาของเขายังคงจ้องมองไปที่ หวัง ห่าวซวน ตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าเขามีความทะเยอทะยานอย่างมาก “ดูนั่น !! เล่ย เหยา มาแล้ว !!””นั่นใครอยู่ข้างๆ เขา !? นั่นใช่ หยวน ชิง ใช่ไหม !!”

 

ทันใดนั้น ทุกสายตาต่างจ้องมองขึ้นไปที่ท้องฟ้า พวกเขาต่างตะโกนออกมาเสียงดัง เพราะในเวลานี้ เล่ย เหยา และ หยวน ชิง ได้นำกองทัพนักล่าเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่

 

ในขณะเดียวกันนั้น หวัง ห่าวซวน ผู้นำของกองทัพหุบเขาไม้ครามสามเขตก็เข้าไปทักทายพวกเขา ซึ่งในเวลานั้น บนใบหน้าของ เล่ย เหยา , หวัง ห่าวซวน และ หยวน ชิง ต่างประดับไว้ด้วยรอยยิ้มอย่างชัดเจน

 

กองทัพหุบเขาไม้ครามสามเขต และกองทัพนักล่าสนทนากันอย่างสนิทสนม จนดูคล้ายกับว่าพวกเขาคือพันธมิตรกัน

 

และที่เป็นเช่นนี้นั้น ทุกๆ คนต่างคิดว่าเป็นเพราะ หยวน ชิง ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้

 

เพราะทุกๆ คนต่างรู้ชื่อ หยวน ชิง ดี แม้ว่าเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่เขาก็มีความสามารถที่โดดเด่นอย่างมาก ดังนั้น หยวน ลิง เพียงคนเดียวก็สามารถทำให้กองทัพกลุ่มดาวนักล่าเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างง่ายดาย “ไม่รู้ว่านิกายสวรรค์ของพวกเราจะคิดถูกหรือไม่ ที่ให้การสนับสนุน ชูเฟิง เช่นนี้ !!”

 

ในขณะที่ทุกๆ คนพุ่งความสนใจไปที่ เล่ย เหยา , หวัง ห่าวซวน และ หยวน ชิง นั้น แต่แววตาของ เมิ่ง เฉิน กลับจ้องมองขึ้นไปที่ท้องฟ้า

 

เนื่องจากผู้อาวุโสของนิกายสวรรค์นั้น มีพลังถึงขั้นกึ่งจักรพรรดิ มันจึงทำให้พวกเขามีชื่อเสียงอยู่บ้างภายในหุบเขาไม้คราม และนั่นทำให้พวกเขากลายเป็นผู้รับรองผลการประลองเป็นตายในครั้งนี้ “ผู้อาวุโสจากนิกายสวรรค์ของข้ายังมาไม่ถึง แต่ผู้อาวุโสของวิหารกลุ่มดาวนักล่ากลับมาถึงแล้วหรือนี่ !!”

 

ในขณะที่ หลง เฉินยี่ จ้องมองไปที่ท้องฟ้านั้น ผู้อาวุโสจากวิหารกลุ่มดาวนักล่าก็ปรากฏตัวออกมาในขณะนั้น “น่าเสียดาย !! การต่อสู้ในครั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคนที่ไม่ได้สนับสนุน ชูเฟิง !!”

 

หลง เฉินยี่ กล่าวพลางถอนหายใจยาวๆ ออกมา “ชูเฟิง คงไม่มาหรอก !! ป่านนี้เขาไม่กลัวจนตัวสั่นไปแล้วหรือ !!”หลง เฉินฟู่ กล่าว “ไม่หรอก !! แม้ว่าข้าจะไม่ได้รู้จักกับ ชูเฟิง มากนัก แต่ข้าก็มั่นใจว่าเขาจะต้องมาแน่นอน !!”

 

หลง เฉินยี่ กล่าว

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : ความมันส์มันมักจะสั้นเสมอๆ

 

B : ช่าย แต่เด๋วก็ได้เห็นความทุกข์ของพวกวิหารหมู่ดาวนักล่าแล้ว

 

C : ทำเป็นเล่น อาวุโสของวิหารหมู่ดาวนักล่า เป็นถึงอาวุโสฝ่ายลงทัณฑ์

 

B : กลัวไร พี่เฟิง มีผู้จัดการอาุวโสแผนกปรุงยากับผู้จัดการอาวุโสแผนก . . . . . คอยเป็นแบ็คอัพ

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments