I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1195 – รอยยิ้มที่ชั่วร้าย

| Martial God Asura | 4148 | 2370 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

บทที่ 1195 – รอยยิ้มที่ชั่วร้าย

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลักษณะของ โถ่วปา ซาคัง ก็เปลี่ยนเเปลงไปในทันที เขารู้สึกราวกับคำพูดที่ได้ยินนั้นทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง

 

เพราะว่าในขณะนี้เขาได้จ้องมองไปที่ ต้ากู่ ฉิงเฟิงเเละพบว่าเขาคนนี้นั้นได้เเสดงใบหน้าที่ยากจะคาดเดาออกมา “ซาคัง ข้าว่าจะไปเก็บตัวบ่มเพาะพลังในสถานฝึกตนสักพัก” “เจ้าเเละเจ้าวานรขาวเป็นศิษย์สืบทอดที่ดีที่สุดของข้า เเละพวกเจ้าทั้ง 2 ก็มีการบ่มเพาะพลังในระดับ กึ่งจักรพรรดิสงคราม ข้อดีของเจ้าวานรขาวคือ มันนั้นเป็นคนที่อ่อนโยน ส่วนข้อดีของเจ้าคือ เป็นคนเข้มงวดเด็ดขาด” “เพียงเเต่ความอ่อนโยนนั้น ล้วนไม่อาจที่จะเป็นผู้ปกครองที่ดีของหุบเขาไม้ครามให้ยั่งยืนได้” “อย่างเช่นการตัดหัวคนที่เจ้าตัดสิน แล้วเขาค้านเจ้า เจ้ารู้สึกตำหนิเขาที่เขาทำเช่นนี้ใช่รึไม่ ข้าหวังว่าเจ้าจะปรับทัศนคติซะใหม่” “ถึงเเม้ว่าข้าจะไม่ได้คาดหวังให้เจ้าเปลี่ยนเเปลงมันเพื่อข้า เเต่ถ้าเจ้าให้ข้าเลือกระหว่าง ความเมตตา เเละ เด็ดขาด ในตอนนั้นละก็ ข้าจะเลือกอย่างหลังโดยไม่ลังเลเเม้เพียงสักนิด” “แต่ความอ่อนโยนรู้จักเมตตาก็สำคัญ ข้าไม่ขอให้เจ้าเปลี่ยนแปลงนิสัยเจ้า แต่ข้าสามารถบอกได้เลยว่า เจ้าไม่อาจจะเป็นผู้ปกครองที่ดีได้ในหุบเขาไม้ครามหรอก หากเจ้าไม่รู้จักความเมตตา ถ้าท่านบรรพบุรุษของข้ายังอยู่เขาก็คงจะสั่งสอนศิษย์ของเขาในลักษณะนี้ละมั้ง!” “ถึงเเม้ว่าหุบเขาไม้ครามที่เเห่งนี้ของข้าจะทรงพลังในสายตาของคนอื่นๆ เเต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงที่เราสามารถรักษาสมรรถภาพความเเข็งเเกร่งของเราไว้ได้นั้นคืออะไร นั่นก็คือเรามีความเเข็งเเกร่ง ความกล้าหาญเเละความเด็ดขาดในการจัดการระเบียบต่างๆ” “ดังนั้นถ้ามันเป็นเช่นนี้ต่อไป หุบเขาไม้ครามของเราจะไม่ถูกลืมเลือนถึงเเม้กาลเวลาจะหายไป ความเเข็งเเกร่งที่ข้าพูดถึงนั้น บุคคลที่เป็นผู้จัดการเเละคอยค้ำจุนเรื่องพวกนั้น ก็คืออาจารย์ใหญ่อย่างข้าคนนี้” “วันนี้ข้าจะพูดเรื่องของข้าให้เจ้ากับเจ้าลิงขาวฟัง ข้าที่บ่มเพาะพลังเเละอยู่มาอย่างยาวนานนั้น ข้าคิดว่าข้าน่าจะให้บทเรียนที่ดีกับพวกเจ้าได้”

 

ต้ากู่ ฉิงเฟิง กล่าวออกมาในลักษณะที่ลึกซึ้ง

 

ซาคัง เริ่มที่จะคุกเข่าลงในทันที ลักษณะของเขาเเสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะรับฟังการสั่งสอนของอาจารย์ใหญ่ทุกเมื่อ”

 

ข้าซาคัง ขอบคุณที่ท่านอาจารย์ใหญ่ให้คำชี้แนะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวัง” “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก เเค่ข้าเห็นเจ้ามีความมุ่งมั่นที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ในหุบเขาไม้ครามเเห่งนี้ เเละผนวกเข้ากับความเเข็งเเกร่งที่เจ้าฟันฝ่ามาได้ เเค่นี้ก็ทำให้ข้ารู้สึกยินดีเเล้ว”

 

ต้ากู่ ฉิงเฟิงกล่าวออกมาในขณะที่เขาพยายามงอเข่าเเละช่วยพยุง ซาคังขึ้น “ข้าซาคัง จะพยายามหนักเพื่อบ่มเพาะพลังให้เเข็งเเกร่งกว่านี้”

 

โถ่วปา ซาคัง กล่าวออกมา “ซาคัง เจ้าอายุเท่าใดเเล้วปีนี้?”

 

ทันใดนั้นต้ากู่ ฉิงเฟิง ก็กล่าว “ท่านอาจารย์ ในปีนี้ ผู้น้อยมีอายุได้ 531 ปีเเล้ว เเต่ข้ารับรองว่าท่านอาจารย์ไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะพยายามอย่างหนักเพื่อบ่มเพาะพลัง เเละไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังในตัวของข้า ซาคัง คนนี้”

 

โถ่วปา ซาคัง กล่าวอย่างหนักเเน่น “เจ้ามีความสามารถที่ดี ความเเข็งเเกร่งของเจ้ามันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น ข้าหวังว่าเจ้าจะหาศิษย์สืบทอดของตัวเจ้าเองสักคน”

 

ต้ากู่ ฉิงเฟิง กล่าว “ท่านอาจารย์ ท่านหมายความว่ายังไง?”

 

โถ่วปา ซาคังกล่าว “ก็เหมือนกับข้าที่รับเจ้าเเละเจ้าลิงขาวมาเป็นศิษย์สืบทอด เจ้าควรจะหาใครสักคนเพื่อรับเป็นศิษย์สืบทอด เจ้าไม่ควรหมกมุ่นเกี่ยวกับ เเผนกลงทันฑ์มากเกินไป” “ข้าคิดว่า ชูเฟิงก็ไม่เลวเช่นเดียวกัน เขานับว่าเป็นต้นกล้าชั้นดี เจ้าไม่ควรจะพลาดโอกาสนี้” “ศิษย์ ซาคัง เข้าใจเเล้ว!”

 

โถ่วปา ซาคัง กล่าวพยักหน้า “เช่นนั้นก็ดีไปเลย ข้าหวังว่า ชูเฟิงที่ได้รับการอบรมสั่งสอนภายใต้การเเนะนำของเจ้า ข้าคิดว่าไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน”

 

ต้ากู่ ฉิงเฟิง กล่าว “ท่านอาจารย์ ท่านจะเก็บตัวฝึกฝนตั้งเเต่ตอนไหนขอรับ?” “ข้าคิดว่าน่าจะเร็วๆนี้ นับตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไป หุบเขาไม้ครามทั้งหมดนี้ข้าขอฝากเจ้าเเละเจ้าลิงขาวให้เป็นผู้รักษาการแทนไปก่อนละกัน เพราะว่าขอบเขตพลังที่ข้าจะก้าวผ่านนั้นมันยากเกินไป ข้าคิดว่าอาจจะปิดด่านฝึกตนเร็วขึ้น ใครจะคิดว่าข้าจะใช้เวลาเท่าใดมันอาจจะ 3 ปี หรือไม่ก็ 100 ปี”

 

ต้ากู่ ฉิงเฟิงกล่าว “ท่านอาจารย์ท่านสามารถวางใจข้า ซาคังคนนี้ได้ขอรับ ข้ารับประกันว่าหุบเขาไม้ครามเเห่งนี้ ข้าจะดูเเลโดยไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆ”

 

โถ่วปา ซาคัง กล่าวในลักษณะที่มั่นใจ “ข้าเชื่อมั่นในความสามารถเเละการจัดการทุกอย่างของเจ้า ข้าล้วนไม่สงสัยในการบริหารของเจ้าเลยเเม้เเต่น้อย”

 

หลังจากกล่าวเสร็จต้ากู่ ฉิงเฟิงก็ลอยมาตบป่าของ โถ่วปา ซาคังในทันที ก่อนที่เขาจะลอยจากหายไป “เมื่อข้าออกมาจากการเก็บตัวฝึกฝนพลัง ข้าหวังว่าเจ้าเเละเจ้าลิงข่าวจะพยายามทำงานร่วมกันเเละรักษาหุบเขาไม้ครามของเราให้ดี. . . “ท่านอาจารย์ ศิษย์ซาคัง คนนี้ ขอให้ท่านตัดผ่านก้าวเข้าสู่ระดับต่อไปให้ได้โดยเร็ว ข้าขอให้ท่านประสบความสำเร็จ”

 

เมื่อเห็นเขาค่อยๆลอยจากหายไป โถ่วปา ซาคังก็กล่าวออกมาในทันที

 

เพียงเเต่ในเวลานั้นท้องฟ้าก็ยังคงเป็นเช่นเดิม เขาได้ยืนอยู่กลางผืนนภาอย่างโดดเดี๋ยวในตอนนั้น เขารู้ดีว่าการที่ ต้ากู่ ฉิงเฟิง จากไปเก็บตัวบ่มเพาะพลังในครั้งนี้นั้นจะต้องกินเวลานานมากอย่างเห็นได้ชัด ในตอนนี้เขาคือผู้ที่ครอบครองอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขาไม้ครามอย่างไม่ต้องสงสัย

 

เพียงเเต่เขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเเม้เเต่น้อย กลับกันใบหน้าของเขารู้สึกวิตกกังวลมากกว่า

 

เขาที่ยืนอยู่ในตำเเหน่งเดิมนั้นก็ค่อยๆมอง ต้ากู่ ฉิงเฟิงจากไปอย่างช้าๆ ในขณะนั้นผืนฟ้าก็พลันเมฆครึ้มเเละมีฟ้าร้องฟ้าผ่าจำนวนมากทันที ลักษณะสายตาที่ชั่วร้ายของเขา ก็ค่อยๆเเปรเปลี่ยนขึ้นปรากฏในดวงตาของเขา

 

ทันใดนั้นสายฟ้าที่รุนเเรงก็ได้ผ่าซ้ำไปซ้ำมาทำให้เกิดเสียงดังขึ้นในทันทีบนผืนฟ้าในตอนนี้ต่างวุ่นวายอย่างถึงที่สุดเหล่าบุคคลที่อยู่ใกล้สระนิรันดร์บรรพกาลนั้นต่างสังเกตุเห็นได้ชัดเจน

 

โถ่วปา ซังคัง ที่ได้ยืนอยู่ในขณะนั้นก็พลันปรากฏร่างของผู้อาวุโส2คนขึ้นในทันทีพวกเขาทั้ง2ต่างคุกเข่าเพื่อทำความเคารพ

 

หนึ่งคือชายอีกหนึ่งคือหญิงพวกเขาค่อนข้างที่จะดูอาวุโสเเละอยู่มานานมากเเล้ว เเต่อายุของเขาล้วนไม่เเน่ชัด

 

ความเเข็งเเกร่งของพวกเขาคือ ระดับ กึ่งจักรพรรดิ์เเห่งสงคราม หรือเเม้เเต่ด้านพลังนั้นพวกเขาก็เทียบเคียงได้กับผู้อาวุโส เว่ย เพราะว่าพวกเขามาจากเเผนกลงทันฑ์ เเละเป็นผู้จัดการอาวุโส ชายผู้นั้นชื่อ เหย หง เเละผู้หญิงชื่อ หลิ่ว ซู่

 

ถึงเเม้ว่าพวกเขาจะมีสถานะเเละความเเข็งเเกร่งที่มากมายเเต่เมื่ออยู่ต่อหน้า โถ่วปา ซาคัง พวกเขาก็ต้องอ่อนน้อมเเละทำความเคารพในทันที เพราะว่าโถ่วปา ซาคังนั้นเเข็งเเกร่งกว่าพวกเขา “พวกเจ้ารู้จักชูเฟิง รึไม่?”

 

โถ่วปา ซาคังถาม “พวกเรารู้”

 

ทั้งสองต่างพยักตอบพร้อมเพียงกัน “ชูเฟิงเป็นบุคคลที่มีความสามารถ เจ้า เหย หง จงไปนำเขามาพบข้าที่เเผนกลงทันฑ์”

 

โถ่วปา ซาคังกล่าวในทันที “ข้าจะดำเนินการในทันที”

 

เหย หง กล่าวก่อนจะหันตัวกลับไป “เจ้ารู้รึว่าข้าต้องการสิ่งใด”

 

โถ่วปา ซาคังถาม “ข้าทราบเเล้ว ข้าจะดำเนินการโดยเร็ว”

 

เหย หง ก่อนที่จะจากไป “ไม่เจ้ายังไม่รู้”

 

ทันใดนั้นโถ่วปา ซาคังก็กล่าวออกมาในลักษณะที่รุนเเรง

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ไม่ต้องพูดถึง เหย หง เเม้เเต่ หลิ่ว ซู่ ก็ต้องตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวในทันที

 

เมื่อเห็นว่า โถ่วปา ซาคัง ใจเย็นลงพวกเขาทั้ง 2 ต่างฝืนยิ้มก่อนที่จะกล่าวยังลำบากเพื่อถามออกไป “ท่าน โถ่วปา ท่านจะทำสิ่งใดต่อหลังจากนี้”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวของ โถ่วปา ซาคัง พวกเขาทั้ง 2 ต่างรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน “อะไรเจ้าสงสัยในคำสั่งของข้าอย่างงั้นรึ”

 

โถ่วปา ซาคังกล่าวออกมาในลักษณะที่บึ้งตึง “ไม่พวกข้าไม่กล้า พวกข้าไม่กล้า”

 

พวกเขาต่างส่ายหน้าเพื่อตอบคำถามในทันที พวกเขารู้สึกกลัวโถ่วปา ซาคังอยู่ในใจลึกๆ “เช่นนั้นพวกเจ้าก็รีบไปดำเนินการในคืนนี้โดยเร็วที่สุด”

 

โถ่วปา ซาคัง กล่าว

 

เหย หงไม่กล้าลังเลที่จะยืนอยู่ต่ออีก เขารีบกล่าวพลางทำความเคารพก่อนจะจากไปโดยเร็วที่สุด “หลิ่ว ซู่ เจ้าตามไปด้วย ถ้าชูเฟิงปฏิเสธที่จะมา เจ้าก็จัดการเขาได้เต็มที่”

 

โถ่วปา ซาคังกล่าวก่อนที่จะหันหน้าไปทาง หลิ่ว ซู่ “หลิ่ว ซู่ ผู้นี้จะจัดการโดยเร็วที่สุด”

 

หลิ่ว ซู่ ไม่กล้าที่จะลังเลเหมือนกับ เหย หง อีกต่อไป นางรีบกล่าวเเละจากไปโดยเร็ว

 

ในขณะนี้หอคอยโบราณเเห่งนี้ได้มีผู้เดียวที่ยืนอยู่ซึ่งเขาก็คือ โถ่วปา ซาคัง รอยยิ้มที่เขาเเสดงออกมาในตอนนี้ค่อนข้างยกสูง มันให้ความรู้สึกที่ยากจะบอก เเต่ดูเเล้วมันดูชั่วร้ายเป็นอย่างมาก

 

P’film ////////////////////////////////////////

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments