หลังจากที่รอมานานชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพได้เสร็จสิ้นกระบวนการทดสอบเรียบร้อยแล้ว
ในไม่ช้าความสามารถพื้นฐานได้ปรากฏขึ้นในหัวของเขา
กริม
มนุษย์
Hp 11/11
นักเวทย์ขั้นต้น
ประสบการณ์(614/1000)
คุณสมบัติ
Strength 4
Agility 4
Physique 3
Spirit 8
ทักษะและความสามารถเฉพาะ
ทักษะ
ความสามารถเฉพาะ
ในโลกแห่งนี้มนุษย์ธรรมดาทุกคนจะมีคุณสมบัติพื้นฐานเมื่อเกิดมา หลังจากที่ผ่านการวิจัยและการแบ่งหมวดหมู่โดยเหล่านักวิจัยในโลกก่อนมาหลายรุ่น พวกเขาได้แบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่ซึ่งก็คือ Strength Physique Agility Spirit ความแตกต่างของแต่ละคนขึ้นอยู่กับพื้นฐานทั้งสี่นี้
Strength(ความแข็งแกร่ง) คือความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและความแข็งแกร่งของร่างกาย คุณสมบัตินี้มีความสำคัญมากในการต่อสู้ระยะประชิดซึ่งคุณสมบัตินี้จะส่งผลโดยตรงเมื่อใช้อาวุธระยะประชิดและยังส่งผลให้กับความแม่นยำอีกด้วย
สำหรับผู้ชายธรรมดาควรจะมีค่า Strength อยู่ที่ 3-4 ซึ่งถือเป็นปกติ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีค่าความแข็งแกร่งถึง 5 จะถือว่าแข็งแรงมาก
Agility(ความว่องไว) เป็นค่าที่นำไว้ใช้ในการประสานงานของร่างกาย เช่น ความยืดหยุ่น การตอบสนองและสมดุล ซึ่งเป็นค่าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักรบที่สวมเกราะเบาหรือพวกโจรที่สวมเกราะหนังและยังเหมาะสำหรับคนที่จะเป็นนักธนู
Physique(กายภาพ) เป็นตัวแทนของพลังชีวิตและความอดทน ซึ่งเมื่อค่านี้เพิ่มขึ้นมาจะช่วยเพิ่มความอดทนและสมมาธิ ดังนั้นมันเป็นค่าที่มีความสำคัญมากสำหรับทุกอาชีพ
ความอดทนหรือที่รู้กับดีว่าเป็นความสามารถในการต้านทานพิษและเชื้อโรคต่างๆอีกด้วย
สมาธิเป็นค่าที่มีความสำคัญมากสำหรับนักเวทย์
ค่า Physique ของมนุษย์ที่น้อยที่สุดคือ 1 ถ้ามนุษย์คนใดมีค่าน้อยกว่า 1 พวกเขาจะตาย
Spirit(วิญญาณ) เป็นตัวกำหนดความสามารถในการเรียนรู้และลักษณะของแต่ละบุคคล คุณสมบัตินี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับจอมเวทย์ เพราะว่ามันเป็นตัวตัดสินจำนวนเวทย์ที่นักเวทย์สามารถร่ายได้ นอกจากนี้มันยังช่วยให้พวกเขาร่ายเวทย์ได้ง่ายขึ้นและยังเพิ่มพลังเวทย์ของเขา
สัตว์ส่วนใหญ่จะมีค่า Spirit ที่ 1-2 แต่ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมือนมนุษย์จะมีอย่างน้อย 3 ถ้าเป็นมนุษย์ปกติที่ต้อ
การเป็นจอมเวทย์ พวกเขาจำเป็นต้องใช้ค่าวิญญาณ เป็นอย่างน้อย 21 แต้ม
หลังจากที่วิเคราะห์คุณสมบัติเหล่านี้ กริมตัดสินใจคุณสมบัติที่สำคัญมากที่สุดสำหรับเขาคือแต้มวิญญาณ เมื่อแต้มวิญญาณของเขาไปถึง 21 เขาจะสามารถขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์และกลายมาเป็นจอมเวทย์ได้อย่างเต็มตัว
ทางเดียวที่จะเพิ่มแต้มวิญญาณของเขาได้คือการทำสมาธิ อ่านหนังสือเวทย์สมุดเวทย์และฟังเรื่องราวจากจอมเวทย์ที่มีประสบการณ์
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะง่าย แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้!
เพราะว่าในโลกที่มืดมนและแสนโหดร้าย ความรู้มีค่าเท่ากับพลัง ดังนั้นจะมีเรื่องที่ยุ่งยากตามมาด้วย
ทำไมนักเวทย์ขั้นต้นจำนวนมากถึงไม่สนใจความเสี่ยงและยังอาศัยอยู่ที่นี่ ทั้งที่พวกเขารู้ว่ามีอันตรายจำนวนมากรอพวกเขาอยู่ทุกที่! เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะทำให้พวกเขาสามารถแสวงหาความรู้และเติบโตได้ในอนาคตเมื่อพวกเขาก้าวออกจากหอคอยเวทย์แห่งนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยเป็นที่ 1 ของประเทศ พวกเขาก็ไม่มีทางได้รับความรู้และประสบการณ์ด้านเวทมนตร์เหมือนกับที่นี่ ที่พวกเขาได้รับความรู้อย่างเป็นระบบ
ในโลกที่น่าสะพรึงกลัว ทักษะพิเศษทั้งหมดและความรู้ในการอ่านอักขระถูกผูกขาดโดยจอมเวทย์ เป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์ธรรมดาจะมีสิทธิ์เข้าถึงพวกมัน!
ดังนั้นความรู้และประสบการณ์จะเป็นเหมือนปีกที่จะพาพวกเขาบินไปตามความฝัน ทั้งสองอย่างนี้จะทำให้พวกเขามีอนาคตที่สดใสรออยู่
หลังจากที่อ่านคุณสมบัติพื้นฐาน กริมจึงหันไปสนใจ ‘ทักษะ’ และ ‘ความสามารถเฉพาะ’
กริมมีทักษะเพียง 2 ทักษะ : คัดลอกหนังสือเวทย์ และ อ่านอักขระเวทย์
ทั้ง 2 เป็นทักษะพื้นฐานสำหรับนักเวทย์ขั้นต้น
หนึ่งในนั้น เขาได้มาจากการคัดลอกหนังสือเวทย์ที่พวกเขาจำเป็นต้องเรียนรู้ และอีกหนึ่งมาจากการฝึกอ่านอักษระ
ถ้าคนธรรมดาแตะต้องหนังสือเวทย์โดยไม่มีทักษะ ‘อ่านอักขระเวทย์’ มันจะทำหพวกเขาสับสนในคำพูดเพราะพลังของอักขระและพวกเขาจะควบคุมร่างกายไม่ได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง มีเพียงนักเวทย์ขั้นต้นที่ได้เข้าร่วมการฝึกฝนจิตใจเพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้ มันทำให้เขาสามารถเข้าถึงความรู้ของเวทมนตร์ที่ซ่อนเอาไว้ในหนังสือเวทย์
ทักษะเดียวที่ขึ้นอยู่ในหมวดหมู่ทักษะเฉพาะคือ ‘ฝ่ามือเปลวเพลิง’ ในรายละเอียดนี้เขารู้เพียงเป็นทักษะโจมตีทางเวทย์ที่กริมเรียนรู้มาในช่วง 6 ปีที่เขาเป็นนักเวทย์ขั้นต้น ฝ่ามือเปลวเพลิงจะสร้างบอลเพลิงขนาดเล็กบนฝ่ามือของเขาและสามารถย่างทุกอย่างที่เข้ามาใกล้
โชคร้ายที่กริมยังเป็นนักเวทย์ขั้นต้นไม่มีทางที่เขาจะสามารถควบคุมเวทย์ได้อย่างสมบูรณ์ ที่เขาสามารถทำได้เนื่องจากมันเป็นธาตุที่เชื่อมต่อกับเขาพอดีและเป็นธาตุที่เขาทำได้ดีที่สุด
และแน่นอนธาตุที่เหมาะกับเขามากที่สุดคือธาตุไฟ!
น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์ของธาตุของแต่ละคนไม่สอดคล้องกันภายในหอคอย อย่างที่ทุกคนรู้จอมเวทย์เอนเดอร์สัน ธาตุของเขาคือความมืดและลม การฝึกของกริมจึงไม่สอดคล้องกับอาจารย์ของเขา มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะขอคำแนะนำจากอาจารย์ของเขา ดังนั้นส่วนมากเขาต้องพึ่งพาตัวเองและตั้งใจเรียนอย่างหนัก
ในความเป็นจริงปัญหานี้ทำให้กริมลำบากมาตั้งแต่ที่เขามาถึงโลกใบนี้ แต่ตอนนี้ชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพได้เริ่มทำงานอีกครั้ง กริมเชื่อว่าเขาเชื่อว่าเขาสามารถค้นหาเวทย์ที่เหมาะสมกับตัวเขาได้ไม่กี่วัน
สำหรับ ‘ประสบการณ์ที่ผ่านมา’ กริมเคยอ่านคู่มือแนะนำการใช้งานของชิพ เขาเริ่มเข้าใจพื้นฐานการทำงานเกี่ยวกับมัน ผ่านกระบวนการจัดระเบียบความทรงจำเก่าและความรู้ ชิพความช่วยเหลือทางชีวภาพนี้ได้กลั่นวิธีออกมา 2 วิธีที่จะทำให้เขาพัฒนาและกลายมาเป็นจอมเวทย์
อันดับแรกไม่ต้องสงสัยเลย แต้มSpirit(วิญญาณ)ของเขาต้องไปถึงเกณฑ์ต่ำสุดในการเป็นจอมเวทย์
ตัวอย่างเช่น แต้มวิญญาณของกริมอยู่ที่ 8 นั่นหมายความว่าเขาเป็นคน ‘ฉลาด’ ฉลาดความคนธรรมดา แต่การจะก้าวขึ้นไปเป็นจอมเวทย์ที่แท้จริง เขาจำเป็นต้องมีแต้มวิญญาณถึง 21 เขายังมีช่องว่างอีก 13 แต้ม นี่เป็นวิธีที่ไม่เร่งรีบ เขาต้องอ่านหนังสือเวทมนตร์กองเท่าภูเขาถึงจะขึ้นไปถึงระดับนั้น
อันดับสอง ค่า ‘ประสบการณ์’ ของเขาถึงไปถึงจุดๆหนึ่ง
นี่หมายความว่าหลังจากที่กริมเพิ่มแต้มวิญญาณจนถึง 21 เขายังจำเป็นต้องทำบางอย่างเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ของเขาจนถึงระดับที่สูงที่สุด นั่นเป็นอีกทางที่จะพาเขาก้าวขึ้นไป เขาจำเป็นต้องทำทั้งสองอย่างจึงจะกลายมาเป็นจอมเวทย์
มีหลายวิธีที่จะได้รับค่าประสบการณ์ ยกตัวอย่างเช่น การคัดลอกหนังสือเวทย์ การอ่านอักขระเวทย์ การใช้เวลาในการฝึกฝนเวทย์ การประดิษฐ์ไม้เท้าเวทมนตร์ การตรวจสอบอุปกรณ์เวทย์…..ในเวลาสั้นๆ ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ที่สั่งสมมาทั้งหมดทำให้กริมได้รับค่าประสบการณ์
มีเพียงการทดลองที่สำเร็จหรือการเข้าใจเวทมนตร์อย่างแท้จริงถึงจะทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์ หลังจากที่กริมอ่านและทำความเข้าใจหนังสือเวทย์ที่ใช้งานกันในโลกใบนี้ ถ้าเขาอ่านหนังสือเวทย์แต่ยังไม่เข้าใจความรู้ที่ได้รับมา เขาจะพัฒนาขึ้นมั้ย?
พูดง่ายกว่าทำเสมอ แม้ว่าจะมีการช่วยจากชิพการช่วยเหลือทางชีวภาพ กริมยังคงต้องทำงานหนักเพื่อสิ่งที่เขาต้องการ
เทื่อกริมเลิกคิดเพ้อฝัน มีเสียงเท้ามาจากทางเดินด้านนอกประตูของห้องเขา
“กริม เร็วเข้า ถึงเวลาทำงานแล้ว!” เสียงที่หยาบกระด้างดังมาจากด้านนอกประตูของเขา
นั่นคือโทนี่ เป็นนักเวทย์ขั้นต้นที่อยู่ในระดับเดียวกับกริม
นักเวทย์ขั้นต้นระดับล่างแบบพวกเขาต้องตรวจสอบรอบๆหอคอยทุกๆ 7 วัน เพื่อหาวัตถุดิบเวทมนตร์และเก็บเกี่ยวพวกมัน นี่เป็นหนึ่งในงานประจำที่อาจารย์ได้มอบให้กับนักเวทย์ขั้นต้น
กริมที่รีบเก็บกวาดห้องของเขาก่อนจะคว้าเสื้อคลุมสีดำที่แขวนอยู่บนกำแพง เปิดประตูและออกจากห้องไป
โทนี่มีไหล่ที่กว้าง ตัวสูงใหญ่ มีใบหน้าดุร้ายและบนหัวมีผมหยักศกยาวลงมา ทั้งหมดทำให้เขาดูเหมือนชนเผ่าบาบาเรี่ยน มีคนบอกว่าเขามาจากอาณาจักรกริมม์ ไฮแลนด์ ตามข่าวลือผู้คนที่เกิดที่นั่นมีเชื่อสายของบาบาเรี่ยน
ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันเมื่อเจอกันภายนอก พวกเขาพยักหน้าอย่าง่ายๆ และหันกลับไปเดินตามทางเดินมืดตรงไปทางบันได
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นตอนกลางวันพวกเขาก็ไม่ได้พบกับนักเวทย์ขั้นต้นคนอื่นๆตลอดทาง มีนักเวทย์ขั้นต้นเกินกว่า 50 คนอยู่ที่หอคอยนี้ แต่ส่วนมากนักเวทย์ขั้นต้นจะยุ่งอยู่กับการฝึกฝนเวทมนตร์หรือการทดลองเวทย์แปลกๆ พวกเขาแทบจะไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ
นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำไมหอคอยที่แออัดนี้มักจะเงียบอยู่ตลอดเวลา
หลังจากที่ผ่านทางเดินที่ยาวและบันไดเกลียวพวกเขามาถึงห้องโถงใหญ่ที่ชั้นแรกของหอคอย ที่นี่พวกเขาพบผู้คนมากมาย
นั่นเป็นเพราะว่าที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของนักเวทย์ฝึกหัด
ส่วนใหญ่คนที่อยู่ที่นี่จะเป็นเด็กอายุ 8-14 ปี มีประมาณ 20 คน
เหล่าเด็กเล็กๆนี้มาจากทั่วทุกแห่งและพวกเขาฝันว่าจะเป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเส้นทางของการเป็นจอมเวทย์นั้นทั้งยากลำบากและน่ากลัวอย่างมากและนั่นเป็นเส้นทางที่รอเขาอยู่ในอนาคต
อันที่จริงแล้วมีการแยกเด็กบางส่วนออกจากกัน โดยทั่วไปแล้วเด็กส่วนใหญ่จะมีแต้มวิญญาณอยู่ที่ 3-5 แต้ม ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่เป็นนักเวทย์ขั้นต้นอย่างแท้จริงและพวกเขาถูกเรียกว่าเป็นนักเวทย์ฝึกหัดเท่านั้น
นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนต้องจบการฝึกขั้นพื้นฐานในด้านภาษาและการเขียน พวกเขาสามารถพัฒนาได้เมื่อพวกเขาสามารถสัมผัสกับธาตุที่เข้ากับตัวเองได้มากที่สุดและรวบรวมธาตุเหล่านั้นในขณะที่นั่งสมาธิอยู่ กลังจากนั้นจะมีคนที่ได้ขึ้นไปสู่ชั้นที่ 2 และกลายมาเป็นนักเวทย์ขั้นต้นอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าคนเหล่านั้นไม่สามารถเข้าถึงขั้นพื้นฐานได้ พวกเขาจะถูกกำจัดออก
การช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ในการทำสมาธิ การสอนภาษาให้พวกเขาและสอนเขียนอักขระจนถึงการสอนกฏพื้นฐานในโลกเวทมนตร์….แน่นอนมันเป็นไปไม่ได้ที่จอมเวทย์จะมาทำงานชั้นต่ำแบบนี้ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับนักเวทย์ขั้นต้นในหอคอยแห่งนี้
แต่งานง่ายเหล่านี้ไม่ตกมาถึงมือของกริม
หลังจากที่คุยกับวอลเลตซึ่งกำลังสอนนักเวทย์ฝึกหัดในเรื่องการใช้ภาษา พวกเขาทั้งสองเดินไปพร้อมกับสายตาที่ลุกโชนด้วยความอิจฉาและตรงไปที่ห้องโถงหลักและเดินไปที่ประตูหินที่ปิดสนิท
โทนี่ใช้มือขวาวางบนประตูหินและพูดว่า “คูรัม-อดา”
หลังจากที่ร่ายเวทย์ลับเสร็จสิ้น ประตูโบราณค่อยๆเลื่อนเปิดทั้งสองข้าง เผยให้เห็นความมืดที่น่าขนลุกด้านนอกหอคอยที่พวกเขาทั้งสองกำลังไป
***************************
ไปติดตามข่าวสารกันได้ในเพจนะครับ
นักแปลคนเก่าทักมาในเพจด้วยนะครับ รออยู่
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป