I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

True Martial World ตอนที่ ตอนที่ 10 : ร่างกายรู้สึกประหลาด

| True Martial World | 919 | 2339 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

เมื่อเห็นแขกไม่ได้รับเชิญ อี้หวินขมวดคิ้วมันเป็นคนที่เขาขัดแย้งด้วยตอนรับของปันส่วนเขาชื่อเจาเทจู

“ต้องการอะไร?” เมื่อเห็นเจาเทจู โผล่พรวดเข้ามาเจียงเซียวโยรว ถึงกับตึงเครียด นางสอดมือเข้าใต้ผ้าห่ม แอบคว้าลูกศรที่ซ่อนอยู่ในนั้น

“เฮ้ สาวน้อย ไม่ต้องวิตก ข้ามาธุระที่นี่นายน้อยเหลียน กักตนฝึกวิชาแล้ว มีกำหนด 3 เดือน เพื่อก้าวผ่านสู่ระดับนักรบโลหิตม่วง เตรียมความพร้อมสำหรับการคัดเลือก ผู้ฝึกยุทธของอาณาจักรไทอาอันศักดิ์สิทธิ์ ท่านผู้ดูแลมีคำสั่งให้ทุกคนในเผ่าไปเก็บสมุนไพรที่ภูเขาสำหรับ ให้นายน้อยเหลียนแช่ตัว! แต่ละคนต้องเก็บให้ได้ 8 ออนซ์ ทุกวัน!”

“เก็บสมุนไพร? แช่ตัว?” อี้หวินจำได้ เขาตกหน้าผาลงมา “ตาย”

ขณะเก็บสมุนไพร ดูเหมือนเป็นสมุนไพรสำหรับผู้ฝึกยุทธแช่ตัว น่าสมเพช ผู้เยาว์ที่ต้องเก็บสมุนไพรเพื่อคนอื่นแล้วตกลงมาตาย โดยไร้ค่าตอบแทน แม้ของปันส่วนก็ถูกระงับ

“สมุนไพร 8 ออนซ์ ต่อคนต่อวัน? จะเป็นไปได้?” เจียงเซียวโยรวร้อนรน

“นอกจากนี้ หากพวกเราต้องหาสมุนไพรแล้วจะมีเวลาที่ไหนต้องทำลูกศร? หากไม่มีมัน จะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนของปันผลกับเผ่าใหญ่ งั้นพวกเรา ต้องอดตายแล้ว!”

“ฮ่าๆๆ! เจ้ายังคิดถึงการแลกของปันส่วนอยู่อีก? เมื่อนายน้อยเหลียน เลื่อนระดับเป็น นักรบโลหิตม่วง และได้รับเลือกจากอาณาจักรไทอาอันศักดิ์สิทธิ์ เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องแลกของปันส่วนอีกแล้ว พวกเราทุกคนจะได้ย้ายเข้าไปในเมือง และ เมื่อนั้นข้ารับรองได้ว่า เจ้าจะได้กินและดื่ม อย่างเพียงพอ!”

บุรุษผู้นั้นกล่าวอย่างประชดประชัน ขณะมองเจียงเซียวโยรว ด้วยความอยากได้ เป็นลูกไก่น้อยๆที่งดงาม หากเวลานั้นมาถึงได้กินดีอยู่ดี นางจะกลายเป็นสาวงามอย่างแน่นอน

“น้องชายข้า ได้รับบาดเจ็บตอนเก็บสมุนไพรคราวก่อน ยังไม่หายดี แต่เจ้ายืนยันจะให้เขาไปเก็บสมุนไพร เจ้าต้องการชีวิตเขาจริงๆ?”

เจียงเซียวโยรว กล่าวด้วยเสียงสะท้าน อี้หวินเดิมทีตกหน้าผาลงมาตาย และเพิ่งกับคืนชีพร่างกายของเขายังอ่อนแอ ส่งเขาไปเก็บสมุนไพรอีกครั้งเท่ากับส่งเขาไปตาย!

นอกจากนี้ สมุนไพรที่เก็บได้ก็ไม่มีประโยชน์ต่อพวกนางเลย สมุนไพรทั้งหมด ต้องส่งมอบให้กับเผ่าโดยไร้ค่าตอบแทน!

บุรุษผู้นั้น ได้ฟังคำของเจียงเซียวโยรว ก็หัวเราะอย่างเย้ยหยัน

“ชีวิตของผู้คนหรือจะเทียบได้กับความรุ่งโรจน์ของเผ่าได้!”

“ตราบเท่าที่นายน้อยเหลียนยกระดับเป็น นักรบโลหิตม่วง และได้รับเลือกโดยอาณาจักรไทอาอันศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นประโยชน์ต่อชนรุ่นหลังและปกป้องชนเผ่าของพวกเราได้ไปอีกหลายร้อยปี บันทึกประวัติศาสตร์ชนเผ่าจะบันทึก เกียรติประวัตินี้เป็นความดีความชอบของเจ้า!”

“เพื่อผลประโยชน์ของชนรุ่นต่อไป แต่เจ้าเอาแต่ทุ่มเถียง แน่ใจนะว่าไม่ชื่นชมมัน!”

“นอกจากนี้ท่านผู้ดูแลได้มีคำสั่ง เศษเหลือของสมุนไพรหลังจากการต้ม เจ้าจะได้รับคืนใช้แช่ตัวเพื่อบำรุงร่างกายทำให้ กระปรี้กระเปร่าได้ เมื่อก่อนเศษพวกนี้ถูกสงวนไว้เฉพาะค่ายฝึกยุทธ”

ขณะที่บุรุษผู้นั้นกล่าวคำพูดพวกนี้ เจียงเซียวโยรว กำลูกศรในมือไว้แน่นจนนิ้วมือขาว

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกข้า ไม่สามารถเก็บได้ตามจำนวน?”

“ไม่สามารถทำได้?” ใบหน้าบุรุษผู้นั้นเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“ฮึ! เผ่าไม่ใช่ถังขยะหลังบ้าน หากเก็บสมุนไพรไม่ได้เจ้ายังมีสิทธิกิน? หากเก็บไม่ได้ตามจำนวน ของปันส่วนที่ได้รับจะถูกยึด ยังมีคนอีกมากที่ยังรอคอยอาหารนั่น!”

บุรุษผู้นั้นกล่าวและเหลือบมองไปที่อี้หวินที่กำลังนอนอยู่บนเตียง

เขาจำได้อี้หวินทำให้เขามีปัญหาต่อหน้าฝูงชน เหลียนเชิงอวี๋ ตำหนิเขาเป็นผู้ไร้ความสามารถในขณะกำลังแจกจ่ายของปันส่วน

ใจของเจาเทจู ลุกโชนด้วยความโกรธ

“ไอ้หนูหยุดแกล้งตายได้แล้ว ข้าได้ยินว่าเจ้าบาดเจ็บมาให้ข้าเห็นว่าเจ้าเจ็บตรงไหน”

บุรุษผู้นั้นยื่นมือไปคว้าอี้หวิน! เขาจงใจพยายามทำให้อี้หวินต้องทรมาน ดังนั้นเขาจึงคว้าด้วยความรุนแรงอย่างมาก

อี้หวินต้องการหลบการโจมตีอย่างฉับพลันนั้น แต่เขารู้สึกราวกับว่าโลกชะลอตัวลงในสายตาของเขา ความดุร้ายและการกระทำของบุรุษผู้นั้น ชัดเจนในสายตา รวมทั้งใบหน้าอันเปี่ยมไปด้วยความกังวลของ เจียงเซียวโยรว เขาเห็นลูกศรในมือนางใต้ผ้าห่มรู้สึกเหมือน ”เวลา” ถูกแช่แข็ง เสียงและอากาศดูเหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ทุกอย่างอี้หวินรับรู้อย่างชัดเจน เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างชะลอลง ความรู้สึกเย็น อันรู้สึกได้ชัดเจนไหลมาจากผลึกม่วง

ผลึกม่วง?

ความรู้สึกเย็นจากผลึกม่วง สั่นสะเทือนร่างกายของอี้หวิน!

 

อี้หวินรู้สึกได้ในทันทีว่าเขาสามารถหลบ ฉกลูกศรของเจียงเซียวโยรวลุกขึ้น และเสียบลูกศรไปที่คอบุรุษผู้นั้น ฆ่าเขา! มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงมโนภาพนั้นร่างกายของเขาเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบกระตุ้นให้เขาอยากลอง แต่สุดท้าย เขาก็ตัดสินใจต่อต้านมัน ยังไม่ถึงเวลาเปิดศึกกับชนเผ่าตระกูลเหลียน เพียงแค่ก่อกวนฝูงชน ก็นำไปสู่ การลอบสังหารของ เหลียนเชิงอวี๋

หากเขาฆ่าหรือทำร้ายผู้ฝึกยุทธของเผ่า ผลที่ได้จะรุนแรงมาก  ไอ้หนูที่อ่อนแอราวกับแมลงวัน ฆ่าหนึ่งในสมาชิกของค่ายฝึกยุทธได้อย่างไร? นี่จะไม่ได้รับความสนใจจากชนชั้นปกครองของเผ่า? ไม่มีทางที่เขาจะอธิบายที่มาของพลังได้! งั้นก็ให้ เจาเทจู จับเขาได้แล้วถอยกลับไปเองดีกว่า ดังนั้นเจาเทจูจึงทำได้เพียง ข่วนถูกผิวกับกระชากคอเสื้อเขาเท่านั้น

เดิมทีเจาเทจูต้องการเล่นงานอี้หวิน คาดไม่ถึงว่ากลับพลาด เมื่ออี้หวินหดตัวไปข้างหลัง! หากเขาลงมืออีกคงเสียหน้า ด้วยความไม่พอใจ เขาจับอี้หวินขึ้นแล้วโยนกลับลงบนเตียง

“ดูเหมือนลิงน้อยนี่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร! พรุ่งนี้ตอนตะวันตกดิน ต้องส่งมอบสมุนไพร ทุกหนึ่งออนซ์ที่หายไป ของปันส่วน 10 ปอนด์ จะถูกยึด!”   กล่าวจบเจาเทจู ก็เดินออกและจากไป

“หวินเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรนะ?” เจียงเซียวโยรวถามอย่างกังวล

แต่ อี้หวิน ไม่ได้พูดอะไรซักคำ ความรู้สึกในเวลานั้นมันคืออะไร? ผู้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีอย่างเจาเทจูเคลื่อนไหวได้ช้าเป็นเต่า เมื่ออยู่ตรงหน้าเขา หากอี้หวินมีเจตนาฆ่าก็ทำสำเร็จ เป็นเพราะเจาเทจู สมองเสื่อมกระทันหัน……..หรือว่า ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้น? อาจเป็น…..ร่างกายข้า?

“พี่เซียวโยรว บอกอีกครั้งได้ไหม ข้าเป็นบุรุษชั้นที่เท่าไร?”

อี้หวินตระหนักถึงบางสิ่งอย่างไม่สบอารมณ์ จึงร้องถาม เจียงเซียวโยรว

“ทำไมถามอย่างนั้นเล่า หวินเอ๋อร์ ที่ผ่านมาเจ้าไม่มีชั้น แม้แต่ บุรุษชั้นห้าที่อ่อนแอที่สุดยังต้องยกน้ำหนักได้ 100 ปอนด์ หวินเอ๋อร์ เจ้ายกได้เพียง 30 ปอนด์”

“ 30 ปอนด์ ฮะ……” อี้หวินพูดไม่ออก ในเผ่าตระกูลเหลียน

การยกน้ำหนักต้องยกขึ้นสูงเหนือหัว 30 ปอนด์ เทียบได้กับถุงข้าว เจ้าเด็กอ่อนแอนี่ยังยกไม่ขึ้น

“เผ่าเก็บหินยกน้ำหนักไว้ที่ไหน?” อี้หวินถาม

“ด้านหลังของหมู่บ้าน ที่ลานฝึกยุทธ เจ้าถามทำไม หวินเอ๋อร์?”

“ไม่มีอะไร” อี้หวินยิ้ม

“ท่านนอนแต่หัวค่ำกับเถอะ พรุ่งนี้เรายังต้องไปเก็บสมุนไพร”

ในยามค่ำคืนบนท้องฟ้าอันมืดมิด เต็มไปด้วยหมู่ดาวสว่างไสวจำนวนมาก ยุคนี้ไร้ซึ่งไฟส่องสว่างตามถนน และผู้ยากไร้ก็ไม่เต็มใจจะใช้ตะเกียงน้ำมันของพวกเขา ดังนั้นทั้งหมู่บ้านชนเผ่าตระกูลเหลียนจึงมืดสนิท

ลานฝึกยุทธหลังหมู่บ้านเป็นลานกว้าง ปกติสมาชิกในค่ายฝึกยุทธ มาฝึกกันที่นี่ มีเงาร่างสายหนึ่งลักลอบเข้ามาที่ลานฝึกยุทธมองไปรอบๆ ในความมืดของค่ำคืน

“เจอแล้ว!” อี้หวินร้องด้วยความยินดี

เจียงเซียวโยรว อธิบายให้ฟังไว้ว่า มีแถวของหินยกน้ำหนักอยู่ในบริเวณลานฝึกยุทธ ตั้งแต่ 20 ปอนด์ ไปถึง 300 ปอนด์ มีไปจนถึง 500 ปอนด์ และ 1000 ปอนด์ ทั้งแบบคานยกและลูกกลิ้ง อี้หวินมาที่เพื่อทดสอบความแข็งแรง!

เขาต้องการรู้ ร่างกายเขามีอะไรเปลี่ยนแปลง……..

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments