I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

True Martial World ตอนที่ ตอนที่ 9 : ร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างอัศจรรย์

| True Martial World | 1313 | 2369 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ความแข็งทื่อกระจายมากขึ้น แขนขาของอี้หวินเริ่มขยับไม่ได้แล้ว ท้องและหัวของเขาเริ่มไร้ความรู้สึก เขาไม่สามารถพูด เห็น หรือได้ยิน

 

เขารู้สึกเพียงใบหน้าเปียกด้วยน้ำตา

 

น้ำตาของเจียงเซียวโยรว นางร้องตะโกนด้วยพลังทั้งหมดในชีวิต แต่อี้หวินเห็นปากของนางขยับเขยื้อนเพียงรางๆ กับเสียงยืดยานและไม่ชัดเจน!

 

อี้หวินไม่อาจทนไหวอีกแล้ว ด้วยความมุ่งมั่น เขาใช้กำลังทั้งหมดที่ยังเหลือพยายามขยับลิ้นที่แข็ง พูดว่า

 

“เหลียน…เหลียนเชิงอวี๋…”

 

แม้ว่าเสียงของอี้หวินจะไม่ชัดเจน เจียงเซียวโยรวก็ยังสามารถถอดความได้

 

“เหลียนเชิงอวี๋? เหลียนเชิงอวี๋ทำร้ายเจ้า?”

 

ทว่าอี้หวินไม่สามารถพูดได้อีกแล้ว เขารู้สึกเหมือนเป็นศพ

 

ความแข็งชาแพร่กระจายไปยังหัวใจ หากหัวใจเขาแข็งชาและหยุดเต้น ชีวิตก็จบสิ้น!

 

อี้หวินรู้สึกเหมือนปลาถูกตากแห้งทั้งเป็น เขาไม่สามารถเคลื่อนไหว และเริ่มหายใจไม่ออก ทั้งหมดนี้ทำได้อย่างเดียวคือรอความตาย

 

โดยไม่คาดคิด เพียงความรู้สึกแข็งชาแพร่กระจายไปที่หัวใจ

 

เขาก็รู้สึก ถึงความเย็นที่ค่อยๆแผ่ซ่าน ความเย็นที่สวยงามและคุ้นเคย เหมือนน้ำบริสุทธิ์จากฤดูใบไม้ผลิ กำลังชำระล้างร่างกายของเขา!

 

ผลึกม่วง! อี้หวินเปรมปรีดิ์ มันเป็นความรู้สึกจากผลึกม่วง ในช่วงเวลาอันเลวร้าย เขามักจะรู้สึกถึงผลึกม่วง! ร่างกายของเขาโดนความแข็งชาเข้าควบคุมไปทั่ว แต่เป็นคราวเคราะห์ของมันที่มาถึงหัวใจของเขา เขาเก็บผลึกม่วงไว้ในอกเสื้อใกล้กับหัวใจเสมอ แค่ผลึกม่วงทำงาน

 

อี้หวินรู้สึกเหมือนมีวังวนเล็กๆในหัวใจ นอกจากวังวนเล็กๆนี้ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่…..

 

“ฟ้าว!”

 

โดยปราศจากการต่อต้าน เขารู้สึกว่าร่างกายเต็มไปด้วยแสง

 

ผลึกม่วงส่งพลังงานทั้งหมดเข้าสู่เส้นลมปราณของเขา ทุกๆความแข็งชาสลายไป

 

เขารู้ทันทีว่าเขาเป็นปกติแล้ว สามารถเคลื่อนไหวแขนขาและไม่พบว่ามีสิ่งผิดปรกติใดๆ เขาเหงื่อท่วมเนื่องจากความกังวล

 

หายแล้ว? อี้หวินไม่อยากเชื่อ แค่ผลึกม่วงทำงาน เขาก็หาย ภายในไม่กี่วินาที!

 

นี่….

 

ผลึกม่วง ทำให้ใจของอี้หวินไร้คำพูด

 

ผลึกม่วงมันคืออะไรกันแน่?

 

“หวินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรบ้าง อย่าทำให้ข้ากลัว!”

 

เดิมทีเจียงเซียวโยรว เห็นร่างกายของอี้หวินแข็งชาและไม่ไหวติง แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขาดูงุนงง ทำให้นางวิตกอย่างมาก

 

“ข้าสบายดี พี่เซียวโยรว ข้า….หายดีแล้ว….”

 

อี้หวินกล่าวเพียงแค่นั้น เขาก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปรกติ เพียงจบประโยคสุดท้าย เขารู้สึกปั่นป่วนในท้อง

 

“อ๊อก!” โดยไม่มีคำเตือน อาการคลื่นไส้อย่างมาก ทำให้เขาอาเจียนออกมา ก่อนหน้านี้ เนื่องจากกระเพาะว่างเปล่า เขาอาเจียน เพียงน้ำย่อยในกระเพาะเท่านั้น

 

แต่เวลานี้ มันไม่ใช่อย่างนั้น เขาอาเจียนออกมาเป็นลิ่มเลือด สีดำกลิ่นเหม็นหืน!

 

สิ่งนี้ทำเจียงเซียวโยรวตื่นตระหนก ในโลกแห่งนี้การอาเจียน แบบนี้ เท่ากับการประกาศโทษประหาร

 

อี้หวินอาเจียนไม่หยุด นอกจากอาเจียนเขาหลั่งเหงื่อที่ทั้งเหม็นและเหนียวออกมาด้วย มันคล้ายโคลนสีดำ

 

เมื่อเห็นอี้หวินทั้งหลั่งเหงื่อและอาเจียน เจียงเซียวโยรวก็มิได้ สะทกสะท้านกับกลิ่นเหม็นที่เต็มบ้านไปหมด นางตะเกียกตะกาย เช็ดปากและลูบหลังของเขา

 

“หวินเอ๋อร์ หวินเอ๋อร์ อย่าทำให้ข้ากลัว เจ้าเป็นอะไรไป? เจ้าเป็นอะไรไป?”

 

เสียงของเจียงเซียวโยรวสั่นด้วยความกลัว

 

อี้หวินไม่มีโอกาสตอบ จนเมื่อเขาอาเจียนเลือดสีดำออกมาหมด

 

ก็แปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกอ่อนเพลีย แต่กลับรู้สึกดีขึ้นมาก

 

นอกจากท้องว่างและหิวมากเขารู้สึกสดชื่น อี้หวินรู้สึกหิวราวกับจะกินแกะ และหมูย่างทั้งตัวได้หมด ถ้ามันวางไว้ตรงหน้า

 

“พี่ ข้าสบายดีแล้ว ข้าเพียงแค่หิวและ… ข้าอยากอาบน้ำ”

 

เหงื่อทั้งเหนียวทั้งเหม็นยึดติดร่างเหมือนเปลือกโคลนเหนียว ให้ความรู้สึกตะครั่นตะครอ

 

“หวินเอ๋อร์ เจ้าหิวหรือ?”

 

เมื่อได้ยินอี้หวินพูด เจียงเซียวโยรว ยินดีเป็นที่สุด

 

ในยุคโบราณสุขภาพวัดได้จากความสามารถที่จะกิน มันไม่สำคัญว่า “เหลียนปอ(หนึ่งในสี่ขุนพลยุคชุนชิว)จะแก่ ความอยากอาหารจะแก่ตามหรือไม่?” หรือ เป้าหมายของจูกัดเหลียง ที่ยับยั้งศัตรู ด้วยท่าทางเจริญอาหาร ทั้งสองอย่างให้ความหมายอย่างเดียวคือ ความอยากอาหาร เป็นเครื่องหมายของสุขภาพ เกณฑ์นี้ถูกนำมาอ้างอิง

 

เจียงเซียวโยรวเช็ดน้ำตา และรีบวิ่งไปเตรียมอาหาร ระหว่างกำลังต้มโจ๊ก นางเตรียมน้ำอาบ และทำความสะอาดอาเจียนของอี้หวิน

 

อี้หวินอาบน้ำอย่างสบายเหมือนไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน มีสิ่งแปลกเกิดขึ้น หลังจากอาบน้ำ เขารู้สึกว่าสายตาดีขึ้น มองเห็นหยดน้ำบนต้นไม้ที่ห่างออกไปเกือบ 8 เมตรได้ถนัดชัดเจน

 

โอ้? อี้หวินตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก่อนที่เขาจะคิดถึงมัน เขาได้ยินเสียง เจียงเซียวโยรวตะโกน

 

“โจ๊กเรียบร้อยแล้ว หวินเอ๋อร์ มากินเถอะ!”

 

“คร้าบ!” อี้หวินได้กลิ่นหอมๆของโจ๊กข้าว

 

มหัศจรรย์!

 

โจ๊กข้าวที่เขากลืนอย่างยากลำบากในอดีต หวานและรสชาติดีมาก

 

อี้หวินจัดการโจ๊กข้าวไปสองชามใหญ่ และเขารู้สึกได้ถึงมันขณะกำลังถูกย่อยอยู่ในกระเพาะ เขายังคงหิว หลังจากจัดการโจ๊กไปแล้วสองชามใหญ่ แต่เขาก็รู้สึกสดชื่นและมีพลัง

 

“หวินเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”

 

ข้างๆอี้หวิน เจียงเซียวโยรว มองดูเขากิน โดยไม่ได้กินด้วย นางคาดหวังว่า หวินเอ๋อร์ของนางจะดีขึ้นจริงๆ!

 

ถึงเจียงเซียวโยรวจะไม่ใช่หมอ แต่นางก็รู้ว่าการรักษาเป็นเรื่อง เกี่ยวกับการระบายเลือดลม

 

เมื่อคิดอย่างรอบคอบ การที่อี้หวินอาเจียนอาจเป็นสภาพที่น่ากลัว แต่เขาไม่ได้อาเจียนเป็นเลือดสดๆ แต่เป็นเลือดสีดำ ที่คั่งอยู่ในกระเพาะของเขา อาจจะดีที่เขาอาเจียนเลือดที่คั่งนั้นออกมา

 

นอกจากนี้เหงื่อที่ออกจากร่างกายของอี้หวินก็สกปรกมาก อาเจียนเลือดคั่งค้าง หลั่งเหงื่อสกปรกออกมา

 

สวรรค์คงไม่หลอกหวินเอ๋อร์นะ?

 

“พี่ ข้าสบายดี ไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อน….”

 

ก่อนอี้หวินจะพูดจบประโยค เขาก็รู้สึกถึงร่างกายอันอ่อนนุ่มกอดเขาไว้

 

“ดีจริงๆ ที่เจ้าหายแล้ว เจ้าทำข้ากลัว….” เจียงเซียวโยรว พูดเบาๆ

 

ในดินแดนรอบนอก ที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟัน การละเมิด และความตาย พวกเขามีกันอยู่แค่สองคนพี่น้องเท่านั้น นางกอดอี้หวินไว้แน่นราวกับกลัวว่าหากปล่อยนางจะสูญเสียเขาไป

 

หลังจากกอดเขาอย่างยาวนาน เจียงเซียวโยรวเช็ดน้ำตาและตรวจอี้หวินอย่างละเอียดละอ่อนหลังจากเป็นที่พอใจแล้วว่าเขาไม่เป็นไร นางก็พูดว่า

 

“ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถึงชื่อเหลียนเชิงอวี๋  เป็นเหลียงเชิงอวี๋ที่ทำร้ายเจ้า?”

 

อี้หวินลังเลชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้า

 

“พี่เซียวโยรว ข้าคิดว่า เหลียนเชิงอวี๋สนใจท่าน!”

 

คำพูดของอี้หวินทำ เจียงเซียวโยรวอาย

 

“เจ้ายังเด็กอย่าพูดเรื่องไร้สาระ”

 

มันแปลกสำหรับเด็กอายุ 12 ปี ที่จะพูดแบบนั้น

 

“เหลียนเชิงอวี๋ชาติชั่วเกินไปแล้ว!”

 

เจียงเซียวโยรวขบกราม ขณะพูดขึ้นมา แต่นางไร้อำนาจต่อต้าน เขาแข็งแกร่งเกินไป เขาควบคุมผู้ฝึกยุทธทั้งหมดในค่ายฝึกยุทธ

 

“ปัง!”

 

ทันใด มีเสียงดังเกิดขึ้น

 

เจียงเซียวโยรวรีบลุกขึ้น หันไปมองประตูบ้านที่ถูกเตะเปิดออก

 

บุรุษร่างกายกำยำก้าวเข้ามา……

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments