Chapter 27 The Korean Arena Research Center (1)
 
 
 
 
 11 A.M.
 
 
 
 ผมรับโทรศัพท์ทันที.
 
 
 
 -นั่นใช่มิสเตอร์ ฮยอนโฮคิม ไหม?
 
 
 
 “คุณเป็นใคร?”
 
 
 
 -ผมเป็นพนักงานวิจัย.
 
 
 
 จากคำพูดของเขา เขาเอาใจใส่อย่างมาก มันเป็นศูนย์วิจัย อารีน่า เกาหลี .
 
 
 
 -ผมมาชอยนันแล้วเพื่อพาคุณฮยอนโฮและคุณคังจุนชอย.
 
 
 
 “ผมยังไม่ได้รับการติดต่อจากจุนชอยเพราะงั้นรอสักครู่.”
 
 
 
 -ผมจะรออยู่ใกล้ๆที่พักคุณเพราะงั้นโปรดโทรหาผมเมื่อได้รับข้อความจากเขา.
 
 
 
 “ครับ.”
 
 
 
 เธอบอกว่าเธอจะส่งรถไปรับสมาชิกที่เหลือและเธอก็ทำตามจริงๆ ไม่เพียงแค่นั้น มันยังเร็วและยังรอได้ พวกเขาทุ่มเทจริงๆ.
 
 
 
 พนักงานของประเทศที่กำลังค้นคว้าข้อมูลของอารีน่าต้องทุ่มเทหัวใจและจิตวิญญาณอย่างมากในการค้นหาผู้เข้าสอบ
 
 
 
 ‘ถ้าฉันเล่นตัวและไปศูนย์วิจัยอื่นฉันอาจจะได้รับข้อเสนอดีกว่านี้ ดีไม่ดี ฉันอาจจะได้รับความหรูหราเป็นอย่างมากในเวลาที่เหลือ และฉันชอบที่จะอยู่เกาหลีมากกว่าประเทศอื่นๆ.’
 
 
 
 มันน่าสนใจ
 
 
 
 ผมไม่รู้ว่ามันมีสถาบันแห่งชาติ แต่ต้องตระหนักว่าพวกเขาค้นหาผู้แข่งขันเขาศูนย์เหมือนกับคัดเลือกทีมชาติฟุตบอล.
 
 
 
 3rd, 4th, 5th…
 
 
 
 ถ้าผมยังมีชีวิตต่อไปและคงเข้มแข็งขึ้นสถาบันอื่นๆของรัฐอาจจะเสนอเงินมากขึ้นและพยายามที่จะเอาตัวผมไปให้ได้
 
 
 
 จินตนาการว่ามีหลายประเทศพยายามเอาเงินเข้ากระเป๋าผมและคนอื่นๆก็พยายามที่จะเอาชนะผมด้วยข้อเสนอที่มากกว่า แค่คิดเกี่ยวกับมันผมก็รู้สึกดีอย่างเหลือเชื่อ.
 
 
 
 แน่นอน สิ่งที่ดีที่สุดคือการรอดชีวิต.
 
 
 
 กริ๊งงงง.
 
 
 
 โทรศัทพ์ของผมดังขึ้นและขึ้นเบอร์ไม่รู้จัก
 
 
 
 “ฮันโหล?”
 
 
 
 -ผมอยู่ที่ชอยนัน.
 
 
 
 “มาที่บ้านผม ผมอยู่ที่…”
 
 
 
 ผมให้ที่อยู่บ้านกับจุนชอย
 
 
 
 หลังจากนั้นผมก็โทรหาพนักงานวิจัย
 
 
 
 “เขาบอกว่าเขาจะได้สิทธิ์มากกว่า.”
 
 
 
 “เข้าใจแล้วฉันจะรออยู่ที่รถด้านหน้า”
 
 
 
 “ใช่ผมกำลังออกไปเดียวนี้.”
 
 
 
 ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปข้างนอกอพาร์ทเมนท์ที่ลานจอดรถมีรถEquusจอดอยู่*. แหม่นี่มันน่าแปลกใจที่เป็นรถที่ดูดีมาก แต่มันมาจากรัฐ พวกเขายังใช้รถของรัฐ.
 
 
 
 (TN: ผมไม่เคยได้ยินว่ามีรถฮุนไดEquus.)
 
 
 
 คนที่ผมกำลังไปหาคือคนที่อายุ30ปลายๆเขาออกมาจากรถและแนะนำตัว
 
 
 
 “คุณคือ คุณคิมฮยอนโฮ?”
 
 
 
 “ใช่ ยินดีที่ได้พบ”
 
 
 
 “เชิญเข้ามาข้างใน.”
 
 
 
 เขาเปิดประตูหลังให้ผม ผมรู้สึกเหมือนกับเป็นVip สักพักจุนชอยก็เข้ามานั่งอยู่ข้างๆผม.
 
 
 
 “เราออกเดินทางได้.”
 
 
 
 **
 
 
 
 ชายที่ขับรถได้ขับเข้ามาจอดที่ฐานทัพใกล้ๆและพาเราไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ ไม่นานหลังจากนั้นก็มีเฮลิคอปเตอร์มาถึงซึ่งเกิดเสียงดังเป็นอย่างมาก.
 
 
 
 ชายคนนั้นชี้ไปที่เฮลิคอปเตอร์
 
 
 
 “โปรดเข้าไปข้างใน.”
 
 
 
 เรากำลังจะไปนรกขุมไหนเนี่ย?
 
 
 
 ผมรู้สึกว่ามันน่าสงสัย แต่ก็เข้าไปที่เฮลิคอปเตอร์พร้อมกับจุนชอยที่กำลังส่งเสียงแปลกๆ.
 
 
 
 เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ผมรู้สึกกระตือรือล้นเป็นอย่างมากและมองไปที่ห้องคนขับว่ามีอะไรบ้างก่อนจะมองไปที่วิวด้านล่าง.
 
 
 
 พลังจากที่เรามาถึงเกาะโดดเดี่ยวและห่างออกไปจากชายฝั่งตะวันตก มันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเห็นอาคารสูง10ชั้นจำนวนสองหลัง.
 
 
 
 ‘เกาะ? สงสัยมันเป็นเพราะว่าไม่สามารถเปิดเผยได้?’
 
 
 
 หลังจากที่ลงจากเฮลิคอปเตอร์แล้วเราก็ได้รับคำแนะนำจากพนักงานให้ไปยังอาคาร.
 
 
 
 “โอปป้า!”
 
 
 
 “ฮยองฮยอนโฮ!”
 
 
 
 เรามาถึงห้องพักรับรองก็ได้พบกับแฮซูและยูนโฮที่รอต้อนรับพวกเรา.
 
 
 
 “พวกคุณมาถึงเฮลิคอปเตอร์ด้วยใช่ไหม?”
 
 
 
 “ใช่.”
 
 
 
 “พวกเขาไม่ตอบอะไร และเพียงแค่บอกว่าขึ้นไป ดังนั้นผมคิดว่าพวกเขาต้องพาผมไปที่ลึกลับมากแน่ๆ”
 
 
 
 ผมสามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจน มันดูเหมือนกับการลักพาตัว
 
 
 
 ผมไม่ค่อยกลัวเท่าไรเพราะว่าผมมากับจุนชอย ถ้าพวกเขาทำอะไรตลกๆพวกเขาจะต้องโดนKOแน่นอน ฮ่าฮ่า
 
 
 
 มันเกิดขึ้นเมื่อพวกเราสี่คนรวมตัวอยู่ในห้องและระหว่างรอเราก็พูดถึงเรื่องพวกนี้
 
 
 
 “คุณมาถึงแล้ว.”
 
 
 
 จีเฮปรากฎขึ้น.
 
 
 
 วันนี้เธอสวมชุดสูทสีเทาและมีเสื้อสูทสีขาวกับรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาล การเดินของเธอค่อยๆเดินเข้ามาทีละก้าวๆโดยไม่เกรงกลัว.
 
 
 
 “ยินดีที่ได้พบ ฉันคือชาจีเฮ จากวันนี้ไปฉันจะเป็นหัวหน้าทีมของคุณ.”
 
 
 
 “คุณหมายถึงถ้าเราเซ็นสัญญาใช่ไหม?”
 
 
 
 “ใช่.”
 
 
 
 ด้วยคำพูดของผมจีเฮมีรอยยิ้มน้อยๆสื่อความหมายพิเศษ.
 
 
 
 “ฉันรู้ว่าคุณได้ผ่านการสอบครั้งที่สองแล้วเหลือเวลากี่วัน?”
 
 
 
 “14วัน การสอบของเราพึ่งจบลงเมื่อวานนี้”
 
 
 
 “คุณโพสต์ออนไลน์ทันทีที่สอบเสร็จ?”
 
 
 
 “ใช่.”
 
 
 
 “คุณเป็นคนที่รอบคอบมาก มันจะเป็นการไม่เพิ่มความเหนื่อล้าและเวลาเหลืออยู่มากกว่าที่ฉันคิด.”
 
 
 
 อ่า จริงจังหน่อยดิ ทำไมหัวใจของผมรู้สึกลอยออกไปเมื่อได้รับการชมจากผู้หญิงคนนี้?
 
 
 
 บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าผมใช้ชีวิตวัยรุ่นโดยไม่มีความสัมพันธ์กับความโรแมนติก หรือว่าเป็นเพราะผมมักจะอ่อนแอต่อสาวสวย?
 
 
 
 “ฉันจะอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับข้อกำหนดสัญญา ศูนย์วิจัยเกาหลีจะช่วยคุณทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอดของคุณโดยไม่คำนึงถึงผลลัพท์และสกิลของคุณ.”
 
 
 
 “คุณหมายความว่าเราจะได้รับการรักษาเหมือนกับทหารผ่านศึกโดยไม่เลือกปฎิบัติ?”
 
 
 
 ผมถาม.
 
 
 
 จีเฮ พงกหัว.
 
 
 
 “ใช่ มันมีข้อจำกัดกับความช่วยเหลือที่เราให้กับคุณอย่างไรก็ตามผลที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณ.”
 
 
 
 “นั่นก็จริง.”
 
 
 
 “คุณผ่านการสอบสองครั้งแล้วและหวังว่าทุกคนจะเติบโตและผ่านการสอบครั้งต่อไปได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการมีชีวิตอยู่.”
 
 
 
 “ถ้าเรากลับมาแล้วเราจะได้เท่าไร?”
 
 
 
 “การจ่ายให้กับเมไจจะขึ้นอยู่กับพลังของเมไจ การจ่ายนี้จะทำเหมือนกันหมดกับผู้เข้าสอบทุกคน ผลต่างคือเงินที่ได้เมื่อต่อปีเท่านั้น.”
 
 
 
 “เราจะได้รับเท่าไร?”
 
 
 
 “เงินที่ได้ไม่ได้ขึ้นกับผลลัพท์และจ่ายแบบทั่วๆไปที่คิดว่าจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ แต่เพื่อกำหนดเงินเราจะต้องรู้ว่าคุณมีความแข็งแกร่งมากน้อยเพียงไหน”
 
 
 
 “หมายความว่าคุณต้องการยืนยันเลเวลสกิลและอุปกรณ์ของเรา?”
 
 
 
 “ใช่.”
 
 
 
 “งั้นก่อนที่มันจะจบเมื่อเราต้องลงนามในสัญญาเราจะต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของเรา นี่ไม่ใช่สัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรอ?เราไม่สามารถติดต่อศูนย์วิจัยของประเทศอื่นๆได้ดังนั้นเราจึงไม่รู้ว่าเงินที่เราจะได้สำหรับสัญญาแบบนี้คือเท่าไหร่.”
 
 
 
 “ด้วยความนับถือเราไม่มีอะไรจะพูดนอกจากให้ไว้ใจเรา ถ้าเรามีความสัมพันธิ์ที่ดีกับผู้เข้าสอบของเรา เราต้องปฎิบัติต่อคุณอย่างถูกต้อง ถ้าเราทำไม่ได้เราจะสูญเสียคนที่มีพรสวรรค์ไปยังประเทศอื่นๆ.”
 
 
 
 “หืมม…”
 
 
 
 ผมรู้สึกว่าไว้ใจผู้หญิงคนนี้ได้ อา อาจจะเป็นเพราะว่าผมแพ้ทางผู้หญิงสวยๆ?
 
 
 
 หลังจากที่ผมคิดผมพูด
 
 
 
 “สำหรับตอนนี้สัญญาจะเป็น 1 ปี”
 
 
 
 “คุณพูดว่า 1 ปี?”
 
 
 
 “ใช่ หลังจาก 1 ปีแล้วถ้าคุณทำให้เราเชื่อถือได้ผมจะต่ออายุสัญญา”
 
 
 
 “อืมม เงินเดือนสามารถคำนวนได้ใหม่ตามสกิลที่คุณมีอยู่ เราได้รับความช่วนเหลือกับฐัลบาลด้วยเช่นกันดังนั้นคุณจะต้องไม่ผิดหวัง.”
 
 
 
 ผมมองรอบๆไปยังคนอื่น แฮซู,ยูนโฮและจุนชอยผงกหัว.
 
 
 
 ผมคุยกับจีเฮ
 
 
 
 “ตกลง”
 
 
 
 จีเฮเอาปากกาและเอกสารออกมาจากกระเป๋าของเธอและแจกจ่ายให้กับเรา
 
 
 
 “กรุณาเขียนสกิลและไอเทม พร้อมกับคาม่าของคุณ ด้วนเหตุผลเหล่านี้มันจะเป็นการกำหนดเงินเดือน.”
 
 
 
 เราเริ่มเขียนมันลงไปในเอกสารของเรา
 
 
 
 เรียกสปิริตเลเวล1,ปืนเวทย์มนต์,ลูกกระสุน,900คาม่า
 
 
 
 จีเฮมองไปในสิ่งที่ผมเขียนและรู้สึกประหลาดใจก่อนจะถามผม
 
 
 
 “เรียกสปิริต?”
 
 
 
 “มีอะไรผิดปกติ?”
 
 
 
 “ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่เคยได้ยินกับผู้เข้าสอบว่ามีการเรียกสปิริต.”
 
 
 
 “แล้วมันพิเศษหรือเปล่า?”
 
 
 
 “ใช่ ผู้เข้าสอบมีสกิลที่ดีขึ้นหลังจากที่รู้จักที่นี่ แต่ยังไม่เคยมีผู้เข้าสอบที่มีสกิลหลักเป็นเรียกสปิริตมาก่อน ยิ่งคุณมีสกิลที่หายากแบบนี้ยิ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการ.”
 
 
 
 “งั่นก็น่าโล่งใจ”
 
 
 
 “แต่ คุณรู้ไหมว่า คุณเขียช่องคาม่าผิดว่ามันเป็น 900?”
 
 
 
 “ไม่ 900คาม่าถูกต้องแล้ว.”
 
 
 
 ใบหน้าของจีเฮกลับกลายเป็นประหลาดใจมากกว่า
 
 
 
 “คุณหมายความว่าคุณได้รับ900คาม่าในการสอบครั้งที่สอง?”
 
 
 
 “ใช่ ไอ้เทวดาสารเลวนั่นมันก็บอกว่านี่เป็นการบันทึกที่ดีที่สุดที่เคยมีมา แต่มันเป็นความจริง?”
 
 
 
 “ใช่ ใช่ มันจะแตกต่างออกไปหากมันเป็นการสอบครั้งที่5 คุณน่าเหลือเชื่อมาก.”
 
 
 
 การได้เห็นใบหน้าตกใจของเธอมันทำให้ผมรู้สึกดี มันเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยเจอมาตลอด29ปี.
 
 
 
 มันไม่ได้เขียนอะไรมากมายนัก แฮซูและยูนโฮก็กลับไปเขียนมันต่อ แจฮีอ่านและไม่ได้ตอบสนอง แต่รู้สึกประหลาดใจกับจุนชอย.
 
 
 
 “คุณจุนชอย คุณได้ให้ข้อมูลผิดๆหรือเปล่า?”
 
 
 
 “ผมไม่ทำอย่างนั้น.”
 
 
 
 “สำหรับคนที่ผ่านการสอบมาเพียง2ครั้ง คุณมีการควบคุมออร่าเลเวล4และความแข็งแรงทางกาบภาพปานกลางเลเวล1 มันเป็นไปไม่ได้…”
 
 
 
 “แล้ว?”
 
 
 
 การแสดงออกของจุนชอยเริ่มน่ากลัวขึ้น.
 
 
 
 ผมรีบเข้ามาแทรกแซง
 
 
 
 “เขาเคยเป็นนักสู้ที่มีฝีมือมาก่อนจริงๆ.”
 
 
 
 “… เข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตามฉันจะกลับมาหลังจากประเมิณเรียบร้อยแล้ว มันใช้เวลาไม่นานรอสักครู่”
 
 
 
 จีเฮเอาเอกสารทั้งหมดที่เรากรอกไว้ในกระเป๋าและทิ้งเราไป.
 
 
 
 “ฮยองคิดว่าจะได้เท่าไร?”
 
 
 
 “ผมไม่สนเรื่องเงิน ผมพอใจกับการที่เขาช่วยให้เรารอดเท่านั้น.”
 
 
 
 มันเป็นความหวังอย่างมากที่จะช่วยแฮซูที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย
 
 
 
 “จริง ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องโลภ พวกเขาบอกว่าความสำคัญของเราคือการอยู่รอดเมื่อเห็นว่าพวกเราติดตั้งอย่างถูกวิธี มันจะช่วยเราได้อย่างมาก.”
 
 
 
 จีเฮรู้เรื่องอารีน่ามากกว่าพวกเรา เธอมีแผนที่เต็มของอารีน่า ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างที่จะรู้เรื่องมากมาย
 
 
 
 การประเมิณผลทำได้เร็วมาก
 
 
 
 จีเฮกลับมากหลังจากไม่ถึง30นาทีและยื่นสัญญาให้กับพวกเราทั้ง4คน.
 
 
 
 “คุณอ่านเงื่อนไขและเซ็นชื่อ เงินเดือนโดยรวมของจุนชอยและฮยอนโฮคือ60,000เหรียญขณะที่อีกสองคนได้30,000เหรียญ.
 
 
 
 “60k?”
 
 
 
 ผมประหลาดใจอย่างมากเงินเดือนได้มากกว่าที่ผมคิด.
 
 
 
 จีเฮได้พูดในสิ่งที่ผมตกใจมากขึ้นไปอีก.
 
 
 
 “คุณคิมฮยอนโฮคุณได้รับเงินเดือนที่สูงเนื่องจากคุณมีสกิลที่หายากอย่างมากและยังเป็นหัวหน้าทีมและคุณคังจุนชอยคุณได้รับการประเมิณที่60k นั่นก็เพราะว่าคุณมีความสามารถเท่ากับผู้เข้าสอบครั้งที่5-6รอบ.”
 
 
 
 “งั้นข้อกำหนดบังคับที่เราต้องปฎิบัติตาม?”
 
 
 
 “คุณจะต้องใช้คาม่าหลังจากที่ปรึกษากับศูนย์วิจัยแล้ว พร้อมกับของที่เราจะมอบให้กับเมไจในการเข้าไปทดสอบ พร้อมทั้งฝึนฝนตามตารางเวลา โดยไม่มีข้อแม้.”
 
 
 
 “พูดได้ดี.”
 
 
 
 ผมได้อ่านสัญญาแล้วและจีเฮก็พูดไม่ผิด.
 
 
 
 หลังจากที่ผมอ่านสัญญาของทุกคน
 
 
 
 และเราก็ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสัญญา
 
 
 
 “ฉันขอแสดงความยินดีด้วยที่ผู้เข้าสอบทุกคนเข้าร่วมกับศูนย์วิจัย อารีน่า เกาหลี ฉันเป็นผู้จัดการในการวิจัยของทุกคน ชาจีเฮ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคุณอาจต้องมาคุยกับฉัน.”
 
 
 
 “ขอบคุณ.”
 
 
 
 “ฉันจะมาเจอกันครั้งหน้า.”
 
 
 
 เราได้อำลาครั้งสุดท้ายกับจีเฮ
 
 
 
 ดังนั้นเราจึงได้เริ่มต้นการฝึกเต็มรูปแบบสำหรับการสอบของเรา
 
 
 
 ***
 
 
 
 สิ่งแรกที่เราทำคือการสัมภาษณ์รายบุลคล
 
 
 
 จีเฮได้เรียกเราเข้าไปทีละคนและสอบถามรายละเอียดการสอยที่ผ่านมาของเรา เธอขอคำอธิบายอย่างเต็มรูปแบบว่าเราผ่านการทดสอบครั้งแรกและครั้งที่สองมาได้อย่างไร
 
 
 
 จุดมุ่งหมายและแนวโน้มในสไตล์ที่เราใช้ต่อสู้
 
 
 
 ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้า ผมถูกเรียกสัมภาษณ์ก่อน.
 
 
 
 ผมเปิดเผยความจริงทุกอย่างรวมทั้งการตายของปาร์คโกซาง
 
 
 
 ผมไม่คิดว่าผมต้องซ่อนมัน
 
 
 
 “ฉันจะสรุป ผู้เข้าสอบคุณคิมฮยอนโฮ คุณได้กำจัดผู้เข้าสอบที่จะข่มขืนเพือนและหัวหน้าลิงแดงถูกต้องไหม?”
 
 
 
 “ใช่.”
 
 
 
 เธอผงกหัวของเธอ
 
 
 
 “ดีมาก ผู้เข้าสอบฮยอนโฮมีความสามารถมากกว่าที่ฉันคิด เหนือขึ้นไปอีกทีมของคุณยังมีคุงจุนชอย มีโอกาสมากที่ทีมคุณจะรอดได้ในระยะยาว.”
 
 
 
 “ขอบคุณ แต่เกี่ยวกับการตายของโกซาง…”
 
 
 
 “ไม่ต้องกังวล ไม่มีหลักฐานในการลงโทษสำหรับอารีน่าและคุณก็มีมาตรการที่ชัดเจนและเหมาะสม มีทีมจำนวนมากที่พังลงกับคนที่ทำตัวเหมือนเขา.”
 
 
 
 เท่านี้ ภาระในวิญญาณของผมเกี่ยวกับการตายของโกซางก็หมดไป
 
            
            
            ตอนที่แล้ว
            
            
            ตอนต่อไป