ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปยามเช้าของวันต่อมา
เป็นดังเช่นวันเว้นวัน ลานว่างตะวันออกของเมืองวูซานเต็มไปด้วยเหล่าเด็กๆ ‘ฮิวแมล’และครูอีกสองคนยังไม่มาถึง และนักเรียนทุกคนพูดคุยอย่างกระตือรื้อร้นและเสียงดัง หัวเรื่องของการพูดคุยคือการต่อสู้ที่น่าประหลาดใจเมื่อวันก่อน
“สัตว์เวทเมื่อวานมีพลังรุนแรงมากๆ เมื่อลุงฮิลแมนและคนอื่นยืนอยู่ข้างหน้า ผมอยู่ข้างหลังเขา แอบมองจากที่ไกลออกไป พวกนายคงไม่รู้สิว่า เมื่อสัตว์เวทขนาดยักขูดกรงเล็บไปยังพื้นดิน พื้นถนนก็แตกกระจายเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน และบ้านเหล่านั้นก็พังทลาย เหมือนกับสิ่งเหล่านั้นทำมาจากโคลน”
ตรงกลางของกลุ่มเด็กๆ ‘แฮดลี’ เป็นคนที่พูดมากที่สุดในกลุ่มบรรยายอย่างคล่องแคลวและรวดเร็ว โบกมือและแสดงท่าทางราวกับว่าเขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตาของเขาเอง
เด็กทุกคนจ้องไปยัง’แฮดลี’ด้วยตากลมโต
“แฮดลี เมื่อวานนายอยู่กับพวกเราตรงส่วนตะวันออกเช่นกัน นายไม่กล้าแม้แต่จะออกไป นายจะเห็นทุกๆฉากได้อย่างไร?”
เด็กอายุสิบสาม ผมสีน้ำตาล ถอนหายใจ
เด็กที่อายุแก่กว่าเล็กน้อยไม่สามารถที่จะหลอกได้ง่ายเท่าเหล่าเด็กอายุเจ็ดและแปดขวบ
‘แฮดลี’จ้องไปยังเด็กอายุสิบสามปี ตาของเขาเบิกโต เขาพูดว่า
“ฟลอร่า นายไม่เชื่อผม? ผม แฮดรี เคยที่จะหลอกทุกคนตอนไหน?”
เด็กผมสีน้ำตาลที่ชื่อ’ฟลอร่า’พูดอย่างเยาะเย้ย
“ทุกคนรู้ว่านายเป็นคนพูดมาก มีครั้งไหนบ้างที่นายจะพูดความจริง? เฮ้ ทุกคน ทำไมพวกนายไม่เอาคำพูดนี้ไว้ใช้สำหรับตัวเองละ แฮดลีเคยพูดเรื่องจริงบ้างไหม?”
‘ฟลอร่า’พูดไปยังเด็กๆที่อยู่ข้างๆเขา
เหล่าเด็กอายุสิบสองถึงสิบห้าปีทั้งหมดเริ่มหัวเราะ
“ถูกต้องที่สุด เด็กกระจ๋อยล๋อยแฮดลี่ก็เต็มไปด้วยเรื่องไร้สาระตลอดละ”
เด็กที่อายุมากกว่าเล็กน้อยอยู่ข้าง’ฟลอล่า’
‘แฮดลี’รีบพูดอย่างรวดเร็ว
“พวกนายไม่เชื่อผม? ก็ได้ ไม่ต้องเชื่อผม”
‘แฮดลี’หันไปรอบๆด้วยความขุนเคือง มองไปทั่วบริเวณจนเขาเห็น’เลนลี’ ตาของเขาลุกวาว เขารีบพูด
“แต่ทุกคนที่นี้รู้ว่าข้างๆลุงฮิวแมนและครูอีกสองคน เลนลีก็ไปที่นั่น เลนลีเห็นทุกอย่างด้วยตาของเขา คำพูดของเลนลีต้องถูกต้อง ใช่ไหมละ? ให้เลนลีบอกพวกนายเถอะว่าผมพูดจริงหรือมั่ว”
“นายน้อยเลนลี?”
เด็กๆ หันไปมองที่’เลนลี’
ในสายตาของเด็กๆในเมืองวูซาน ‘เลนลี’มีชื่อเสียงท่ามกลางหมู่พวกเขา อย่างแรกของทั้งหมด เขาเป็นทายาทของพรรคบารุ๊ค และอย่างที่สอง สำหรับเด็กอายุแปดขวบ ‘เลนลี’สามารถเทียบเท่ากับเด็กอายุสิบสามและสิบสี่ปีในการฝึก
ในทวีปที่เต็มไปด้วยสงครามในทุกย่อมหญ้าของยูแลน ความกล้าหาญของ’เลนลี’ทำให้เด็กๆทุกคนในเมืองวูซานยกย่องเขา
“นายน้องเลนลีเห็นทุกอย่างด้วยตาของเขา ถ้าจะพูดให้ถูกคือ พวกเราจะเชื่อในสิ่งที่นายน้อยเลนลีพูด”
เหล่าเด็กๆพยักหน้า
เหล่าเด็กอายุสิบสามและสิบสี่ปีที่โตกว่าเช่นกัน พวกเขารู้ว่า’เลนลี’เป็นขุนนางและไม่เหมือนพวกเขา พวกเขาเกือบทั้งหมดเรียกเขาว่า
“นายน้อย เลนลี”
มีเพียง’แฮนลี’ และเด็กที่ดื้อๆอายุเจ็ดและแปดปียังคงเรียกชื่อเขา ‘เลนลี’ โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม
“บอกพวกเรา เลนลี ว่าผมพูดโกหกหรือเปล่า พูดไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
‘แฮดรี’รีบเร่ง’เลนลี’ ดึงมือ’เลนลี’ และแอบกระพริบตาให้’เลนลี’
‘เลนลี’อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมดหนทาง ทำไมคนที่ไร้สาระอย่าง’แฮดรี’ถึงดึงเขาเข้าไปในการสนทนาครั้งนี้?
“สัตว์เวทที่พวกนายรู้ว่าคือ มังกรลมกรด และคือสัตว์เวทระดับเจ็ด มันมีพละกำลังที่ไม่น่าเชื่อ ร่างกายทั้งหมดของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาๆ อาวุธธรรมดาไม่สามารถทำอะไรได้ มันยังคงมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ขนาดที่สามารถตวัดได้ และกรงเล็บที่แหลมคม สิ่งเหล่านี้ทำให้ ถนนที่ทำจากหิน และพื้นที่ฐานทำด้วยหินถูกฉีกออกเหมือนแผ่นกระดาษด้วยหางและกรงเล็บของมัน มันยังสามารถหายใจออกมาเป็นไฟจากปากของมัน ไฟที่ร้อนแรงที่แม้แต่หินก็ยังแตกเป็นเสี่ยงๆ”
‘เลนลี’พูดตามความจริง
เด็กทั้งหมดฟังที่’เลนลี’พูดอย่างเงียบๆ
“จริงๆแล้ว ทุกคนรู้ว่ามังกรลมกรดทรงพลังขนาดไหนจากครั้งแรกที่คุณเห็นมัน ไม่จำเป็นสำหรับผมที่ต้องอธิบายเพิ่มอะไร”
‘เลนลี’พูดด้วยรอยยิ้ม
เด็กคนอื่นทั้งหมดพยักหน้า
ทันทีที่พวกเขาเห็นมังกรลมกรดเมื่อวันที่แล้วมา พวกเขาได้กลัวอย่างมากมาโดยตลอด มันมีร่างกายที่ใหญ่จนดูเหมือนยอดภูเขาขนาดใหญ่ และเกล็ดสีแดงขนาดใหญ่บนร่างกาย ที่ไม่จำเป็นที่จะต้องจินตนาการถึงความแข็งแกร่งว่ามันจะเป็นอย่างไร
“พวกนายได้ฟังไหม? ผมบอกพวกนายว่ามังกรลมกรดนั้นตรงพลังมากๆ”
‘แฮดลี’เริ่มตะโกนเสียงดัง
เด็กที่ชื่อ’ฟลอร่า’จ้องไปยังเขา และกำลังจะพูดบางอย่าง
“ลุงฮิลแมนกำลังมาถึงแล้ว”
‘เลนลี’เห็นลุง’ฮิลแมน’ ‘ลอร์รี่’ และ’โรเจอร์’ เดินมายังพวกเขาจากไกลๆ และรีบลุกอย่างรวดเร็วในทันที เด็กๆทุกคนสงบลง และอยู่ในท่าทีที่เป็นระเบียบมาก จัดแถวแยกเป็นสามกลุ่ม
ในลานฝึกพื้นที่ว่างถูกจัดเตรียมอย่างรวดเร็ว แค่เสียงก้าวของ’ฮิลแมน’และครูที่เหลืออีกสองคนดังมา
‘ฮิลแมน’ และครูที่เหลืออีกสองคนเดินไปตรงหน้ากลุ่มสามกลุ่ม ตรงหน้าเด็กๆ ‘ฮิลแมน’ยิ้มและพูดตรงๆถึงสิ่งที่อยู่ในใจของทุกๆคน
“ทุกคนในที่นี้รู้ใช่ไหมว่าอะไรเกิดขึ้นเมื่อวาน ใช่ไหม?”
“ใช่ครับ”
ฟังจากคำพูดของ’ฮิลแมน’ และเห็นท่าทีสบายๆของ’ฮิลแมน’ เด็กๆทุกคนตอบด้วยเสียงขยันขันแข็ง
“ดีมาก”
หน้าที่แสดงของ’ฮิลแมน’เปลี่ยนเป็นซีเรียสอย่างรวดเร็ว
“สิ่งมีชีวิตตัวใหญ่นั้นพวกเรารู้ในนามมังกรลมกรด เมกัสที่อยู่ข้างบนมังกรลมกรดนั่นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทุกคนควรรู้อย่างหนึ่ง”
‘ฮิลแมน’จ้องด้วยสายตาแหล่มคมอย่างรวดเร็ว ขณะที่กวาดสายตาไปยังหน้าของเด็กๆแต่ละคน
“ถึงแม้เมกัสปริศนาพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งขั้นในเวลานั้น แต่เริ่มต้นจากระดับต่ำ ในการกำราบมังกรลมกรดที่มีพลังมาก เขาต้องใช้เวลาหลายปีในการพยายามทำอย่างหนัก ถ้าพวกคุณต้องการกำราบมังกรลมกรดเป็นของพวกคุณเอง เพื่อที่จะมีพลังเช่นเมกัสปริศนา พวกคุณจะต้องออกกำลังกายให้หนักและไม่ยอมแพ้”
ทุกๆคนไม่เว้นแม้แต่คนเดียวมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะกลายเป็นคนที่เก่งกาจได้ มีเพียงคำถามอย่างเดียวเท่านั้น คุณจะสามารถออกกำลังกายได้หนักเพียงพอต่อมันหรือเปล่า?”
คำพูดของลุง’ฮิลแมน’ชัดเจนเหมือนดังตะปู สายตาของเขาดุร้ายและเยือกเย็น
ทันใดนั้น เด็กๆทั้งหมดเงียบลง แต่จินตนาการของทุกคนกำลังวิ่งอย่างโลดโผน และสายตาของเขาส่องประกายด้วยความคิดที่แตกต่างของแต่ละคน
“ตอนนี้ ได้เวลาเริ่มออกกำลังกายยามเช้า ที่เหมือนๆกับแต่ก่อน เผชิญหน้ากับแสงอาทิศ และเริ่มการออกกำลังกาย ท่า รับพลังปราน”
‘ฮิลแมน’เริ่มให้ทุกคนอยู่ในกรอบของการฝึกในวันนี้ และทันใดนั้น เด็กๆสามกลุ่มเริ่มฝึกท่ารับพลังปราน
————-
ตามทักษะของแต่ละกลุ่ม ‘ฮิลแมน’ให้ออกกำลังกายในท่วงท่าที่แตกต่าง ภายใต้การแนะนำของผู้ใหญ่สามคน เด็กแต่ละคนออกกำลังกายให้สำเร็จอย่างขยันขันแข็ง วันนี้บรรยากาศการฝึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แทบจะไม่มีเด็กคนไหนบ่นว่าเหนื่อยเลย
“ห้าสิบ ห้าสิบเอ็ด”
‘เลนลี’นับในใจขณะที่นอนเยียดตรงในแนวนอนที่พื้น ช่วยตัวเขาเองด้วยนิ้วมือของมือๆหนึ่งและนิ้วเท้าของเขา ตัวของเขาทั้งตัวเกร็งตึง เขาอยู่ในกลุ่มฝึกที่อยู่ตรงกลางที่ใช้การฝึกนิ้วห้านิ้วในการดันพื้น
การออกกำลังกายอันนี้ไม่เพียงฝึกให้มือของเขาแข็งแรง มันสามารถเพิ่มความแข็งแรงของนิ้วมือ และข้อศอก วิธีนี้เป็นวิธีเบื้องต้นและมีประสิทธิภาพ
ถ้าทุกคนต้องการเป็นนักดาบที่เก่งกาจ โดยธรรมดาแล้ว พวกเขาจะต้องฝึกพัฒนาพลังปราน ทักษะในการพัฒนาพลังปรานคือเรื่องบอกถึงความแข็งแรงและความแข็งแกร่งของร่างกายของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งร่างกายที่แข็งแรงกว่าสามารถมีความสุขกับพลังปรานที่มีมากกว่าได้
“ตั้งแต่ที่ร่างกายของผมมีเลือดมังกรอยู่ในเส้นเลือด และไม่สามารถฝึกพลังปราน ทางเลือกเดียวของผมคือต้องทำให้ร่างกายของผมแข็งแรงให้มากกว่าคนอื่นให้ได้มากที่สุด”
ตาของ’เลนลี’แน่วแน่ และนิ้วมือของเขากดลงไปบนพื้น แน่นเหมือนรากของต้นไม้ที่มีอายุยาวนาน เขาทำท่าทันพื้น ในขณะที่เพื่อนๆพักเรียบร้อยแล้ว สร้างความประหลาดใจให้เด็กทีหมดแรงหลายๆคนรอบๆตัวเขา
“เก้าสิบแปด เก้าสิบเก้า”
‘เลนลี’นับต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
————–
“การออกกำลังกายช่วงเช้าจบลงแล้ว”
‘ฮิลแมน’พูดด้วยเสียงดัง จ้องหน้าไปยังเด็กๆ
หลังจากพวกคำนี้ ‘ฮิลแมน’หายใจลึกๆขณะที่เขาคิดในใจ
“วันนี้ ผมควรเล่าเรื่องอะไรดีให้เด็กๆฟัง”
ในทุกๆวัน เมื่อการฝึกดยามเช้าเสร็จสิ้น ‘ฮิลแมน’จะเล่าเรื่องให้เด็กๆฟัง นี้เลยกลายเป็นกิจวัตร
“ลุงฮิลแมน พวกเรา—“
เสียงของเด็กๆดักขึ้น
แต่ในขณะนั้น ขณะที่เด็กๆกำลังพูดไปแล้วครึ่งประโยค ‘ฮิลแมน’ ผู้ที่ได้มองต่ำลงเล็กน้อยขณะที่เขากำลังรวบรวมความคิดอยู่ ทันใดนั้นก็เกิดความรู้สึกแปลกประหลาด เขายกหัวของเขาขึ้น
ตอนนี้ เด็กๆทั้งหมดสามกลุ่มมองไปยังตะวันออก ตาขยายกว้าง และอ้าปากค้าง ‘โรเจอร์’และ’ลอร์รี่’ก็ได้หันหน้าจ้องไปยังทางตะวันออก และสายตาของเขาเต็มไปด้วยความสะพรึงกลัวเช่นเดียวกัน
“หือ?”
ด้วยความประหลาดใจ ‘ฮิลแมน’อดไม่ได้ที่จะหันไปรอบๆ และมองไปยังตะวันออก
ในทางตะวันออก ไม่ไกลมากนั้น บางทีอาจแค่สองหรือสามร้อยเมตรบนท้องฟ้า มังกรสีน้ำตาลดำขนาดใหญ่ อยู่ในท่าขดๆเป็นวงบนท้องฟ้า ร่างกายความสูงไม่ต่ำกว่าร้อยเมตร และตาสีดำขนาดใหญ่ขนาดเท่าล้อเกรียน
เกล็ดสีดำเงาวาวมีขนาดใหญ่ที่ทำให้หัวใจของทุกคนเต็มไปด้วยความกลัว และปีกที่มีขนาดร้อยเมตรโบกสะบัดอย่างนุ่มนวล แต่ท่องท่าเต็มไปพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
สัตว์เวท – มังกรทมิฬ
ที่มา: