ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปสถานที่นี้ เต็มไปด้วยความครึกครื้น มีแต่สมาชิกในตะกูล ชู เท่านี้ที่กำลังทดสอบทักษะการต่อสู้ ขณะนั้นมีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาอย่างองอาจ
” นั้นมัน ตะกูล สู่ จากเมือง ต้นแพร์ หนิ “
” ตะกูลทั้งสองไม่ถูกกันไม่ใช่หรอ ? ทำไมพวกเขาถึงกล้ามาที่นี้ ในเวลาแบบนี้ล่ะ ? “
หลายคนรู้ว่า พวกเขามาจากไหน ทั้งหมดเป็นคนของ ตะกูล สู่!!!
ตะกูล สู่ เป็นผู้นำของเมืองบริเวณเมืองใกล้เคียง เพราะเค้าต่อสู้กันเพื่อแย่งแหล่งทรัพยากรกันอยู่ตลอดเวลา
พวกเค้ากล้ามาถึงที่นี้ไม่ช้า ก็เร็ว คงมีการต่อสู้ครั้งใหญ่ ของ สอง ตะกูลนี้เป็นแน่
ในเวลานี้ ตะกูล สู่นำคนมามาก ดังนั้น ความคิดของผู้คนจำนวนมาก รู้ว่า ตะกูล สู่ จะสร้างปัญหาในการประลอง
” สู่ เจียง วันนี้เป็นวันรวมตัวของตะกูลข้า เจ้ามาทำอะไรที่นี่ “
ลูกชายคนโตของตะกูล พ่อของ’ชูเว่ย’ ‘ชู เร่นยี’ นำคนจำนวนหนึ่ง เข้าไปเผชิญหน้า
” ชู เร่นยี ทำไมเจ้าถึงดูจริงจังหนัก แค่เห็นว่ามันน่าเบื่อข้าจึงมาสร้างสีสัน “
‘สู่ เจียง’ มอง ‘ชู เร้นยี’ ด้วยสายตาดูถูก และไม่เห็น ‘ชู เร้นยี’ อยู่ในสายตา
‘สู่ เจียง’ เป็นบุตรชายคนโต ของตะกูล สู่ เค้าแตกต่างจาก’ชูเร้นยี’
เพราะเค้าถูกเลือกให้เป็นผู้นำคนต่อไปของตะกูล เค้ามีพลังวิญญาณ อยู่ในระดับ 9 ห้วงวิญญาณ
ดังนั้น ในสายตาของเขา ‘ชู เร้นยี’ ไม่คู่ควร คนเดียวที่สามารถ ตีตัวเทียบเค้าได้ก็คือ ผู่นำคนปัจจุบัน ‘ชูหยวนบ้า’
” สู่ เจียง ตะกูล ชูเราไม่ได้ต้อนพวกเจ้า “
นั้นตอนนั้น ‘ชูหยวน’ก็เดินเข้ามา
” อะไรนะ ไม่มียินเลยใครพูดอะไร ? เจ้าคิดจะเมินที่ข้าพูดงั้นหรอ “
ทันใดนั้นหน้า ‘สู่ เจียง’ก็เปลี่ยน ความดดันของพลัง ระดับ 9 ห้วงวิญญาณ ‘ชู เร้นยี่’ละคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง
‘ชู เร่นยี่’ ขมวดคิ้วเข้าหากัน เขามีพลังวิญญาณ ในระดับ 8 จึงไม่สามารถทนความกดดันได้
ในตอนนั้น’ชูหยวน’ก็เดินตรงเข้าไป หา ‘สู่ เจียง’และกล่าวว่า
” ข้าชูหยวน ก็เพียงพอสำหรับคนอย่างเจ้า “
ในเวลาเดียวกัน ‘ชูหยวน’ ก็ส่งแรงกดดันใส่ร่างกายของ ‘สู่ เจียง’
แรงกดดันไม่เพียงแต่ ‘สู่ เจียง’ จะได้รับ คนของตะกูล สู่ ก็โดนไปด้วย
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จน ‘สู่เจียง’ ไม่ทันได้ตอบโต้
ผู้คนที่ยืนข้างหลังเขา ต่างกระเด็นออกไปด้วยแรงกดของ ‘ชู หยวน’ ทันใดนั้น ‘สู่ เจียง’ ก็หยุดแรงกดดันไว้ได้
” ระดับ 9 ห้วงวิญญาณงั้นหรอ ? “
‘สู่ เจียง’ทำหน้าตื่นตระหนก เค้าไม่คิดเคยเลยว่า ‘ชู หยวน’ จะไปสู่ระดับ 9 ห้วงวิญญาณ
ทั้งแรงกดดันที่เค้าส่งมา ก็ไม่ใช่ธรรมดา
” บุตรชายคนที่ 5 ของตะกูลชู พลังวิญญาณ ระดับ 9 ห้วงวิญญาณ “
” ช่างน่าประทับใจ ด้วยอายุเพียงเท่านี้ กลับไปถึงระดับ 9 ห้วงวิญญาณ ดูเหมือนว่า ตำแหน่งผู้นำ จะไม่ใช่ใครนอกจากเขา “
ความกดดันที่ ‘ชูหยวน’ปล่อยออกมา ทำให้คนข้างนอกที่กำลังทดสอบทักษะการต่อสู้ ประหลาดใจ
แม้แต่ใบหน้าของ ‘ชู หยวนบ้า’ ที่นั่งอยู่ก็ยังแปลกใจ เค้าปรากฏให้เห็นความสุขภายในดวงตาของเขา
” น้องห้า เจ้าก้าวหน้าถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? “
‘ชู เร้นยี่’ ถามด้วยความหงุดหงิด
” ท่านพี่ ข้าผ่านระดับนี้ ไม่กี่วันก่อน “
‘ชูหยวน’ยิ้มเบาพร้อมกับตอบ ‘ชูหยวน’ให้ความเคารพต่อพี่ชาย
” ดีแล้วดีแล้ว เจ้าทำได้ดีมาก ดูเหมือนว่าตำแหน่ง ผู้นำ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้า “
‘ชู เร้นยี่’ ยิ้มพร้อมกับตบไหล่ของ ‘ชูหยวน’
โดยทั่วไปแล้ว บุตรคนโตจะได้รับตำแหน่ง ผู้นำ ตะกูล แต่ตะกูลชูไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เขาสนใจเพียงความแข็งแกร่งของ ผู้นำ
” พี่ใหญ่ ดูเหมือนว่าท่านจะรีบตัดสินใจไปหน่อยนะ “
จู่ๆก็มีแรงกดดัน ระดับ 9 ห้วงวิญญาณเข้าใส่ ‘ชู เร้นยี่’
‘ชูหยวน’ กับ ‘ชู เร้นยี’ ต่างยืนนิ่งมองหน้ากัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เบื้องหลังพวกเขา เค้าเจอกับชายวัยกลางคน ชุดขาว ค่อยๆเดินเข้ามา
ชายคนนั้นคือ ลูกชายคนที่ 6 ของตะกูล ‘ชู หนานชาน’ พ่อของ ‘ชู หงเฟย’
” น้อง 6 เจ้าก็ไปถึงระดับ 9 งั้นหรอ”
‘ชู เร้นยี่’ ยิ้มอย่างมีความสุข
” พี่ใหญ่ มันก็แค่ ระดับ 9 ห้วงวิญญาณ เหตุใดจึงได้ใส่ใจ เป้าหมายของข้า คือ กำเนิดวิญญาณ”
‘ชูหนาน’ชาน ยิ้มตอบด้วยความ มั่นใจ ความทะนงออกมาจากท่าทางของเค้า
” บุตรชายคนที่ 6 ก็อยู่ ระดับ 9 แสดงว่าตำแหน่ง ผู้นำ จะยังไม่แน่นอนสินะ “
” ฮ่าๆๆ ดูเหมือนว่า วันนี้เราจะได้ดูการต่อสู้ที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว “
คนที่อยู่บริเวณนั้นตะโกนด้วยความตื่นเต้น แต่คนบริเวณใกล้เคียงกับน่าตาบิดเบี้ยว
หมายความว่า มีคนที่มีความสามารถของตะกูล ชู มีถึง 2 คน ที่ถึงไปสู่ระดับ 9 ห้วงวิญญาณ
แม้แต่ความจองหองของ ‘สู่เจียง’ ก็หายไป เค้าขมวดคิ้ว มุมปากเค้าก็เริ่มกระตุก นั้นมันไม่ใช่สิ่งดีต่อ ตะกูล สู่ เลย
” ชู เร้นยี่ เชิญแขก จากตะกูล สู่มานั่งตรงนี้ ตอนนั้น มีเสียงดังชัดเจนสั่ง ชู เร้นยี่ นั้นคือ ชู หยวนบ้า”
ตอนนั้นหน้าตา ของ ‘ชู หยวนบ้า’ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะเค้ามีบุตร 2 คน ไปถึงระดับ 9 ห้วงวิญญาณ
จะก้าวไปสู่ ขั้น ก่อเกิดวิญญาณเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา
ซึ่งหมายความว่า ตะกูลมีผู้ที่เหมาะสมตั้ง 2 คน เนื่องจากเค้ามีความสุข
จึงไม่ได้สนใจการมาของ ‘สู่ เจียง’ แต่กลับเชิญพวกเค้ามานั่ง
” ทุกคนจากตะกูล สู่ ขอเชิญทางนี้”
เมื่อเค้าได้ยินคำสั่งของพ่อ ‘ชู เร้นยี่’ จึงไม่ได้พูดอะไร และนำทางตะกูล สู่ มายังที่นั่ง
ขณะที่ ‘ชูหยวน’ จะกลับไป ตอนนั้น ‘ชูหนานชาน’ ก็ถามเขาด้วยเสียงต่ำ
” พี่ 5 ท่านคิดว่า ท่านพ่อจะเลือกใคร ระหว่างข้ากับท่าน ? “
” เจ้าก็ไปถามเค้าเอง “
‘ชูหยวน’ตอบแล้วเดินกลับมาทันที
ถึงแม้ว่า พวกเค้าจะเป็นพี่น้องกัน ‘ชูหยวน’นั้นไม่ค่อยชอบ ‘ชู หนานชาน’
เพราะ นิสัยเอาแต่ใจของเขาเขาจึงไม่อยากให้ ‘ชูหนานชาน’ได้รับ ตำแหน่ง ผู้นำ
” อืม . . .”
หลังจากที่’ชูหยวน’ เดินไป ‘ชู หนานชาน’ แอบยิ้มบนใบหน้าของเค้า และจ้อง ‘ชูหยวน’ด้วยสายตาเย็นชา
แต่ถ้าเทียบกับ คนที่เหลือ อีก 3 คน ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะโอกาสได้รับตำแหน่ง ผู้นำ ของพวกเค้าหายไปแล้ว
ซึ่งมันทำให้พวกเขารู้สึกขื่นขม แต่ที่ต้องผิดหวังมากที่สุดก็ คือ บุตร คนที่ 4 ของตะกูล
บุตรคนที่ 4 มีพลังในระดับ 8 ห้วงวิญญาณ ถ้าไม่ใช่ลูกของเค้า ‘ชูซุน’
ที่ทำ ลูกแก้ววิญญาณที่เค้าใช้เงินจำนวนมากซื้อมา หายไป ปัจจุบันเค้าคงไปสู่ ระดับ 9 ห้วงวิญญาณ เช่นคนอื่นๆ
เมื่อยิ่งคิด เค้าก็ยิ่งโมโห เขากัดฟันอย่างแรง ควันแทบออกจากหู
หลังจากสิ้นการประชุม เขาจะกลับไปสั่งสอนไอ้ลูกชายของเค้า เพื่อระบายความโกรธแค้นในใจ
” มันคงจะสายไปแล้วท่านพ่อ เมื่อเค้ารู้ว่าจะถูกฆ่า หลังจากจบการประชุม ข้าต้องรีบกลับไปโรงเรียนพันลมให้ไวที่สุด ท่านจะไม่มีวันที่จะจับข้า ได้แม้แต่เงา”
ในมุมของด้านทักษะการต่อสู้ที่เค้าฝึกอยู่ ‘ชูซุน’แอบสังเกตสีหน้าของบิดา
เขารู้ว่าจะถูกลงโทษยังไงเค้าไม่สามารถหยุดคิดได้เลย เขาสัมผัสได้ถึงดวงตาของบิดาที่โกรธ
จนลูกตาแทบจะทะลัก ทันใดนั้น เค้ารู้สึกเจ็บใจอย่างมากเค้ากัดฟันแน่น
” ชูเฟิง ข้าจะให้เจ้าต้องขดใช้ “
” ชูซุนเจ้าไม่เป็นไรนะ ? เกิดอะไรขึ้นกับหน้าของเจ้า ใครทำให้เจ้าเป็นแบบนี้ ?”
ในตอนนั้นเค้าก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
เมื่อเค้าเงยหน้าขึ้นไปมองบริเวณใกล้เคียง หน้าของ ‘ชูซุน’ เปลี่ยนไปอย่างมาก
คนที่ทำให้บิดาต้องมาลงโทษเค้า มองมาที่เค้า บนใบหน้ามีรอยยิ้มเหมือนกับกำลังสะใจในความโชคร้ายของเค้า
“ชูเฟิง”
. . . . . . . . . .
โปรดติดตามตอนต่อไปที่มา: