ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป4 วันต่อมา ซวนหยวนใช้เม็ดยาทุกวัน เม็ดยาเหล่านี้ทำมาจากยาที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและฟื้นฟูร่างกาย มันดีกว่าเนื้อสัตว์อสูรเสียอีก เขาป้อนเม็ดยาให้กู่ฉิงด้วยเช่นกัน
เมื่อพวกเขากำลังกลับสำนัก ซวนหยวนก็ท่อง “วิถีแห่งการกลั่นกล้ามเนื้อ” ไป ขณะนั่งอยู่บนหลังของกู่ฉิง
เขารู้สึกเหมือนว่ากล้ามเนื้อของเขากำลังกลับมามีชีวิตชีวามาขึ้น ทีละนิดๆ กล้ามเนื้อของเขาเหมือนกับมีชีวิตมันดูดซับพลังปราณแห่งจักรวาล อย่างตะกละตะกลาม
พลังปราณนั้นไม่ควรที่จะถูกดูดซับโดยปราศจากเคล็ดวิชาหรือกระบวนการกลั่นผิวหนัง แต่เพื่อที่จะถูกดูดซึมนั้น พลังปราณจะต้องถูกเปลี่ยนเป็นพลังปราณแห่งการต่อสู้ แต่ซวนหยวนกลับสามารถดูดซับพลังปราณได้โดยตรง ด้วยการที่ซวนหยวนฝึกฝนทักษะและท่องเคล็ดวิชา กล้าเนื้อของเขากำลังดูดซับพลังปราณและเปลี่ยนมันเป็นพลังปราณแห่งการต่อสู้โดยตรง
มีเพียงแค่ซวนหยวน และร่างกายที่เกิดจากการสร้างขึ้น ถึงจะทำเช่นนี้ได้ ร่างกายที่ผิดปกติของเขาอนุญาตให้เขาดูดซับและกลืนกินทุกสิ่งในโลกได้
มีบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมา นั้นคือไข่มุกที่ได้รับจากหยินเฉินลู่มันเป็นอุปกรณ์ระดับพสุธาที่ช่วยเหลือในการฝึกของเขา ร่างกายของเขาสามารถกลืนกินได้ทุกอย่าง โดยไม่ต้องกลัวที่จะระเบิดออกด้วยพลังปราณจำนวนมหาศาลที่เข้าสู่ร่างกายของเขา มันหมายความว่าเขาสามารถฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องพักช่วง
แน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะรากฐานที่มั่นคงจากเมื่อยี่สิบวันก่อนที่เขาฝึกฝนอย่างหนักภายใต้การแนะนำของหยินเฉินลู่ และฝึกฝนทักษะกรงเล็บห้ามังกร เขาคงไม่สามารถที่จะพัฒนาได้รวดเร็วขนาดนี้
เพียงแค่ 40 วันเท่านั้น ซวนหยวนเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากความแข็งแกร่งที่เทียบเท่ากับวัว 54 ตัวก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งถึงวัว 70 ตัว
อย่างไรก็ตาม เขาได้เก็บซ่อนพลังจากคนอื่น ทำให้ไม่มีใครรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา เมื่อเขาไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตนักรบ พลังของเขาได้เปรียบได้กับขอบเขตจอมยุทธ์เรียบร้อยแล้ว
“เราได้มาถึงเมืองจันทร์พฤกษาแล้ว” เสียงอันไพรเราะของเหยียนซือหยุนนำพาความโล่งใจมาใหม่เหล่าศิษย์หน้าใหม่ แม้แต่สือคงหยูและหลิวเพียวซู่ที่อยู่ขอบเขตจอมยุทธ์ยังคงเหนื่อยเล็กน้อย ศิษย์หน้าใหม่ทั้งหมดต่างเหนื่อยล้า มันเป็นเรื่องดีที่ได้ยินว่าพวกเขามาถึงในที่สุด
“คงหยู เพียวซู่ นำเหล่าศิษย์หน้าใหม่ทั้งหลายเข้าไปในสำนักก่อนและรายงานแก่ท่านเจ้าสำนัก ข้าจะพาซวนหยวนไปดูรอบๆ เมือง ”
ศิษย์ใหม่มากมายต่างอิจฉาในความโชคดีของเขา สือคงหยูและหลิวเพียวซู่ยิ้ม และพาเหล่าศิษย์ใหม่เดินเข้าผ่านประตู
ซวนหยวนยืนจ้องมองบานประตูที่สูงราวๆ 20 เมตรของจันทร์พฤกษา มันทำมาจากหินยักษ์สีดำ และมันดูแข็งแกร่งกว่าประตูของเมืองจันทร์สลายมากนัก
“ศิษย์พี่หญิง ที่นี่มีตลาดขนาดใหญ่บ้างไหม? ข้าต้องการที่จะซื้อของบางอย่าง” ซวนหยวนกล่าว
“แน่นอน แต่มันขึ้นอยู่กับเงินที่เจ้ามี” นางยิ้มและกล่าวตอบ
จาก 2 ชีวิตที่ผ่านมา ซวนหยวนเห็นทั้งสิ่งที่ดีและเลว เขารู้ดีเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ อาจจะดูโหดร้ายอย่างน่าตกใจ ดังนั้นเขาต้องปกป้องตัวเอง เขาไม่ลังเลที่จะสวมชุดเกาะลงบนทุกส่วนของร่างกาย
“ ข้าพอมีเงินอยู่บ้าง โปรดศิษย์พี่หญิงนำทาง ” ซวนหยวนยิ้ม
พวกเขาเข้ามาในเมือง มันดูดีกว่าเมืองจันทร์สลายมากนัก ตัวตนที่ชั่วร้ายอย่างเย่วจือไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่ ทุกคนทำตามกฎ คนธรรมดาใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ส่วนผู้ฝึกยุทธ์ก็ใช้ชีวิตเยี่ยงผู้ฝึกยุทธ์
เหยียนซือหยุนได้รับการยกย่องจากคนในเมือง เวลาที่นางอยู่บนหลังม้า นางจะได้รับการต้อนรับจากผู้คนมากมาย และยังเรียกนางว่า “ ธิดานางฟ้า ” นางมันจะทำงานอย่างหนักเพื่อพวกเขา ทำให้นางได้รับความเคารพ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถฝึกวรยุทธ์ได้ และไม่ใช่ทุกคนที่สามารถฝึกวรยุทธ์แล้วจะสามารถก้าวไปในระดับสูงขึ้นได้ พวกเขาจะได้รับการปกป้องจากสำนัก สำนักจันทร์พฤกษาปกป้องผู้คนในเมืองจากอันตราย ดังนั้นผู้คนละดับสูงในสำนักจะเป็นที่ชื่นชม คนสวนใหญ่มีความสุขที่ได้แสดงความเคารพต่อพวกเขา
เหยียนซือหยุนยิ้มให้กับเหล่าคนที่แสดงความเคารพต่อนาง แต่ก็มีบางคนแสดงความตื่นกลัวต่อซวนหยวนที่ขี่อยู่บนหลังกู่ฉิง แต่ความจริงที่ว่าเขาใส่ชุดของสำนักอยู่มันช่วยสงบความกังวลของพวกเขา
“ ‘ธิดานางฟ้า’ ท่านดูเป็นที่ชื่นชอบของคนเหล่านี้จังเลยนะ” ซวนหยวนหัวเราะคิกคัก
“ ไม่มีอะไรหรอก เจ้าสำนักของพวกเราถูกเรียกว่า ‘เทพเซียนอาวุโส’ ในโลกที่กว้างใหญ่ไพศาล มันมีหลายสิ่งที่คนเหล่านี้ไม่สามารถจินตนาการถึงได้อยู่ มันก็ไม่เลวนักหรอกที่อาศัยอยู่ในที่ที่สงบสุข มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะปกป้องคนเหล่านี้” ซวนหยวนได้สัมผัสคำพูดของนาง มันคล้ายคลึงกับสิ่งที่หยินเฉินลู่เคยกล่าวกับเขา นางอยากให้เขามีชีวิตที่สงบและปลอดภัย ถ้าหากเขาไม่สามารถที่จะแข็งแกร่งขึ้นได้
“ การใช้ชีวิตเช่นคนสามัญ พักผ่อนอยู่ใต้แสงอาทิตย์ ทำงานไปวันๆ ผู้คนจะเสียน้ำตาเล็กน้อยเมื่อเจ้าตาย ไม่สามารถหลบหนีกงล้อแห่งความทุกข์ สิ่งที่น่าเสียดายที่สุด คือการมีชีวิตเฉกเช่นนั้น…. ” ซวนหยวนพึมพำสิ่งที่ หยินเฉินลู่เคยกล่าวกับเขาอย่างเงียบๆ
เหยียนซือหยุนชำเลืองมองเขาอย่างประหลาดใจ และยิ้ม
“ ไปกันเถอะ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร แต่มันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ”
“ แน่นอน ข้าไม่ธรรมดา! ” เขาสะดุ้งและคิดกับตัวเองว่า “ คนธรรมดาไม่เหมาะสมกับอาจารย์คนสวยของข้า สักวันหนึ่งข้าจะหานางให้เจอ เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะแข็งแกร่งกว่านาง และข้าจะต้องลอบโจมตีนางได้สำเร็จอย่างแน่นอน ”
พวกเขามาถึงตลาดตามการนำทางของเหยียนซือหยุน
มันไม่ได้ดูคล้ายกับส่วนที่เหลือของเมือง คนทุกประเภทมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ บางคนสวมใส่เสื้อผ้าที่บ่งบอกถึงความมั่งคั่ง บางคนสวมเสื้อผ้าที่มอมแมมสกปก รอบๆเต็มไปด้วยความคลับคลั่งของผู้คน ที่เดินไปมาอย่างมากมาย แต่ทุกคนนั้นล้วนยอมรับในตัวของ เหยียนซือหยุน
ตลาดแห่งนี้ถูกคุ้มครองโดยสำนักจันทร์พฤกษา สำนักจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆจากภาษีที่ตกลงกันไว้ ร้านค้าทั้งหมดนั้นให้ความเคารพต่อเหยียนซือหยุน อีกไม่นานนางจะกลายเป็นศิษย์แท้จริงของสำนัก
“ ผลึกอสูรหมีคุณภาพสูง เพียงแค่ 3000 เหรียญนักสู้เท่านั้น เร่เข้ามา ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว !!”
“อาวุธคุณภาพสูงที่สุดที่ท่านจะได้เห็นในตลาดแห่งนี้ กระบี่ปลายฟ้า 10000 เหรียญนักสู้เท่านั้น ถูกกว่านี้ไม่ได้แล้ว! ”
“ยาชั้นยอด เพียง 1000 เหรียญนักสู้ต่อเม็ดเท่านั้น ”
ซวนหยวนหยุดเดินเมื่อได้ยินชื่อของกระบี่เล่มนั้น รูปร่างหน้าตาของมันแทบไม่แต่ต่างกับที่เขาเคยขโมยมาจากเย่วหรง
ซวนหยวนมีขวดยาที่ได้รับจากหยินเฉินลู่ มันคุณภาพมากกว่าเหล่ายาที่ว่าขายอยู่ที่นี่เสียอีก นอกจากนี้เขายังมีเม็ดยาอื่นๆ และผลึกอสูรที่ได้จาก อู๋ตง แม้ว่าเฒ่าโลภมากจะบอกว่ามันรุนแรงเกินไป สำหรับเขาในตอนนี้และยังแนะนำให้เขาหาซื้อยาอย่างอื่นแทน แต่เขาคิดว่าเม็ดยาที่ขายที่นี่นั้น ยังไม่ดีพอ
ซวนหยวนได้ยินบางคนเรียกเขาขณะที่นั่งอยู่บนหลังของกู่ฉิง
“ พ่อหนุ่มที่ขี่หมาป่าอยู่คนนั้นหน่ะ ข้ามีผลึกอสูรของภูติหมาป่า ถ้าให้มันกับหมาป่าของเจ้า มันจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้มาก บางที่มันจะได้รับความแข็งแกร่งมากขึ้น ถ้าเจ้าโชคดี”
ซวนหยวนหันหลังกลับไปและเห็นชายแก่ที่ดูมอมแมม เขาตั้งแผงขายของอยู่บนพื้น และยิ้มมาให้ซวนหยวน เขาดูเหมือนพวกต้มตุ๋นมากกว่าพ่อค้า ซวนหยวนเหลือบมองไปที่เหยียนซือหยุน นางยิ้ม..
“ ไม่ต้องกังวล ไม่มีใครจะหลอกลวงเจ้าเมื่อข้าอยู่ที่นี่ ”
เขาพยักหน้าและเดินไปยังแผงขายของ ชายแก่นั้นหยิบขวดสกปกที่มีผลึกอสูรอยู่ข้างในออกมา ขวนนั้นมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งซึมออกมา
“มันเป็นผลึกอสูรของภูติหมาป่าจริงๆ” เหยียนซือหยุนมีความรู้มากมายเกี่ยวกับโลกแห่งวรยุทธ์ นางยืนยันด้วยตัวเองว่ามันเป็นของจริง ซวนหยวนจดจำได้เกี่ยวกับภูติหมาป่าจาก “บันทึกตะวันออก”
ภูติหมาป่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัวที่สุดของอสูรสายพันธุ์หมาป่า พวกมันสามารถฆ่านักสู้ขอบเขตจอมยุทธ์ได้ง่ายๆ
“ มันคือผลึกอสูรภูติหมาป่าที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าวัว 99 ตัว คิดว่ายังไง? เจ้าต้องการมันไหม พ่อหนุ่ม? ”
กู่ฉิงจ้องมองอย่างกระหายไปที่ผลึกอสูร ปากของมันเต็มไปด้วยน้ำลายที่ไหลออกมา เห็นได้ชัดว่าผลึกอสูรอันนี้มันประโยชน์ต่อมันอย่างมาก
“ เท่าไร? ”
“ เพียงแค่ 30000 เหรียญนักสู้ ” ชายแก่ยิ้ม
ได้ยินเช่นนั้น ซวนหยวนอยากที่จะเข้าไปทุบตีชายแก่ เขาคำรามออกมา “ นี่มันบ้าอะไร! ข้าไม่ซื้อ ไปกันเถอะ”
กู่ฉิงตระหนักได้ว่าชายแก่คนนี้กำลังโกงพวกเขา ดังนั้น ถึงมันจะต้องการผลึกอสูร แต่มันก็ทำตามคำสั่งของซวนหยวน
ขณะที่กู่ฉิงกำลังจะหันหลังกลับ ชายแก่ก็ตะโกนเรียกพวกเขาอย่างเร่งรีบ
“ เดี๋ยวก่อน เรื่องราคานั้นเราสามารถตกลงกันได้ เป็นเกียรติที่ได้พบพวกท่านในวันนี้ ดังนั้น ข้าจะลดให้ก็แล้วกัน เหลือ 20000 เหรียญนักสู้เท่านั้น ”
ซวนหยวนรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย และกล่าวตอบว่า “ ผลึกอสูรหมีที่มีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 60 ตัว ราคาเพียงแค่ 3000 เหรียญนักสู้ แต่นี่แข็งแกร่งมากกว่าเพียง 30 ตัว ข้าสามารถให้ได้เพียงแค่ 8000 เหรียญเท่านั้น ”
ชายแก่นั้นหน้าดำมืด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เลี้ยงหมาป่า ซึ่งไม่ง่ายเลยที่เขาจะขายผลึกอสูรออกไป แต่เด็กคนนี้ตระหนี่ถี่เหนียวนัก ราคาตลาดสำหรับผลึกอสูรที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้อย่างต่ำก็ปาเข้าไป 12000 เหรียญแล้ว
“ หนึ่งหมื่นสองพัน, ข้าไม่สามารถลดมากกว่านี้ได้อีกแล้ว ”
“ หนึ่งหมื่น ต้องไม่มากไปกว่านี้ ”
” แน่นอน “
” ตกลงตามนั้น ”
ซวนหยวนหยิบเงิน 9336 เหรียญ ที่เขาเอามาจากข้ารับใช้ตระกูลเย่วออกมา
“ขอโทษด้วยข้ามีเงินเพียงเท่านี้ ท่านจะรับมันไหม? ” ซวนหยวนเลิกคิ้วและทำเหมือนกับว่านี่คือเงินทั้งหมดของเขา
ชายแก่เริ่มฉุนเฉียว
“ ไม่! เจ้ามีอะไรมากกว่านี้มาชดเชยไหม? ”
ซวนหยวนเองก็ไม่ได้เป็นคนที่เลวร้าย ตลอดทั้งสองชีวิตของเขา เขาไม่ได้มีเงินทองมากมายนัก ทำให้เขารู้จักค่าของมัน เขาเอาผลึกอสูรหมียักษ์ออกมาและกล่าว “ นี่คือสิ่งเดียวที่ข้ามี ”
ตาของชายแก่นั้นมีประกาย
“ ยอดเยี่ยม ผลึกอสูรคุณภาพดี ส่งมาให้ข้าแล้วเจ้าก็นำบางสิ่งเล็กๆน้อยๆ บนแผงนี้ไป จะถือว่าการค้าขายของเราเสร็จสิ้น ”
ซวนหยวนหลี่ตาลง ชายแก่คนนี้รู้วิธีการจัดการ ของของเขาทั้งหมดไม่ว่าจะ มาก น้อย แตกหัก หรือสกปก มันทั้งหมดเหมือนกับของโบราณ แต่ไม่มีอะไรเลยที่คุ้มค่ากับวรยุทธ์
แต่มีเสียงขึ้นมาจากในหัวของเขา,
“จงเลือกสร้อยข้อมืออันนั้น… ”
เสียงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เฒ่าโลภมาก..