ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหมวกเมฆาเป็นอุปกรณ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูง มันถูกตกแต่งไปด้วยลายสลักรูปเมฆา และยังมีอาคมป้องกันช่วยเพิ่มความสามารถให้มันมากขึ้น
เสื้อเกราะล่องลอยอุปกรณ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูง ทำมาจากโลหะเมฆา ช่างตีเหล็กใช้ความเชี่ยวชาญทำให้ชุดเกาะมีความบาง มันจะหันเหแรงกระแทกที่จะเข้ามาและป้องกันร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม
ร้องเท้าเมฆาเหินหาว ถูกถักทอมาจากตัวไหมเมฆา ใช้อุปกรณ์พิเศษพิเศษในการลงอาคมเมฆาป้องกัน ผู้ที่สวมใส่สามารถไต่เขาที่ลาดชันได้เหมือนเดินในที่ราบอย่างไม่มีข้อจำกัด มันมีประโยชน์มากเมื่อตอนก่อนออกไล่ล่าศัตรูหรือ หลบหนีจากการต่อสู้
จี้หยกชำระใจ ถูกนำมาจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ชำระใจ มันป้องกันผู้สวมใส่จากภาพลวงตาและอาคมต่างๆ
ศูนย์กลางการค้านั้นมียาและอุปกรณ์ที่ดีกว่าอีก แต่สำหรับซวนหยวน ของเหล่านี้คงเหมาะสมที่สุดกับเขาในตอนนี้ เป้าหมายของเขาเพียงแค่ต้องการป้องกันตัวเอง ถ้าร่างกายไม่ได้รับการปกป้องที่ดีการก้าวเดินต่อไป คงมีแต่จะยากขึ้น
ซวยหยวนสวมใส่เครื่องป้องกันทั้งหมด ผมยาวสลวยของเขาถูกมัดเก็บเอาไว้ภายใต้หมวก เสื้อเกาะถูกใส่อยู่ภายใต้เครื่องแบบของสำนัก รองเท้าที่มีขนาดพอดีและจี้หยกที่ปลอดภัยอยู่ใต้คอของเขา ดูเหมือนจะเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกับตัวเขา ดูมีความอ่อนโยน สง่า และดูเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่มีพิษมีภัย
“ ฮ่า ๆ ยอดเยี่ยม ทั้งหมดนี้ราคาเท่าไร? ” ซวนหยวนยิ้ม
ชายจากศูนย์กลางการค้าเหลือบมองไปที่เหยียนซือหยุน และหันกลับมาที่ซวนหยวนด้วยรอยยิ้ม “เนื่องจากท่านเป็นศิษย์น้องของนางหญิงเหยียน ทางเราจะคิดราคาเพียงแค่ หนึ่งแสนเหรียญจอมยุทธ์เท่านั้น” ซวนหยวนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ชื่อของสำนักทำให้เขามีข้อได้เปรียบในเมือง ร้านค้าอื่นๆในศูนย์กลางการค้าต่างอิจฉาคนที่ทำการซื้อขายกับซวนหยวน
มีอาชีพมากมายในโลกใบนี้ นักเล่นแร่แปรธาตุ ช่างตีเหล็ก นักจำแนกเหรียญและนักอัญมณีศาสตร์
อาชีพทั้งหมดเหล่านี้ต่างมีความสำคัญ นักเล่นแร่แปรธาตุจะคอยกลั่นเม็ดยา ช่างตีเหล็กจะสร้างเครื่องมือและอาวุธ นักจำแนกเหรียญจะทำให้แน่ใจว่าเหรียญที่ต่างมูลค่าจะอยู่ในที่ๆควรอยู่ เหรียญที่อยู่ชั้นต่ำกว่าจะอยู่ในที่ๆด้อยกว่า ถ้าเหรียญสูงชั้นกว่าจะอยู่นำมาใช้ซื้อหาอุปกรณ์ชั้นสูงกว่าได้ นักอัญมณีศาสตร์จะใช้อำนาจของพวกเขาเพื่อค้นหา หยก ผลึก และแม้กระทั่งอัญมณีที่มีพลังบริสุทธิ์กักเก็บไว้ พวกมันทั้งหมดทีประโยชน์และประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน นักเล่นแร่แปรธาตุและช่างตีเหล็กสามารถควบคุมไฟที่คนธรรมดาไม่สามารถต้านทานได้ พวกเขาส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในศูนย์กลางการค้าต่างๆ เพื่อช่วยในการขายสินค้าของตน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการทำยาและเครื่องมือค่อนข้างต่ำ พวกเขามักไม่คิดที่จะลดราคาเพื่อที่จะขาย แม้พวกเขาจะได้รับเงินเล็กน้อยเพราะศูนย์กลางการค้าจะมาเก็บส่วนต่างจากพวกเขา
ในหลายๆเมืองที่มีสำนักหรือนิกายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มักจะมีศูนย์กลางการค้าแบบนี้เพื่อที่จะขายของให้กับเหล่าผู้ฝึกตน เป็นวงจรแบบครบสมบูรณ์
ซวนหยวนยื่นถุงเงินขนาดเล็กที่เอาออกมาจากแหวนให้กับชายคนนั้น และหันไปทางเหยียนซือหยุน “ ศิษย์พี่ ไปกันเถอะ ”
นางลังเลเล็กน้อย แต่กระนั้นก็หันหลังเตรียมตัวเดินกลับ ชายคนนั้นโกรธมาก “นานน้อย ข้าเกรงว่าถุงเล็กๆใบนี้ ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าอุปกรณ์ทั้งหมด”
ซวนหยวนยิ้ม “ โปรดดูข้างใน ”
ชายคนนั้นเปิดดูในถุง เขาเกือบจะเข่าอ่อนและล้มลงไปกับพื้น เขาตกใจเป็นอย่างมาก “ทั้งหมดนี้ เป็นเหรียญพฤกษา!! ”
ทุกคนประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีสักคนที่คิดว่าเด็กหนุ่มอย่างเขาจะครอบครองเหรียญพฤกษา เมืองจันทร์พฤกษาเป็นเมืองที่ค่อนข้างเล็กและเป็นแค่เมืองลำดับสอง สกุลเงินหลักส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญนักสู้ไม่ก็เหรียญนักรบ แม้แต่เหรียญจอมยุทธ์ยังไม่ค่อยมีให้พบเห็น มีเพียงศิษย์จากสำนักเท่านั้นที่จะใช้เหรียญจอมยุทธ์ในการซื้อขาย เมื่อมีการแลกเปลี่ยนค่าเงินที่สูงกว่า เพื่อความสะดวกสบาย ผู้คนมักจะเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นให้กับกำไรที่จะจากเงินที่มีสกุลสูงกว่า ดังนั้นถ้าคุณอยากเห็นเหรียญจิตวิญญาณคุณจะต้องมีเหรียญจอมยุทธ์ 11 เหรียญ สำหรับเหรียญพฤกษาคุณจะต้องมีเหรียญจิตวิญญาณ 11 เหรียญ ดังนั้นเงิน 1,000 เหรียญพฤกษาของซวนหยวน จะมีมูลค่าถึง 121,000 เหรียญจอมยุทธ์
เหยียนซือหยุนรีดตาของนางและกล่าว
“ เจ้าควรจะบอกข้าก่อนว่าเจ้ามีเหรียญพฤกษา เพื่อที่เราจะสามารถแลกเป็นเหรียญจอมยุทธ์ที่สำนัก มันอาจจะได้มากกว่า 121,000 เหรียญจอมยุทธ์เสียอีก”
ชายคนนั้นกลัวว่าซวนหยวนจะเปลี่ยนใจ จึงรีบพูดขึ้น “แน่นอน พวกเราจะคืนเงินให้นายน้อย 20,000 เหรียญจอมยุทธ์ สำหรับการแลกเปลี่ยน”
ซวนหยวนส่ายหัวและพูดอย่างใจเย็น “ ข้าไม่ต้องการมัน จงมอบมันให้แก่ศิษย์พี่ของข้า ศิษย์พี่ถ้าท่านต้องการเครื่องมือใหม่ๆ โปรดใช้มันเพื่อตัวท่าน ”
เหยียนซือหยุนมีความสุขมาก นางจุ้บไปที่แก้มของซวนหยวน “ ขอบคุณ น้องชายตัวน้อย ”
ซวนหยวนตกตะลึงกับการกระทำของนางเมื่อครู่
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ด้วยความร่าเริงของเหยียนซวนหยวนที่เดินออกมาจากศูนย์กลางการค้า และมุ่งหน้าตรงไปยังสำนักจันทร์พฤกษา ซวนหยวนรู้ว่าเหยียนซือหยุนนำเงิน 20,000 เหรียญจอมยุทธ์รวมกับเงินเก็บของนางเพื่อซื้ออาวุธระดับจิตวิญญาณขั้นสูง ซึ่งทำให้นางกลายเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ ย่อมสามารถปกป้องซวนหยวนได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
เหยียนซือหยุนเป็นคนที่รักในความยุติธรรม ดังนั้นนางจึงไม่ได้ร่ำรวยเทียบเท่ากับ เย่วเถิง ผู้ซึ่งคอยรีดไถเงินจากคนธรรมดา เมื่อไปถึงที่สำนัก พวกเขาจำเป็นที่จะต้องอยู่ให้ห่างจาก เย่วเถิง
เงินที่เขาใช้เป็นเพียงบางส่วนของความมั่งคั่งของเขา ในแหวนของ อู๋ ตง มีของที่มีมูลค่ามหาศาลอยู่จำนวนมากและรวมถึงเม็ดยา อย่างไรก็ตาม ซวนหยวนไม่ต้องการเสียอะไรที่มีค่า ดังนั้นเขาจึงเลือกซื้อบางอย่างสำหรับตัวเองเท่านั้น
พวกเขามาถึงสำนักจันทร์พฤกษา
สำนักตั้งอยู่บนเนินสีเขียวขจี หันหน้าออกไปทางทะเลสาบ เป็นทิวทัศน์ที่งดงามยิ่งนัก มีรูปสลักเงาดวงจันทร์ห้องลงมาจากประตู
คุณจะต้องปีนป่ายขึ้นมาเป็นพันขั้นเพื่อที่จะมาให้ถึงประตูทางเข้า ม้าไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาในสำนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถตำหนิคนสองคนที่ขี่หมาป่าขึ้นมาได้ ซวนหยวนและเหยียนซือหยุนพูดคุยและหัวเราะกันคิกคัก ซึ่งเป็นภาพที่หน้าเหลือเชื่อสำหรับเหล่าศิษย์ที่มาพบเห็น พวกเขาต้อนรับเหยียนซือหยุนอย่างสุภาพ แต่ในใจของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาด เป็นไปได้อย่างไรที่ศิษย์พี่หญิงจะโอบกอดเด็กหนุ่มนั่น
(คล้ายๆ กับผู้หญิงโอบเอวผู้ชายตอนซ้อนท้ายมอไซต์)
เห็นได้ชัดว่า สือคงหยู และ หลิวเพียวซู่ ได้กระจายข่าวเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่าง ซวนหยวนกับ หง ฉื่อ
กู่ฉิงที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับวัว 66 ตัว สามารถปีนป่ายบนบันไดยาวได้อย่างง่ายดายราวกับเดินบนพื้นเรียบ รวดเร็วนัก! พวกเขาได้มาถึงจัตุรัสกลางของสำนักจันทร์พฤกษา
เหล่าศิษย์ภายในทั้งหมดต่างพร้อมเพียงกันประหลาดใจ ศิษย์พี่หญิงของพวกเขากำลังทำท่าทีหวานแหววกับเด็กหนุ่ม! เหยียนซือหยุนไม่ได้สนใจคนอื่นมากนัก นางกระโดดลงจากกู่ฉิง และกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เบิกกว้าง “ ที่นี่คือ จัตุรัสกลางจันทร์พฤกษา ศิษย์น้องซวนหยวน. ยินดีต้องรับ”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่เย็นชากล่าวออกมาจากข้างหลัง “ศิษย์พี่หญิง ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะใกล้ชิดกับเด็กหนุ่มเช่นนั้น มันดูไม่ใช่สิ่งที่ท่านควรทำเท่าใดนัก ”
เหยียนซือหยุนยังอยู่ในอารมณ์ที่ดี นางหันกลับไปและจ้องมองไปที่ชายคนนั้น
“ หง เหวิน ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะต้องมากังวล ”
“ ไม่ ความกังวลของข้าคือเจ้าเด็กนั้น มันกลับฆ่าน้องชายของข้า หง ฉื่อ ข้าจะเป็นคนเอาชีวิตมัน ” หง เหวินมีใบหน้าที่ค่อนข้างคล้ายผู้หญิง มันดูคล้ายกับ หง ฉื่อมาก เขาเดินมาหยุดที่หน้าซวนหยวนและยกกำปั้นขึ้น มีเงาคล้ายมังกรโผล่ออกมาจากด้านหลังของเขา เขานั้นก้าวเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งระดับมังกร
เหยียนซือหยุนต้องการที่จะเข้าไปป้องกันการโจมตี แต่ซวนหยวนตะโกนออกมาว่า
” เข้ามา!”
ซวนหยวนไม่ได้หลบเลี่ยงแต่อย่างใด เขาชกไปที่ตาของ หง เหวิน ด้วยคลื่นสีขาวที่วิ่งออกมาจากหมัดของเขาเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของวัว 72 ตัว อย่างไรก็ตาม หง เหวินไม่ได้ใส่ใจกับการโจมตีของซวนหยวน เขาเชื่อว่าเขาสามารถบดขยี้หน้าอกและหัวใจของซวนหยวนได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
มันเป็นการต่อสู้ระหว่างสองผู้ทรงพลัง
เพียงแต่เมื่อตอนที่หมัดของ หง เหวินกำลังเข้าถึงตัวของเขา ซวนหยวนก็ใช้ทักษะ “สังหารกรงเล็บมังกรสวรรค์” และปล่อยหมัดของเขาออกไป แทนที่ด้วย พลังงานที่มีความเข้มข้นสูงถูกรวบรวมไว้ที่ปลายนิ้วของเขา นิ้วของเขาโจมตีออกไปถึงจะไม่ได้มีความรุนแรงเทียบเท่ากับหมัด แต่หมัดที่ปล่อยออกมานั้นเป็นเพียงแค่กลลวง เหยียนซือหยุนนั้นไม่ทันเห็นว่าที่ซวนหยวนใช้นั้นเป็นกลลวง ทันใดนั้นเขาก็เปิดมือของเขาออก และโจมตีอย่างฉับพลันด้วยนิ้ว
หง เหวินต่อยไปที่หน้าอกของซวนหยวน ในขณะที่ซวนหยวนใช้นิ้วของเขาโจมตีไปที่ตาขวาของ หง เหวิน ซวนหยวนโจมตีไปถึงก่อน ดวงตาของหงเหวินระเบิดออกด้วยการโจมตีด้วยนิ้วเดียว เลือดสาดกระจายไปทั่วทุกที่ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาของเขา ทันใดนั้น พลังของหมัดของเขาก็สูญเสียความรุนแรงลงไปจากก่อนหน้านี้
ซวนหยวนรู้สึกกดดับบนหน้าอกของเขา เลือดและกล้ามเนื้อของเขาราวกับถูกเผา อยู่ภายใต้แรงกดดัน ถึงแม้เขาจะโจมตีด้วยหมัดแต่เขาก็ถอยหลังเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ด้วยเสื้อเกาะล่องลอยที่เขาเพิ่งซื้อมานั้น มันช่วยป้องกันได้เป็นอย่างดี
“ ข้าจะฆ่าเจ้า!! ” หง เหวิน โกรธแค้นเป็นอย่างมากหลังจากที่ต้องแลกกับความสูญเสีย เขาจัดเป็นอันดับ 3 ของศิษย์สายในและยังอยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณ เขาเรียนรู้ที่จะปล่อยพลังปราณแห่งการต่อสู้ออกไปเมื่อตอนที่เขาโจมตี เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเพียงแค่ขอบเขตนักรบจะสามารถเอาชนะเขาได้
มีศิษย์ภายในจำนวนมากที่ยังอยู่ในจัตุรัสกลาง และประหลาดใจกับการโจมตีของซวนหยวน มีความแตกต่างมากระหว่างแต่ละขอบเขต ดังนั้นซวนหยวนต้องพ่ายแพ้แก่ หง เหวิน อย่างแน่นอนด้วยความแข็งของเขา แต่นี่มันกลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนออกมาอย่างเย็นชา
“ หยุดมือ! ”
หง เหวิน ราวกับถูกแช่แข็ง เขาไม่กล้าที่จะขยับตัว