ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปสำนักจันทร์พฤกษามีศิษย์ 3 ประเภทที่อยู่ภายในสำนัก ศิษย์นอก ศิษย์ใน และศิษย์แท้จริง เย่ว เถิงและเหยียน ซือหยุนเป็นศิษย์ที่ดีที่สุดในหมู่ศิษย์ภายใน พวกเขาต้องเข้าสู่ขอบเขตพฤกษาเพื่อเป็นศิษย์แท้จริงของสำนัก
แต่ความแข็งแกร่งไม่ใช่อย่างเดียวที่จำทำให้เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ มันต้องมีพรสวรรค์และความเป็นผู้นำ
สำนักจันทร์พฤกษานั้นไม่ได้ใหญ่มาก สำนักมีศิษย์นอก 1 แสนคน ศิษย์ใน 3 พันคนและมีศิษย์แท้จริงเพียง 99 คน ศิษย์แท้จริงทุกคนล้วนเก็บตัวฝึกฝนตนเอง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นคนดังหรือมีมนุษย์สัมพันธ์ดี พวกเขามีส่วนสำคัญมากในการปกป้องเมือง
สำนักจะส่งศิษย์ในที่มีความสามารถมากที่สุดเพื่อไปกำกับดูแลการคัดเลือกศิษย์ ในการทดสอบความสามารถเพื่อหาศิษย์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสำนัก
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่หยุดหง เหวิน มันคือเสียงเย่ว ชาน มันเป็นคนของตระกูลเย่ว มันอยู่อันดับที่ 88 ในหมู่ศิษย์แท้จริง มันแข็งแกร่งซวนหยวนอย่างขาดลอย
“น้องเหยียน เจ้ามีสายตาที่ไม่เลว เด็กนั้นเป็นมันเป็นคนที่ไร้ความปรานี และมีศักยภาพที่ดี มันก็ไม่เลวเลย” เย่ว ชานกล่าวอย่างไร้อารมณ์ มันหันและจ้องที่ หง เหวิน
“นี่คือวิธีที่เจ้าต้อนรับศิษย์น้องของเจ้าอย่างงั้น รึ? ลงไปและไปสำนึกผิดที่กำแพงสำนึกบาปซะ! เจ้าต้องรำลึกถึงความผิดที่ตัวเองทำตลอดทุกวัน เป็นเวลา 3 เดือน ในช่วงเวลานั้น เจ้าจะไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงใดๆ ทั้งสิ้น ”
หง เหวินไม่กล้าที่จะพูดโต้ตอบ มันจ้องที่ซวนหยวนอย่างชั่วร้ายและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ศิษย์แท้จริงจะได้เรียนรู้ทักษะที่แท้จริงของสำนักหลายๆทักษะ พวกมันจะมีพลังและอำนาจมากกว่าศิษย์นอกและศิษย์ในทั้งหมด มันสามารถที่จะลงโทษหรือแม้กระทั่งฆ่าพวกเขาได้ หากพวกมันเห็นว่าสมควร
“เจ้าคือซวนหยวน ใช่หรือไม่? แม้ว่าหง เหวินจะโจมตีเจ้าก่อนแต่เจ้าก็ไม่ควรที่จะทำลายดวงตาของเขา กฏคือกฏ คุกเข่าซะ” เย่ว ชานสั่งอย่างเย็นช้า พลังของเขาเกือบจะบังคับให้ซวนหยวนคุกเขาลง
หัวของเขาหมุน กระดูกของเขาสั่น กู่ฉิงไม่ได้ทรงพลังเท่าเขาและมันเกรงกลัวต่อพลังของเย่ว ชาน
เลือดไหลออกมาจากปากของซวนหยวน แต่หัวใจของเขากลับสงบ เขาเพียงจ้องหน้าเย่ว ชานและปริปากอย่างช้าๆ
“ข้าจะไม่ยอมคุกเข่า ข้าไม่ได้ทำผิด”
เสียงซุบซิบแพร่กระจายไปในหมู่ศิษย์ที่มองดู
“ไอเด็กนั้นมันขัดขืนคำสั่งของศิษย์พี่เย่ว ชาน มันก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย”
“เจ้าหนูนั้นวันนี้ มันต้องได้รับบทเรียนหรือบางทีมันอาจจะโดนฆ่า”
“แม้แต่ศิษย์พี่หญิงก็ไม่สามารถที่จะช่วยมันได้ถ้าศิษย์เย่ว ชานตัดสินใจที่จะฆ่ามัน”
“มันคิดว่ามันสามารถที่จะอวดดีเช่นนี้ได้เพราะศิษย์พี่หญิงถูกใจมัน?”
เย่ว ชานใส่พลังมากยิ่งขึ้นเพื่อกดดันใส่ซวนหยวน “เจ้ากล้าดียังไง เจ้าอยากตายมากอย่างงั้นรึ?”
เหยียน ซือหยุนตะโกน “ท่านจะทำอะไร ศิษย์พี่เย่ว ชาน เขาเป็นเพียงแค่เด็กขั้นนักรบ มันเหมาะสมหรือไม่ที่ท่านจะทำเช่นนั้น?”
เย่ว ชาน ยิ้มเยาะเย้ย “ข้าสามารถที่จะลงโทษหรือฆ่าศิษย์ภายนอกหรือศิษย์ภายในได้ นี่เป็นสิทธิของข้าที่เป็นศิษย์แท้จริงของสำนัก ศิษย์น้องหรือว่าเจ้าอยากจะฝ่าฝืนกฏด้วย?”
นางคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร นางยืนข้างๆซวนหยวนและปลดปล่อยความแข็งแกร่งของนางเพื่อที่จะลบล้างพลังบางส่วนที่กดทับซวนหยวน
กระดูกของซวนหยวนถูกบดอย่างช้าๆ มันเจ็บปวดอย่างมาก ถ้าเขาไม่ได้มีร่างกายที่เกิดจากการสร้างขึ้น ร่างของเขาคงจะถูกบดเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน นี่หรือความแข็งแกร่งระดับพฤกษา?
“ถ้าหง เหวินไม่มาหาข้า ข้าคงไม่เอาตาของมันไป มันเป็นความผิดของเขา! ข้าไม่ควรถูกลงโทษ มันเป็นเพราะท่านมีความแค้นกับข้าหรือไม่จริง? ท่านมาจากตระกูลเย่วนั่นเป็นเหตุผลที่ท่านต้องการให้ข้ายอมแพ้”
ซวนหยวนตาแดงก่ำ ผิวหนังและเนื้อของเขาสั่นไปหมด โดยที่เขาไม่รู้ตัว เขาท่องก็ท่อง “วิถีแห่งการปรับแต่งกระดูก” ในจิตใต้สำนึกของเขา ผิวของเขา เนื้อ และกระดูกเชื่อมต่อกัน
81!
90!
99!
เขาทำลายผ่านไปยังขอบเขตจอมยุทธ์ คนธรรมดาทั่วไปมีเพียงความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 48 ตัว เมื่อพวกเขาเข้าสู่ขอบเขตจอมยุทธ์และซวนหยวนนั้นอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตจอมยุทธ์เรียบร้อยแล้ว เรื่องแบบนี้พวกมันไม่เคยได้ยินมาก่อน
ศิษย์ทุกคนอ้าปากค้าง
“มันเป็นได้ยังไง? ขอบเขตจอมยุทธ์ต้องมีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 99ตัว? เจ้าเด็กนี่มีพรสวรรค์มากๆ มันฝึกฝนที่นี่ตอนนี้”
“ใช่ ข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน เป็นไปได้ยังไง หรือว่า เขามีร่างกายที่พิเศษ?”
“ไม่แปลใจเลยที่เขากล้าท้าทายศิษย์พี่เย่ว ชาน…”
เย่ว ชานรู้สึกประหลาดใจกับความก้าวหน้าของซวนหยวน ซึ่งเกิดจากแรงกดดันของเขา มันมีความแข็งแกร่งเท่ากับวัว 99 ตัวแล้ว มันไม่สามารถเปิดเผยความประหลาดใจนี้ และมันต้องการที่จะทำลายซวนหยวนมากยิ่งขึ้นก่อนที่ซวนหยวนจะพัฒนาไปมากกว่านี้
“ยอดเยี่ยม เจ้าสามารถพัฒนาภายใต้แรงกดดันของข้า ข้าจะดูว่าเจ้าสามารถที่จะยืนได้นานแค่ไหนกัน” เย่ว ชานเพ่งสมาธิและส่งพลังไปที่จุดๆเดียวที่ซวนหยวน เหยียน ซือหยุนรู้สึกว่าแรงกดดันบนตัวนางหายไปและรู้สึกว่าสถานการณ์มันจะเลวร้ายขึ้น นางไม่มีความเร็วพอที่จะปกป้องเขา
กระดูกของเขาสั่นภายใต้แรงกดดัน ถ้าเขาไม่บรรลุขอบเขตใหม่ กระดูกของเขาคงถูกบดไปเรียบร้อยแล้ว
“ศิษย์พี่เย่ว ชาน น้องซวนหยวนนั้นเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากมาก ท่านกำลังจะทำลายความหวังของสำนัก? พวกเราไม่มีใครถูกเรียกไปยังนิกายนักสู้มังกรมาเป็นเวลานาน!” เหยียน ซือหยุนกรีดร้องด้วยความโกรธ ถ้านางแข็งแกร่งเพียงพอ นางจะสู้ตอบโต้
“มันเป็นคนเลวทรามและกระหายเลือด ถ้าข้าปล่อยให้มันไป มันจะทำลายสำนัก คุกเข่าซะ!” เย่ว ชาน อิจฉาพรสวรรค์ของซวนหยวน เขาจะต้องได้รับการเรียกตัวจากนิกายถ้าเขามีพรสวรรค์แบบซวนหยวน
ซวนหยวนไม่สามารถที่จะยืนได้อีกต่อไปและเขาก็คุกเข่าซ้ายลง ปรากฏรอยแตกอยู่บนพื้นเหมือนใยแมงมุม
ร่างกายของเขาเริ่มถึงขีดจำกัด และเริ่มถูกบด ซวนหยวนสาบานกับตัวเองว่าถ้าเขามีโอกาสที่จะฝึกฝน เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาจะต้องฆ่าเย่ว ชานให้ได้
ทันใดนั้น มีพลังที่แข็งแกร่งมากปัดเป่าพลังของเย่ว ชาน มันมาจากชายที่ดูเป็นคนที่พิเศษบนหลังม้าเกล็ดมังกร ม้าถูกปกคลุมไปด้วยรูปแบบมังกร สีของมันเป็นสีแดงเลือดมันทรงพลังมาก และมันมีนิสัยดุร้าย ไม่น่าเชื่อที่มันจะเชื่อง คนที่อยู่บนนั้นต้องทรงพลังมากกว่าเย่ว ชานเป็นอย่างมาก
“ข้าคือศิษย์แท้จริงจากนิกายนักสู้มังกร! นาม เฟิง เลี่ย นิกายนักสู้มังกรต้องการให้ศิษย์แท้จริงทุกคนและศิษย์ภายในทุกคน ดักโจมตีรังปีศาจมายาใกล้กับเมืองพระอาทิตย์ เมืองพระอาทิตย์ประสบความเสียหายอย่างรุนแรง ผู้คนธรรมดาถูกพวกมันฆ่าตายไปจำนวนมากและมีคนบาดเจ็บอีกมาก จากการกระทำของพวกมัน”
เย่ว ชานก้มหัวของมันลงต่อหน้าเฟิง เลี่ย
เหยียน ซือหยุนโค้งคำนับเล็กน้อย
แต่ซวนหยวนเท่านั้นที่ยืนขึ้นและมองตรงไปที่เฟิง เลี่ย เขาเป็นคนไม่เกรงกลัวอะไร
แสงจันทร์ส่องออกมาจากประตู ชายแก่ที่ดูเข้มงวดเดินออกมา เขายิ้มให้เฟิง เลี่ย
“สำนักจันทร์พฤกษาน้อมรับคำสั่ง”
เฟิง เลี่ยพยักหน้าขณะที่มองซวนหยวนและกล่าวยกย่อง
“เจ้าสำนักหัว เทียน ท่านได้รับศิษย์ที่แสนวิเศษเป็นอย่างมาก เขาอยู่เพียงแค่ขอบเขตจอมยุทธ์แต่กลับสามารถสำแดงพลังได้ออกมามากมายถึงเพียงนี้ นี่คือสิ่งที่ผู้ฝึกฝนวรยุทธ์ควรจะเป็น ถ้าท่านให้การช่วยในการซุ่มโจมตีเผ่าปีศาจมายา แล้วข้าจะพาเขาไปในฐานะศิษย์ภายนอกของนิกายนักสู้มังกร”
หลังจากที่เขามองตรงไปที่ซวนหยวนแล้วเฟิง เลี่ยมองไปที่เย่ว ชานและกล่าวอย่างเย็นชา ว่า…”ข่มขู่ผู้ที่มีความอ่อนแอกว่าเพราะความอิจฉา เจ้าสมควรที่จะถูกลงโทษ หากมีครั้งต่อไป ข้าจะฆ่าเจ้า”
เฟิง เลี่ยสร้างคลื่นพลังที่มือและลมกระโชกแรงตีเข้าไปที่หน้าของเย่ว ชาน ทำให้หน้าของมันบิดเบี้ยว หน้าของมันบวมขึ้นทันทีและเลือดสาดไปทั่วใบหน้าของมัน เย่ว ชานไม่กล้าที่จะพูดอะไร
ความโกรธของซวนหยวนหายไปในทันที เขากล่าว ขอบคุณ เฟิง เลี่ย
“ข้าซาบซึ้งในการช่วยเหลือของท่านมากศิษย์พี่เฟิง เลี่ย!”
“ดี” เฟิง เลี่ยยิ้มและหันไปทางชายชราที่อยู่ขอบเขตนักพรตและเป็นเจ้าสำนักจันทร์พฤกษา “เจ้าสำนักหัว เทียน ข้าหวังว่าท่านจะไม่คิดมากที่ข้าสั่งสอนศิษย์ที่เกเรของท่าน?”
“แน่นอน ข้าไม่คิดมาก โปรดมั่นใจ นายน้อยเฟิง เลี่ย ศิษย์ของสำนักจันทร์พฤกษาจะออกไปปฎิบัติตามคำสั่งอย่างแน่นอน ” เจ้าสำนักหัว เทียนยังคงยิ้ม ถึงแม้เขาจะโกรธ เขาก็ไม่สามารถที่แสดงให้เห็นได้
“ดี งั้นข้าจะมุ่งหน้าไปก่อน” จากนั้นเขาก็หันไปรอบๆและออกไปพร้อมม้าของเขา
เหยียน ซือหยุนรู้สึกดี นางยิ้มและคิดว่า “ซวนหยวนฉลาดมาก การที่ไปเรียกเขาว่าศิษย์พี่ มันเหมือนกับว่าเจ้าได้กลายเป็นศิษย์ของนิกายนักสู้มังกรไปแล้ว”