I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 35 ชั้นที่สี่

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ซวนหยวนยัดผลึกอสูรเข้าไปในปากของกู่ฉิงและสังเกต มันกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นพลังที่น่าสะพรึงได้เริ่มหมุนเวียนอยู่ภายในตัวของกู่ฉิง ผิวของมันถูกฉีกกระชากเป็นชิ้น พร้อมกับเลือดที่สาดกระเซ็นออกมาในทันที ซวนหยวนคำรามออกมาด้วยความตกใจ “ ศิษย์พี่ต่ง เกิดอันใดขึ้น !? ”

 
ดวงตาของ ต่ง เซวียนหรี่ลงและรีบก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พลังปราณถูกรวบรวมไว้ที่ฝ่ามือของเขาและกลายเป็นแสงที่นุ่มนวลราวกับแสงจันทร์ เขารีบผลักมันเข้าไปในตัวของกู่ฉิง

 
ผิวหนังของกู่ฉิงเริ่มที่จะรักษาตัวเอง พลังนั้นไหลไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ตัวของกู่ฉิงเริ่มขยายใหญ่ขึ้น! ตอนนี้มันสูงเกือบ 5 ฟุต และยาว 3 เมตร ขนที่เรียบเนียนกลายเป็นขนที่แหลมคมราวกับหนาม ฟันและกรงเล็บที่แหลมขยายใหญ่ขึ้น ภาพที่เห็นทำให้มันดูน่าเกรงขามและน่ากลัวเป็นอย่างมาก

 
ความแข็งแกร่งของมันได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด มันเป็นความแข็งแกร่งที่เทียบเท่ากับมังกร!

 
1!

 
2!

 
3!

 
……

 
6!

 
กู่ฉิงในตอนนี้นั้น มีพลังมากกว่าซวนหยวนเสียอีก เมื่อกู่ฉิงดูดซับพลังจากผลึกอสูรได้หมด ต่ง เซวียนกลับถูกปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขาใช้พลังปราณของตัวเองในการช่วยกู่ฉิงให้ดูดซับผลึกอสูรจนถึงขีดสุด และใช้ทักษะในการรักษารักษาแผลให้มัน จนกว่าพลังของมังกรตัวที่ 6 จะครบสมบูรณ์ และยังเหลือผลึกอสูรไว้อีกครึ่งหนึ่ง ผนึกอยู่ในตัวของกู่ฉิง

 
กู่ฉิงตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ ดวงตาของมันเผยให้เห็นถึงความฉลาดแกมโกงเหมือนกับเจ้านายของมัน

 
“ ศิษย์น้องซวนหยวน เจ้าสะเพร่าเกินไปแล้ว กู่ฉิงเป็นเพียงแค่หมาป่าธรรมดา เจ้าอาจจะฆ่ามันได้ถ้ายังขืนให้ผลึกอสูรอยู่แบบนี้ ” เหยียนซือหยุนตำหนิซวนหยวน เพราะเคยมีเรื่องคล้ายๆแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นนางรู้ว่าซวนหยวนมีวัตถุประสงค์เช่นใด กู่ฉิงจะยังคงไม่เป็นอันตรายตราบเท่าที่ ต่ง เซวียนคอยควบคุมพลังของผลึกอสูร แต่ถึงไม่ว่าเขาจะไม่อยู่ แต่เหยียนซือหยุนก็ยังสามารถช่วยได้ แต่นางก็ยังหลอกและแกล้งเป็นว่าตกใจกับการกระทำของซวนหยวน

“ ศิษย์น้องซือหยิน กล่าวได้ถูกต้อง ” ต่ง เซวียนเหนื่อยเป็นอย่างมาก การควบคุมพลังของผลึกอสูรนั้นเหน็ดเหนื่อยกว่าการฆ่าเหล่าปีศาจปอบขาวนับพันตัวเสียอีก

 
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ข้าไม่ทราบมาก่อน แต่ดีที่ท่านอยู่ที่นี่ ทุกอย่างนั้นเรียบร้อย ศิษย์พี่ต่ง ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ข้าจะดูแลท่านเป็นอย่างดีเมื่อเรากลับไปที่นิกาย ตามข้ามา กู่ฉิง! ” ซวนหยวนหัวเราะอย่างใสซื่อและอารมณ์ดี เขารีบมุ่งหน้าลงไปอย่างชั้นที่ 4 ของรัง กู่ฉิงจับซือหยุนขึ้นมาไว้บนหลังของมัน เหล่าศิษย์แท้จริงคนอื่นได้ติดตามไป

 
ต่ง เซวียนโกรธเกรี้ยวแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาบนใบหน้า เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ซวนหยวนลงไปยันชั้นที่ 4

 
“ ซวนหยวน เชิญหัวเราะในขณะที่เจ้ายังทำได้เถอะ!”

 
ต่ง เซวียน , ลวี เฟิง และ เย่ว ชาน แสดงให้เห็นถึงร้ายยิ้มที่ชั่วร้าย พวกมันคิดว่าซวนหยวนนั้นคิดว่าตัวเองอยู่ยงคงกระพัน เขาคิดเพียงจะไปเผชิญกับเผ่าปีศาจมายาในชั้นถัดไป พวกมันตั้งใจจะสังหารเขาที่นั่น

____________________________________

ในชั้นที่ 4 ของรัง

 
ด้านหน้าของพวกเขาเป็นที่ราบอันกว้างใหญ่ มีแม่น้ำที่ยาวและคดเคี้ยว แม่น้ำที่ยาวและคดเคี้ยวอัดแน่นไปด้วยน้ำสีดำ หญ้าเรืองแสงมีอยู่ทุกที่ มันก็คล้ายกับชั้นที่แล้วๆมา มีบางอย่างปะปนมาในอากาศและทำให้หายใจได้ลำบาก

 
ซวนหยวน กู่ฉิง และเหยียนซือหยุน ทั้งหมดใช้ยาแก้ผิดในการหักล้างพิษในอากาศ ศิษย์แท้จริงคนอื่นๆทั้งหมดล้วนอยู่ในขอบเขตพฤกษา พวกเขาสามารถที่จะทนต่อสภาวะเช่นนี้ได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาเม็ดยา

 
อากาศในชั้นที่ 4 นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อนักสู้จิตวิญญาณมากนัก เหยียนซือหยุนครอบครองความแข็งแกร่งที่เทียบเท่ากับมังกร 6 ตัว ในระหว่างที่อยู่ในการคัดเลือกศิษย์ในเมืองจันทร์สาย แต่หลังจากที่ผ่านการต่อสู้ ความแข็งแกร่งของนางเพิ่มเป็นมังกร 8 ตัว

 
การพัฒนาของนางนั้นไม่ได้ช้า ตอนนี้นางมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 2 ตัว และด้วยยุทธภัณฑ์ระดับจิตวิญญาณขั้นสูงสุด และกงล้อดวงจันทร์ อาวุธระดับจิตวืญญาณขั้นสูงสุด นางสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่เทียบเท่ากับมังกร 18 ตัวได้

 
เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามายังชั้น 4 พวกเขารู้สึกว่าบรรยากาศชั่วร้ายในชั้นนี้หนาแน่นเป็นอย่างมาก สิ่งมีชีวิตที่เกินขอบเขตพฤกษาต้องปรากฏตัวออกมาอย่างแน่นอน เมื่อผู้ฝึกตนที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตพฤกษา ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเทียบเท่าได้กับมังกร 27 ตัว มันคือความแตกต่างของพลัง พวกเขาสามารถทำให้ซวนหยวนบาดเจ็บสาหัสด้วยการต่อยเพียงครั้งเดียว

 
การตรวจจับในบรรยากาศชั่วร้าย ต่ง เซวียน , ลวี เฟิง และ เย่ว ชาน ปรากฏรอยยิ้มที่ชั่วร้ายขึ้น ด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว ทั้ง 3 ได้ลอยไปอยู่กลางอากาศ

 
ทั้ง 3 รวมพลังปราณต่อสู้ที่เข้มข้นเข้าด้วยกัน และก่อเกิดรูปแบบใบมีดสองจันทร์สามพันเล่ม และมุ่งเป้าไปที่ฝูงปีศาจปอบขาวที่ห่างออกไป 500 เมตร

 
ปีศาจปอบขาวทั้งหมด แต่ละตัวมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยเทียบเท่ากับมังกร 3 ตัว บางตัวอาจจะมีมากถึง 8 ตัว

 
ใบมีดแสงจันทร์ได้หั่นพวกมันออกเป็นชิ้นๆ แต่ถึงอย่างไร มันก็เป็นเพียงการดึงดูดปีศาจปอบขาวให้เข้ามาร่วมต่อสู้มากขึ้นเท่านั้น

 
เสียงกรีดร้องของปีศาจปอบขาวดังกึกก้องไปทั้งชั้น 4 แต่ถึงกระนั้น ซวนหยวนก็ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตจอมยุทธ์ เขาต้องการแรงกระตุ้นที่จะทำให้สามารถก้าวไปสู่ขอบเขตจิตวิญญาณได้

 
เขากระโจนขึ้นไปบนยอดหนามที่แหลมคม มันเป็นหนามที่มีพิษร้ายแรง

 
ขนทั่วร่างกายของเขาลุกชันขึ้น รองเท้าเมฆาเหินหาวป้องกันเท้าเขาจากการถูกเจาะ ถ้าเขาสวมรองเท้าธรรมดา ป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว

 
“ ระวังตัวกันด้วย หนามบนพื้นทั้งหมดนั้นมีพิษ ” ซวนหยวนเตือน ได้ยินดังนั้นศิษย์ทุกคนต่างหลีกเลี่ยงที่จะก้าวไปยังที่ๆมีหนาม ถึงพวกเขาจะมียุทธภัณฑ์ช่วยป้องกันแต่พิษยังไงก็ยังเป็นพิษ จะดีกว่าถ้าพวกเขาจะหลีกเลี่ยงมัน

 
ซวนหยวนใช้ดาบของเขาตัดหญ้าเรืองแสงออก ใบหญ้าที่ถูกตัดลอยอยู่กลางอากาศเหมือนหิ่งห้อย เขาใช้มันเพื่อหันเหความสนใจของปีศาจปอบขาว ก่อนที่เขาจะก้าวออกไปและพุ่งเข้าไปยังฝูงปอบขาว

 
ตอนนี้กูฉิงครอบครองความแข็งแกร่งที่เทียบเท่ากับมังกร 6 ตัว ผิวหนังที่แข็งแกร่งของมันสามารถจัดการกับหนามแหลมได้อย่างง่ายดาย มันไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยถึงมันจะเหยียบย่ำไปบนหนาม อย่างไรก็ตาม เหยียนซือหยุนกังวลเกี่ยวกับซวนหยวน นางกล่าวกับกู่ฉิง “ ตามซวนหยวนไป ”

 
ศิษย์แท้จริงจำนวนมากได้รับการกระตุ้นจากความกล้าหาญของซวนหยวน พวกเขารีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อสังหารเหล่าศัตรู อย่างไรก็ตาม ต่ง เซวียน , ลวี เฟิง และ เย่ว ชาน ต่างอยู่ห่างจากสมรภูมิและพุ่งไปยังทิศทางอื่น พวกเขาหายไปจากสนามรบ

 
“ พวกเราจะไปกำจัดเหล่าปีศาจที่อยู่ในขอบเขตกษัตริย์ ระวังตัวด้วย! ”

 
มันเป็นข้ออ้างที่ไร้ที่ติ ลวี เฟิง จากไปเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปจัดการกับเหล่าปีศาจมายาระดับสูง

 
ซวนหยวนทราบถึงแผนการของพวกมันแล้ว แต่เขาไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขากำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งและจะกลายเป็นผู้ที่ทรงอำนาจในโลกใบนี้ โดยการที่โยนตัวเองเข้าไปในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

 
ดาบมังกรวารีของเขาตัดผ่านเข้าไปในฝูงของปีศาจปอบ ทันใดนั้นเขาตัดหัวปีศาจปอบขาวครึ่งหนึ่งที่อยู่หน้าเขา

 
การกระทำที่น่าสะพรึงของซวนหยวนนั้นได้ดึงดูดปีศาจปอบขาว หกในสิบของพวกมัน มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมังกร 6 ตัว และพวกมันได้พุ่งไปยังเขา
“ ตอนนี้แหละ! ”

 
ซวนหยวนไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย แทนที่ เขาตะวัดดาบอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดเปลวไฟขึ้นมา มันพุ่งไปข้างหน้าและตัวปีศาจปอบขาวเป็นชิ้นๆ

 
เหลืออีกเพียง 5 ตัว มันใช้กรงเล็บโจมตีไปยังซวนหยวน เขาบิดตัวเพียงเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี ทักษะนี้มีชื่อว่า “ มังกรสวรรค์หวนกลับ ” มันสามารถช่วยในการเอาชีวิตรอดจากการโจมตีที่จะก่อนให้เกิดความเสียหาย เขาได้เหวียงดาบไปอีกครั้งและก่อนที่เขาจะถึงพื้น ได้สังหารปีศาจปอบขาวไปอีก 3 ตัว แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมือของเขากำลังได้รับความเสียหายจากแรงกดดัน

 
ปีศาจปอบขาวมีพลังมากกว่าตัวเขา ด้วยร่างกายที่สามารถทนต่อการโจมตีของนักสู้จิตวิญญาณ ร่างกายของพวกมันนั้นแข็งแกร่งและทำให้ยากลำบากอยู่บ้าง
ถ้าไม่ใช่เพราะความคมอย่างเหลือเชื่อของดาบมังกรวารี ซวนหยวนจะไม่สามารถตัดผ่านเหล่าปีศาจขาวได้ง่ายดายเช่นนี้ ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน เมื่อเขาวอกแวกจากความเจ็บปวด ปีศาจปอบขาว 2 ตัว ได้ลอบโจมตีเขาจากด้านหลัง…

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments