ชายตัวใหญ่คนนั้นเป็นอาวุโสของตะกูลที่มีอิทธิพลตะกูลหนึ่ง เขามีอายุไล่เลี่ยกับชูหยวนและมีพลังอยู่ในระดับ 9 ห้วงวิญญาณ เพราะเหตุนี้ เขาจึงไม่กลัวเมื่อเผชิญหน้ากับ ‘ชูหยวน’
 
สีหน้าของ ‘ชูหยวน’ นั้น ยังคงปกติ เขาค่อยๆเดินเข้าไปด้านหน้า ขณะเดียวกัน ‘ชูเฟิง’ และ สมาชิกคนอื่นๆของตะกูลชูก็เดินตามไปติดๆพูดได้เลยว่าการลุกขึ้นเคลื่อนไหวของตะกูล ชู ช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก
 
ขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาในใจหลายคนต่างอกสั่นขวัญแขวน เหตุการณ์ที่ภูเขาชูพิง ตะกูล ชู ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความน่ากลัวและความโหดร้ายของพวกเขาว่าแข็งแกร่งมากแค่ไหน นี้มันขบวนร้อยอสูรชัดๆ
 
ยังไงก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับสีหน้าของคนอื่นๆ ชายตัวใหญ่คนนั้นยังคงปกติ เขาจ้องมอง ‘ชูหยวน’ ที่เดินนำหน้าขบวนมาและกล่าว
 

 
” ชู หยวนถ้าเจ้าต้องการให้ตะกูลต่างๆยอมสยบ เจ้าก็ควรหาคนที่เหมาะสมมาหน่อย หรือไม่ก็ไปตาม ชู หยวนบ้า ออกมาก็ได้ เจ้าและคนอื่นๆต่างไม่มีคุณสมบัติที่จะมาสั่งพวกเรา”
 
* ปั้งง *
 
ขณะที่ชายตัวใหญ่คนนั้นพูดจบ ‘ชูหยวน’ ยกมือเข้าไปฟาดที่หน้าของเขาอย่างรุนแรง
 
*โผ๊ละ *
 
ด้วยความแรงของฝ่ามือทำให้ชายตัวใหญ่คนนั้นกระเด็น ลอยไปในอากาศและตกมาใส่เก้าอี้จนแตกกระจาย หลายคนบอกได้เลยว่าเขานั้นหาเรื่องใส่ตัวแต่มันก็สมควรและที่เขาโดน’ชูหยวน’ตบ หากขืนมีใครยังพูดมากก็จะโดนเขาตบจนเก้าอี้แตกกระจายเหมือนเมื่อกี้แน่
 
หลังจากที่ชายตัวใหญ่คนนั้นได้สติเขาก็ตกใจอย่างมาก เขาใช้มือจับที่ใบหน้า เขานั้นได้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง บัดนี้เขาตระหนักถึงความหวาดกลัวและความตื่นตระหนก เพราะมีเรื่องหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
 

 
” เจ้า . . . . . . . . . . . เจ้าเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณตั้งแต่เมื่อไหร่ ? “
 
 
” ชูหยวน เข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณ ? “
 
เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกจากปากชายตัวใหญ่ ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้น ต่างต้องตกใจเช่นกัน ย้อนกลับไป เมื่อเร็วๆนี้ ‘ชูหยวน’นั้นอยู่ในแค่อาณาจักรห้วงวิญญาณ แล้วเขาผ่านเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณตั้งแต่ตอนไหน
 
‘ชูหยวน’ไม่ได้ตอบคำถามชายตัวใหญ่แต่อย่างใด เขาเดินตรงเข้าไปด้านหน้า และยกขาเตะไปที่หน้าแข้ง ขณะนั้นชายตัวใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับกอดขาของตัวเอง
 

 
” อ้า ~~~~~ “
 
มองสีหน้าของเขาที่กำลังเจ็บปวด ใบหน้าของ’ชูหยวน’ไม่คิดแม้แต่จะสงสารหรือเห็นใจเขาแต่อย่างใด เขายิ้มแห้งๆและกล่าวอย่างเย็นชา
 

 
” ใช่ ข้าทะลวงผ่านแล้ว “
 
เห็นฉากนั้นผู้คน ได้แต่สูดอากาศเข้าไปอย่างแรง เพราะตอนนั้น ‘ชูหยวน’ ไม่ได้คิดจะปิดบังพลังของเขาเอาไว้ตั้งแต่แรก ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยออร่าออกมาทั้งหมด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 1
 

 
” ชูหยวนเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณแล้วจริงๆ ถ้างั้นตะกูลชู ก็มี ผู้เชี่ยวชาญถึง 2 คนเลยสินะ “
 
 
” มิน่าล่ะ ชูหยวน ถึงได้ออกมาเป็นตัวแทนของตะกูล เพื่อนำพวกเรา หากเป็นเช่นนี้พวกเราคงไม่มีปัญญาเอาชนะพวกเขาได้แน่ๆ “
 
หลายคนที่ตั้งใจจะต่อต้านตะกูลชูบัดนี้พวกเขาก็ต้องหยุดความคิดเหล่านั้น ทันทีพวกเขาก็เข้าใจว่าพวกเขาไม่ควรไปล่วงเกิน ตะกูล ชู มิเช่นนั้นพวกเขาคงจะเจอกลับปัญหาที่ตามมา
 

 
” ไม่ใช่ว่าข้าอยากจะล่วงเกินเจ้า!!! แต่ต่อให้เจ้าเป็นคนเดียวที่เข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณ เจ้าก็ยังไม่มีคุณสมบัตินั้นอยู่ดี “
 
ในตอนนั้นมีเสียงที่ฟังดู ชรา ดังขึ้นมา เมื่อมองหาก็พบกับคนผอมๆที่ห่างออกไปถึง 10 ลี้ กำลังลุกขึ้นยืนชายชราตัวผอมสูงยาว ยืนอยู่จุดนั้น เขาเหมือนต้นไม้แห้งๆที่ถูกลมพัดแรงๆก็ตาย แต่สายตาของเขานั้นดูไม่ธรรมดา จึงทำให้ใครกล้าที่จะประมาทเขา
 

 
” ผู้นำของตะกูล หลี่ เขามาด้วยหรอ!!! “
 
เห็นชายชราคนนั้นทุกต้องพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ บริเวณรอบๆภูเขาไม่มีใครไม่รู้จักเขา เขาเป็นอีกคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ เหมือนกับ ‘ชู หยวนบ้า’
 

 
” ผู้เฒ่าหลี่ ไม่ต้องพูดอ้อมค้อมมีอะไรก็พูดออกมา ไม่งั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้นำคนใหม่ “
 
ในตอนนั้น ชายชราผอมๆตัวเตี้ยคนหนึ่งที่ดูเหมือนลิง กำลังลุกขึ้นยืนส่วนพลังของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ดูจากออร่าที่น่ากลัวของเขา เขาคืออีกคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ
 

 
” พวกเขาร่วมมือกันงั้นหรอ “
 
‘ชูหยวน’ ขมวดคิ้วลง ชายชราเหมือนลิงคนนั้นคือผู้นำของตะกูล จ้าว อาจพูดได้ว่า นอกจาก ‘ชู หยวนบ้า’ พวกเขาสองคนคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในผู้นำรุ่นก่อน
 
ความแข็งแกร่งของตะกูล จ้าวและตะกูล หลี่ ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าตะกูล สู่ แต่เป็นเพราะว่าพวกเขามักจะเก็บตัวไม่ทำผลงานหรือสร้างวีรกรรมใดๆ สิ่งที่สำคัญมันคือการที่พวกเขาสองตะกูลสนิทสนม บอกได้เลยว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่เน้นแฝ้น นี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าพวกเขาคิดจะร่วมมือกันต่อต้านกับตะกูล ชู
 

 
” ชูหยวน ไปตามผู้นำรุ่นก่อน พ่อของเจ้าออกมา คุณนั้นไม่คู่ควรกับเรา “
 
ผู้นำตะกูล จ้าว โบกมือไล่’ชูหยวน’ เหมือนกับไม่ให้เขาอยู่ในสายตา แต่ ‘ชูหยวน’ก็ไม่ได้สนใจคำพูดหรือการกระทำของเขา
 

 
” หึ!!! เด๋วมาดูกันว่าพลังของข้านั้นคู่ควรมั้ย “
 
พอ ‘ชูหยวน’ พูดจบเขาก็วิ่งใส่ พวกเขาทั้งสองคน หลังจากเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้เขาจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจ นอกจากตัวเองแล้วเขาก็ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
 

 
” ถึงแม้ว่าเจ้าทะลวงผ่านอาณาจักรกำเนิดวิญญาณมาอย่างยากลำบาก แต่น่าก็เสียดายนะ “
 
ตอนนั้นผู้นำตะกูล จ้าว ถอนหายใจ พร้อมกับก้าวมาข้างหน้าพร้อมที่จะโจมตี ‘ชูหยวน’
 
ทั้งสองคนปล่อยแรงดันวิญญาณระดับอาณาจักรกำเนิดวิญญาณออกมา บนบริเวณพิ้นที่รอบๆมีหลายคนถูกลูกหลง ด้วยความตกใจ ผู้คนต่างพากันวิ่งกันอย่างแตกตื่นวุ่นวายหลังจากที่เห็นพลังของพวกเขา มันก็พิสูจน์แห่งเห็นแล้วว่าไม่ง่ายเลยที่จะจัดการ แม้ว่า’ชูหยวน’จะเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 1 แต่การควบคุมพลังวิญญาณของเขานั้นอ่อนด้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้นำ หลี่ และ จ้าว ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเสียเปรียบ
 

 
” พวกตะกูล ชู พูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย คิดจะให้เราร่วมมือกับเจ้างั้นหรอ อย่าฝันไปเลยตะกูลชูนั้นไม่เคยอยู่ในสายตาพวกเราเลยสักครั้ง ถ้าหากวันนี้พวกเราร่วมมือกันในไม่ช้าตะกูลชูจะต้องพินาศ “
 
ทันใดนั้น บริเวณพื้นที่ลานประลองที่กำลังฝึกทักษะกันอยู่ก็ระเบิดขึ้น จากนั้นก็มีฝูงคนวิ่งเขามาทำร้ายคนตะกูล ชู พวกเขาคือคนของตะกูลหลี่และตะกูลจ้าว
 

 
” ใช่แล้ว  เราก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตะกูลชูจะแน่สักแค่ไหน ที่จะมาเป็นผู้นำของเรา ทุกคน!!!มาร่วมมือกันจัดการกับตะกูลชูกันเถอะ “
 
เห็นตะกูล ชู ถูกโจมตีกำลังเสียเปรียบ หลายคนจึงคิดว่านี้เป็นโอกาสดี ที่จะเลือกเข้าร่วมกับสองตะกูลทำลายตะกูล ชูในตอนนั้น รอบๆพื้นที่บริเวณลานประลอง เต็มไปด้วยการต่อสู้ แต่ที่ไปสะดุดตามากที่สุด คือการต่อสู้ระหว่าง ‘ชูหยวน’ กับ ผู้นำตะกูล จ้าว ขณะนั้นการโจมตีของผู้นำตะกูล จ้าวทำให้ ‘ชูหยวน’ ถูกกดดัน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อาจจะสู้ไหวหรืออาจจะแพ้ไปก็ได้
 

 
” ชูหยวน วันนี้ ข้าจะส่งเจ้าไปที่ที่สบาย”
 
ทันใดนั้น ผู้นำตะกูล หลี่ ก็โจมตีเข้ามาผู้นำตะกูล หลี่ โจมตีด้วยฝ่ามือ แต่ฝ่ามือเขานั้นมีแก๊สสีเขียวปล่อยออกมากระจายไปรอบๆพื้นที่จนเป็นหมอก มันคือทักษะ ฝ่ามือ ร้อยพิษ
 
ตอนนั้นคนจะกูลชูที่ดมแก๊สเข้าไปต่างหมดสภาพ ‘ชูหยวน’นั้นเสียเปรียบผู้นำตะกูล หลี่อยู่แล้วก็ต้องมารับมือกับผู้นำตะกูล จ้าวอีกคน เขานั้นไม่สามารถจะรับทั้งสองคนพร้อมกันไหว หากเป็นอย่างนี้ต่อไปแม้ว่าเขาจะไม่ถึงกับตาย เขาก็ต้องกลายเป็นคนพิการ
 
* ซึบบ*
 
ขณะที่ผู้นำตะกูล หลี่ กระหน่ำโจมตี จู่ๆก็มีคนปรากฏออกมาจากด้านหลังเขาอย่างรวดเร็วเหมือนกับปีศาจ จากนั้นก็มีมือสายฟ้า รูปร่างคล้ายดาบ เสียบทะลุลำคอของผู้นำตะกูล หลี่
 
* ฟู่ดดดด…. *
 
ขณะที่เขากระชากมือกลับ ก็มีเลือดพุ่งออกมา จากนั้นหัวผู้นำของตะกูล หลี่ ก็หลุดกระเด็น ร่างของเขาก็ทรุดลงบนพื้นแต่ยังไม่จบแค่นั้น หลังจากที่ฆ่าผู้นำตะกูล หลี่ ได้แล้ว เขาก็พุ่งเข้ามาโจมตีผู้นำตะกูล จ้าว ด้วยวิธีเดียวกัน
 
หลังจากที่ฆ่าพวกเขาทั้งสองได้แล้ว เขาก็หยุดยืนอยู่ที่พื้นทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาหันไปเห็นก็ต้องตกใจกับภาพที่ปรากฏในดวงตา พวกเขาพบว่าผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณทั้งสองถูกฆ่าตายโดยไร้ศีรษะ
 
คนที่กำลังต่อสู้ ก็ต้องหยุดมือ ทุกอย่างจึงจบลงด้วยความตกใจ พวกเขาได้พบกับความน่าสะพึงกลัวของเด็กหนุ่ม ที่ชื่อว่า ‘ชูเฟิง’ อัจฉริยะของตะกูล ชู
 
‘ชูเฟิง’ ไม่สนใจคนเหล่านั้นที่กำลังตกใจ เขาเห็นหน้าไปพร้อมกับกวาดสายตามองผู้คนรอบๆและกล่าวอย่างเย็นชา
 

 
” วันนี้ ตะกูลชูของข้าจะรวบรวมพื้นที่ทั้งหมดบริเวณภูเขาแห่งนี้ ใครที่มันต่อต้าน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน ข้าจะตัดคอของมันโดยไม่มีการละเว้น “
 
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . .
 
ที่มา: