I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 96 – ป้ายทอง-ม่วง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

” วันนี้ ตะกูลชูของข้าจะรวบรวมพื้นที่ทั้งหมดบริเวณภูเขาแห่งนี้ ใครที่มันต่อต้าน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหน ข้าจะตัดคอของมันโดยไม่มีการละเว้น “

” โฮ ~ ~ “

เมื่อ ‘ชูเฟิง’ พูดออกมา ทุกคนรอบๆบริเวณนั้นต่างพากันเงียบด้วยกันประหลาดใจ จากนั้นพวกเขาก็จ้องมอง ‘ชูเฟิง’ อย่างว่างเปล่าเมื่อเขาทบทวนในที่สุด ก็พบกับความจริงที่น่าตกใจ เหตุผลที่ตะกูล ชู สามารถเอาชนะ 3 ตะกูลใหญ่ ไม่ใช่ฝีมือของ ‘ชู หยวนบ้า’ หรือ ‘ชูหยวน’

แต่มันเป็นเพราะเด็กหนุ่มที่มีอายุแค่ 15 ปีเมื่อก่อนทุกคนต่างคิดว่าคงเป็นฝีมือของ ‘ชู หยวนบ้า’ แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเข้าใจผิด เพราะความแข็งแกร่งของ’ชู หยวนบ้า’ไม่ได้มากไปกว่า 3 ตะกูลสักเท่าไหร่

หากเป็น ‘ชู หยวน’ ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่ สำหรับความแข็งแกร่งของ ‘ชูเฟิง’ ที่พวกเขาได้ประจักษ์มากับตา พวกเขาจึงปฏิเสธมันไม่ได้ จึงต้องยอมรับความจริงตอนนั้น ผู้คนส่วนใหญ่ถึงกับตาค้าง ปากค้าง พวกเขารู้ว่าสิ่งที่ ‘ชูเฟิง’ พูดมันยากที่จะยอมรับ

แต่ด้วยความแข็งแกร่งของ ‘ชูเฟิง’ พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะขัดขืนเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียง 15 ปี ที่สามารถตัดหัวผู้ที่แข็งแกร่งในระดับอาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้ มันก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เพราะเหตุนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องยอมรับ

” ตะกูล เถียน ของข้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ตะกูล ชู กล่าว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราพร้อมที่ปฏิบัติตามกฏที่ตะกูล ชู เป็นคนกำหนด และ รับคอยรับใช้ตะกูล ชู “

ผู้นำ ตะกูลเถียนประกาศจุดยืนของตน ซึ่งแต่เดิมแล้วตะกูลนี้ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับตะกูลชูมาตั้งแต่ช้านาน

” ตะกูล เซียว ของข้าก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามคำสั่งตะกูล ชู “

หลังจากนั้นพวกคนที่เคยวางตัวเป็นกลางก็เริ่มจำนนต่อตะกูล ชูแม้แต่คนที่คิดต่อต้าน บัดนี้ก็ต้องยอมจำนนกับพลังที่แข็งแกร่งของตะกูล ชู ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่ต่อหน้าอำนาจพลังของ ‘ชูเฟิง’ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกเพราะความแข็งแกร่งของ ‘ชูเฟิง’

ที่สามารถปลิดชีพผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณทั้งสองคนได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเป็นสาวกหลักของโรงเรียนมังกรฟ้า แล้วใครบ้างจะกล้าขัดขืนตราบใดที่ ‘ชูเฟิง’ ยังเป็นคนของตะกูล ชู ก็ไม่มีใครคิดที่จะต่อต้าน ได้แต่ยอมร่วมมือกับตะกูล ชู

เขาช่างเป็นเด็กหนุ่มที่น่ากลัวจริงๆคำว่าอัจฉริยะที่เรียกกัน แท้จริงแล้วมันเป็นยังไง ในวันนี้พวกเขาก็ได้สัมผัสมันมากับตา อัจฉริยะคือคนที่มีฝีมือสูงส่งแม้ว่าระดับอาณาจักรวิญญาณจะไม่เท่ากัน แต่ก็ยังสามารถสังหารคนที่มีระดับอาณาจักรวิญญาณที่สูงกว่าได้พวกเขาเกือบทั้งหมด

ได้ยอมจำนนต่อตะกูล ชู แต่โดยดี จากนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็ค่อยๆเดินขึ้นไปบนลานประลอง และกล่าวกับผู้คนว่า

” ในเมื่อทุกท่านได้แสดงจุดยืนของพวกท่านแล้ว ข้าจะไม่พูดอ้อมค้อม จากนี้ไป กฏในพื้นที่บริเวณรอบๆภูเขา ชูพิง ตะกูลข้าจะเป็นคนกำหนด  สิ่งเดียวที่ข้าต้องการคือให้พวกท่าน ปฏิบัติตาม!!! “

” ข้าอยากให้ท่านทำตามกฏด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่ลมปาก เพื่อให้พวกท่านแสดงความจริงใจ จงคุกเข่าลงซะ!!! “

” อะไรนะ นี่มันหมายความว่าไง ? พวกเขาตกใจอย่างมากกับสิ่งที่ชูเฟิงพูด พวกเขาคิดว่าทำไมต้องยอมทำตาม”

ข้าพูดไม่ชัดงั้นหรอ งั้นข้าจะพูดมันอีกครั้ง ข้าอยากให้พวกท่านคุกเข่าลง ใบหน้าของ ‘ชูเฟิง’ ขนาดนั้นดูเยือกเย็น พร้อมกับปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมาปกคลุมทั่วพื้นที่รอบๆสนามประลอง

* พรึบบบ *

พวกเขาทั้งหมดยอมคุกเข่าลงกับพื้นเหลือเพียงแต่ตะกูล ชู เท่านั้นที่ยังคงยืน พวกเขาไม่มีใครกล้าถามว่าเพราะอะไร ได้แต่นั่งคุกเข่าขณะที่ตัวสั่น

ทุกคนต่างยอมรับ และแสดงความจริงใจด้วยการคุกเข่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยเป็นสหาย หรือคนที่วางตัวเป็นกลาง หรือแม้กระทั้ง คนที่เคยต่อต้าน ตะกูล ชู อย่างตะกูล จ้าว และ ตะกูล หลี่ ก็ยังต้องยอมคุกเข่าลงกับพื้นตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับพวกเขาอีกต่อไป

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย พวกเขาก็ยอมทิ้งได้แม้แต่ศักดิ์ศรีของพวกเขาตะกูลชูมองทุกคนที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้นบริเวณรอบๆลานประลอง พวกเขาต่างพากันถอนหายใจออกมาด้วยความประหลาดใจ

เพราะเขาหันไปเจอคนที่โจมตีเขาก่อนหน้านี้ กำลังนั่งคุกเข่า พวกเขาต่างไม่เลือกที่จะทิ้งชีวิตและยอมตาย มันแทบไม่หน้าเชื่อว่าพวกเขาจะยอมคุกเข่า

สำหรับ ‘ชูหยวน’ การที่ลูกชายของเขาจะทำได้ถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่มีอยู่เพียง 15 ปี ทำให้ในใจเขาซับซ้อนเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับตัวเอง ‘ชูเฟิง’ ช่างเหมาะสมจะเป็นผู้นำของตะกูลจริงๆ

ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่ใช่ผู้นำของตะกูล แต่ตอนนี้ ‘ชูเฟิง’ เสมือนกับเป็นผู้นำน้อย ซึ่งเขาสามารถจัดการทุกอย่างภายในตะกูลชูได้

” วันข้างหน้าเขาต้องยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน เจ้าคิดจริงๆหรอว่าเขาจะมาเป็นแค่ผู้นำบนภูเขาเล็กๆแห่งนี้ “

” พวกเจ้าทั้งหมดนั้นแหละที่ไร้ความสามารถเอง ถึงกับยอมนั่งคุกเข่าให้กับเด็ก พวกเจ้ามันไร้ศักดิ์ศรี ?”

ในตอนนั้น มีเสียงดังออกมาจากด้านหลัง เมื่อมองไป ก็พบกับกลุ่มคนที่ค่อยๆเดินเข้ามาที่ลานประลอง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ธรรมดาทุกคนต่างยอมรับในฝีมือของคนกลุ่มนั้น พวกเขามีทั้งพลังอำนาจในพื้นที่บริเวณภูเขา เสือร้ายแห่งสำนักคุ้มภัย

ชายชราคนนั้นเป็นหัวหน้าสำนักคุ้มภัยที่ทุกคนต่างเรียกเขาว่า ผู้จัดการหลินผู้จัดการหลินเป็นตะกูลที่มาจากต่างเมือง พลังของเขาอยู่ในระดับ 9 ห้วงวิญญาณ เขาคอยคุ้มกันสินค้ามาส่งให้กับตะกูลต่างๆเป็นประจำ ที่ตั้งของพวกเขาอยู่บริเวณภูเขา

ยังไงก็ตาม เมื่อเทียบกับตะกูล ชู แล้วสำนักคุ้มภัยก็ไม่เท่าไหร่ ปกติแล้วเขามักจะสุภาพกับตะกูล ชู มาตลอด แต่วันนี้ เขากล้ามาพูดแบบนี้มันทำให้ทุกคนต่างรู้สึกสับสน

” เจ้าา . . . . เจ้าอยู่ภายนอก จะมารู้เรื่องอะไร ถึงได้กล้าพูดเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าจะเบื่อชีวิตแล้วสินะ “

” ใช่ๆ เจ้าคงจะเบื่อชีวิตแล้วสินะ หากเจ้ายังไม่ยอมจำนนกับตะกูล ชู !!!”

ก่อนที่ตระกูล ชู จะได้พูด พวกเขาที่ให้สัจจะว่าจะเป็นพลังให้กับตระกูล ชู ก็ระเบิดความโทสะออกมา พวกเขาวิ่งเข้าใส่ผู้คนที่มาจากสำนักคุ้มภัยเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาต้องการจะได้ความไว้วางใจจากตระกูล ชู

เพราะหลังจากนี้ ตระกูลทั้งหมด จะรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเป็นขุมพลังขนาดใหญ่ ตราบใดที่ยังมี ‘ชูเฟิง’ ก็มีความเป็นไปได้ว่าตระกูล ชู อาจจะยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับเมืองๆหนึ่ง เวลาเช่นนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้เลียแข้งเลียขา

ขณะที่เผชิญหน้ากับจิตสังหารจำนวนมากที่กำลังพุ่งเข้ามาใส่พวกเขา แต่ ‘ผู้จัดการหลิน’ ไม่ได้มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาหยิบเอาป้ายบัญชาในถุงจักรวาลออกมา พร้อมยกขึ้นและตะโกน

” ข้ามี ป้ายทอง-ม่วง ใครกล้าแตะต้องข้ามันต้องตาย”

” อะไรนะ ป้ายทอง-ม่วง ! ! ! ! ! ! “

ได้ยินคำพูดนั้น ทุกคนตกใจกันเป็นอย่างมาก คนที่เต็มไปด้วยจิตสังหารก็ต้องหยุดชะงักทันทีที่เห็นป้ายบัญชาแม้ว่าสายตาพวกเขาเหมือนกำลังจะบอกว่า ช่างแม่งสิ!!! แต่ใบหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปอย่างมาก

ความกลัวค่อยๆเพิ่มขึ้น เขาไม่ต้องการให้เกิดปัญหาใหญ่ บางคนจึงเริ่มถอยกลับมานอกภูเขาห่างไป 500 ลี้ มีเมืองชื่อว่า นครทอง-ม่วง ตั้งอยู่ ความแข็งแกร่งของเมืองเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในพื้นที่รอบๆ 1000 ลี้ ของที่ตั้ง

เมืองแห่งนี้คือผู้ครอบครองพื้นที่รอบๆภูเขาอย่างแท้จริงแต่เนื่องจากมันอยู่ห่างไกล และทรัพยากรบนภูเขาก็ไม่ค่อยมี พวกเขาจึงไม่เข้ามาครอบครองพื้นที่เหล่านี้สำหรับป้ายทอง-ม่วง เจ้าเมืองจะเป็นคนมอบให้กับคนที่ไว้ใจ เมื่อเห็นป้ายนี้เหมือนได้เห็นตัวเจ้าเมือง โดยปกติแล้วทุกคนจะต้องคุกเข่า

โปรดติดตามตอนต่อไป. . . . . . . . . . . . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments