I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 70 ข้าจะสู้ในสิ่งที่ข้าต้องการ

| Devouring The Heavens | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“มันเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงว่าในนิกายยังมีคนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้อยู่ ศิษย์พี่เฟิงเลี่ยที่เป็นศิษย์แท้จริงเขาเต็มไปด้วยพรสวรรค์มาก”เซี่ยง เทียนฮ้าว กล่าวอย่างเศร้าๆ หลังจากที่ซวนหยวนและไป๋ จากไป “ดูเหมือนว่าพวกเราจะได้พบกันเร็วๆนี้”

 

“ศิษย์น้องเซี่ยง อย่าได้ท้อแท้ พวกเราทุกคนนั่นเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด ศิษย์น้องซวนหยวนมีพรสวรรค์จริงๆ แต่ยังไงเขาก็ต้องใช้เวลาก่อนที่เขาจะแข็งแกร่งทัดเทียมพวกเรา. ในขณะเดียวกัน พวกเราทุกคนควรฝึกฝนให้หนักขึ้น” เซียวเทียน ยิ้มอย่างอ่อนโยน

 

“ศิษยพี่เซียวเทียนท่านใจดีมาก พวกเราได้สูญเสียเงินไปจำนวนมาก ข้าจะกลับไปยังนิกาย มิฉะนั้นข้าจะอดอยากถ้ายังอยู่ที่นี่” ปี้เย่วกล่าวด้วยความท้อใจ และเหลือบมองไปที่ขุยหยา ที่ยังคงขุ่นเคืองหลังจากพ่ายแพ้

 

“ซวนหยวนตอนนี้เจ้าอยู่ในเมืองนักสู้มังกร ข้าจะให้เจ้าได้พบความตายของเจ้าเร็วๆนี้” ขุยหยาคิดในใจ

 

“ศิษย์พี่และศิษย์น้องทั้งหลาย ข้าต้องกลับไปยังนิกายแล้ว” เซียวเทียนอำลาพวกเขา จากนั้นเขาก็บินจากไป

 

“ข้าไม่คิดจะอยู่ที่นี่นานหรอก ศิษย์น้องปี้เย่ว , ศิษย์น้องขุยหยา, พวกเจ้ารีบๆกลับไปที่นิกายให้เร็วที่สุดล่ะ” หลังจากนั้นเซี่ยง เทียนฮ้าวก็ได้จากไปเช่นกัน

 

“ศิษย์พี่ปี้เย่ว ข้าต้องไปแล้ว ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลซวนหยวนเอง” แก้มซ้ายของขุยหยายังคงมีลอยตบหลงเหลืออยู่ และฟัน 2 ซี่ของเขาได้หายไป

 

“ซวนหยวนกำลังไปที่ศูนย์การค้าไท่ไป๋ อย่าทำอะไรผลีผลาม รอจนกว่าเขาจะออกจากที่นั่น จากนั่นก็….” แล้วปี้เย่วก็ได้ทำท่าตัดคอ

 

“เซียวเทียน และ เซี่ยง เทียนฮ้าว ทั้ง 2 คนไม่พอใจซวนหยวน แม้ขุยหยาจะพลาดไม่สามารถฆ่าซวนหยวนได้  แต่ทั้ง 2 คนจะต้องมีแผนการของตัวเองอย่างแน่นอน ซวนหยวน, เจ้าทำให้พวกข้าต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้ทุกๆคนเกลียดเจ้า ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในนิกาย” ปี้เย่วคิด และนางยังคงมุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางการค้าไท่ไป๋ นางไม่อยากจะพลาดการแสดงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

 

***********************************

 

ซวนหยวน และไป๋ เดินเคียงข้างกัน พื้นที่แห่งนี้แออัดมา มีผู้คนหลายพันคนออกมาจากประตูมิติที่แตกต่างกัน สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นสถานที่เชื่อมต่อไปยังที่ต่างๆ มันมีประตูมิติหลายบานที่เชื่อมไปยังจุดต่างๆ เมืองจันทร์นภามีแค่ประตูมิติบานเดียว มันเป็นสถานที่ใหญ่โตมโหฬารและสามารถรองรับผู้คนได้จำนวนมาก

 

เกือบทุกคนที่เป็นผู้ฝึกฝน หลายคนเป็นนักสู้ขอบเขตพฤกษา บางคนเป็นนักสู้ขอบเขตกษัตริย์. เขามั่นใจว่าที่แห่งนี้ต้องมีแม้แต่นักสู้ขอบเขตนักพรต แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะเผยตัวตน เมืองนักสู้มังกรนั่นยิ่งใหญ่สมชื่อจริงๆ

 

ถ้าไม่มีไป๋นำทาง เขาจะต้องเดินหลงทางแน่ๆ นางรู้จุดต่างๆของเมืองเหมือนหลังฝ่ามือของนาง

 

“คุณหนูไป๋ ท่านเป็นสมาชิกคนสำคัญของไท่ไป๋ ใช่มั้ย? แล้วทำไมท่านถึงไปที่ศูนย์กลางการค้าจันทร์เต็มดวง และทำหน้าที่เป็นสาวใช้? มันไม่เป็นเรื่องที่น่าอายสำหรับท่านหรอกหรือ” ซวนหยวนถาม

 

“นั่นคือการทดสอบฮั่วหยู่ จากศูนย์กลางการค้าไท่ไป๋ ศูนย์กลางการค้าจันทร์เต็มดวงเป็นสาขาเล็กๆ ของศูนย์กลางการค้าไท่ไป๋ ความสัมพันธ์ของเราเป็นเหมือนกับความสัมพันธ์ระหว่างนิกายนักสู้มังกร และถ้ำพระจันทร์  ข้าเป็นผู้ตรวจสอบ และข้าก็ได้ให้ความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆกับฮั่วหยู่” ไป๋ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เมื่อข้ามาถึงศูนย์กลางการค้าจันทร์เต็มดวง ฟางเย่วได้หยิบเอาอาวุธยุทธภัณฑ์บางอย่างที่มาจากตระกูลหยินแห่งราชวังศ์ตะวันออก  เขากล่าวว่าท่านเป็นคนขายของเหล่านั้น ข้าเลยอยากรู้ว่าใครเป็นคนขายอาวุธยุทธภัณฑ์นั่นที่มาจากตระกูลหยิน เพราะข้าเคยขายอาวุธยุทธภัณฑ์เหล่านั้นให้กับตระกูลหยินเมื่อนานมาแล้ว มันแปลกประหลาดที่ข้าได้เห็นอาวุธพวกนั้นอีกครั้ง  ข้าเลยสนใจว่าท่านเป็นใครมาจากไหนเลย ข้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับท่าน”

 

ซวนหยวนเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่คิดว่าการขายอาวุธยุทธภัณฑ์ของอู๋ หมิงมันจะนำพามาสู่เรื่องนี้

 

“บอกข้ามาตรงๆ ว่าท่านได้รับอาวุธยุทธภัณฑ์ของตระกูลหยินได้อย่างไร? อาวุธพวกนั้นมีค่าอย่างเหลือเชื่อ กับความแข็งแกร่งในตอนนี้ของท่าน, มันเป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านได้ฆ่าเจ้าของอาวุธยุทธภัณ์เหล่านั้น และเอาอาวุธของพวกเขามา” ไป๋ ยิ้ม แต่ตาของนางแสดงความอยากรู้อยากเห็นอย่างชัดเจน.

 

ซวนหยวนคิดอยู่สักครู่ และกล่าว “ถ้าข้าบอกว่าข้าได้มันมาได้อย่างไร ท่านต้องตอบคำถามข้าสัก 2-3 ข้อเป็นการแลกเปลี่ยน”

 

“ได้ ตราบใดที่ข้ารู้ ข้าก็จะบอก” ไป๋กล่าวด้วยความซื่อสัตย์

 

“ข้าฆ่าพวกเขาแล้วเอาอาวุธและยุทธภัณฑ์ของพวกเขามา มันมีหลายวิธีที่จะฆ่าคน” ซวนหยวนตอบกลับ เขาเปิดแหวนนักสู้ของเขา และหยิบเอาธนูระเบิดออกมา“นี่คือหนึ่งในวิธีฆ่าคน”

 

นางผ่อนคลายลง การโจมตีจากธนูมันอาจจะสามารถทำให้นักสู้ขอบเขตกษัตริย์ล้มลงได้

 

“เอาล่ะ เราจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างพวกเรา” นางยิ้ม “ท่านต้องการรู้เรื่องอะไร? ถามข้ามาได้เลย”

 

“คุณหนูไป๋ ข้ารู้ว่าศูนย์กลางการค้าไท่ไป๋มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับราชวงศ์ตะวันออก ท่านอาจจะรู้ข้อมูลสำคัญบางอย่าง ใช่มั้ย?” ซวนหยวนกำลังทดสอบนางว่านางก่อนที่จะถามประเด็นหลัก

 

“แน่นอน ท่านต้องการรู้เรื่องอะไร?” นางมองไปที่ซวนหยวน ขณะที่นำเขาเข้าไปยังตึกการค้าไท่ไป๋ พวกเขาเกือบจะถึงที่นั่นแล้ว

 

“ข้าต้องการรู้ความแข็งแกร่งของตระกูลหยิน และตระกูลไห่ แห่งราชวงศ์ตะวันออก” เขาถามตรงไปตรงมา

 

“ตระกูลหยินควบคุมกองทัพทั้งหมดของภาคตะวันออก ส่วนตระกูลไห่ได้รับความไว้วางใจจากกษัตริย์แห่งดินแดนภาคตะวันออก และพวกเขาควบคุมเครือข่ายข่าวกรองทั้งหมดแห่งดินแดนตะวันออก” ไป๋ยังคงตอบคำถามของซวนหยวนอย่างตรงไปตรงมา ในที่สุดซวนหยวนก็ได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม

 

“แล้วท่านรู้จัก หยิน เฉินลู่มั้ย?” ซวนหยวนยังคงถามต่อ

 

ไป๋รู้สึกตกใจกับคำถามที่ซวนหยวนถาม “หยิน เฉินลู่ได้เสี่ยงเดินทางเข้าไปในอาณาเขตของนิกายนักสู้มังกรเมื่อไม่นานมานี้ เจ้ารู้จักนาง?”

 

หัวใจของซวนหยวนเต้นไม่เป็นจังหวะ ไท่ไป๋สมควรได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เครือข่ายข่าวกรองที่พวกเขาควบคุมอยู่ไม่น้อยไปกว่าของตระกูลไห่ พวกเขารู้แม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของหยิน เฉินลู่

 

“ท่านสามารถบอกได้ไหมว่าทำไมตระกูลหยินต้องการให้หยิน เฉินลู่แต่งงานกับนายน้อยแห่งตระกูลไห่?” ซวนหยวนไม่เชื่อเรื่องซุบซิบ เจาต้องการคำยืนยันจากไป๋

 

“ข้าไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด สิ่งเดียวที่ข้าแน่ใจคือ ประมุขของตระกูลหยินได้ป่วยมาหลายปีแล้ว ไม่มีใครว่ารู้อาการป่วยของเขาเกิดจากอะไร แต่ตระกูลไห่ดูเหมือนจะรู้วิธีการรักษาอาการป่วยและยินดีที่จะช่วยเหลือ แต่พวกเขาต้องการให้คุณหนูหยิน เฉินลู่แต่งงานกับนายน้อยของพวกเขา เฉพาะคนที่มีอำนาจมากที่สุดในราชวงศ์ตะวันออกเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้” ไป๋นางไม่ได้โกหกแต่อย่างใด นางบอกซวนหยวนทุกอย่างที่นางรู้

 

ซวนหยวนตกใจเมื่อได้ยิน เขาจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดการแต่งงานของหยิน เฉินลู่

 

“นายน้อยแห่งตระกูลไห่แข็งแกร่งมากไหม? แข็งแกร่งกว่าศิษย์พี่เฟิง เลี่ย? ” นายน้อยไห่อาจจะเป็นคู่แข่งในอนาคตของซวนหยวน ดังนั้นเขาต้องการรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา

 

“แน่นอน เขาเป็นผู้เชี่ยวชาณธาตุน้ำ เขามีประสบการณ์ใช้“หัวใจแห่งวารี” ซึ่งเขามีอันดับ 32 ในอันดับนักสู้ธาตุน้ำ” ไป๋ อธิบาย

 

“อันดับนักสู้ธาตุวารี!หัวใจแห่งวารี! มันไม่แข็งแกร่งเท่าเปลวเพลิงแห่งอาซูร่าใช่ไหม?” เขาจำได้ว่าเปลวเพลิงแห่งอาซูร่า เคยถูกใช้โดยเจ้าหญิงแห่งเผ่าปีศาจมายา

 

“ถูกต้อง แม้ว่าเฟิง เลี่ยจะเป็นผู้ใช้ลม และมีรายชื่ออันดับนักสู้ธาตุวายุอันดับที่ 32 แต่เขาก็ไม่มีโอกาสชนะนายน้อยไห่”

 

หัวใจของซวนหยวนตกฮวบ นั่นคือชายที่จะกำลังแต่งงานกับหยิน เฉินลู่ของเขา เขาจะชนะนายน้อยไห่ได้จริงๆหรือ?

 

“แล้วหยิน เฉินลู่ ล่ะ? นางแข็งแกร่งไหม?” ซวนหยวนยังคงถามต่อ

 

“นางเป็นเซียนแห่งมังกรสวรรค์ เป็นอัจริยะที่หาได้ยาก ท่านจะไม่ค่อยเห็นคนแบบนางบ่อยนัก นางสามารถควบคุม “ทองคำแห่งสวรรค์” ได้, มันมีอันดับที่ 19 ในรายชื่ออันดับนักสู้ธาตุทอง แม้กระทั่งนักสู้ขอบเขตราชันย์ ก็ไม่สามารถชนะนางได้”

 

ซวนหยวนได้รับข่าวร้ายอีกข่าวหนึ่ง คือ ความแตกต่างระหว่างตัวเขา กับหยิน เฉินลู่ นั่นมันแตกต่างกันมาก มันดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงระดับใกล้เคียงกับนาง

 

“นายน้อยซวนหยวน พวกเราถึงไท่ไป๋แล้ว เข้าไปดูอาวุธยุทธภัณ์สำหรับท่านกันเถอะ” ไป๋ กล่าว นางนึกย้อนกลับไปเมื่อตอนยังอยู่ที่ศูนย์กลางการค้าพระจันทร์เต็มดวง ซวนหยวนมีอาการตกตะลึงเมื่อได้ยินการหมั้นระหว่างตระกูลหยิน และตระกูลไห่ และคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร

 

“ขอบคุณที่นำทาง คุณหนูไป๋” เขาหายใจเข้าลึก ๆ เขาได้เรียนรู้เรื่องต่างๆมากมายในวันนี้. ในหัวใจของเขา เขาปฏิญญา ว่า “ข้าจะต่อสู้ในสิ่งที่ข้าต้องการ แต่ข้ายังมี สักวันหนึ่ง ข้าจะกลับมายืนอยู่เคียงข้างเจ้า อาจารย์ของข้าหยิน เฉินลู่!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments