ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแสงจากพลังปราณได้สาดส่องไปบนขวานขณะงูห้าสีถูตัดออกเป็นเสี่ยงๆ ที่พุ่งโจมตีมัน มีงูอย่างน้อย 25 ตัวถูกสังหารด้วยขวาน นู่หู่กวัดแกว่งขวานของเขาและโจมตีไปที่งูตัวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มอีกครั้ง ร่างของมันถูกผ่าออกเป็น 2 ส่วน ร่างของมันที่โดนตัดยังคงบิดไปมาด้วยความสับสน แต่มันก็ยังสังหารผู้คุ้มกัน 2 คนของตระกูลนู่ที่กำลังตั้งรูปแบบป้องกันอยู่ใกล้ๆ
ทันในนั้นถุงน้ำดีภายในตัวงูระเบิดออก กลิ่นเหม็นที่น่าสะอิดสะเอียนกระจายไปยังพื้นที่รอบๆ ทุกคนรับรู้ได้ทันทีว่ามันคือพิษ!
นู่หู่คำรามและโคจรพลังปราณออกมาจากร่างกายอย่างรวดเร็วเพื่อขับไล่พิษในอากาศ เขาคว้าตัวนู่เชียนและหนีไป เหล่าผู้คุ้มกันที่เหลือถูกสังหารทันทีด้วยพิษและคมเขี้ยวของเหล่างูที่กำลังบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นเอง มีประกายแสงสีแดงถูกยิงตรงไปที่นู่หู่และนู่เชียน มันคือลูกศรที่ถูกยิงมาโดยซวนหยวน หน้าไม้ของซวนหยวนถูกกระตุ้นและเริ่มเปล่งแสงสีแดงออกมา ซวนหยวนเริ่มที่จะยิงมันราวกับว่าเขาไม่เสียดายอาวุธเหล่านี้เลย เพราะอย่างไรเสียตอนนี้เขามีความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก
นู่หู่ยังคงโคจรปราณต่อสู้ออกมาเป็นโล่ป้องกันตัวเองและนู่เชียนจากลูกศร อย่างไรก็ตามโล่พลังปราณก็เริ่มที่จะอ่อนแอลงเรื่อยๆภายใต้ห่าลูกศรที่ถูกยิงออกมาราวกับไม่มีวันสิ้นสุด
ศรทั้ง 16 อันระเบิดกลางอากาศ มันสร้างดอกไม้ไฟสีแดงเพลิงไปทั่วท้องฟ้า แต่นู่หู่ยังคงสร้างโล่ป้องกันให้นู่เชียนอย่างต่อเนื่อง การหนีเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ เขาไม่กล้าที่จะต่อสู้หรือเสี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับฟางอู๋เจี้ยนที่ออกตัวปกป้องซวนหยวนได้ หากพวกเขาไม่รีบหาทางออกไปจะต้องถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน
ซวนหยวนตามติดพวกเขาอย่างใกล้ชิดและหยิบเอาหน้าไม้อีกอันขึ้นมา อีกมือหนึ่งถือกริชเอาไว้ เขาเป็นเหมือนนายพรานที่กำลังล่าเหยื่อ
ลูกศร 4 นัดพุ่งเข้าใส่นู่หู่ในเวลาเดียวกัน ในที่สุดโล่พลังปราณของเขาก็ถูกทำลาย
เขากรีดร้องออกมาขณะที่ลูกศรเจาะผ่านหน้าอกของเขา ทำให้เขาล่วงลงมาจากฟากฟ้า อย่างไรก็ตามเขายังไม่ตาย นักสู้ขอบเขตกษัตริย์ยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าจะบาดเจ็บสาหัส
” อย่าฆ่าข้าเลย ” นู่หู่เริ่มอ้อนวอน แต่ตัวเขาเองกลับไม่ได้แสดงท่าทีเมตตาเลยตอนที่พยายามจะสังหารซวนหยวน ดังนั้นซวนหยวนจึงไม่ได้ลังเล เขาเหนี่ยวไกอีกครั้งและเจาะทะลุหัวใจของนู่หู่ หัวใจของเขาถูกเจาะทะลุออกมาผ่านทางด้านหลัง
นู่ เชียนที่ตกลงมาจาฟ้าพร้อมกับนู่หู่ เมื่อเขาพยายามรวบรวมสติและมองไปยังที่ๆซวนหยวนกำลังยืนอยู่ แต่กลับไม่มีเงาของเขาอีกต่อไป เขาสาปแช่งออกมาอย่างรุนแรง ” รอก่อนเถอะ! เมื่อข้ากลับไปที่ตระกูลนู่ ข้าจะรวบรวมคนมาฆ่าเจ้า!! “
นู่เชียนนำจี้หยกออกมาจากกระเป๋าในขณะที่กำลังครุ่งคิดบางสิ่งอยู่นั้นเอง เขารู้สึกถึงความหนาวที่สั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย ก่อนที่เขาจะเห็นกริชที่เจาะทะลุหน้าอกและดูดกลืนพลังชีวิตของเขาเพื่อไปเติมเต็มพลังให้แก่ซวนหยวน นู่เชียนใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อทำลายจี้หยกในมือ
พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นมาและมีลำแสงพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า
” ไม่! นั่นมันหยกแห่งความทรงจำ ตระกูลนู่จะต้องรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่แน่นอน พวกเขาจะต้องบอกตระกูลเลี่ยด้วยเช่นกัน ” หนึ่งในผู้คุ้มกันตระกูลฟางผดเสียงออกมาอย่างร้อนรน
” อย่าได้ตื่นตูมไป เราไม่ได้เป็นคนสังหารพวกเขาแล้วทำไมเราต้องไปหวาดกลัวตระกูลนู่และตระกูลเลี่ยด้วย? ” ฟางอู๋เจี้ยนกล่าวออกมาอย่างเย็นชาและทำให้ทุกคนสงบลง
” นายน้อยช่างมีพรสวรรค์ยิ่งนัก สามารถที่จะสังหารนักสู้ขอบเขตกษัตริย์ทั้งที่อยู่เพียงแค่ขอบเขตจิตวิญญาณ ช่างหน้าประทับใจยิ่งนัก ” ฟาง ยู่โหยวเข้าหาซวนหยวน นางยังคงปลอมตัวเป็นชายที่ดูหล่อเหล่า ถ้าซวนหยวนไม่ได้กลิ่นหอมของหญิงสาวเมื่ออยู่ข้างหลังนางและสังเกตเห็นว่าไม่มีลูกกระเดือก เขาคงจะไม่รู้แน่นอนว่านางปลอมตัวมา
” ก็ไม่ขนาดนั้น ” ซวนหยวนยิ้ม ” ข้าสงสัยว่าคุณหนูฟางจะช่วยข้าได้หรือไม่? “
” อะไรหรือ? ถ้าช่วยได้ข้าจะทำ ” ฟางยู่โหยวนางดูสดใสยิ่งนัก มันคงจะดีไม่น้อยถ้ากลายเป็นที่โปรดปรานของนาง
” มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด ข้าเพียงแค่ต้องการจะถามเหล่าผู้คุ้มกันของท่านให้ช่วยรวบรวมเหล่ายุทธภัณฑ์และแหวนจากตระกูลเลี่ยและตระกูลนู่ มันคงน่าเสียดายถ้าจะทิ้งมันไว้ ” ซวนหยวนหัวเราะอย่างมีความสุข ฟางยู่โหยวตะลึงอยู่สักพัก เด็กชายกำลังขอให้เขาช่วยเก็บกวาดของให้เขา ในที่สุดนางก็สั่งออกไป ” ทำความสะอาดที่นี่เสีย เก็บรวบรวมยุทธภณฑ์และแหวนที่ได้จากตระกูลนู่และตระกูลเลี่ยมาให้นายน้อย “
ซวนหยวนถอนหายใจ ” ข้ายังคงต้องดูแลเกี่ยวกับข้าใช้จ่ายของข้า ข้าพึ่งพาเพียงแค่ตัวเองซึ่งไม่เหมือนกับท่านที่มีตระกูลใหญ่หนุนหลัง ข้าได้รับสิ่งของมีค่ามากมายจากศพ มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นแบบข้า… “
ฟาง ยู่โหยวพูดไม่ออก ในทางกลับกัน ฟาง อู๋เจี้ยน เข้าใจสิ่งที่ซวนหยวนกล่าวเป็นอย่างดี
_______________________
ชุดพิเศษทำให้มีความเร็วเพิ่มมากยิ่งขึ้น พวกเขาคำความสะอาดรอบบริเวณโดยใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง และรวบรวมยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นต่ำได้กว่าร้อยชิ้น, ยุทธภัณฑ์ระดับปฐพีขั้นกลางอีก 9 ชิ้น, เงินหนึ่งล้านเหรียญกษัตริย์ และผลึกอสูรงูห้าสีอีก 30 อัน ซวนหยวนให้เม็ดยาและยาอื่นๆกับเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลฟาง ซึ่งมันทำให้เขาได้รับความเคารพนับถือ ฟางยู่โหยวรู้ว่ายาทั้งหมดนั้นมีข้ามากเมื่ออยู่ในป่า ดังนั้นจึงตัดสินได้ว่าซวนหยวนเป็นคนใจกว้างมากจากการกระทำในครั้งนี้
ในขณะที่พวกเขากำลังทำความสะอาดอยู่ ซวนหยวนได้รู้ว่าชื่อของนางคือ ฟาง ยู่โหยว และตระกูลของนางเป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่อยู่ภายใต้นิกายนักสู้มังกร ทั้งตระกูลเลี่ยและตระกูลนู่ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับตระกูลฟาง พวกเขาไม่สามารถเทียบตัวเองกับห้าตระกูลได้ แต่ก็ยังแข็งแกร่งพอที่จะเทียบได้กับถ้ำพระจันทร์
ซวนหยวนตกตะลึงกับข้อมูลที่ได้ยิน ” อ่าาาา… ข้าเพิ่งจะโจมตีสองตระกูลที่ถูกสนับสนุนโดยนักสู้ขอบเขตเซียน? “
” ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาไม่กล้าที่จะแตะต้องท่านตราบที่ท่านยังอยู่ในนิกาย แต่แน่นอนมันหมายถึงท่านจะต้องไปถึงที่นั่นให้ได้เสียก่อน ” ฟางยู่โหยวให้ความมั่นใจกับเขา
” ข้าไม่ได้กลัวแต่ข้าตื่นเต้นต่างหาก! มันคงจะน่าทึ่งมากถ้าได้สู้กับเซียน พวกเขาคงจะทรงพลังเป็นอย่างมาก…. ” ซวนหยวนหัวเราะขณะที่ใส่สิ่งของทั้งหมดลงไปในแหวนของเขา ทุกคนที่ได้ยินต่างตกตะลึงและสงสัยว่าเด็กคนนี้้ทรงพลังหรือเป็นเพียงคนโง่กันแน่
ซวนหยวนได้รับเงินจำนวนมหาศาลทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ สมาชิกตระกูลฟางได้รับส่วนแบ่งพอสมควรดังนั่นจึงไม่มีใครมองเขาด้วยความอิจฉา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของซวนหยวน ชายผู้แข็งแกร่งสมควรได้รับความเคารพ
” นายน้อยซวนหยวน ท่านจะร่วมทางไปกับเราหรือไม่? “
” แน่นอน พวกเราเพียงแค่ต้องผ่านป่างูไปใช่หรือไม่? ยังมีตระกูลอื่นนอกจากพวกท่านไหม? ” ซวนหยวนถาม
” ข้าไม่ทราบ เมื่อพวกเราผ่านพ้นป่างู พวกเราอาจจะพบกับตระกูลอื่น มีคนจำนวนมากพยายามผ่านป่านี้ทุกวัน บางคนก็ไปถึงนิกาย บางคนก็ต้องจบชีวิตลงในป่า ” ฟาง ยู่โหยวยิ้ม
ซวนหยวนพยักหน้า เขากระตุ้นรองเท้ามังกรและพุ่งตรงไป ” ไปกันเถอะ ถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อไป คงจะหายใจไม่ออกด้วยพิษงูเป็นแน่ ” เขากล่าว
” นายน้อยซวนหยวน โปรดระวังด้วย อาจจะมีสัตว์อสูรบางตัวที่แข็งแกร่งเท่ากับนักสู้ขอบเขตกษัตริย์อยู่ด้านหน้าของท่าน ” ซวนหยวนแข็งทื่อและชะลอความเร็วลง
” พวกเราควรจะไปด้วยกัน ” เขาพูดอย่างเหนียมอาย
ฟาง ยู่โหยวหัวเราะคิกคัก ใบหน้าที่เขินอายและดวงตาที่โค้งเหมือนแสงจันทร์ทำให้นางดูงดงามยิ่งนัก…