I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 144 สามปี

| Devouring The Heavens | 1306 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“โอ้ดูนั่นสิ ไม่ใช่ว่านั้นศิษย์น้องซวนหยวนหรอกหรือ? เจ้ากลับมาแล้ว!” คนที่พูดคือชิงยวิ๋น แขนของเขาได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์ และปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจกับตัวเอง และมีชายคนหนึ่งอยู่ข้างหลังเขา เขาเป็นคนที่หล่อเหลาแต่ไม่ได้มีกลิ่นอายที่พิเศษใดๆ เขาดูเหมือนคนธรรมดาทั่วๆไป แต่ยังดูลึกลับ บนไหล่ของเขามีขนหมาป่าสีเงินผาดอยู่

 

ในช่วงฤดูหนาวที่หนาวมาก ซวนหยวนอยู่กับกู่ฉิง และกู่เย่ว แต่ตอนนี้ขนของกู่ฉิ่งกับอยู่บนไหล่ของชายแปลกหน้าคนนี้

 

ซวนหยวนรู้สึกเจ็บปวด เขาต้องการสังหารชายคนนั้น แต่เฟิงเลี่ยรีบคว้าแขนเพื่อหยุดซวนหยวนก่อนที่เขาจะพุ่งไปข้างหน้า และกล่าว “ศิษย์น้องซวนหยวน สงบสติอารมณ์ของเจ้าหน่อย เขาเป็นถึงศิษย์แท้จริงอันดับหนึ่ง เจียงอี้เทียน”

 

ชายคนนั้นลงมาที่พื้น ยิ้มเล็กน้อยและโค้งคำนับให้เหล่าเซียนทั้ง 5 “คารวะท่านเซียนทั้ง 5 ท่าน”

 

ชายชราพยักหน้า แต่พวกเขาสามารถรู้สึกได้ถึงอารมณ์ไม่พอใจของซวนหยวน

“ศิษย์น้องซวนหยวนมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ดูเหมือนเจ้าจะโกรธ มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นหรือ?” ชิงยวิ๋นถาม เฟิงเลี่ยจ้องมองไปที่ชิงยวิ๋น เขาจึงรีบไปหลบอยู่ด้านหลังเจียงอี้เทียนทันที จากนั้นเฟิงเลี่ยได้ถา “ศิษย์น้องซวนหยวน ทำไมเจ้าไม่พูดล่ะ?”

 

“คารวะศิษย์พี่แท้จริง” หัวใจของซวนหยวนรู้สึกเจ็บปวดมาก ขณะที่เขาจ้องมองเจียงอี้เทียนด้วยดวงตาสีแดงของเขา

 

“ศิษย์น้องซวนหยวนเจ้าได้ถูกเลือกโดยเหล่าเซียนทั้ง 5 นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก และมีค่ามากจริงๆ เจ้าต้องตั้งใจให้มาก” เจียงอี้เทียนกล่าว

 

ซวนหยวนเมินสิ่งที่เจียงอี้เทียนกล่าว และถาม “ท่านได้รับขนหมาป่ามาจากที่ไหน?”

 

“ชิงยวิ๋น และข้ากำลังเดินเล่นอยู่ในถ้ำพระจันทร์ และมาถึงที่สำนักจันทร์พฤกษา เมื่อเราเห็นหมาป่า ชิงยวิ๋นรู้สึกคันไม้คันมือที่จะล่ามัน และตัดสินใจที่จะฆ่ามันเพื่อเอาขน แต่ถ้าศิษย์น้องซวนหยวนชอบมัน ข้าสามารถมอบมันให้เจ้าได้” เจียงอี้เทียนยิ้ม

 

“ข้าไม่คิดเลยว่าศิษย์น้องซวนหยวนต้องการขนสัตว์ของสัตว์ธรรมดาๆอันนี้ ข้าสามารถให้ขนสัตว์หมาป่าตัวอื่นได้ถ้าข้าพบหมาป่าที่ดีกว่านี้” ชิงยวิ๋นหัวเราะ

 

ในขณะนั้นได้มีน้ำตาไหลลงมาจากใบหน้าของซวนหยวน เขาชี้ไปที่ชิงยวิ๋น “กู่ฉิงเติบโตมาพร้อมกับข้า ข้ารู้ว่ามันจะไม่ปลอดภัยถ้าอยู่ในนิกาย ดังนั้นข้าจึงทิ้งมันไว้ที่สำนักจันทร์พฤกษา ข้าอยากให้มันมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ปราศจากการต่อสู้ แต่เจ้าได้นำความบาดหมางระหว่างเจ้ากับข้าไปลงที่กู่ฉิง!”

 

ชิงยวิ๋นกรีดร้อง “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระหลังจากที่ทำลายแขนของข้า และเอาแหวนของข้าไปงั้นรึ? นี่ข้าก็ใจดีมากแล้วที่ฆ่าหมาป่า หรือเจ้าอยากให้ข้าสังหารเหยียนซือหยุนด้วย? ถ้าเจ้าไม่พอใจ ทำไมเจ้าไม่เข้ามาสังหารข้าล่ะ?”

 

ชายชราทั้ง 5 คนขมวดคิ้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร มันไม่เหมาะที่จะสอดแทรกความขัดแย้งระหว่างศิษย์ และเจียงอี้เทียนเป็นศิษย์ของเซียนคนหนึ่งที่มีแข็งแกร่งมากๆ

 

“ชิงยวิ๋น เจ้ากล้าดียังไง?” เฟิงเลี่ยปลดปล่อยพลังขอบเขตราชันย์ออกมา และโจมตีชิงยวิ๋น เขารวดเร็วมาก แม้แต่เจียงอี้เทียนยังตกตะลึง ชิงยวิ๋นกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร และปรากฏบาดแผลมากมายบนร่างของเขา เจียงอี้เทียนเรียกแสงอันอ่อนโยน บนบาดแผลของชิงยวิ๋น และเริ่มรักษาเขา เฟิงเลี่ยต้องการโจมตีอีกครั้ง แต่เจียงอี้เทียนได้เข้ามาแทรกแซง

 

“เจ้ายังคงอารมณ์ร้อนเหมือนเดิมเลยนะ ศิษย์น้องเฟิงเลี่ย ตั้งแต่ที่เจ้าเป็นนักสู้ขอบเขตราชันย์ เจ้าสามารถควบลุมสายลมเพื่อต่อสู้ได้ แต่อย่างไรก็ตามเจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะสู้กับข้า ถ้าเจ้าอยากสู้ ข้าจะเป็นคู่มือให้เจ้าก็ได้” เสียงของเจียงอี้เทียนดูอ่อนโยน ราวกับว่าเขาเป็นชายหนุ่มไร้เดียงสาที่เกลียดความรุนแรง

 

“ข้าไม่คิดจะทดสอบพลังของตัวเองกับนักสู้ขอบเขตจักรพรรดิ เพื่อดูว่ามันสามารถต้านทานพลังแห่งสายลมของข้าได้หรือไม่!” เฟิงเลี่ยกล่าว เขาเริ่มปลดปล่อยผนึกพลังของเขา

 

“เจ้าควรควบคุมอารมณ์ตัวเอง และอย่าทำไรโง่เขลาที่ต้องมาเสียใจภายหลัง ศิษย์น้องเฟิงเลี่ย!” เจียงอี้เทียนขมวดคิ้ว

 

แต่ทันใดนั้นซวนหยวนได้พูดในสิ่งที่เขาคิดออกมา “ได้โปรดหยุดเถิด ศิษย์พี่เฟิงเลี่ย นี่คือการต่อสู้ของข้า ภายใน 3 ปีข้าจะสังหารชิงยวิ๋น เจ้ากล้าที่จะยอมรับคำท้าของข้าหรือไม่ ชิงยวิ๋น?”

 

“ได้ เจ้ามันก็ไม่ต่างอะไรจากมด ทำไมข้าจะไม่กล้า?” ชิงยวิ๋นยอมคำท้าอย่างไม่ลังเล แต่เขาเหลือบมองเฟิงเลี่ยด้วยท่าทางตกใจ

 

ซวนหยวนจ้องไปที่ชิงยวิ๋น จากนั้นเขาก็หันไปทางเจียงอี้เทียน “ข้าสาบาน ภายใน 3 ปี ข้าจะจบชีวิตของเจียงอี้เทียน ได้โปรดเป็นพยายานคำสาบานของข้า ท่านเซียนทั้ง 5 ท่าน!”

 

เหล่าเซียนรู้สึกประตกตะลึง เจียงอี้เทียนเป็นถึงนักสู้ขอบเขตจักรพรรดิ บางทีใน 3 ปีนี้เขาอาจจะก้าวข้ามกลายเป็นเซียน แล้วซวนหยวนจะสังหารเขาได้อย่างไร? เขาจะทำอะไรได้ภายใน 3 ปี? ศิษย์ภายในทุกคนต่างตกตะลึง เจียงอี้เทียนเป็นถึงศิษย์แท้จริงอันดับ 1 เขาเป็นดั่งตำนานแก่เหล่าศิษย์ทุกคน ศิษย์ทุกคนคิดว่าซวนหยวนเขาเป็นคนที่กล้าหาญ และโง่เขลาเกินไปที่ท้าทายเจียงอี้เทียนภายใน 3 ปี

 

“ยอดเยี่ยม! นี่แหละคือเหตุผลที่ข้าเลือกเจ้า ซวนหยวน” เฟิงเลี่ยค่อยๆผลึกพลังของเขา และยับยั้งพลังที่เขาปลดปล่อยออกมา “ภายใน 3 ปี ถ้าใครก็ตามที่อยู่รอบๆตัวซวนหยวนต้องการที่จะสังหารเขา ข้าสาบานจะฆ่าสายเลือดของพวกมันทั้งตระกูล!”

 

“ยอดเยี่ยม ข้าไม่คิดว่านิกายจะมีศิษย์ที่มีแรงบันดาลใจเช่นนี้ ข้ารู้สึกประทับใจจริงๆ” ปู้จิงชาเป็นหัวหน้าศิษย์ภายในมาถึงที่นี่แล้ว เขาโค้งคำนับให้กับเซียนทั้ง 5 คน แล้วมองไปที่เจียงอี้เทียน “ศิษย์น้องอี้เจียง เจ้าคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ ?”

 

“ตั้งแต่ที่ศิษย์น้องซวนหยวนท้าทายข้า ข้าทำได้เพียงยอมรับคำท้านั้นเท่านั้น” เจียงอี้เทียนตอบกลับ สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาไม่ได้สนใจซวนหยวนเลยแม้แต่น้อย “ศิษย์น้องซวนหยวน ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่คิดว่าข้าไม่เคารพเจ้า แต่แม้ว่าข้าจะให้เวลาเจ้า 3 ปี หรือแม้แต่ 300 ปี เจ้าก็ไม่สามารถเอาชนะข้าได้ ตั้งแต่ข้าเกิดมา ข้าก็เริ่มฝึกฝนแล้ว หลายปีที่ผ่านมาข้าได้สังหารผู้คนที่เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะมามากมายนับไม่ถ้วน ข้าจะให้โอกาสเจ้า ดังนั้นในช่วง 3 ปีนี้ ห้ามใครทำร้ายซวนหยวน มิฉะนั้นข้าจะสังหารพวกมันด้วยตัวข้าเอง”

 

ซวนหยวนมองไปที่ขนของหมาป่า ทำให้ซวนหยวนเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ที่ตัวเองยังแข็งแกร่งไม่พอ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงระงับความโกรธของตัวเอง

 

“ถ้างั้นทุกๆคนควรจะแยกย้ายกันไปได้แล้ว…” เซียนไฟดูหลุมฝังศพ เขาไม่คิดว่าเหตุการณ์มันจะลงเอยเช่นนี้

 

เจียงอี้เทียน กับ ชิงยวิ๋นได้จากไป

 

“ได้โปรดดูแลศิษย์น้องซวนหยวนด้วย ถ้าเขามีสิ่งของที่ต้องการ ให้เขาบอกกับจ้าวหมั่นเฟิงได้ พวกเราจะให้ความช่วยเหลือเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้” เหล่าเซียนกล่าว ปู้จิงชา รู้สึกยินดีที่มีซวนหยวนเป็นศิษย์ภายใน พรสวรรค์ของเขาค่อนข้างหายาก

 

ในขณะที่เหล่าเซียนพยักหน้า ได้มีเสียงเสียงหนึ่งดังมาจากระยะไกล “เฟิงเลี่ย มาที่ภูเขา”

 

เสียงนั้นได้เรียกเฟิงเลี่ย เขายืนอยู่ด้านหน้าซวนหยวน และพูดจริงจังว่า “ใช้โอกาสเพื่อฝึกฝนตัวเองในขณะที่เจ้าอยู่ในภูเขาแดง เจ้าสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายเท่านั้น ข้าต้องไปแล้ว อาจารย์ของข้าได้เรียกข้าแล้ว ข้าเชื่อว่าเจ้าคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฆ่าเพื่อสังหารชิงยวิ๋นในช่วง 3 ปีนี้”

 

ม่อโฉวซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของซวนหยวน และได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้นางตัวแข็งราวกับหิน แต่นางพยายามทำใจให้สงบ และปลอบโยนซวนหยวน “พี่ซวนหยวนท่านอย่ามัวแต่เสียใจ ข้ายังอยู่เคียงข้างท่าน”

 

หัวใจของซวนหยวนรู้สึกเจ็บปวด จากนั้นเขาก็อุ้มม่อโฉว “ไม่ต้องห่วงม่อโฉว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะปกป้องทุกคนที่ห่วงใยข้า”

 

“ข้าเชื่อท่าน!” ม่อโฉวอ้าแขน และกอดซวนหยวน “เมื่อป้าเหม่ยรู้สึกไม่สบายใจ ข้าก็กอดนางแบบนี้เพื่อให้กำลังใจ!”

 

“ขอบคุณม่อโฉว!” ซวนหยวนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่มของม่อโฉว ทำให้หัวใจที่หนาวเย็นของเขาค่อยๆอุ่นลง

 

“ถ้างั้นไปกันเถอะ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นคนบุ่มบ่าม แต่พวกข้าได้เลือกเจ้าเป็นศิษย์ของพวกเราแล้ว ดังนั้นพวกข้าจึงไม่ยอมแพ้ที่จะช่วยฝึกฝนเจ้า ไปภูเขาแดงกัน!” เซียนไฟกล่าว

 

ซวนหยวน และม่อโฉวนั่งอยู่บนนกนภาวารี และเหล่าเซียนทั้ง 5 ก็นั่งอยู่บนนกด้วยเช่นเดียวกัน พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังงานที่ผิดปกติบางอย่างภายในร่างกายซวนหยวนเมื่อเขาโกรธ บางทีเขาอาจจะมีโอกาสเอาชนะเจียงอี้เทียนได้ภายใน 3 ปี

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments