ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ในวันนั้น? ศิษย์พี่ปี้เย่วมาที่ห้องของข้าเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ข้าออกไปนอกนิกาย นางวางแผนการกับขุ่ยหย่าและพ่อของเขาเพื่อสังหารข้าในตอนที่ข้าออกนอกนิกาย แต่อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่มชายลึกลับขัดขวางแผนการของพวกเขา ดังนั้นข้าจึงใช้โอกาสนั้นหลบหนี บางทีพวกเขาอาจถูกกลุ่มชายลึกลับพวกนั้นสังหาร นั่นแหละคือเหตุผลที่ข้ายังมีชีวิตอยู่วันนี้” ซวนหยวนยิ้ม
“เจ้ากล้าดียังไง! ปี้เย่วจะเกลี้ยกล่อมเจ้า นางจะทำไปทำไม?” ปี้จีโกรธเกรี้ยว
“ศิษย์น้องซวนหยวนไม่ได้พูดโกหก พวกเราพบชุดชั้นในของผู้หญิงในห้องของเขา พวกเราได้ทำการยืนยันแล้วว่ามันเป็นของศิษย์น้องปี้เย่วจริง” เฉินจิ้นโฉวกล่าว
“ฮ่าฮ่าฮ่า ทำไมเจ้าถึงเงียบล่ะปี้จี?” เฟิงเลี่ยหัวเราะ เขารู้สึกกดดันอย่างมากเมื่อซวนหยวนได้หายไป แต่ในตอนนี้ซวนหยวนได้กลับมาแล้วทำให้เขารู้สึกโล่ง
“เจ้าไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าปี้เย่วล่อลวงเขาจริงหรือไม่ บางทีเขาอาจจะข่มขืนนาง!” ปี้จีตะโกน
“ถ้าท่านไม่เชื่อข้า ข้ามีพยาน 5 คนที่มีนิสัยเสียชอบถ้ำมอง” ซวนหยวนหัวเราะ และพูดเสียงดัง “ในคืนนั้นท่านเซียนทั้ง 5 คนได้มอบทักษะให้แก่ข้า! พวกท่านเห็นทุกสิ่งทุกอย่างหรือไม่?”
ปี้จี, เซี่ยเทียน และลู่เทียนเซี่ยงถึงกับกัดฟันเมื่อได้ยินสิ่งที่ซวนหยวนพูด ตรงข้ามกับเฟิงเลี่ยเขารู้สึกภูมิใจในตัวซวนหยวน
“เจ้ากล้าดียังไงเรียกพวกข้าว่าพวกนิสัยเสีย?” ชายชราคนหนึ่งที่มีผิวสีแดงเข้มปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมาก
“ดี เจ้าไฟ พวกเราปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าเด็กนี่โดยไม่พูดอะไรสักคำ บางทีเขาอาจจะตกใจมากที่พวกเราจับตามองดูเขา”
“ถูกต้องเจ้าวารี…”
“เจ้าหนู เจ้าไปอยู่ที่ไหนมา? พวกข้าแก่เกินไปที่จะติดตามการเคลื่อนไหวของเจ้าทั้งหมด”
“ใช่แล้ว ข้าถึงกับไปที่ราชวงศ์ตะวันออกเพื่อตามหาเจ้า”
ชายชราทั้ง 5 คนปรากฏตัวออกมา ทำให้ศิษย์ทุุกคนตกตะลึง และโค้งคำนับทันที
“คารวะท่านเซียน!”
“ในเมื่อพวกท่านเห็นเหตุการณ์ในคืนนั้น ท่านเซียนได้โปรดบอกพวกข้าว่าสิ่งที่ศิษย์น้องซวนหยวนพูดมันเป็นความจริงหรือไม่? ปี้เย่วล่อลวงเขา หรือว่าเขาข่มขืนนาง?” เฉินจิ้นโฉว รู้สึกไม่สบายใจในขณะที่เขากำลังสอบปากคำเหล่าเซียน แถมซวนหยวนยังได้รับทักษะบางอย่างจากเซียนทั้ง 5 ถ้าเป็นศิษย์คนอื่นๆพวกเขาอาจจะยอมตายเพื่อได้รับโอกาสนี้
“ไร้สาระ! ซวนหยวนเป็นศิษย์ของพวกข้า และเป็นคนที่หน้าตาดีมาก! เขาจะข่มขืนปี้เย่วไปทำไม? ปี้จี ไม่ใช่ว่าเจ้ากล่าวหาว่าเขาข่มขืนนางหรอกหรือ?” เซียนไฟตะโกน
“ข้าแค่สงสัยเฉยๆ” ปี้จีกล่าวและตกใจที่เซียนไฟโกรธ
“หยุดสงสัยได้แล้ว! ปี้เย่วมาเพื่อล่อลวงเขา” เซียนไฟกล่าว
“ดี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของศิษย์ของพวกเรา พวกเราควรจะย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง…” น้ำไหลไปทางเซียนทองคำด้วยความรู้สึกร้อนๆ ทำให้ทุกคนมีอาการขนลุก “หรือเจ้าไม่ต้องการที่จะเห็น?… ศิษย์น้องซวนหยวนเจ้าเป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจ ดังนั้นจึงมีผู้หญิงจำนวนมากตกหลุมรักเจ้า….”
ซวนหยวนตกตะลึง เหล่าเซียนทั้ง 5 ต้องมีปัญหาทางจิตแน่ๆ ทำไมเขาถึงโชคร้ายขนาดนี้?
เฟิงเลี่ยกำลังหัวเราะ เฉินจิ้นโฉวรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่ ส่วนปี้จีกลับมีใบหน้าซีดขาวจางๆ
“นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ข้ายอมเสียภาพลักษณ์ของตัวเองเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของศิษย์ข้า พวกข้าไม่สามารถดูจนจบได้ แต่ถ้าพวกข้าคนใดคนหนึ่งต้องการดู พวกข้าสามารถใช้กระจกย้อนกลับ และแสดงให้เจ้าทุกคนได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น” เซียนวารีกล่าว “มีใครสงสัยคำพูดของพวกข้าหรือไม่?”
“ไม่! พวกเราเชื่อท่าน!” ปี้จี, เซี่ยเทียน และลู่เทียนเซี่ยงยังคงรักชีวิตของตัวเอง พวกเขาไม่ต้องการท้าทายเซียนทั้ง 5 คน
“ตั้งแต่เซี่ยงเทียนฮ้าว และลู่หยู่เซียง ตาย ทำให้พวกเราไม่สามารถจับกุมพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเราจึงจับกุมหั่วทาวแทน เขาเป็นคนแพร่กระจายข่าวลือที่เป็นเท็จเพื่อให้ศิษย์ภายในแตกแยกกัน เขาจะต้องได้รับโทษโดยการเฆี่ยนตี 800 ครั้ง และจะไม่ได้รับทรัพยากรต่างๆจากนิกายเป็นเวลา 3 ปี เพื่อเป็นการลงโทษ!” เฉินจิ้นโฉวประกาศ ศิษย์ภายใน 2-3 คนที่มีรายชื่อติดอันดับชำเลืองมองซวนหยวนก่อนที่พวกเขาจะทำตามเฉินจิ้นโฉวเพื่อจับกุมหั่วทาว
“ดี ถ้าจบเรื่องแล้ว พวกข้าจะได้ไป” เซียนไฟกล่าว
แต่เซี่ยเทียนขบฟัน และกล่าว “ท่านเซียนไฟแม้ว่าพวกเราจะพิสูจน์ได้ว่าปี้เย่ว และขุยหยาสมควรได้รับความตาย แต่เซี่ยอู๋เฮิ่นไม่สมควรตาย! เขาเพียงแค่กระจายข่าวลือเท่านั้น! และลู่หยู่เซียงยังถูกซวนหยวนสังหาร พวกเราไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้!”
“ซวนหยวน บอกพวกเขาไปทำไมเจ้าถึงสังหาร ลู่หยู่เซียง และเซี่ย อู๋เฮิ่น” เฟิงเลี่ยถาม
“ข้าถูกชายลึกลับติดตาม เมื่อพวกมันจากไป ข้าก็มาถึงทะเลสีครามแล้ว ข้าไม่รู้ว่าข้าเดินทางมาไกลแค่ไหน แต่ในวันนี้ลู่หยู่เซียงที่อยู่บนนกพบข้า เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำและเข้ามาทำร้ายข้าโดยทันที ข้าทำไปเพราะปกป้องตัวเองจากศัตรูที่ต้องการสังหารข้าเท่านั้น ถ้าพวกท่านไม่เชื่อในสิ่งที่ข้าพูด พวกท่านสามารถถามเซียนที่ใช้กระจกเมื่อก่อนหน้านี้ได้ และดูด้วยตาของพวกท่านเอง” ซวนหยวนมองไปทางชายชรา
“ถ้างั้นก็ทำตามนั้น!” เซียนไฟลูบเครายาวของเขา และมองไปที่ลู่เทียนเซี่ยง
“ไม่จำเป็น หยู่เซียงเขายังเยาว์วัย และบุ่มบ่าม เขามีความขัดแย่งกับศิษย์น้องซวนหยวนเพราะฟางยู่โหยว ข้าสามารถจิตนาการได้ว่าเขาพยายามสังหารศิษย์น้องซวนหยวนโดยปราศจากคำพูด แต่ถึงอย่างนั้นซวนหยวนก็ไม่สมควรสังหารเขา” ลู่เทียนเซี่ยงกล่าวน้ำเสียงของเขาดูอ่อนโยน ปราศจากข้อสังสัย
“ข้าเห็นด้วย ศิษย์น้องซวนหยวนเจ้าก็บ้าบิ่นเกินไป ตระกูลลู่เป็นตระกูลที่น่านับถือ และลู่หยู่เซียงยังเป็นผู้สืบทอดในอนาคตของพวกเขา เขามีพรสวรรค์ในเส้นทางแห่งการต่อสู้ เจ้าไม่ควรสังหารเขา เจ้าควรตัดแขน และขาของเขาทั้งหมดก็พอ และลากเขากลับไปยังนิกายเพื่อลงโทษโดยการเฆี่ยนตี” เฟิงเลี่ยกล่าวถากถาง ขณะพยักหน้า
ลู่หยู่เซียงดูตกตะลึงเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เฟิงเลี่ยยังคงพูดต่อ “แล้ว เซี่ยอู๋เฮิ่น ล่ะ?”
“เซี่ยอู๋เฮิ่น? เขากล่าวหาว่าข้าเป็นคนสังหารหมู่ศิษย์ร่วมนิกาย และกล่าวหาว่าข้าหลบหนีออกจากนิกาย เมื่อผู้อาวุโสจ้าวหมั่นเฟิงที่ออกตัวปกป้องข้า เขาได้โจมตีจ้าวหมั่นเฟิงผู้เป็นผู้อาวุโสของนิกาย นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถให้อภัยได้ พวกเราจะยอมรับให้เขาโจมตีคนที่มีสถานะสูงส่งกว่าได้อย่างไร ผู้อาวุโสเป็นตัวตนและสัญลักณ์ของความเคารพ และพวกเขายังมีสถานะสูงส่งกว่าศิษย์ภายใน ข้าเชื่อว่าศิษย์ที่อยู่ที่นี่ทุกคนต้องเห็นด้วยกับข้าอย่างแน่นอน?” ซวนหยวนหันหน้าไปทางศิษย์ที่กำกำลังหวาดกลัวอยู่ด้านข้าง และพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“ถูกต้อง! ถูกต้อง…” ศิษย์ภายในหลายคนพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง
ด้านหลังของศิษย์ภายในที่ยืนอยู่ มีจ้าวหมั่นเฟิงที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ เซียนไม้ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจึงเข้าไปหาจ้าวมั่นเฟิง และปลดปล่อยกระแสพลังปราณของเขาเข้าไปในตัวจ้าวหมั่นเฟิง ทำให้บาดแผลของจ้าวหมั่นเฟิงเริ่มฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
จ้าวหมั่นเฟิงไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะโชคดีขนาดนี้ และคุกเข่าลงต่อหน้าเซียน และกล่าว “ขอบคุณ ท่านเซียนไม้!”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า” ชายชราจับแขนจ้าวหมั่นเฟิงเพื่อช่วยให้เขายืนขึ้น “เจ้าปกป้องศิษย์ของข้า แม้ตัวเองจะได้รับอันตราย ข้าตั้งหากที่ต้องขอบคุณเจ้า”
เซี่ยเทียนรู้สึกหัวเสีย ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถสังหารซวนหยวนได้เพื่อตระกูลของเขา
“ศิษย์น้องซวนหยวน แค่นี้มันยังไม่สามารถยอมรับได้” เฟิงเลี่ยประกาศอย่างมั่นอกมั่นใจ “แม้ว่าเซี่ยอู๋เฮิ่นจะเป็นฝ่ายผิด แต่เขาก็ยังไม่สมควรถูกสังหาร ถ้าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกครั้ง เจ้าควรตัดแขน และขาของพวกมันทั้งหมดก็พอ แต่เจ้าต้องถูกลงโทษ เจ้าต้องไปที่ภูเขาสีแดง และต้องทนทุกข์ทรมานจากไฟอันร้อนแรงในที่แห่งนั้นเป็นเวลา 3 เดือน เซียนไฟจะไปที่แห่งนั้นเพื่อเฝ้าดูการ ‘ลงโทษ’ ของเจ้า”
นัยน์ตาของเซี่ยเทียนเกิดความประหลาดใจขึ้น แต่เสียงหัวเราะของเซียนไฟ ทำให้เขาหยุดคัดค้าน “ข้าไม่คัดค้าน มีใครอยากจะค้านไหม?”
“ไม่!”
“ไม่!”
เซี่ยเทียน และลู่เทียนเซี่ยง ตอบกลับ
ในตอนนั้นได้มีสองเงาปรากฏขึ้นในระยะไกล ซวนหยวนหันไปมองทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว ทันใดนั้นได้มีความรู้สึกโกรธเกรี้ยว และเจตนาฆ่าอย่างรุนแรงแผ่ออกมาจากร่างกายของพวกเขา