I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 146 ฝึกฝนในภูเขาแดง

| Devouring The Heavens | 1360 | 2361 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ร่างกายพันวิญญาณเป็นร่างกายที่พิเศษมากๆ พวกเขาต่างถูกตกเป็นเป้าจากผู้คนที่หมายปองจำนวนมาก ผู้ที่ครอบครองร่างกายพันวิญญาณพวกเขาต้องการมีชีวิตอยู่ที่ยาวนาน พวกเขาต้องฝ่าฝันอันตรายมามากมายเพื่อที่จะกลับชาติมาเกิดใหม่ในร่างของมนุษย์ เฟิงเลี่ยเป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ วายุแห่งท้องนภาได้จุติอยู่ภายในร่างของเขา แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากเฟิงเลี่ยไม่ได้กลายเป็นศิษย์ของเซียนวายุ เขาอาจจะถูกตามล่าโดยผู้ฝึกฝนคนอื่น และวายุแห่งท้องนภาอาจจะถูกดึงออกมาจากร่างกายของเขา จากนั้นอีกสัก 2-3 พันปีก่อนที่นักสู้วายุจะกลับมาจุติในร่างมนุษย์อีกครั้ง อย่างไรก็ตามถ้าหากพวกเขาครอบครองร่างกายพันวิญญาณ คนที่มีความสามารถจะได้รับพลังมหาศาลในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องกลับมาจุติใหม่ ร่างกายพันวิญญาณมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องใช้เวลาฝึกฝนมากมายนักเพื่อที่จะควบคุมพลังธรรมชาติ

 

และนั่นคือเหตุผลที่เฒ่าโลภมากสอนทักษะให้ม่อโฉวที่มีร่างกายพันวิญญาณ ถ้านางสามารถฝึกฝนทักษะได้สำเร็จ นางจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ

 

“ภูเขาแดง ช่างน่าคิดถึงจริงๆ ข้าเคยฝึกฝนในที่แห่งนี้เมื่อหลายปีก่อน มันเป็นสถานที่สมบูรณ์แบบมากสำรับผู้ใช้ปราณอัคคี” เซียนไฟกล่าวขณะรำลึกความทรงจำของตัวเอง

 

ซวนหยวนคิด “ข้ามีไข่มุก ความก้าวหน้าของข้าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าเมื่อใช้มัน แม้ว่าข้าจะไม่สามารถหาอัคคีต่อสู้ได้ แต่ข้าก็สามารถปรับแต่งหัวใจของข้าให้สำเร็จได้”

 

ภูเขาแดงอยู่ข้างหน้าพวกเขา มันเป็นภูเขาที่ใหญ่มาก ทำให้พวกเขาไม่สามารถเห็นจุดสูงสุดของมันได้ ภูเขาทั้งลูกถูกปกคลุมไปด้วยปราณอัคคีและปลดปล่อยความร้อนออกมา แม้แต่นักสู้ขอบเขตกษัตริย์ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่อยู่ภายใต้ความร้อนของภูเขา ผู้ฝึกฝนบางคนจะมีอาการขาดน้ำ และอาจตายขณะฝึกฝนบนภูเขา เฉพาะผู้แข็งแกร่งขอบเขตนักพรตเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดบนภูเขาได้เป็นเวลานาน นกวารีนภามันไม่ได้มีพลังพิเศษทำให้มันไม่กล้าเข้าใกล้ภูเขา ดังนั้นเซียนไฟจึงสร้างรูปแบบเพื่อปกป้องมัน

 

ที่แห่งนี้มันต้องมีสมบัติมากมายแน่ๆภายในภูเขา ซวนหยวนไม่กล้าพาม่อโฉวไปกับเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจให้ม่อโฉวอยู่ภายใต้การคุ้มครองจากเซียนไฟ

 

“ซวนหยวน ระมัดระวังให้มากเจ้าฝึกฝนอยู่ที่นี่เพียงคนเดียว ข้าต้องออกไปหาอัคคีต่อสู้พร้อมกับม่อโฉวแล้ว” เซียนไฟกล่าว แม้เขาจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องซวนหยวน แต่เขาไม่ได้อยู่กับซวนหยวนตลอดเวลา ถ้าซวนหยวนไม่สามารถจัดการสัตว์อสูรที่อยู่บนภูเขาแดงได้ด้วยตัวเอง เขาจะต้องตายภายใน 3 เดือนอย่างแน่นอน

 

“ขอรับ” ซวนหยวนหันไปหาม่อโฉวที่กำลังนั่งอยู่บนไหล่เซียนไฟ “ม่อโฉวเมื่อเจ้าอยู่กับเซียนไฟ เจ้าต้องช่วยเหลือเขาให้มาก เข้าใจไหม?”

 

ซวนหยวนกล่าวเช่นนี้เพื่อให้เซียนไฟไม่สงสัยในตัวม่อโฉว นางได้ฝึกฝนทักษะพันวิญญาณจากเฒ่าโลภมาก

 

“ข้าจะพยายามสุดความสามารถ! เมื่อข้าแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะช่วยท่านหาสมบัติเยอะๆ ระมัดระวังตัวด้วยพี่ซวนหยวน!” ม่อโฉวพูดอย่างจริงจัง นางหลับตาลงและเริ่มระลึงถึงทักษะที่ปู่โลภมากสอน มือเล็กๆของนางค่อยๆยืนออกไป และปรากฏแสงสว่าง ทันใดนนั้นปราณอัคคีจำนวนมากเริ่มพุ่งเข้าหานาง

 

เซียนไฟได้วางแผนไว้ว่าเขาจะหาทักษะที่เหมาะสมกับม่อโฉวให้เมื่อกลับไปยังนิกาย แต่เมื่อเขาเห็นพลังปราณที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของนาง เขาตระหนักว่านางกำลังศึกษาทักษะลึกลับระดับเซียน ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะหาทักษะที่เหมาะสมกับนางอีกต่อไป เขารีบบินไปยังจุดสูงสุดของภูเขาสีแดงพร้อมกับม่อโฉว ในเส้นทางของพวกเขาพลังจำนวนและมากขึ้นเรื่อยๆเริ่มไหลเข้าไปในตัวนาง ราวกับพลังปราณพวกนี้ถูกม่อโฉวเรียกมา

 

“ม่อโฉว ทักษะที่เจ้าฝึกฝนอยู่มันเป็นทักษะประเภทไหน?” เซียนไฟถาม

 

“ทักษะของร่างกายพันวิญญาณ” ม่อโฉวกล่าวอย่างซื่อตรง “แต่ได้โปรดอย่าถามข้าว่าข้าได้รับมันมาจากไหน ข้าไม่ได้รับมาจากพี่ซวนหยวน”

 

เซียนไฟรู้สึกแปลกใจ มันเป็นทักษะระดับเซียนที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่ครอบครองร่างกายพันวิญญาณคนแรก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทักษะที่ม่อโฉวฝึกได้รับมาจากไหน ไม่มีทางที่ซวนหยวนจะเข้าถึงทักษะโบราณเช่นนี้ได้ เซียนไฟรู้สึกถูกใจม่อโฉว และเป็นกำลังใจให้นางแข็งแกร่งขึ้นทุกๆวัน

 

————————————————

 

ในขณะนี้ซวนหยวนอยู่ตีนภูเขา นี่เป็นข้อจำกัดสำหรับนักสู้ขอบเขตกษัตริย์คนอื่นๆ เพราะยิ่งสูงขึ้นมากเท่าไหร่ความร้อนของภูเขายิ่งรุนแรงขึ้นมากเท่านั้น และความแข็งแกร่งของพวกเขาจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ถ้าพวกเขาไม่มียาเพิ่มความแข็งแกร่งมากพอ พวกเขาจะต้องตายกลายเป็นซากศพอยู่บนภูเขา และจะไม่มีวันลงกลับมาได้ แต่อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับซวนหยวน เพราะเขาได้ดูดกลืนวารีสวรรค์แล้ว ด้วยการป้องกันจากวารีสวรรค์ ความร้อนของภูเขามันก็เหมือนลมเย็นๆสำหรับเขา เพียงแค่อุณหภูมิอย่างเดียวไม่สามารถทำอัตรายใดๆต่อเขาได้ เพราะเขามีร่างกายแห่งการสวรรค์สร้าง

 

ภายในตัวซวนหยวน พลังปราณอัคคีเริ่มตื่นขึ้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นเมื่อเขาใช้ทักษะเปลวเพลิงจักรพรรดิ และใช้ไข่มุกพร้อมกันเพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนของเขา ร่างกายของซวนหยวนราวกับกลายเป็นน้ำวนขนาดยักษ์ที่ดูดพลังปราณอัคคีมากมายมหาศาลเข้ามาในตัวเขา พลังปราณอัคคีพุ่งเข้าไปในตัวซวนหยวน และปรับแต่งหัวใจของเขา ถ้าใครบางคนเห็นซวนหยวนในตอนนี้ ซวนหยวนราวกับถูกล้อมรอบไปด้วยรังไหม

 

จากนั้นซวนหยวนเริ่มปีนภูเขาไปสีแดง ก้าวเดินทีละก้าวอย่างช้าๆ

หินที่อยู่บนภูเขาทุกก้อนล้วนถูกเผาไหม้เพราะความร้อน และความร้อนทำให้อากาศบิดเบี้ยว ซวนหยวนได้เห็นสัตว์อสูรมากมายบนภูเขาที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากต่อการดำรงชีวิตอยู่เช่นนี้ได้ หมาป่าที่อ่อนแอที่สุดที่เขาเห็นมีพลังเทียบเท่ามังกร 60 ตัว พวกมันทุกตัวเห่าหอนใส่ซวนหยวนขณะที่เขากำลังเดินขึ้นไปบนภูเขา พร้อมกับดูดซับพลังปราณจำนวนมากมายมหาศาลจากอาณาเขตของพวกมัน เห็นได้ชัดว่าพวกมันโกรธ แต่ซวนหยวนก็ไม่ได้สนใจพวกมัน เขามาที่นี่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง ไม่ใช่มารังแกสัตว์ที่อ่อนแอกว่าเขา การค้นหาอัคคีต่อสู้เป็นเป้าหมายสำคัญของซวนหยวน เขาต้องการที่จะหาสถานที่ที่มีพลังปราณอัคคีหนาแน่นให้เร็วที่สุด

 

“เจ้าหนู ชายชราทั้งห้าคนพวกนั้นเขาดีกับเจ้าจริงๆ แต่พวกเขาค่อนข้างอ่อนแอ ทักษะที่พวกเขามอบให้เจ้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทักษะโบราณที่ไม่สมบูรณ์ของธาตุทั้งห้า เมื่อข้าฟื้นคืนความทรงจำของข้าได้ทั้งหมดแล้ว ข้าจะสอนทักษะที่สมบูรณ์แบบของธาตุทั้งห้าให้กับพวกเขาเพื่อคำขอบคุณ แล้วพวกเราจะได้ไม่ติดหนี้อะไรพวกเขา” เฒ่าโลภมากแสดงความคิดเห็น

 

“นั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พวกเขาเป็นอาจารย์ของข้า และพวกเขาควรค่าแก่การเคารพ ข้ารู้เจ้าเคยเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่มากๆเมื่อนานมาแล้ว และข้าเป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิแห่งการกลืนกิน เจ้าอาจจะรู้สึกไม่ดีเมื่อข้าเรียกพวกเขาว่าอาจารย์ บางทีพวกอาจจะไม่มีอะไรเทียบได้กับจักรพรรดิแห่งการกลืนกิน แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็น พวกเขาทำดีกับข้า และปกป้องข้า มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน เจ้าเข้าใจไหม?” ซวนหยวนกล่าว

 

“ไม่เป็นไร เจ้าไม่ใช่จักรพรรดิแห่งการกลืนกิน เจ้าผูกมัดกับพวกเขามากเกินไป สักวันหนึ่งเจ้าจะรู้สิ่งที่ข้ากล่าวหมายถึงอะไร ตอนนี้เจ้ายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจสิ่งที่ข้าพูด” เฒ่าโลภมากตอบกลับ

 

ซวนหยวนหลีกเลี่ยงสัตว์อสูรบนเส้นทางของเขา ขณะดูดปราณอัคคีจำนวนมากเพื่อปรับแต่งหัวใจ มันเป็นกระบวนการที่ยาวนานมากสำหรับเขาที่จะปรับแต่งอวัยวะของตัวเอง เมื่อเทียบกับผู้ฝึกฝนคนอื่นๆ แม้มันจะทำให้เขามีพลังมากขึ้น แต่ต้องใช้เวลานานมาก ดังนั้นซวนหยวนจึงไม่รีบร้อน และเดินตรงไปยังจุดสูงสุดของภูเขาอย่างช้าๆ

 

หลังจากสามวัน ซวนหยวนได้เดินมาถึงจุดกึ่งกลางของภูเขาแล้ว ภูเขาแห่งนี้ได้ปลดปล่อยความร้อนออกมา ทำให้มีพืช และสมุนไพรมากมายหลายชนิดถูกเผาไหม้ ราวกับหญ้า แต่อย่างไรก็ตามมันถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง และก่อให้เกิดพลังปราณอัคคี พืชสมุนไพรพวกนี้ถูกไฟลุกไหม้ไปทั่วบนภูเขา ราวกับภูเขาแห่งนี้ถูกเปลวเพลิงห่อหุ้มไปตลอดกาล

 

เมื่อซวนหยวนเดินมาถึงเขาได้เห็นต้นไม้แปลกประหลาด มันเป็นต้นไม้เปลวเพลิงที่เติบโตได้เฉพาะบนภูเขาแดงแห่งนี้เท่านั้น กิ่งก้านของมันราวกับคบเพลิง ทำให้ซวนหยวนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นต้นไม้ที่เติบโตได้เฉพาะภูเขาแห่งนี้เท่านั้น ทำให้ซวนหยวนรู้สึกสงสัยว่าทำไมมันถึงเติบโตในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ได้

 

ในช่วงสามวันซวนหยวนรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังถูกเปลวเพลิงเผาไหม้อย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่งของเปลวเพลิงในร่างกายของเขาเริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น และเลือดของเขาก็เริ่มเดือด หัวใจของเขาเริ่มปรับแต่งไตไปพร้อมกัน และซวนหยวนก็สังเกตเห็นว่าเส้นเลือดของเขากำลังขยายตัว เพื่อรองรับพลังที่มากขึ้น ทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งขึ้นเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวด ถ้าซวนหยวนไม่ได้มีจิตใจที่เข้มแข็ง เขาคงถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ไปแล้ว

 

นอกจากนี้พลังในร่างกายของเขายังเพิ่มขึ้นเพราะเปลวเพลิงปรับแต่งหัวใจ และน้ำปรับแต่งไตของเขาได้ปรับแต่งพร้อมกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ก่อนที่ซวนหยวนจะปรับแต่งหัวใจ เขาได้ฝึกฝนโดยไม่หยุดพักเป็นเวลา 7 วัน ดังนั้นตอนนี้ถ้าเขาต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนมันก็ไม่เป็นปัญหาอะไรสำหรับเขา แต่เขาจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากเม็ดยา

 

ตั้งแต่ที่ซวนหยวนก้าวเข้าสู่ขอบเขตกษัตริย์ ในที่สุดเขาก็เห็นประโยชน์ของการปรับแต่งอวัยวะทั้ง 5 ของเขา ความแข็งแกร่งของเขาจากเดิมมังกร 450 ตัวกลายเป็นมังกร 480 ตัวเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น นี่เป็นเพียงการปรับแต่งส่วนเล็กๆของหัวใจเขาเท่านั้น ซวนหยวนรู้ว่าเมื่อเขาปรับแต่งหัวใจเสร็จสมบูรณ์ความแข็งแกร่งของเขาจะแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างมาก

 

“เจ้าเคยพูดว่าพวกเราตะกละ และทำตัวราวกับเป็นหลุมดำ แต่ตอนนี้เจ้าก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน ฝึกฝนให้หนัก ความเหนื่อยล้า และความเจ็บปวดมันเป็นเพียงความรู้สึกเพียงแต่ชั่วคราวเท่านั้น..…” เฒ่าโลภมากกล่าวกับซวนหยวน

 

“ข้ารู้” ซวนหยวนตอบ

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments