I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Devouring The Heavens ตอนที่ 148 ความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง

| Devouring The Heavens | 1302 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“เจ้าได้ยินหรือยัง? ศิษย์ภายในที่ชื่อซวนหยวนได้ท้าทายศิษย์พี่เจียงอี้เทียน เขาพูดว่าจะเอาชนะศิษย์พี่เจียงภายใน 3 ปี! ข้าว่าเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”

 

“อย่างงั้นรึ ข้าไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ คนอย่างเขาทำได้เพียงเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีนี้เท่านั้น”

 

“ข้าไม่รู้ แต่มันต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอนที่เซียนทั้ง 5 รับเขามาเป็นศิษย์ของพวกเขา เขามีความมุ่งมั่น และโหดร้ายเหมือนศิษย์พี่เฟิงเลี่ย บางทีเขาอาจจะกำลังกลายเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง”

 

“ไม่ว่าเขาจะมีพรสวรรค์มาแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางเหนือกว่าศิษย์พี่เจียงอี้เทียนได้ ถ้าข้าเป็นศิษย์พี่ ข้าคงสังหารเขาไปแล้วเพราะความอวดดีของมัน”

 

“ศิษย์พี่เจียงเป็นคนประเภทนั้น บางทีเขาอาจจะกำลังเล่นกับเจ้าเด็กนั้นอยู่ก็ได้”

 

“แต่ข้าคิดว่าเจ้าเด็กนั้นค่อนข้างฉลาดทีเดียว เขามีความขัดแย้งกับตระกูลใหญ่ๆพวกนั้น แต่ตอนนี้ตระกูลใหญ่พวกนั้นกลับไม่สามารถทำอะไรเขาได้ภายใน 3 ปีนี้!”

 

“3 ปีมันไม่ได้นาน เขาควรหลบซ่อน……….และเรียนรู้ฝึกฝนภายใต้การดูแลของเซียนทั้ง 5 บางทีเขาอาจจะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นหากทำเช่นนั้น”

 

“ข้าไม่คิดว่าเขาจะอยู่รอดพ้น 3 เดือน เขาไม่มีทางสังหารชิงยวิ๋นได้”

 

“ใช่ เขาเป็นเพียงนักสู้ขอบเขตกษัตริย์เท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขาสามารถสังหารนักสู้ขอบเขตนักพรตได้ถึง 2 คน ข้าคิดว่าเขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างมากระหว่างฝึกฝนในภูเขาแดง”

 

“แต่ชิงยวิ๋นเป็นนักสู้ที่อยู่ขอบเขตนักพรตมานานหลายปีแล้ว เขาไม่สามารถทำให้ชิงยวิ๋นบาดเจ็บได้หากไม่ฝึกฝนภายใน 3 เดือน”

 

“ถูกต้อง แล้วพวกเราจะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างพวกเขาในอีก 3 เดือน”

 

ข่าวลือของซวนหยวนแพร่กระจายไปทั่วนิกาย ทำให้ทุกๆคนพูดคุยแต่เรื่องของเขา

 

“ท่านลุงฟางยวิ๋น พวกเราควรทำเช่นไรดี? พวกเราจะช่วยเหลือซวนหยวนได้อย่างไร?” ฟางยู่โหย่วรู้สึกกังวล เมื่อนางได้ยินข่าวของซวนหยวน นางรีบวิ่งไปที่เกิดเหตุทันที แต่เมื่อนางไปถึงซวนหยวนได้จากไปแล้วพร้อมกับเหล่าเซียน นางรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินว่าซวนหยวนได้ท้าทายเจียงอี้เทียน และในตอนนี้ความตกใจของนางได้กลายเป็นความกังวล

 

“ข้าพบเจอซวนหยวนมาแล้วหลายครั้ง เขามีเจตจำนง บางทีเขาอาจจะต่อสู้ชนะชิงหวิ๋นได้ภายใน 3 เดือน แต่ข้าไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะศิษย์พี่เจียงอี้เทียนได้ ซวนหยวนยังเด็กไปที่จะเข้าใจความแข็งแกร่งของเจียงอี้เทียน เขาสามารถแปลงเป็นสัตว์อสูรได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาแปลงเป็นสัตว์อะไร ทุกคนที่ได้เห็นตอนเขาแปลงกายได้ตกตายไปทุกคน ระยะเวลา 3 ปีอาจจะไม่เพียงพอสำหรับซวนหยวน” ฟางยวิ๋นอธิบาย เขารู้ว่าหลานสาวของเขาชื่นชอบซวนหยวน แต่ซวนหยวนยังเด็กเกินไป และประมาท เขาควรท้าเจียงอี้สู้อีก 100 ปี บางทีเขาอาจจะมีโอกาสชนะ

 

“ถ้างั้นซวนหยวนจะถูกฆ่าตายภายใน 3 ปีนี้อย่างงั้นหรือ?” นัยน์ตาของฟางยู่โหย่วกลายเป็นมืดมนเพราะความโศกเศร้า

 

“อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ ซวนหยวนเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่ข้าเคยพบเห็น ในช่วงเวลา 3 ปีซวนหยวนอาจจะกลายเป็นคนที่มีความสำคัญมาก นิกายจะไม่อนุญาตให้ศิษย์ที่มีความสำคัญต่อนิกายต่อสู้กันเอง จะต้องมีคนหยุดพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะต่อสู้กันอย่างแน่นอน เจ้าไม่ต้องกังวลมากไป” ฟางยูโหย่วพูดกับตัวเองเพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้กับตัวเอง

 

“ท่านลุง ข้าต้องการไปพบเขาที่ภูเขาแดง” แต่ยังไงฟางยู่โหยวก็ยังคงกังวล

 

“ถ้าไปเจ้าจะต้องตายอยู่ในภูเขาแดงแน่ ถ้าเจ้าต้องการช่วยเหลือเขาจริงๆ ให้ความสำคัญกับการฝึกของตัวเอง และจงกลายเป็นศิษย์แท้จริงซะ แล้วข้าจะให้คะแนนศิษย์กับเจ้าเพียงพอที่จะเข้าไปในมิติฝึกฝน ถ้าเจ้าแข็งแกร่งไม่พอ เจ้ามีแต่จะกลายเป็นภาระเท่านั้น” ฟางยวิ๋นพูดช้าๆเพื่ออธิบายให้ฟางยู่โหยวฟัง

 

“ข้าเข้าใจแล้วท่านลุง” ฟางยู่โหย่วใช้ความกังวลของตัวเอง เป็นแรงผลักดันให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น

 

—————————————

 

ภายในบ้านเล็กๆที่ทำจากไม้หอม ตั้งอยู่ในสวนของศูนย์กลางค้าไทไป๋ ได้เกิดเสียงโวยวายดังขึ้น

 

“อะไรนะ? เรื่องจริงงั้นรึ?”

 

“เรื่องจริงค่ะ คุณหนู! ได้โปรดสงบสติอารมณ์!” สาวใช้อ้อนวอน

 

“เจ้าเด็กนี่น่าเป็นห่วงจริงๆ! ถ้าเขาท้าทายชิงยวิ๋นมันก็ไม่เป็นไร แต่เขาได้ท้าทายเจียงอี้เทียน? ภายใน 3ปี? ข้าคิดไม่ออกเลยว่าจะช่วยเหลือเขาได้ยังไง” ไป๋เดินไปเดินมาอยู่ในห้องอย่างกระวนกระวาย “ไม่ ข้าต้องทำใจร่มๆเข้าไว้ เจียงอี้เทียนเป็นศิษย์แท้จริงอันดับหนึ่งของนิกาย แต่มันต้องมีวิธีที่จะเอาชนะเขาได้ 3 ปียังไงก็คือ 3 ปี มันต้องมีหนทางอย่างแน่นอน”

 

นางรีบหันหน้าไปหาสาวใช้ทันทีและกล่าว “รับคำสั่ง ค้นหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเจียงอี้เทียนมาให้ข้า ข้าต้องการรู้ทักษะที่เขาฝึกฝน และเขาแปลงร่างเป็นสัตว์อสูรอะไร รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดและรายงานกลับมาให้ข้า”

 

สาวใช้รีบออกจากห้องทันที จากนั้นไป๋นั่งลงบนเก้าอี้ หลับตาลง และถอนหายใจ

 

“เขากล้าที่จะท้าทายเจียงอี้เทียน ไม่มีใครรู้ว่าเจียงอี้เทียนแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ถ้าเขามีเวลามากพอ เขาอาจจะสามารถเติบโตไปได้ไกลกว่าเจียงอี้เทียน สิ่งที่พวกเราต้องการคือมีเวลาเพิ่มมากขึ้น” นางขบคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะลืมตา “3 เดือนก่อนที่เขาจะต่อสู้กับชิงยวิ๋น เขาจะต้องมาที่นี่เพื่อเตรียมความพร้อม พวกเราควรเตรียมพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ อาวุธ ยุทธภัณฑ์ทุกชนิด และยันต์ทุกประเภท ใครก็ได้มาที่นี่เดี๋ยวนี้! พวกเราจำเป็นต้องรวบรวมอาวุธ ยุทธภัณฑ์ระดับสวรรค์ขั้นต่ำ, เม็ดยา และยันต์อาคมระดับราชันย์!”

 

เงาๆหนึ่งรับคำสั่งจากนอกบ้านของไป๋ก่อนที่จะหายตัวไป

 

“ชิงยวิ๋น เจ้าไม่ควรทำให้คนที่ข้ารู้สึกสนใจต้องโกรธ ภายใน 3 เดือน เขาจะเอาชนะเจ้าได้อย่างแน่นอน!” ไป๋ขบฟัน

 

ทันใดนั้นได้มีบางคนมาเรียกไป๋จากด้านนอกประตู “คุณหนู ท่านฮั่วหยู่ และคุณหนูเหยียนซือหยุน พวกเขามาที่นี่เพื่อต้องการพบท่าน”

 

“พาพวกเขาเข้ามา” ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

 

หญิงสาวทั้ง 2 คนเดินเข้าไปในห้องของนาง ฮั่วหยู่ยังคงงดงามเหมือนเดิม แต่เหยียนซือหยุนนางดูท้อแท้ และอ้างว้าง

 

“คุณหนูเหยียน ข้ารู้ว่าทำไมท่านถึงมาที่นี่ในวันนี้” ไป๋กล่าว นางรู้ว่าเหยียนซือหยุนมาที่นี่เพื่อตำหนิตัวเองเพราะการตายของกู่ฉิง ซวนหยวนได้ขอให้นางดูแลกู่ฉิงก่อนที่เขาจะไปนิกาย และไป๋ได้อยู่ที่นั่นเพื่อเป็นพยาน

 

“เจียงอี้เทียนเป็นศิษย์แท้จริงอันดับหนึ่งของนิกาย ชิงยวิ๋นก็เป็นศิษย์แท้จริงเช่นกัน พวกเขาไปที่นั้นเพื่อสังหารกู่ฉิงโดยเฉพาะ ท่านไม่มีทางหยุดพวกเขาได้หรอก อย่าโทษตัวเองมากเกินไป”

 

“อะไรนะ? เขาเป็นศิษย์แท้จริงอันดับหนึ่ง?” เหยียนซือหยุนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่นางได้ยิน

 

“ถูกต้อง คุณหนูเหยียน ซวนหยวนได้ท้าทายเขาด้วยตัวเอง” ไป๋ถอนหายใจ “การตายของกู่ฉิงทำให้เขาทำตัวไร้เหตุผล เขาได้ท้าทายชิงยวิ๋นภายใน 3 เดือน และเจียงอี้เทียนภายใน 3 ปี เจียงอี้เทียนเป็นนักสู้ขอบเขตจักรพรรดิขั้นที่สาม ข้าก็รู้สึกกังวลเช่นกัน”

 

มีเพียงความสิ้นหวังเท่านั้นที่เหยียนซือหยุนรู้สึก! นางหวังว่าถ้านางเป็นกู่ฉิงได้นางจะยอมตายแทนกู่ฉิง และถ้าเป็นซวนหยวนนางก็จะท้าทายชิงยวิ๋น และเจียงอี้เทียนแทนเขา ถ้ามันสามารถช่วยซวนหยวนได้ล่ะก็

 

“ไม่มีหนทางช่วยซวนหยวนเลยอย่างนั้นหรือ? ข้ามาที่นี่เพื่อบอกให้เขารู้ ข้าไม่คิดว่า….มันจะลงเอยเช่นนี้…..” เหยียนซือหยุนไม่สามารถกลั้นน้ำตาให้หยุดไหลได้

 

“คุณหนูเหยียนนี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน เขาดึงดูดความสนใจมากเกินไปเพราะพรสวรรค์ของเขา มีผู้คนต้องการทำให้เขาตกต่ำ พวกเขาไม่ควรทำร้ายคนที่เกี่ยวข้องกับเขา แต่ชิงยวิ๋นเล่นสกปรก” แม้ว่าไป๋จะไม่ต้องการบอกเรื่องที่ซวนหยวนได้ท้าทายพวกเจียงอี้เทียน และชิงยวิ๋นกับเหยียนซือหยุน แต่นางไม่ต้องการให้ซวนหยวนต้องกังวลกับเรื่องที่ไม่จำเป็น นางทำธุรกิจค้าขาย เหยียนซือหยุนถือว่าไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรกับซวนหยวนเลย นอกจากสร้างปัญหาให้เขา

 

“ข้าเข้าใจแล้ว” เหยียนซือหยุนยิ้มอย่างขมขื่น “คุณหนูไป๋ ข้ารู้ว่าท่านชื่นชอบซวนหยวน มีบางอย่างที่ข้าสามารถบอกกับท่านได้เพียงคนเดียวเท่านั้น”

 

จากนั้นนางก็เดินเข้าไปใกล้ไป๋ และกระซิบ “เรื่องจริงงั้นหรอ?”

 

“แน่นอน ได้โปรดดูแลซวนหยวนด้วย ข้าไม่ต้องการให้เขาเดือดร้อนเพราะข้าไปมากกว่านี้”

 

—————————————

ภายในเมืองนักสู้มังกร รอบๆตัวของเหยียนซือหยุนถูกร่ายล้อมไปด้วยความวุ่นวาย และความคึกครืนของถนน ในขณะที่นางสวมใส่เซ็ทยุทธภัณฑ์จันทร์ดาราที่ซวนหยวนซื้้อให้ ทำให้นางคิดถึงเรื่องในอดีต ทุกก้าวที่นางก้าวเดินนางรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ความเหงา, ความโศกเศร้า และความสิ้นหวัง ทั้งหมดมันเป็นความผิดของนาง นางไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องกู่ฉิงได้ นางไม่ได้มาจากตระกูลที่มีอำนาจ ทั้งหมดเป็นความผิดของนาง นางทำให้ซวนหยวนต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ความเกลียดชังตัวเองได้ปรากฏในสายตาของนาง

 

นางหยิบดาบของตัวเองขึ้นมาอย่างช้าๆ และพูดอย่างขมขื่นว่า “ซวนหยวน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าขอโทษ ที่ทำให้เจ้าต้องเจ็บปวด”

 

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ดาบของนางจะแตะที่คอหอยของนาง ได้มีพลังอันแข็งแกร่งทำลายดาบของนาง

 

“สาวน้อย ทำไมเจ้าถึงเลือกที่จะฆ่าตัวตาย? มันจะเป็นความคิดที่ดีไหม ถ้าเจ้าอยากจะติดตามหญิงชราแบบข้าคนนี้เดินทางไปรอบโลก? บางทีมันอาจจะทำให้ความคิดของเจ้าเปลี่ยนไป” หญิงเฒ่าหลังค่อม และหัวขาวกล่าวขณะจ้องมาที่นาง เหยียนซือหยุนยิ้มอย่างขมขื่น นางไม่สามารถที่จะให้อภัยตัวเองได้ “ข้าไม่ค่อยเจอคนที่ข้าถูกใจมากเท่าไหร่นัก มากับข้า สาวน้อย”

 

หญิงเฒ่าถอนหายใจ และสะบัดไม้เท้า และได้เกิดลมขึ้นมาพัดทั้งสองคนหายไป…..

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments