‘ชูเฟิง’และคนอื่นๆ ต่างเดินทางตามแผนที่ไปเรื่อยๆ จนตะวันลับขอบฟ้า จนที่สุดพวกเค้าก็มาถึงสถานที่ที่เรียกว่า …สุสาน
 
สุสานถูกเปิดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว คนจำนวนมากมายต่างวิ่งเข้าไปในนั้น พวกเค้าส่วนใหญ่ต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ
 

 
” แล้วเราจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้างหรือป่าว “
 
พวกเค้าหลายคนต่างถอดใจ
 

 
” ถ้าเราคืนแต่มัวล่าช้าล่ะก็ ข้าเกรงว่าจะไม่มีอะไรเหลือแม้แต่ยาเพียงเม็ดเดียว “
 
ขณะที่’ชูเฟิง’พูด เค้าจึงเสนอเป็นผู้เบิกทาง
 
สุสานถูกสร้างขึ้นกลางทะเลทรายขนาดสุดลูกหาลูกตาเกินกว่าที่พวกเค้าจะพรรณนา ด้านในของสุสานมีอุโมงค์โอบล้อมเต็มไปด้วยหินที่ส่องสว่าง ตามทางเดินที่ทอดยาวสว่างไสวดั่งกับตอนกลางวัน
 
‘ชูเฟิง’ เดินตามทางไปได้ 50 ก้าว รอบๆอุโมงค์ปรากฏศาลาที่ประดับด้วยโคมไฟ มันดูประกลายวิบวับสวยงามราวกับออกมาจากเทพนิยาย มันเป็นครั้งแรกที่’ชูเฟิง’ได้เห็นของประดับที่หรูหราเช่นนี้
 
ด้านในถ้ำยาวเหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด มันมีทางแยกอยู่หลายสิบทาง ทุกๆทางต่างดูลึกลงไปเหมือนกันหมด
 

 
” ชูเฟิง เราไปทางไหนดี ? “
 
เห็นถ้ำที่เหมือนดั่งเขาวงกต ‘ซูเหม่ย’และคนอื่นๆใช้สายตามองที่’ชูเฟิง’ เนื่องจากพวกเค้ารู้ว่า’ชูเฟิง’เป็นคนเดียวที่มีอำนาจพลังวิญญาณ
 

 
” ถ้ำมันลึกเกินไป ข้าไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นทางไหน เราคงต้องหวังพึ่งโชคแล้วล่ะ “
 
‘ชูเฟิง’ส่ายหัวอย่างหมดหนทาง แต่เค้าก็ไม่มีความลังเลใดๆ เค้าเลือกถ้ำๆหนึ่งและวิ่งเข้าไป ‘ซูเหม่ย’กับคนอื่นๆต่างวิ่งตามมาติดๆ
 
หลังจากที่เข้าถ้ำมาไม่ได้นาน เค้าก็พบกับประตูจำนวนหลายประตู บางห้องก็ถูกเปิดไว้อยู่แล้ว และดูเหมือนพวกเค้าจะพบสมบัติภายในห้องเหล่านั้น
 
แล้วเกิดการต่อสู้เพื่อแย่งโอสถวิญญาณจำนวนมากมาย ดูจากร่องรอยที่ปรากฏภายในห้อง
 

 
” งั้นข้าจะลองเปิดประตูนี้ “
 
‘ชูเฟิง’ แผ่พลังวิญญาณของเค้าออกไปตรวจสอบประตูเหล็ก เมื่อเค้ามาถึงหน้าประตู เขาไม่พูดพ่ำทำเพลง ‘ชูเฟิง’ใช้ สายฟ้า สามผสาน รูปแบบที่ 2 ซัดใส่กับประตูเหล็กที่ดูหนาแน่น เพื่อเปิดประตูบานนั้น
 
* ปั้งงงงง *
 
หลังจากที่ประตูเปิดออกมาแล้ว คลื่นพลังวิญญาณขนาดใหญ่กระแทกใส่หน้าพวกเค้า ตอนนั้นสิ่งที่ปรากฏบนใบหน้าเค้า คือ ยารากวิญญาณ หญ้านภา . . . .  หญ้าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ จำนวนหลายพันหลายหมื่น ส่องสว่างเจิดจ้า
 

 
” สุสานนี้มัน ? เป็นคลังสมบัติชัดๆ!!! “
 
เมื่อพวกเค้าเห็นสมบัติเหล่านั้น พวกเค้ามีความสุขอย่างมาก เพราะสิ่งที่พวกเค้าจะได้รับอย่างน้อยก็คือ โอสถจำนวนหลายพัน นี้ขนาดแค่เข้ามาห้องเดียว เค้าแทบไม่อยากจะคิดว่าต่อไปเข้าจะเจอกับอะไรอีก
 

 
” ไป๋หลง ไป๋หู๋ จาง ถิงจือ และเย้ เถาจือ เฝ้าหน้าประตู ไป๋ ตง ซูเหม่ย และข้า จะเข้าไปเอาโอสถวิญญาณ “
 
หลังจากนั้น ‘ชูเฟิง’ ‘ซูเหม่ย’ และ’ไป๋ตง’ รีบนำถุงจักรวาลออกมา และเริ่มเก็บโอสถวิญญาณเรานั้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นยาระดับต่ำ หรือ ยาระดับสูง
 
ตราบใดที่มันช่วยพัฒนาพลังวิญญาณจะเป็นยาแบบไหนก็ได้
 

 
” หลบไป ถ้าจะยังไม่หลบ ข้าจะฆ่าพวกเจ้า “
 
 
” ห้องนี้พวกเราเป็นคนพบ โอสถวิญญาณพวกนี้ย่อมเป็นของพวกเรา “
 
 
” ฮ่าๆๆๆ ของทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีเจ้าของ แต่กลับบอกว่ามันเป็นของพวกเจ้า เพียงแค่คำพูด ? “
 
ในตอนนั้น มีเสียงตะโกนมาจากหน้าประตู เมื่อมองไปก็พบกับ พวกก่อนหน้านี้ที่สู้กันภายในห้อง
 
ไม่มีใครรู้ว่าพลัง ว่ากลุ่มพันธมิตรปีกฯแข็งแกร่งแค่ไหน  แต่ความแข็งแกร่งของพวกโจรก็อยู่ในระดับที่ไม่ถือว่าอ่อนแอพวกเค้ามีพลังอยู่ในระดับ 5 จนถึงระดับ 7 ห้วงวิญญาณเมื่อพวก’ชูเฟิง’เห็นสองพี่น้อง’หลงหู่’และคนอื่นๆถูกกดดัน
 

 
” ไอ้พวกสารเลว พวกมันต้องการชิงของจากคนอื่นๆ”
 
เมื่อ’ซูเหม่ย’และ’ไป๋ ตง’เห็นคนกลุ่มนั้น….เค้าก็โกรธอย่างมาก
 
ก่อนที่ประตูจะเปิด  พวกเค้าก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งวนเวียนอยู่แถวนั้น แต่พวกเค้าไม่ได้เปิดประตูแต่อย่างใดพวกเขายืนอยู่ภายในถ้ำเพื่อคอยสังเกตุสถานการณ์ แน่นอนว่า หลังจากที่’ชูเฟิง’เปิดประตู พวกเขาก็วิ่งเข้ามา โจรดีๆนี้เอง
 

 
” พวกเจ้าเก็บโอสถอยู่ที่นี้ ข้าจะทิ้งถุงไว้ “
 
‘ชูเฟิง’โยนถุงจักรวาลของตัวเองไว้ให้’ซูเหม่ย’ ทันใดนั้นเค้าก็วิ่งไปที่หน้าประตู
 
ในตอนนั้น คนที่กำลังต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายก็คือสอง’พี่น้องหลง – หู่’ หลังจากที่ ‘ชูเฟิง’มาถึงเค้าก็พุ่งเข้าไปฆ่าคนพวกนั้นอย่างกับปีศาจ
 
เค้าใช้สายฟ้าสามผสาน ฉีกร่างของพวกเขาออก…  ภายในพริบตาทั้ง 5 คนก็จมอยู่ในกองเลือด 3 คนอยู่ในระดับ 6 ห้วงวิญญาณ และอีก 2 คน อยู่ในระดับ 7 ห้วงวิญญาณ พวกเค้าทั้ง5ต่างสิ้นลมหายใจ
 
เมื่อพวกเขาเห็นภาพที่น่าสยดสยองพวกเขาต่างพากันทิ้งอาวุธและพากันล่าถอย หลังจากนั้นพวกเขาก็กล่าว
 

 
” เจ้าหนุ่ม เจ้ากล้าฆ่าพวกเรา เจ้าไม่รู้หรอว่าพวกเราเป็นใคร ? “
 
* ฟึ๊บบ *
 
ขณะที่เขาพูดจบ ‘ชูเฟิง’ เคลื่อนตัวมาปรากฏตรงหน้าของเขา มือของเขาเปลี่ยนพลังวิญญาณให้เป็นเหมือนมีด จากนั้นเค้าก็ฟันไปที่คอของชายคนนั้น
 
หลังจากที่เค้าฆ่าคนพวกนั้นจนเกือบจะหมดสิ้น ร่างของ’ชูเฟิง’ ถูกชโลมไปด้วยโลหิต เค้ายืนด้านหน้าประตูแล้วจ้องมองพวกที่เหลืออย่างเยือกเย็น และกล่าวเพียง 5 คำ
 

 
” เจ้าอยากตายแบบไหน!!! “
 
จิตสังหารของ’ชูเฟิง’ก่อตัวดั่งพายุที่มองไม่เห็น หลังจากที่พวกเค้าดูศพเพื่อนทั้ง 6 ที่ตายด้วยน้ำมือเด็กหนุ่ม กลุ่มคนพวกนั้นโกรธอย่างมาก แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามา
 
พวกเขาต่างหวาดกลัว ‘ชูเฟิง’ ถึงแม้ว่า’ชูเฟิง’ดูเป็นเด็ก ทุกคนสามารถพูดได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ช่างเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต
 

 
” เพราะเค้าสามารถฆ่าคนได้โดย ไม่กระพริบตา “
 
 
” ถอยย!!! “
 
หลังที่เขากัดฟันด้วยความโกรธ คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าตะโกน
 
พวกเขามอง’ชูเฟิง’และรีบออกไปที่ห้องอื่นทันที
 
ในตอนนั้น ‘สองพี่น้อง หลง – หู่’ ,’เย้ เถาจือ’  และ ‘จาง ถิงจือ’ ต่างมอง’ชูเฟิง’ด้วยสีหน้าประหลาด ตั้งแต่มีอายุมาถึงจนตอนนี้  บอกได้ว่าพวกเค้าก็มีประสบการณ์อยู่พอตัว แต่พวกเค้าไม่เคยฆ่าใครมาก่อน
 
แต่กลับ ‘ชูเฟิง’ นั้นแตกต่างจากพวกเค้าไปอย่างสิ้นเชิง จิตสังหารที่เค้าแผ่ออกมามันเป็นของจริง….
 
เค้าสามารถฆ่าคนได้อย่างไร้ความปราณี เมื่อมองไปที่’ชูเฟิง’พวกเค้าก็หนาวไปถึงกระดูก…..
 
บอกได้เลยว่าคนที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ ต่างถูกสร้างความหวาดกลัวไปถึงก้นบึ้งของจิตใจ
 
พวกเขาทั้ง 4 ต่างชื่นชมและยินดีอย่างที่สุดจากก้นบึ้งของจิตใจ พวกเขาดีใจที่ได้ ‘ชูเฟิง’ เป็นเพื่อนร่วมพันธมิตรและไม่ได้เป็นศัตรูกับเขา ไม่งั้นไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากต้องเป็นศัตรูของ’ชูเฟิง’
 

 
” อย่าได้พึ่งวางใจ พวกเจ้าเข้าไปเก็บโอสถวิญญาณเร็วๆเข้า ข้าจะเฝ้าเอง “
 
‘ชูเฟิง’กล่าวกับ 4 คน
 

 
” ตกลง . . . .”
 
พวกเขาทั้ง 4 ไม่รอช้าแม้แต่จะหยุดคิด ตอนนี้ ‘ชูเฟิง’ ก็เหมือนเป็นผู้นำของพวกเขา ทั้งที่ๆเค้าก็เข้าพันธมิตรปีกฯมาได้ไม่นาน
 
หลังจากที่เก็บหมดแล้ว ‘ชูเฟิง’และคนอื่นๆ ต่างเปิดประตูบานอื่นๆที่เหลือ จำนวนของโอสถวิญญาณในนั้นมีอยู่ทุกห้องและจำนวนของมันก็มากกว่าเดิมหากเทียบบานที่เค้าเปิดในตอนแรก
 
ในตอนนั้น หลายๆคนไม่คิดแม้แต่จะปล้น’ชูเฟิง’ พวกเค้ารอหาเหยือจากคนอื่น หากพวกเขายังกล้าก่อเรื่อง คงมีแต่ความตายที่รออยู่
 
‘ชูเฟิง’ ยังคงแผ่จิตสังหารบนร่างกายและด้วยความแข็งแกร่งของเค้า คนอื่นๆไม่กล้าแม้แต่จะมอง พวกเขารีบเดินไปรอบๆ เพราะเกรงว่าหากไปขัดใจคนที่ร้ายกาจเช่นนั้นคงจะไม่จบง่ายๆ
 
เหลือประตูอีกเพียง สอง บานที่ยังไม่ถูกเปิด ‘ชูเฟิง’ตัดสินใจที่จะทิ้งไว้ให้คนพวกนั้น  พวกเค้ายังคงต้องเข้าไปในส่วนลึก สำหรับเป้าหมายที่ใหญ่กว่า ตรงนี้มันแค่เริ่มต้น
 
เวลาที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ จำนวนของโอสถวิญญาณของพวกเค้ามีอยู่ประมาณ หนึ่งแสน ส่วนใหญ่เป็นยาระดับต่ำ แต่ที่ดีที่สุดไม่เกินกว่า หญ้าวิญญาณศักดิ์สิทธ์
 
สำหรับยาระดับสูงคือ ” ลูกแก้ววิญญาณ “ พวกเขายังไม่เคยพบเลย  มันคงอยู่ในส่วนลึกของสุสาน สุสานนี้เป็นของเชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้ ดังนั้นมันต้องมีอยู่แน่นอน!!!
 
พวกเค้าเดินเข้าไปในส่วนลึก จากนั้นก็ได้กลิ่นเลือดลอยอบอวล เมื่อเข้ามายังถึงลานกว้าง พวกเค้าถึงกับตกตะลึง เพราะภาพด้านหน้าของพวกเค้า
 
 
 
 
 
โปรดติดตามตอนต่อไป…….
 
ที่มา: