I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 29 สมควรตาย

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 

แปลไทยโดย Takumi Kun

************************************************************************

ตระกูลลีมาถึงอย่างยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาต้องเผ่นกลับไป ผู้คนทั้งหมดในเมืองฟ้าหอมต่างตกตะลึง ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าจะเป็นเช่นนี้ ทุกๆคนต่างเตรียมพร้อมรับความวุ่นวายที่จะเกิดและความทุกข์ทรมาน แต่ท้ายสุด ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา

“คนจากตระกูลลีก็จากไปหมดแล้ว…ดูเหมือนว่าจะมียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ลึกลับอาศัยอยู่ที่ตระกูลเจียง”

“ว้าว ยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ ข้าไม่เคยคิดว่าตระกูลเจียงจะได้รับการคุ้มครองจากคนผู้นั้น ไม่แปลกใจเลยที่ตระกูลลีได้ถอยกลับไป”

“ดีแล้วล่ะที่กลับไปน่ะ ตราบใดที่ตระกูลเจียงปลอดภัย เมืองของพวกเราจะได้ไม่ตกสู่ความวุ่นวาย ข้าหวังไว้ว่าตระกูลลีอยู่ให้ไกลจากเมืองนี้จะดีมาก”

…………………………………….

ข่าวได้แพร่กระจายไวมาก ฉากที่ตระกูลลีได้ล่าถอยมีผู้คนเป็นสักขีพยานเป็นจำนวนมาก และผ่านไปไม่นานนักข่าวลือเรื่องยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ก็ได้แพร่ออกไป นอกจากนี้ผู้คนที่อาศัยอยู่ติดกับคฤหาสน์เจ้าเมืองก็รู้สึกแรงกดดันอีกด้วย

เจียงเฉินนั้นได้หมดสติไปราวๆหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะตื่นขึ้นมา เขาปวดหัวเป็นอย่างมาก และรู้สึกวิงเวียนอย่างไม่น่าเชื่อ

เจียงเฉินไม่ได้ลุกขึ้นทันที เขาเริ่มโคจรทักษะเพิ่มพูนจิตวิญญาณ เพียงไม่กี่นาทีอาการปวดหัวของเขาก็บรรเทาลงพอที่เขาจะลุกขึ้นมานั่งบนเตียงได้ เขาได้ทานยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์และนั่งขัดสมาธิ เขาได้เริ่มที่จะโคจรร่างแปลงมังกรเข้ากับทักษะเพิ่มพูนจิตวัญญาณเพื่อที่จะฟื้นพลังของเขา

ภายนอกเรือนที่พักของเจียงเฉิน เจียงเจิ้นไห่ โจวเป่ยเฉินและยอดฝีมือฉีไห่คนอื่นๆต่างเดินมารออย่างใจจดใจจ่อ พวกเขารอเจียงเฉินออกมาและหวังไว้ว่าอาจได้พบกับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ผู้นั้นด้วย

พวกเขาเดินไปเดินมาทั้งหวังตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนตกดึก เจียงเฉินก็ยังไม่ออกมา

ในห้องนั้น เจียงเฉินได้ลืมตาขึ้นมา ผมเขาได้ปลิวไสวโดยไม่ต้องเป่าผม หน้าตาเขายังดูซีดเซียวแต่อาการของเขาดีกว่าก่อนหน้านี้มาก

“เยี่ยม ทักษะร่างแปลงมังกรช่างทรงอำนาจยิ่งนัก พลังชีวิตและโลหิตทรงพลังยิ่งนัก ความสามารถในการฟื้นตัวเองก็สุดยอด แต่โชคร้ายที่จิตวิญญาณข้าเกิดความเสียหายขึ้นมันรักษาไม่ง่ายเลย”

เจียงเฉินกล่าวออกมาพร้อมถอนหายใจ บาดแผลทั้งหมดของเขาหายดีแล้ว แต่ความเสียหายที่เกิดกับจิตวิญญาณมันหนักมาก

ตอนนี้จิตวิญญาณของเจียงเฉินอยุ่ในสภาพอนาถ ผลตอบแทนที่ใช้ทักษะเพิ่มพูนจิตวิญญาณนั้นหนักหน่วงยิ่ง

“ข้าไม่สามารถที่จะกลั่นยาได้ในสภาพนี้เพราะสภาพจิตวิญญาณย่ำแย่….ข้าจะต้องหาทางที่จะฟื้นฟูจิตวิญญาณข้าให้ไวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

เจียงเฉินกำลังคิดถึงตัวเขา จิตวิญญาณนั้นเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในร่างกายมนุษย์ หากจิตวิญญาณได้รับความเสียหาย ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก เมื่อจิตวิญญาณได้รับความเสียหาย จะสูญเสียความสามารถที่จะกลั่นยา ความสามารถที่จะมุ่งเน้น ความสามารถในการบ่มเพาะ

แม้ว่าจิตวิญญาณของเจียงเฉินจะอยู่ภายใต้การรักษาของทักษะเพิ่มพูนจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง แต่ความเสียหายที่เกิดครั้งนี้มันมากมายยิ่ง การรักษาเฉยๆนั้นไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูจิตวิญญาณเขาได้ เขาต้องใช้ยามาช่วยหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและสมุนไพรหายาก

แต่สมุนไพรหายากและยาฟื้นฟูจิตวิญญาณมันเป็นสิ่งมีค่ามหาศาล สมุนไพรหายากนั้นจะช่วยเยียวยาจิตวิญญาณมันหายากยิ่งกว่าวัสดุสำหรับปรุงยาเสียอีก และเป็นไปไม่ได้ที่จะหามันในเมืองเล็กๆแห่งนี้

“ดูเหมือนว่าข้าต้องออกไปยังเมืองสีชาติแล้วล่ะ ข้าสามารถที่จะหายาเพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณที่นั่นได้และข้ายังสามารถจับตามองการเคลื่อนไหวของตระกูลลีได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย”

เจียงเฉินได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะก้าวต่อไปเช่นไร เขาจะเดินทางไปที่เมืองสีชาติ เขาได้สังหารลีชางหงไป และคนอย่างลีชางเย่ว์มันไม่มีทางยอมแพ้เพียงแค่นี้แน่นอน เมื่อลีชางเย่ว์กลับไปแล้วต้องให้คนมาสืบที่ตระกูลเจียงเป็นแน่ หากลีชางเย่ว์พบว่ายอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์นั้นไม่มีตัวตน ตระกูลเจียงพินาศแน่

เจียงเฉินไม่ใช่คนที่อยู่ให้เขามากระทำเป็นแน่ เขาเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่ง

เขาลุกขึ้นเปิดประตูออกไปและเดินออกมาจากห้อง

“ท่านพ่อ ท่านลุงโจว เหตุใดทุกคนถึงมารวมตัวกันที่นี่ล่ะ”

เจียงเฉินถามอย่างคนอยากรู้อยากเห็น

เมื่อเห็นเจียงเฉินออกมาจากห้อง ตาของทุกคนเลื่อนไปมองเขา พวกเขาได้รอมาทั้งวัน บางคนได้อายเกินกว่าจะกล้ามอง พวกเขาได้เข้าใจผิดเรื่องเจียงเฉิน พวกเขาเข้าใจว่าเจียงเฉินนั้นซ่อนตัวอยู่ในห้องและไม่กล้าที่จะออกมาข้างนอก แต่ในความเป็นจริงนั้นเจียงเฉินได้ติดตามยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ผู้นั้น

“นายน้อยมิได้โกหก เพราะว่ามียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์หนุนหลังเขาอยู่ เขาจึงมีความมั่นใจและไม่เกรงกลัวตระกูลลี”

“เฉินเอ๋อร์ ท่านยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ผุ้นั้นได้ช่วยชีวิตทุกคนในตระกูลเจียง ข้าต้องการที่จะเข้าพบเขา และขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัวด้วยสำหรับสิ่งที่เขาได้ทำให้พวกเรา”

เจียงเจิ้นไห่กล่าวออกมา

“ท่านพ่อ ข้าขอบอกท่านว่าเขาไม่ต้องการพบผู้ใดทั้งสิ้น ในบรรดาทุกคนในเมืองนี้คนที่เขาจะพบคือข้าเท่านั้นขอรับ ถ้าหากข้าพาใครเข้าไปหาด้วย ข้ากลัวว่ายอดฝีมือผู้นี้จะออกไปในทันที”

เจียงเฉินกล่าว และกางมือกว้างออกมา

เมื่อได้ยินว่ายอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่จะออกไปทันทีสร้างความตื่นตระหนกแก่ทุกคน

“เข้าใจแล้ว ข้าจะไม่เข้าไปพบเขา แต่เฉินเอ๋อร์ เจ้าช่วยแสดงความขอบคุณอย่างมากแก่เขาด้วยนะ หากเขาปรารถนาอะไร เจ้าจงแจ้งให้ข้าได้ทราบด้วยนะ พวกข้าจะทำสิ่งที่เขาปรารถนาอย่างสุดความสามารถ”

เจียงเจิ้นไห่ได้กล่าวออกมา ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเจียงและตระกูลลี จากปกติกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต ชะตาของตระกูลเจียงขึ้นอยู่กับยอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ผู้นี้หากเขาได้ออกจากเมืองไปเกรงว่าตระกูลลีจะกลับมาอีก ตระกูลเจียงจะถูกสังหารสิ้น

“อย่าได้กังวลเลยท่านพ่อ แล้วมู่หรงเทียงอยู่ไหนหรือขอรับ”

สายตาเจียงเฉินกลับเป็นเย็นชา มุ่หลงเทียนเป็นผู้รอดชีวิตของตระกูลมู่หรงและเขายังเป็นยอดฝีมือฉีไห่ ทำให้เขาพบภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ เจียงเฉินต้องการที่จะกำจัดต้นเหตุภัยคุกคามนี้นั่นคือเหตุที่เจียงเฉินให้ลีชางเย่ว์ได้ทิ้งมู่หรงเทียนเอาไว้ เจียงเฉินไม่คิดที่จะปล่อยให้ต้นเหตุภัยคุกคามสามารถรอดไปได้

“เขาได้ถูกล่ามด้วยกันกับไอ้บ้าสองตัวนี่ หยางเซี่ยวและจางชัน”

โจวเป่ยเฉินพูดออกมา

“ไปนำพวกมันออกมาที่นี่”

เจียงเฉินกล่าวออกมา

โจวเป่ยเฉินและตาแก่อ้วนผอมรับคำ หันกลับแล้วออกไป

ไม่นานนักโจวเป่ยเฉินได้นำตัวมู่หรงเทียนและทั้งสองมาให้เจียงเฉิน ใบหน้าพวกมันมีคราบเลือดติดอยู่ และพลังชีวิตค่อนข้างอ่อนแอเห็นได้ชัดว่าพวกมันโดนเฆี่ยนมาก่อนหน้านี้

“เจียงเฉิน ไอ้ระยำ แกทำลายตระกูลมู่หรง แม้ข้าต้องกลายเป็นผี ข้าก็จะไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้แน่”

มู่หรงเทียนบ่นสาปแช่งเจียงเฉินทันทีที่เห็นหน้าเขา

“หุบปาก”

โจวเป่ยเฉินพูดออกมาก่อนแล้วตบปาก

หน้าเจียงเฉินดูเย็นยะเยือก เจียงเฉินชี้นิ้วออกมา 2 นิ้ว เพลิงสีแดงออกมาจากนิ้วเขารูปร่างเหมือนดาบยาว แล้วเขาตวัดดาบใส่ทางมู่หรงเทียนราวสายฟ้าฟาด ตัดคอมู่หรงเทียน โลหิตหลั่งรินออกมาดั่งน้ำพุ มู่หรงเทียนเงียบไปในทันที

ทุกคนได้เห็นฉากที่เจียงเฉินลงมือ แต่ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะสั่นกลัวเมื่อเห็นเจียงเฉินสังหารมู่หรงเทียนโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ผู้ชนะเท่านั้นจะเป็นผู้ได้รับทั้งหมด มันเป็นกฎ”

เจียงเฉินพูดอย่างเย็นชาไม่แม้กระทั่งชายตามองศพมู่หรงเทียนเป็นครั้งที่สอง สายตาเขาจับจ้องไปยังหยางเซี่ยว และจางชัน

ชิ้ง !

สายตาจับจ้องไปยังทั้งสองที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น สายตาของเจียงเฉินทำให้พวกเขาหวาดกลัวยิ่ง

“ไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถิดนายน้อย พวกเราได้ทำผิดพลาดไป นั่นทำไมพวกเราถึงได้ตัดสินใจบ้าๆแบบนั้น”

ทั้งคู่ได้โขกหัวให้กับเจียงเฉิน สำหรับคนที่กลัวตายอย่างพวกมัน นายน้อยที่อยู่ตรงหน้านั้นเปรียบได้ดั่ง เทพแห่งความตาย

“ถ้าข้ามีข้ารับใช้เช่นพวกเจ้า ข้าคงไม่สามารถนอนหลับลง”

เจียงเฉินมองอย่างเฉยเมย เหตุที่ไม่ได้กดดันลีชางเย่ว์ก่อนหน้านี้นั่นเพราะเขาทำการทดสอบความภักดีของคนตระกูลเจียง เจียงเฉินได้ใช้โอกาสที่ลีชางเย่ว์ให้มา เพื่อกำจัดคนที่ไม่ภักดีต่อตระกูลเจียง

เมืองฟ้าหอมเป็นเมืองเล็กๆ สำหรับตระกูลเจียงแล้วยอดฝีมือฉีไห่เป็นตัวตนที่สำคัญมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาต้องทำให้แน่ใจว่ายอดฝีมือฉีไห่นั้นมีความภักดี

“ฆ่าพวกมันเถิดขอรับ พวกมันน่ารังเกียจยิ่งนัก”

ตาแก่ผอมกล่าวออกมา

ในตอนนั้นหยางเซี่ยวและจางชันรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ ความปรารถนาพวกเขาขณะนั้นคือไปนอนแล้วไม่ตื่นอีกเลย

ทั้งสองได้เสียใจสุดๆกับการตัดสินใจของพวกเขา หากพวกเขารู้ว่ามียอดฝีมือแก่นแท้สวรรค์ลึกลับอยู่ในตระกูลเจียง พวกเขาคงจะยอมตายดีกว่าหักหลังตระกูล ผู้ที่ตัดสินใจที่จะตายพร้อมตระกูลเจียงนั้นอยู่รอดมาได้และอยู่ตรงหน้าพวกเขา ในฐานะที่ต้องการที่จะอยู่ต่อ…ณ ตอนนี้พวกเขาได้เผชิญหน้ากับความตาย

“เฮ้อ….”

เจียงเจิ้นไห่ถอนหายใจออกมา หน้าเขาเต็มไปด้วยความสงสารและความเจ็บปวด คนทั้งสองนี้ได้ติดตามเขาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเขาก็ได้ดูแลพวกเขาเหมือนพี่น้อง

สำหรับบุรุษแล้ว สิ่งที่เจ็บปวดมากที่สุดคือ การโดนพี่น้องหักหลังนี่แหละ

เจียงเจิ้นไห่ส่ายหัวโดยที่ไม่หันมามองคนของเขา เขาได้หันกลับออกไป ทุกคนได้เห็นถึงความเจ็บปวดผ่านด้านหลังของเขา

“นายน้อย เราจะทำเช่นไรกับพวกเขาดี”

โจวเป่ยเฉินถามพร้อมมองไปยังเจียงเฉิน

“ฆ่าพวกเขาทั้งคู่ซะ”

เขาพูดเพียงไม่กี่คำ ก่อนที่จะหันหลังออกไปตามเจียงเจิ้นไห่ เขาสามารถได้ยินเสียงโอดครวญของทั้งสองจากด้านหลังเขา

ยามเที่ยงคืน จันทร์ส่องสว่างบนฟากฟ้า บนหลังคาคฤหาสน์เจ้าเมืองมีคนสองคนยืนอยู่ ทั้งคู่มองจันทร์บนฟากฟ้าโดยที่ไม่ได้กล่าวอะไร

คนเหล่านั้นคือเจียงเฉินและบิดาของเขา สำหรับเจียงเจิ้นไห่ที่ผ่านอะไรๆมามากโดยเฉพาะสองวันที่แล้ว เขารู้สึกเหมือนว่าได้ฝันไป เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้รับประสบการณ์แบบนี้

“เมื่อคนหนึ่งได้ตัดสินใจที่จะหักหลังอีกคนหนึ่ง เขาต้องเตรียมใจรับผลที่จะตามมาด้วย”

เจียงเฉินพูดอย่างสงบ

“ข้ารู้”

เจียงเจิ้นไห่พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ส่งผลกระทบต่อเขาอย่างใหญ่หลวง

“ท่านพ่อ ข้ามีความจำเป็นที่จะต้องออกเดินทางสักระยะ”

เจียงเฉินพูดออกมา

“ออกจากที่นี่รึ”

เจียงเจิ้นไห่รู้สึกใจหาย เขามองไปยังเจียงเฉินแล้วถามว่า “เฉินเอ๋อร์ เจ้าจะไปยังที่แห่งใดกัน”

“ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้าจะไปเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น อย่าบอกนะว่าท่านพ่อกังวลกับความสามารถของข้า”

เจียงเฉินพูดแล้วหัวเราะออกมา

“นั่นสินะ เจ้าเองก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถเทียบเจ้าได้ พ่อรู้ว่าเมืองเล็กๆแห่งนี้ไม่สามารถรั้งผู้ที่มากความสามารถอย่างเจ้าได้นาน เจ้าจงออกไปยังโลกกว้างและสั่งสมประสบการณ์ นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง”

เจียงเจิ้นไห่พูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ เขารู้ว่าเจียงเฉินสามารถทำมันได้ ดังนั้นเขาไม่มีความจำเป็นต้องกังวลถ้าเขาจะออกไปหาประสบการณ์ชีวิต ตั้งแต่เจียงเฉินได้เปลี่ยนไปเป็นคนใหม่ เจียงเจิ้นไห่ได้เข้าใจบางอย่าง ไม่มีผู้ใดในโลกที่จะเอารัดเอาเปรียบเจียงเฉินได้

*******************************************

จบจ้า

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments