I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Dragon Marked War God ตอนที่ 30 หอคอยหมอกฝน

| Dragon-Marked War God | 2538 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

แปลไทยโดย Takumi Kun

************************************************************************

ในคืนเดียวกัน เจียงเฉินได้ออกจากคฤหาสน์เจ้าเมืองทันทีและเริ่มออกไปผจญภัยสู่เมืองสีชาด

เจียงเฉินเปลี่ยนชุดเป็นชุดสีขาวบริสุทธิ์ เขาสวมเข็มขัดไหมสีทองและถือพัดสีขาว เขาดูสงบและดูเป็นหนุ่มหล่อ ดั่งนายน้อยจากชนชั้นสูง

ระยะทางระหว่างเมืองฟ้าหอมกับเมืองสีชาดห่างกันไม่กี่พันไมล์ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีภูเขากั้นระหว่างเมืองทั้งสองอยู่ นอกจากนี้ยังมีเมืองชื่อเรียกว่าเมืองฟ้าคับคั่ง เมืองฟ้าคับคั่งนี่คล้ายกับเมืองฟ้าหอมตรงที่ขนาดของเมือง และมียอดฝีมือฉีไห่ขั้นปลายนั้นคอยปกปักษ์อยู่ แต่เมืองนี้ยังอ่อนแอกว่าเมืองสีชาด

ตะวันขึ้นทางทิศตะวันออก แสงแดดสาดส่องไปทั่ว เจียงเฉินได้ออกเดินทาง 1 วัน 2 คืน ก่อนมาถึงเมืองฟ้าคับคั่งถ้าหากเขาต้องการที่จะไปถึงเมืองสีชาดเขาจะต้องผ่านทางเมืองฟ้าคับคั่ง หากเขาหลีกเลี่ยงที่จะเข้าเมืองฟ้าคับคั่งล่ะก็เขาต้องอ้อมไปพื้นที่กันดารและเต็มไปด้วยสัตว์อสูร จะทำให้การเดินทางของเขาล่าช้า นั่นเป็นเหตุว่าทำไมเขาจึงเข้าไปยังเมืองฟ้าคับคั่งและผ่านเมืองโดยตรง

เจียงเฉินได้เข้าไปในเมืองฟ้าคับคั่ง แต่เขาไม่ได้เหลียวมองอะไร เขาไม่ได้สนใจในเมืองแห่งนี้มันคล้ายกับเมืองฟ้าหอมที่เขาอยู่ เขาไม่สามารถที่จะหาสิ่งใดได้ในเมืองแห่งนี้

นั่นว่าทำไมเจียงเฉินตัดสินใจที่จะเดินผ่านเมืองฟ้าคับคั่งโดยไม่หยุดดูอะไร

ในอีกด้านของเมืองฟ้าคับคั่ง ใกล้ทางเข้าเมืองมีจตุรัสขนาดใหญ่อยู่ มีผู้คนในพื้นที่จตุรัสเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในตอนเช้า วันนี้มีผู้คนมาที่นี่มากกว่าปกติ

“หน่วยทหารรับจ้าง”

คำ4คำถูกเขียนขึ้นบนก้อนหินข้างๆหน่วยอักษรใหญ่กว่า10ฟุต และรอบๆหน่วยได้มีรถม้าหลากหลายรูปแบบมีไว้เพื่ออำพรางบางสิ่งและหลบซ่อนตัว

“พี่ชาย เป้าหมายของหน่วยทหารรับจ้างคืออะไรหรือครับ?”

เจียงเฉินถามชายคนหนึ่งวัยราวๆสามสิบกว่าๆ เป็นยอดฝีมือฉีจิงระดับ 9 ชายคนนั้นไม่ได้สวมเสื้อเพื่ออวดกล้ามเนื้อ

“บ้าป่าว นี่แกไม่รู้ว่าหน่วยทหารรับจ้างตั้งเพื่ออะไร ล้อข้าเล่นรึเปล่านี่ ไสหัวไปจากที่นี่ซะ”

ชายดังกล่าวทำท่าทางโบกมือไล่เจียงเฉินให้ไปให้พ้นหลังเขาพูดจบ

‘เกิดอะไรขึ้น?’

เจียงเฉินกรอกตาของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาเมืองฟ้าคับคั่ง แน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับการดำเนินการของเมืองนี้

“เจ้า เจ้าและเจ้า ยาฟื้นพลังมนุษย์3เม็ดใช่ไหม ตกลงพวกเราคนพอแล้ว ไปกันเถอะ”

ไม่ไกลจากที่นี่ มีชายชราสวมชุดหรูหราผู้หนึ่งชี้นิ้วไปที่ชายอีก3คน พวกเขาได้ขึ้นม้าตัวใหญ่ลากของออกจากเมือง

ผู้ที่ถูกเลือกต่างรู้สึกมีความสุขที่ได้ตามกลุ่มนั้นไป แต่ทว่าคนที่ไม่ได้รับเลือกนั้นไม่ได้แสดงอาการผิดหวังออกมา ตอนนี้สถานการ์ณยังปกติอยู่คนที่ไม่ได้รับเลือกก็ไปหาเป้าหมายถัดไป

เมืองฟ้าคับคั่งและเมืองสีชาดนั้นอยู่ติดกันมีคาราวานการค้ามากมายเดินทางผ่าน นี่เป็นเหตุผลที่นี่ต้องการหน่วยทหารรับจ้างเป็นอย่างมาก คาราวานการค้านั้นสามารถจ่ายเงินเพื่อจ้างทหารรับจ้างมาคุ้มกันจากกลุ่มโจรป่าหรือสัตว์อสูรในระหว่างทางไปยังเมืองสีชาดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง การใช้จ่ายในการจ้างทหารรับจ้างมันคุ้มค่ามาก

เมืองฟ้าหอมและเมืองฟ้าคับคั่งขนาดเมืองพอๆกัน แต่ทำเลที่ตั้งของเมืองฟ้าคับคั่งนั้นดีกว่าเมืองฟ้าหอมเป็นอย่างมาก เจียงเฉินโดนหลอกลวงมาโดยตลอดก่อนที่จะได้มาเกิดใหม่ นั่นเป็นเหตุที่ว่าทำไมเจียงเฉินจึงไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เลย

มีคาราวานการค้าจำนวนมากและกองทหารรับจ้างอยู่ในเมืองแห่งนี้ในจตุรัสแห่งนี้ คาราวานค้าขายต่างเลือกกันอย่างระวัง เฟ้นหาทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งและเหมาะสม อย่างไรก็ตามก็มีคาราวานการค้าแห่งหนึ่งที่เงียบเหงา เจียงเฉินดูสิ่งที่จะส่งและพบว่ามีคนทั้งหมด7คนที่อยู่ข้างๆคาราวาน ทั้งเจ็ดคนนั้นดูแข็งแกร่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะชายชราที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าพวกเขา หน้าตาดูขึงขังจริงจังยิ่ง ค่าพลังฉีแข็งแกร่ง เขาเป็นยอดฝีมือฉีไห่ขั้นปลายแต่เขาไม่สามารถที่จะเทียบกับเจียงเจิ้นไห่หรือมู่หลงชานได้ แต่เขาก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งล่ะนะ

คนทั้งหมดเป็นยอดฝีมือฉีไห่ซึ่งแตกต่างกับคาราวานอื่นๆที่รับฉีจิง ยอดฝีมือฉีไห่ทั้งเจ็ดนั้นดึงดูดสายตาผู้คนนัก

“ดูสิ คาราวานนั้นรอมากว่าสองวันแล้วยังไม่ออกเดินทางอีก”

“ชี่ส์…..อย่าไปพูดถึงพวกเขาสิ คาราวานนั้นจะไปยังหอคอยหมอกฝนที่อยู่เมืองสีชาดน่ะ ดูคนแก่ที่อยู่ตรงนั้นสิ เขาอยู่ระดับฉีไห่ขั้นปลาย เขามาจากตระกูลหยาน ข้าสงสัยว่ารอบนี้เขาได้ขนส่งอะไร ข้าได้ยินว่าเขาจะไม่ออกเดินทางหากหายอดฝีมือฉีไห่ได้ไม่ครบแปดคน ตอนนี้ต้องการอีกคนนึง”

มันไม่ง่ายเลยนะที่จะต้องหายอดฝีมือระดับฉีไห่ ในความคิดข้านะพวกเขาไม่สามารถหาได้หรอก แม้แต่ต้องรอจนถึงวันรุ่งขึ้น

ผู้คนจำนวนมากกำลังพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่

“นี่พี่ชาย หอคอยหมอกฝนนี่แข็งแกร่งหรือเปล่า”

เจียงเฉินถามคนที่อยู่ข้างๆเขา

ชายคนนั้นกรอกตามาแล้วพูด “น้องชายดูเป็นคนที่เฉลียวฉลาด ทำไมเจ้าถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนั้น ทุกๆคนต่างรู้กันดีว่าสองตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในเมืองสีชาดนั้นมี หนึ่งหอคอยหมอกฝนและอีกหนึ่งคือตระกูลลี”

เจียงเฉินเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาได้เดินตรงไปยังคาราวานที่เป็นของหอคอยหมอกฝนทันที จะบอกได้ว่าเสือสองตัวอยู่ภูเขาเดียวกันไม่ได้ ในเมื่อหอคอยหมอกฝนนั้นทรงพลังพอๆกันกับตระกูลลี ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลนี้คงไม่ต่างกับตระกูลมู่หลงและตระกูลเจียง ตอนนี้เจียงเฉินได้ท้าทายตระกูลลีไปแล้ว เป็นสิ่งที่ฉลาดหากเลือกที่จะติดต่อกับหอคอยหมอกฝน

แน่นอน สาเหตุที่สำคัญที่สุด เป้าหมายหลักไม่ได้ไปสู้กับตระกูลลี แต่เพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณเขา เหตุที่เขาต้องการที่จะเดินทางไปยังเมืองสีชาด เพื่อหาของบางอย่าง ยาหายากสามารถรักษาจิตวิญญาณเขาได้ เนื่องจากหอคอยหมอกฝนนั้นมีความแข็งแกร่งพอๆกันกับตระกูลลีในเมืองสีชาด เขาต้องใช้พวกนั้นให้เป็นประโยชน์

เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินมาทางพวกเขา คนล่ำซำได้ถามว่า “เจ้าหนู เจ้าสนใจที่จะเข้าร่วมกับพวกข้างั้นรึ”

“ใช่ ข้าสนใจ”

เจียงเฉินตอบทั้งรอยยิ้ม

“ฮ่าฮ่า เจ้าหนูเจ้าดูเจ้าสำอางค์ไปว่ะ ทหารรับจ้างไม่ใช่เกมนะ กลับบ้านไปกินนมซะไป”

ชายวัยกลางคนได้ล้อเลียนเจียงเฉิน คนอื่นๆก็หัวเราะด้วยสายตา เจียงเฉินวัยเพียง 15-16 ปีมาจากตระกูลผู้ดี คุณหนูอย่างเขาเอามาก็มาเป็นภาระไร้ประโยชน์

อย่างไรก็ตามชายชราที่อยู่ระดับฉีไห่ขั้นปลายยังจ้องมองเจียงเฉิน สัญชาติญาณของเขาบ่งบอกว่าเจียงเฉินนั้นแตกต่างชายหนุ่มทั้วไป เขาดูสงบนิ่งไม่ได้เสแสร้ง และมันไม่ใช่สิ่งที่ชายหนุ่มทั่วไปกระทำ

“คาราวานหอคอยหมอกฝนแห่งนี้ พวกข้าไม่ได้สนใจเรื่องอายุเมื่อจ้างงานทหารรับจ้าง พวกข้าสนใจความสามารถแท้จริงของคนๆนั้น เจ้าอยู่ระดับฉีไห่งั้นรึ”

ชายชราถาม

ปัง!

พลังมหาศาลได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างเจียงเฉิน ออร่าระดับฉีไห่ ทหารรับจ้างคนอื่นๆต่างพากันหยุดหัวเราะและมองไปยังเจียงเฉินด้วยสีหน้าบ่งบอกว่าไม่อยากเชื่อ

คนส่วนใหญ่ในจตุรัสทหารรับจ้างได้ถูกดึงดูดสายตาอย่างดี พวกเขามองไปยังกลุ่มยอดฝีมือฉีไห่และพวกเขาได้เห็นชายหนุ่มสวมเสื้อสีขาว ทุกคนต่างตกตะลึงโดยเฉพาะคนที่แกล้งเจียงเฉินก่อนหน้า

“กรรม เขาต้องเป็นอัจฉริยะจากตระกูลใหญ่เป็นแน่…เขาเข้าสู่ระดับฉีไห่ด้วยรุ่นราวเขาได้อย่างไร”

“ข้าดันไปแกล้งชายหนุ่มอัจฉริยะระดับฉีไห่ซะแล้ว”

……………………………………………………..

ชายชราถอนหายใจออกมา เมื่อเขาพบว่าเจียงเฉินเป็นยอดฝีมือฉีไห่จริงตาเขาลุกวาว มีรอยยิ้มประดับบนหน้า “ข้าหยานเหมิง ข้าขอทราบนามของเจ้าได้ไหม”

ชายชราได้บอกถึงชื่อของเขา เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนักหากเป็นยอดฝีมือฉีไห่ แต่ยอดฝีมือฉีไห่วัยเพียงแค่ 15 ปีนั้นแตกต่างยิ่ง ชายหนุ่มผู้นั้นนับเป็นอัจฉริยะหาที่เปรียบมิได้แม้ในตระกูลเขา

“เจียง เฉิน”

เจียงเฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“เยี่ยม น้องชายเจียงเฉิน จุดหมายที่พวกเราจะไปอยู่ที่หอคอยหมอกฝนในเมืองสีชาด ข้าจะจ่ายให้เจ้าเป็นยาฟื้นพลังมนุษย์ 20 เม็ด ยอมรับหรือไม่”

หยานเหมิงถาม

“น้องเจียงเฉิน รีบตอบรับข้อเสนอสิ พวกเราจะได้ออกเดินทางทันทีที่ตอบรับ พวกข้ามารอกว่าสองวันแล้ว”

ชายที่บอกให้เจียงเฉินกลับบ้านไปกินนมกล่าวออกมา

“ข้ายอมรับ”

แน่นอนว่าเจียงเฉินต้องยอมรับแน่ เขาไม่ได้ใส่ใจกับยาฟื้นพลังขั้นมนุษย์ 20 เม็ด จุดหมายเขาอยู่ที่เมืองสีชาด เขานั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นั่น ถ้าหากเขาตามคาราวานนี้ไปเขาอาจได้ข้อมูลเกี่ยวกับเมืองสีชาดก็เป็นได้

“ตกลง ออกเดินทางกัน”

หยานเหมิงได้กล่าวเสียงทุ้มลึก ทั้งแปดคนได้เดินไปรอบด้านคาราวานและเขาออกจากเมืองฟ้าคับคั่ง

“ตาแก่หยาน ได้ทุกอะไรไปงั้นรึถึงต้องใช้ยอดฝีมือฉีไห่จำนวนมาก”

ในระหว่างทางชายคนที่แกล้งเจียงเฉินนั้นมีนามว่า หวังติง เขาเป็นคนตรงๆ มีอัธยาศัยดี

“อย่าได้ถามหากเจ้าก็ไม่รู้ ตาแก่ที่ยืนถัดจากหยางเหมิงพูดออกมาและจ้องไปยังหวังติง” ในหมู่ 8 คนนี้

ข้างๆหยางเหมิงนั้นยังมีอีกสองคนที่เป็นคนตระกูลหยาน หนึ่งในนั้นอยู่ระดับฉีไห่ขั้นกลาง และอีกหนึ่งระดับฉีไห่ขั้นต้น

หวังติงไม่ได้โกรธหลังโดนว่ากล่าว เขายิ้มให้แล้วหันมายังเจียงเฉิน

“น้องเจียงเฉิน เจ้าอยู่ระดับนี้ตั้งแต่อายุแค่นี้ ดูจากการแต่งกายเจ้าคงมาจากตระกูลผู้ดีเป็นแน่ ทำไมเจ้าถึงได้ต้องการที่จะตามมาในฐานะทหารรับจ้างล่ะ”

หวังติงได้ถามเจียงเฉิน และคนอื่นๆก็หันมาเพราะสนใจในคำตอบเช่นกัน

“ท่านพ่อของข้าได้บอกข้าว่า ถึงเวลาอันสมควรที่เจ้าจะออกไปหาประสบการณ์ชีวิตแล้ว”

เจียงเฉินพูดพลางหัวเราะพลาง

หยานเหมิงได้หันมาทางเจียงเฉินพร้อมรอยยิ้ม “ท่านพ่อของเจ้านั้นเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง คนหนุ่มเช่นเจ้าเหมือนดังดอกไม้ในเรือนกระจก ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งเพียงใด หากขาดการฝึกฝนประสบการณ์จริงมันก็ไร้ค่า นั่นเป็นเหตุว่าทำไมเจ้าถึงต้องออกไปหาข้างนอกเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ โอ้……น้องชายเจียงเฉินเจ้ามาจากเมืองฟ้าคับคั่งงั้นรึ?”

“ข้ามาจากเมืองฟ้าหอมน่ะ แต่ข้าจะไปที่เมืองสีชาดเช่นกัน”

เจียงเฉินกล่าวออกมา

“เมืองฟ้าหอม? ข้าได้ยินมาว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่นั่น นายน้อยตระกูลลีได้โดนสังหารโดยใครบางคนที่อยู่ที่นั่น และเมื่อวานผู้คนจากตระกูลลีได้รีบร้อนผ่านเมืองฟ้าคับคั่ง”

หวังติงพูดออกมาโดยมีสีหน้าสนใจเรื่องนี้

“ข้าได้ออกจากเมืองเมื่อหลายวันก่อน ข้าจึงไม่ทราบอะไรเลย”

เจียงเฉินพูดพร้อมรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าข่าวว่ามีอะไรเกิดขึ้นในเมืองฟ้าหอมได้กระจายไปทั่วทั้ง 28 เมืองเป็นที่เรียบร้อย และชื่อของเขานั้นหลายคนคงจะได้ยิน

ทุกคนได้เดินทางไปและพูดคุยหัวเราะกันตลอดทาง บรรยากาศผ่อนคลายเนื่องจากไม่ได้เดินทางอย่างเร็วมากเกิน พวกเขาจะถึงหน้าเมืองสีชาดในตอนเย็น ในระหว่างการเดินทางมีโจรป่ามากมาย สัตว์อสูรอยู่อีก แต่ทุกคนในคาราวานล้วนอยู่ระดับฉีไห่ทั้งสิ้น ไม่มีโจรคนไหนกล้ามายุ่ง หากกล้าเข้ามายุ่งก็จะตกตายเอง

อย่างไรก็ตามเจียงเฉินรู้สึกถึงบางสิ่งซึ่งมันไม่ได้เรียบง่ายนัก หยานเหมิงใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการจ้างทหารรับจ้างระดับฉีไห่ มันจะต้องมีสาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้แน่

*****************************************************

จบจ้า

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments