ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็ค่อยๆเดินไปหาเจี้ยนเฟิงอวี้ เสื้อคลุมของเขานั้นขยับไปมา ทั้งๆที่ไม่มีลม สายตาที่เย็นชาจ้องไปที่’เจี้ยนเฟิงอวี้’ เขารู้สึกเหมือนว่าถูกคุกคาม ความหวาดกลัวส่งไปถึงกระดูก จิตสังหาร ที่รุนแรงของ’ชูเฟิง’เหมือนกับ เทพสังหาร
จิตสังหารของเค้านั้น ทำให้สมาชิกบางส่วนของพันธมิตรดาบฯและพันธมิตรโลกวิ่งหนีไปด้วยความกลัว บางคนถึงสะดุดล้มลงกับพื้น บางคนก็คลานไปกับพื้น เพื่อพยายามหลบหนี
มีแต่ ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ที่ไม่ขยับไปไหน ต่อหน้าสมาชิกที่เหลือ หากเค้าหนีไปก็จะถูกตราหน้าว่าขี้ขลาดอีกทั้งยังได้รับความอับอาย ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้นำของพันธมิตรดาบฯ
ต่อหน้าพลังที่แข็งแกร่งของ’ชูเฟิง’ มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะตอนที่เขาได้เห็น ‘หลาววู่’ถูกตีอย่างอนาถ เขารู้ว่าไม่ใช่โชคช่วยแน่ๆ
” ชูเฟิง เจ้าจะทำอะไร ? “
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ถามด้วยความตกใจ
” จัดการมัน “
คำพูดของ’ซูเหม่ย’ก่อนหน้านี้ดังขึ้นมาในหัว มันทำให้เขาตัวสั่น
” เจี้ยนเฟิงอวี้ ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าหากข้าเจอเจ้าใน สวนพฤกษามังกรฟ้า ไม่งั้นข้าจะจัดการเจ้าจนแม่เจ้าไม่สามารถจำหน้าได้อีกเลย “
ใบหน้าของ’ชูเฟิง’ในตอนนั้น มีรอยยิ้มที่มุมปากขณะที่ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้’เจี้ยนเฟิงอวี้’ แต่มุมมองของ’เจี้ยนเฟิงอวี้’นั้น เห็นรอยยิ้มของ’ชูเฟิง’เหมือนกับปีศาจเลือดเย็น
” ถ้าเจ้าอยากจัดการกับข้าล่ะก็ ต้องมาดูกันว่าเจ้ามีปัญญาแค่ไหน “
เมื่อเห็นว่ายังไงก็หนีไม่รอด ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ตะโกนท้าทายด้วยความโกรธ ขณะนั้นเค้า่ไม่คิดที่จะหันหลังกลับ จากนั้นเข้าก็พุ่งเข้าไปโจมตี
เขาดึงดาบทมิฬด้านหลังของเค้า แสงของดาบฟาดออกมาใส่ ‘ชูเฟิง’ จากนั้นเค้าก็ระดมแทงดาบใส่ กลุ่มพลังงานนั้นทำให้เขาถอยออกมา ดาบที่ฟาดฟันใส่อากาศเหมือนกับแสงดาวตกจนทำให้เกิดเสียงดัง การโจมตีของเขาปิดเส้นทางการเคลื่อนไหวของ ‘ชูเฟิง’ ได้อย่างสมบูรณ์
นั้นมันไม่ใช่วิชาดาบทั่วๆไป มันเป็นทักษะระดับ 4 เพราะคนที่ใช้คือ ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ ที่เกิดมาในตะกูลของผู้ใช้ดาบ ความสามารถในการใช้ดาบจึงมีประสิทธิภาพสูง
” ผู้นำพันธมิตรเท่านั้นที่สามารถใช้ ทักษะ กระบี่ดาวตก ได้ถึงระดับนี้ “
ดาบของเขาฟาดผ่านอากาศ เหมือนกับดาวหาง สมาชิกของพันธมิตรดาบฯเหล่านั้นปราบปลื้มกันอย่างมาก ตอนแรกๆก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ถ้าหากเป็นตอนนี้พวกเขารู้สึกเริ่มมีความหวัง เขารู้สึกได้ว่าบางทีผู้นำพันธมิตร อาจจะเอาชนะ ‘ชูเฟิง’ที่เหมือนกับเทพสังหารคนนั้นได้
” . .หืม. . “
เมื่อฝุ่นเริ่มลอยฟุ้งดาบก็พุ่งมาด้านหน้า ‘ชูเฟิง’ ในตอนนั้น ร่างกายของชูเฟิงก็ถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้า จากนั้นเค้าก็แตะสายฟ้าขึ้นไปกลางอากาศ ดาบของ’เจี้ยนเฟิงอวี้’ก็เหมือนชนกับผนังโลหะ พลังที่ปะทะกันแหวกอากาศกระจายไปรอบๆ
” นี่ . . . . . . .มัน “
ไม่ต้องพูดถึงใบหน้าของคนอื่นๆ แม้แต่’เจี้ยนเฟิงอวี้’ก็ยังตกใจ เขาสามารถใช้ทักษะ กระบี่ ระดับเดียวกับผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ ด้วยทักษะของเขาหากโจมตีถูกใคร คนผู้นั้นก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ต่อหน้า ‘ชูเฟิง’ มันกับไร้ประโยชน์ เขาไม่เชื่อว่า’ชูเฟิง’จะสามารถหยุดมันได้
” ข้าไม่เชื่อ “
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’นั้นเป็นคนหัวดื้อ เขาหันปลายดาบไปที่’ชูเฟิง’และพุ่งเข้าไปอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้เล็งไปที่’ชูเฟิง’ แต่เขาเล็งไปที่ ‘ซูเหม่ย’ ที่อยู่ด้านหลังของ’ชูเฟิง’
” อยากตายนักใช่มั้ย!!! “
เห็นแบบนั้น ‘ชูเฟิง’ ขมวดคิ้วขึ้น จากนั้นคลื่นพลังวิญญาณมหาศาลก็ไหลออกมาจากมือของเขา พร้อมกับยิงสายฟ้าออกไป มันเหมือนกับแส้สายฟ้าเข้าไปพันดาบของเจี้ยนเฟิงอวี้ไว้ จากนั้น’ชูเฟิง’ก็กระชากสายฟ้ากลับมา ทันใดนั้นเค้าก็ฟาดไปที่’เจี้ยนเฟิงอวี้’อย่างแรง
” พลังนั้นมัน ? เด็กหนุ่มคนั้นสามารถใช้ทักษะระดับ 5 ได้ด้วยหรอ “
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ตกใจอย่างมาก ทักษะการต่อสู้ส่วนใหญ่สามารถส่งพลังวิญญาณใส่กับวัตถุชนิดใดชิดหนึ่ง แต่การเปลี่ยนพลังงานเป็น ธาตุต่างๆหรือรูปร่าง เช่น สายฟ้า เหมือนที่ชูเฟิงใช้เมื่อกี้ จะเป็นลักษณะของทักษะระดับ 5 เท่านั้น ถึงจะทำได้
” บัดซบ!!! คนๆนี้เป็นใครกันแน่ ? “
ในที่สุดเขาก็รู้ถึง ความแข็งแกร่งของ ‘ชูเฟิง’ แต่เมื่อหันไปสายฟ้าก็ฟาดเข้ามา วิธีที่จะหลบมันได้นั้นไม่มี เขาจึงรีบยกดาบของเขาขึ้นมา เพื่อใช้มันป้องกันการโจมตีของชูเฟิง
* เปรี้ยง เปรี้ยง~ * . . . .
เมื่อแส้สายฟ้าฟาดเข้าไปที่ดาบ มันก็เกิดประกายไฟสว่างจ้า เห็นได้ชัดว่าดาบเหล็กในมือของเจี้ยนเฟิงอวี้ถูกตัดออกเป็นสองท่อน หลังจากนั้นแส้ก็ผ่านดาบไปยังร่างกายของเจี้ยนเฟิงอวี้อย่างรุนแรง
” อ่า ~ “
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ถึงกับกระเด็นไปหลายสิบเมตร ทุกคนต่างเห็นได้ชัดว่าเอวของเขามีเลือดไหล อีกทั้งบาดแผลขนาดใหญ่ จนทำให้เห็นกระดูกโผล่ออกมา
*เพรี้ย เพรี๊ย เพรี๊ย *
ขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ยังคงฟาดแส้สายฟ้าลงบนตัว’เจี้ยนเฟงอวี้’ อย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับความเจ็บปวดทรมาน แม้แต่แขนของเขาก็ยังหัก
ตอนนั้น ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ยังพอมีลมหายใจบางๆ แต่คนอื่นๆต่างสงสัยว่าเขายังมีชีวิตรอดอยู่มั้ยหรือว่าตายไปแล้ว หากเขายังไม่ตาย อาการบาดเจ็บเช่นนี้ต้องรักษาตัวเป็นเวลา 3 ถึง 5 ปี ถึงจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้
” ศิษย์พี่ ชูเฟิง ได้โปรด ยกโทษให้เราด้วย!!! “
ทันใดนั้น สมาชิกทั้งหมดจากพันธมิตรดาบ คุกเข่าลง ตั้งแต่ผู้นำของเค้าพ่ายแพ้พวกเขาก็หมดหวัง พวกเขาคิดว่าหากร้องขอชีวิตพวกเขาทั้งหมดอาจจะรอด โดยเฉพาะเมื่อเห็นทักษะของชูเฟิงพวกเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากพวกเขาขัดขืน ก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่เบื้องหน้า
” ท่านอาวุโสชูเฟิง กรุณาไว้ชีวิตของเราด้วย พวกเราไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูกับพันธมิตรปีกฯอีกแล้ว”
“ในเวลาเดียวกัน พวกเหล่าสมาชิกพันธมิตรโลกทั้งหมด ก็คุกเข่าลงเช่นเดียวกัน พวกเขาได้แต่ อ้อนวอน ให้ชูเฟิงไว้ชีวิต พวกเขาเหล่านั้นกลัวชูเฟิงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ ไม่แปลกที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น”
“ถ้าหากข้าให้อภัย และยอมรับสิ่งที่พวกเจ้าทำไว้ ทุกคนก็จะไม่ได้รับความเจ็บปวดเหมือนกับที่เพื่อนๆของข้าได้รับ นั้นมันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรอ วันนี้ข้าจะสั่งสอนพวกเจ้าว่าการที่มายุ่งกับคนใกล้ตัวข้ามันจะเจอกับอะไร ไม่ต้องห่วงข้าไม่ฆ่าพวกเจ้าหรอก”
แม้ว่าคนเหล่านั้นจะอ้อนวอน’ชูเฟิง’มากแค่ไหน แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ทันใดนั้น เขาก็ยกมือขึ้นมาพร้อมกับฟาดแส้สายฟ้าออกไป
“อ้า ~ ~ ~ “
ในขณะนั้น มีเสียงร้องไห้ดังระงมไปทั้ง สวนพฤกษามังกรฟ้า ไม่มีใครสามารถทนความเจ็บปวดของแส้นั้นได้ ชูเฟิงต่างฟาดแส้ใส่ทุกคนอย่างน้อยคนละ 10 ครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะหมดสติก็ตาม ชูเฟิงไม่แม้แต่จะเมตตาสักนิด
” ชูเฟิง พอได้แล้ว “
ในที่สุด ‘ซูเหม่ย’ ก็พูดออกมา เห็นฝูงคนถูกตีอย่างทารุณ แม้ว่าเทอจะไม่ค่อยชอบคนเหล่านั้น หรือเรียกว่าเกลียดเลยก็ได้ แต่นางก็ไม่สามารถทนเห็นคนถูกทำร้ายเช่นนั้นได้ นางนั้นรู้สึกสงสารพวกเขาเป็นอย่างมากหลังจากที่ ‘ซูเหม่ย’ พูด ‘ชูเฟิง’จึงหยุดมือ การที่เขาตีคนเหล่านั้นเค้าไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไรเป็นการส่วนตัว แต่กับ ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’นั้นต่างออกไป เขาหาโอกาสที่จะสั่งสอน ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’มานานแล้ว แต่กับคนอื่นๆ เขาทำเพื่อระบายความโกรธของ ‘ซูเหม่ย’
การกระทำของ’ซูเหม่ย’นั้น ทำให้’ซือตู่ยู๋’ และคนอื่นๆ ประทับใจอย่างมาก พวกเขารู้ว่า ‘ชูเฟิง’ นั้นได้เข้ามาช่วยเพียงแค่’ซูเหม่ย’ แต่ยังไงพวกเค้าก็เหมือนกับติดค้าง ‘ชูเฟิง’ มันทำให้’ซือตูยู๋’รู้สึกว่าตัวของเขานั้นช่างอ่อนแอไร้ความสามารถ
” เจ้าผ่านตำหนักใต้พิภพแล้วหนิ ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ หรือว่า ยาวิญญาณนั้นมันสำคัญกับเจ้ามาก “
” ถ้าเจ้าเป็นอะไรไป ข้าจะต้อง . . . .”
หลังจากนั้น’ชูเฟิง’ ก็ถูก’ซูเหม่ย’ บ่นนิดหน่อย นางรู้ว่า ‘ชูเฟิง’สามารถผ่านการสอบได้แล้ว และพยายามเข้าไปหาโอสถวิญญาณในสวนพฤกษามังกรฟ้า
“เอ้อ. . . รอแปปหนึ่ง “
‘ชูเฟิง’ไม่ได้เถียง ‘ซูเหม่ย’แต่อย่างใด เขายิ้มเบาๆ พร้อมกับเดินไปในพุ่มไม้ เมื่อเขาเดินกลับมา ซูเหม่ย ถึงกับยืนตัวแข็งในทันที
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . .
ที่มา: