ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป* พรึบบบ *
แสงจากปลายอุโมงค์เล็ดลอดประตูเข้ามา ‘ซูเหม่ย’เดินโซเซไปตามอุโมงค์ ร่างกายที่อ่อนล้าของนางทำให้นางทรุดตัวพร้อมกับเหงื่อที่ลินไหลมาตามใบหน้า เนื่องจากนางวิ่งมาจากภายในอุโมงค์จนในที่สุด สวนพฤกษามังกรฟ้า ก็ได้ อยู่ตรงหน้าของนาง
หากก้าวพ้นมันเข้าไป ก็เท่ากับว่าเธอนั้นได้ผ่านการสอบเป็นศิษย์ฺหลัก เรียบร้อย แต่สิ่งที่นางต้องการคือการได้เห็น ดอกไม้ 7 สี และก้าวผ่านประตูเบื้องหน้าออกไป
*ฟิ้วว ~ *
ในตอนนั้น ประตูบานใหญ่ที่ดูแข็งแกร่ง ค่อยๆเปิดออกโดย’ซูเหม่ย’ แสงตะวันได้สาดส่องลงบนตัว ดวงตาของนางพลันริบหลี่ลง นางรู้สึกว่าอากาศที่อบอุ่นพัดผ่านใบหน้าของนาง
หลังจากที่นางลืมตาขึ้น เมื่อได้เห็นฉากนั้นในดวงตา ใบหน้าของนางที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มในตอนนั้นพลันซะงักถูกทับลงด้วยความตกใจ
จากบริเวณใกล้ๆ นางเห็นคนทรุดลงอยู่กับพื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เขาถูกทรมานอย่างสาหัส ขณะที่เขาพยายามที่จะขัดขืน เขาเป็นผู้นำพันธมิตรปีก ฯ ‘ซือตู่ยู๋’
* ปึก . . *
แต่ก่อนที่’ซือตู่ยู่’กำลังจะลุกขึ้นยืน ก็มีเท้าเหยียบลงมาบนร่างกายของเขา พลังที่รุนแรง ทำให้เขากระอักเลือดออกมาจากปากของ’ซือตู่ยู๋’
คนที่เหยียบ’ซือตู่ยู๋’คือผู้นำพันธมิตรดาบ ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ และที่ยืน ข้างๆ’เจี้ยนเฟิงอวี้’อยู่อีกคน ก็คือ ผู้นำพันธมิตรโลก ‘หลาววู่’
” เจ้าจะทำอะไร ? “
เห็นฉากนั้น ‘ซูเหม่ย’ ตกใจอย่างมาก ขณะเดียวกันนางก็เต็มไปด้วยโกรธ
” โอ้ นั้นมัน สาวงาม # 1 ในฝ่ายใน ซูเหม่ย หนิ ? “
‘หลาววู่’ มอง ซูเหม่ยพร้อมกับหัวเราะ
” ซูเหม่ยหนีไป!!! พวกมันร่วมมือกันทำร้ายพันธมิตรปีกฯ “
‘ซือตู่ยู่’ พยายามตะโกนเสียงดังบอก’ซูเหม่ย’ ให้หนี
” หุบปาก!!! “
ก่อนที่จะพูด ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ก็เตะ’ตู่ยู๋’อย่างแรงไปที่ท้องของเขา ‘ซือตูยู๋’ถึงกับขดตัวลงด้วยความเจ็บปวด ไม่สามารถพูดออกไป
” พวกเจ้า. . . .”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ‘ซูเหม่ย’ไม่คิดจะหนีแต่อย่างใด แต่นางกลับวิ่งใส่พวกเขา
คนที่อยู่แค่ระดับ 8 ห้วงวิญญาณ เจ้าจะเอาชนะ ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ กับ ‘หลาววู่’ ได้อย่างไร ? ทันใดนั้น นางก็ถูกจับโดยพวกเขาทั้งสอง แต่พวกเขาไม่ได้ทำร้ายนางแต่อย่างใด พวกเขาเอาเชือกชนิดพิเศษมัดไว้กับนาง
” เจ้าคิดจะทำอะไร ? “
‘ซูเหม่ย’ตะโกนด้วยความโกรธ ถึงแม้ว่า’ซือตู่ยู๋’ จะไม่ได้สนิทสนมอะไรกับ’ชูเฟิง’ แต่ เขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของนาง เห็น’ซือตู่ยู๋’ถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา จะให้นางทนได้อย่างไร
” ฮ่าๆ ไม่ต้องตกใจ ซูเหม่ย เราแค่ต้องการมัดพันธมิตรปีกฯของเจ้าไว้ที่นี่ “
” ถ้าเจ้าไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูด ข้าจะบอกให้ก็ได้ สมาชิกของพันธมิตรปีกฯทุกคนจะต้องล้มเหลวในการสอบครั้งนี้ เข้าใจหรือยัง “
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’หัวเราะพร้อมกับกล่าว
” เลวมาก!!! มันผิดกฏนะ รอสอบเสร็จก่อนเถอะข้าจะบอกพี่สาวของข้าและพวกเจ้าจะได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำ “
” ฮ่าๆ ซูเหม่ย จะฟ้องพี่สาวงั้นหรอ ข้าจะบอกให้ก็ได้ ว่าเรากลัวนาง เฉพาะที่เราเป็นศิษย์ฺใน แต่เมื่อไหร่ที่พวกเรากลายเป็นศิษย์หลัก นางจะมาทำอะไรเราได้ “
หลาววู่ พอเข้าใจสิ่งที่นางพูด
” งั้นหรอ ถ้าพวกเจ้าต้องการเช่นนั้น เราก็จะได้เห็นกัน “
‘ซูเหม่ย’กล่าวด้วยความโกรธ
” ไม่ต้องเอาพี่สาวเจ้ามาขู่ เรารู้ว่าเจ้ามีสหายที่เป็นศิษย์หลักมากมาย แต่พวกเราคิดไว้ก่อนแล้ว ทำไมเรายังต้องกลัวพี่สาวของเจ้า “
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’กล่าวอย่างเหยียดหยาม
หลังจากนั้น สมาชิกคนอื่นๆของพันธมิตรปีกฯก็ได้มาถึง สวนพฤกษามังกรฟ้า โดยที่ฝ่ากับดักเข้ามา แต่เมื่อมาถึงพวกเขาก็ถูก’เจี้ยนเฟิงอวี้’และ’หลาววู่’ทำร้าย
พันธมิตรทั้ง 11 คนจากจำนวน 12 คนได้ถูกสมาชิกพันธมิตรดาบและพันธมิตรโลกจับมัดเอาไว้
‘ซูเหม่ย’ และคนอื่นๆ สงสัยว่าสมาชิกทั้งสองพันธมิตร ผ่านตำหนักใต้พิภพมาได้อย่างง่ายได้ ต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติ ทั่งๆที่พวกเขานั้นมีพลังแค่ ระดับ 7 ห้วงวิญญาณ แต่สามารถผ่านกับดัก มาได้อย่างรวดเร็ว นั้นเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก
ตอนนี้ สมาชิกจากพันธมิตรดาบฯและพันธมิตรโลกร่วมมือกันทำร้ายคนของพันธมิตรปีกฯ จนใบหน้าของพวกเขาช้ำจนบวมปูด พวกเขาเกือบทุกคนได้รับบาดเจ็บตามส่วนต่างๆของร่ายกาย แต่ไม่มีใครตะโกนอะไรออกมาสักคำ พวกเขาได้แต่กัดฟันอดทนไว้
” นี่มันแปลกๆ นะเจ้าเด็กนั้นมันหายหัวไปไหนรึว่ามันตายไปแล้ว ? หวังว่ามันคงไม่ถูกกับดับฆ่าตายไปซะก่อนล่ะ มองไปประตูที่ยังไม่เปิด หลาววู่ รู้สึกกังวลนิดหน่อย”
“สมน้ำหน้ามันหากตายอยู่ที่นี่คงจะทรมาณน่าดู “
เจี่ยนเฟิงอวี้กล่าว
” พวกเจ้าต่างหากที่จะตาย รีบปล่อยพวกเราออกไป พร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้น และเอาหัวโขกขอขมาผู้นำของเรา ไม่งั้นตอนที่ ชูเฟิง มาถึงที่นี่ เขาอาจจะฆ่าพวกเจ้า “
‘ซูเหม่ย’พูดได้อย่างกระแทกอารมณ์ ในตอนนั้น นางดูห้าวยิ่งนัก นางมองเหล่าสหายที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ นางไม่มีวันอภัยให้คนเหล่านั้น
” โอ้โห ไอ้เจ้าเด็กตัวน้อยๆ ชูเฟิง นั้นน่ะหรอ ซูเหม่ย เจ้าจะไม่ดูมั่นใจไปหน่อยหรอ หรือว่าเจ้าจะชอบมัน”
หลาววู่หัวเราะขณะที่เดินเข้ามาทางซูเหม่ย
” แน่นอนอยู่แล้ว ไอ้เจ้าเด็กนั้นมันเป็นคนรักของนาง “
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ กล่าว
” งั้นหรอ? ซูเหม่ย ตาของเจ้าคงจะบอดไปแล้วล่ะมั้ง ทำไมถึงได้ไปสนใจคนที่อ่อนแอเช่นนั้น มากกว่าข้า คนที่แข็งแกร่งเหมือนข้า เฮ้อ . . . . . . “
‘หลาววู่’ คุกเข่าลงและใช้มือของเขาจับใบหน้าของ’ซูเหม่ย’
” ออกไป!!! ถ้าเจ้าแตะต้องข้า ข้ากับพี่สาวจะฆ่าเจ้า!!!! “
” ขนาดนั้นเลย ? เจ้าเห็นว่าข้าเป็นคนขี้ขลาดที่กลัวคำขู่ผู้หญิงงั้นหรอ ดูสิว่าเจ้ายังจะกล้าไปบอกกับพี่สาวเจ้าให้ฟังอีกไม๊ ? “
” แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอก ข้าแค่จะจูบเจ้าเท่านั้น มานี่มะ ที่รัก!!! มาให้ข้าชิมรสชาดลิมฝีปากของเจ้าหน่อย “
‘หลาววู่’ พูดพร้อมกับเลียริมฝีปาก ขณะที่ทำปากจู๋พร้อมกับเดินเข้ามาด้านหน้าของซูเหม่ย ใบหน้าขาวๆของนาง และลิมฝีปากสีชมพูด ช่างงดงามจริงๆ
” ตาย ! “
แต่ ก่อนที่เขาจะจูบ’ซูเหม่ย’ มีเสียงตะโกนด้วยความโกรธระเบิดออกมา อากาศรอบๆถึงกับกระจายออกไปทันที ช่วงเวลาในพริบตา ‘ชูเฟิง’ ก็มาปรากฏด้านหน้าของ ‘หลาววู๋’ เหมือนกับปีศาจ
* ปัก *
มือของ’ชูเฟิง’ เหมือนกับกรงเล็บของอินทรี ขย้ำลงไปที่คอของ ‘หลาววู่’ พร้อมกดลงกับพื้น
” เจ้าอยากจะจูบนักใช่มั้ย ? งั้นข้าจะให้เจ้าจูบกับไอนี้ “
หลังจากกด ‘หลาววู่’ ลงกับพื้น ‘ชูเฟิง’ยกมือซ้ายขึ้นมาพร้อมกับกำหมัดแน่น จากนั้นเขาก็ต่อยไปที่ปากของ ‘หลาววู่’ หลายสิบครั้ง หน้าของ ‘หลาววู่’ ในขณะนั้นมีแต่เลือด ฟันทั้งปากของเขาแตกละเอียดหลังจากที่ขากรรไกรหัก ปากของเค้าอ้าค้างไว้ จากนั้นเลือดและฟันก็ไหลออกมา
” กลืนมันกลับไปซะ “
‘ชูเฟิง’ที่โกรธตะโกนออกมา พร้อมกับเอาฟันของเขาหยัดกลับไปที่ปาก ‘หลาววู่’ได้แต่จมลงไปในความสิ้นหวัง ในที่สุดเขาก็ต้องกลืนเลือดในปากและฟันลงไปในคอ
” นี่ . . . . . . คนๆนี้ “
มอง’ชูเฟิง’ กับ ‘หลาววู๋’ สมาชิกพันธมิตรโลกและพันธมิตรดาบฯ ต่างถูกปกคลุมไปด้วยความกลัว แม้แต่ ‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ ยังถึงกับหน้าเสียเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ‘หลาววู่นั้น’ อยู่ในระดับ 9 ห้วงวิญญาณ อีกทั้งยังมี ทักษะลับ และ ทักษะระดับ 4 แต่เขากลับมาพ่ายแพ้ให้กลับ’ชูเฟิง’อย่างง่ายดาย
ต่อหน้า’ชูเฟิง’ พลังของ ‘หลาววู่’ นั้นถึงกับไร้ประโยชน์ นั้นหมายความว่า ‘ชูเฟิง’ แข็งแกร่งกว่า ‘หลาววู่’ หลายเท่าขณะพวกเขาทำหน้าอย่างกับไร้วิญญาณ ‘ชูเฟิง’ลุกขึ้นยืน มอง ‘หลาววู่’ อีกครั้ง ใบหน้าของเขานั้นมีฟองสีขาวๆทะลักออกมาจากปาก เผยให้เห็นแต่ลูกตาสีขาวเหลือกขึ้นมา
ทำให้รู้ว่าเขาหมดสติไปใบหน้าของ’ชูเฟิง’ที่เย็นชา ยืนจ้องมองพวกเขาในดวงตา ขณะที่ร่างกายยังคงดูสงบนิ่ง ร่างกายของคนอื่นๆก็รู้สึกหนาวขึ้นมา ขณะที่มอง’ชูเฟิง’พวกเขาถึงกับยืนตัวสั่น โดยที่อากาศนั้นไม่เย็นเลยสักนิด
” ซูเหม่ย เจ้าต้องการให้ข้าทำยังไงกับคนเหล่านี้ ? “
” จัดการมัน “
” ตามนั้น “
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . .
ที่มา: