ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปแปลไทยโดย Takumi Kun
******************************************************
ไร้ที่ติ โดยปราศจากสิ่งปนเปื้อน ความสวยงามตามธรรมชาตินั้นได้เหนือกว่าสาวงามทุกๆคนที่เจียงเฉินเคยพบเจอมา เจียงเฉินนั้นได้พบกับสาวงามมากมาย เมื่อเขาได้อยู่บนจุดสูงสุด แม้แต่หญิงที่งดงามที่สุดก็ได้ถวายตัวแก่เจียงเฉิน แต่เจียงเฉินสนใจแต่การบ่มเพาะ เขาไม่ต้องการที่จะวอกแวกเพราะผู้หญิง นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงไม่สนใจที่จะมองเหล่านักบุญที่บริสุทธิ์
แต่เขาไม่สามารถที่จะเอาสายตาเขาออกจากเด็กสาวอายุ 14 ปีที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาตกหลุมรักแรกพบ ในความเป็นจริงนั้นเจียงเฉินได้มีประสบการณ์ในทุกสิ่งที่โลกได้เสนอมา แต่เรื่องเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เขานั้นเป็นเพียงแค่มือใหม่เท่านั้น
คุณหนูผู้นี้คือคุณหนูตระกูลหยาน หยานเฉินหยู่
หอคอยหมอกฝนมีอีกหนึ่งชื่อก่อนที่หยานเฉินหยูถือกำเนิด ที่ชื่อว่าหอคอยหมอกฝนนั้นมีหลังจากหยานเฉินหยูได้ถือกำเนิดแล้ว สามารถบอกได้ง่ายๆว่าหยานเจิ้นหยุนรักบุตรสาวเป็นอย่างมาก
[หอคอยหมอกฝน = หยานยู่โหลว]
หยานเฉินหยู่เงยหน้าขึ้นมองไปยังเจียงเฉินด้วยรอยยิ้มนางฟ้า สายตานางใสซื่อ รอยยิ้มสะอาดบริสุทธิ์ นางดูเหมือนเทพธิดาจากสวรรค์
แต่สีหน้าหยานเฉินหยู่นั้นขาวซีด นางดูเหมือนผู้ป่วย แม้ว่านางจะป่วยเป็นเวลานานแล้ว แต่ความงดงามนั้นไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย
“เฮ้ย ไอ้หนู แกมองอะไรของแก ห๊ะ!”
ยอดฝีมือแก่นแท้มนุษย์ตะโกนใส่เจียงเฉิน
เจียงเฉินได้รู้สึกตัว และตระหนักว่าจิตใจเขาล่องลอยหลงทางไปซะแล้ว
‘นี่มันอะไรกัน นี่ข้าถึงขนาดเคลิ้มไปเลยรึเนี่ย มันเป็นเรื่องที่น่าขบขันที่สุดในรอบปีเลยนั่น อย่าบอกนะว่ามันเกิดขึ้นเพราะความรักน่ะ’เจียงเฉินก็พูดออกมา คนอย่างเขาถึงกับจิตใจไม่อยู่กับตัว เขาได้รับประสบการณ์ความรู้สึกเช่นนี้อีกครั้งเพราะคุณหนู ช่างเป็นความอัปยศโดยแท้สำหรับเขา
“เพระเหตุใดเจ้าจึงตะโกนใส่ข้า หากข้าไม่ดูนาง ข้าจะรู้ถึงสถานการณ์ของโรคร้ายนางหรือ”
เจียงเฉินได้จ้องยอดฝีมือแก่นมนุษย์คนนั้น ตอกคืนเขาไปอย่างไม่สุภาพ เจียงเฉินพยายามปกปิดความอายของตน
“เจ้า ….ดี เจ้ารักษาหยู่เอ๋อร์ให้ดีล่ะ ถ้าไม่ล่ะก็ ข้าจะให้บทเรียนแก่เจ้า”
ยอดฝีมือแก่นมนุษย์คนนั้นโกรธมาก ด้วยฐานะของเขา ไม่มีใครกล้าที่จะพูดเช่นนี้กับเขาโดยเฉพาะคนหนุ่ม
“พอได้แล้ว”
หยานเจิ้นหยุนบอกให้ทุกคนเย็นลง และเดินไปหาหยานเฉินหยู่ “หยู่เอ๋อร์ รู้สึกเช่นไรบ้างวันนี้”
“ท่านพ่อข้าสบายดี”
หยานเฉินหยู่ตอบกลับมา เสียงของนางดั่งหมอกฝน ผ่อนคลายยิ่งนัก
“หยู่เอ๋อร์ ข้าขอแนะนำ นี่น้องชายเจียงเฉิน เขาพูดว่าเขาสามารถรักษาอาการป่วยเจ้าได้”
หยานเจิ้นหยุนมองบุตรสตรีของเขาดูเจ็บปวดและเศร้าโศกยิ่งนัก
“ท่านพ่อ ไม่เป็นไรหรอก อาการป่วยของข้าไม่สามารถรักษาให้หายได้หรอก”
หยานเฉินหยู่ส่ายหัว
เจียงเฉินมองไปที่หยานเฉินหยู่อีกครั้ง ทุกๆคนที่อยู่ที่นี่อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ทั้งสิ้น เขาไม่ได้ใช้เซนส์ของพระเจ้าเพื่อตรวจสอบนาง เซนส์ของพระเจ้าอยู่ใสสภาวะอ่อนแอ และหยางเจิ้นหยุนที่อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลายนั้นสามารถตรวจพบได้ง่ายดายถ้าเขาใช้เซนส์ของพระเจ้า
แต่การมองของเจียงเฉินเฉียบคมดั่งอินทรีย์ เขาสามารถเห็นพลังงานของหยานเฉินหยู่ และเขาได้ระมัดระวังและยืนยันว่าเป็นสิ่งที่เขาได้คิดเอาไว้
“คุณหนูหยาน ข้าขอถามเจ้า ทุกครั้งที่อาการกำเริบ เจ้ารู้สึกหนาวดั่งมีน้ำแข็งมาเกาะทั่วร่าง ราวกับว่ามีธารน้ำแข็งไหลเวียนอยู่ในร่างกายและแช่แข็งอวัยวะภายในของเจ้าสินะ”
เจียงเฉินถาม
หยานเฉินหยู่ที่หมดหวังแต่ดวงตาของนางมีประกายขึ้นมา นางมองไปยังเจียงเฉินด้วยตาคู่สวยของนาง และริมฝีปากอันหอมหวานของนางได้เปิดออก
“ถูกต้องเจ้าค่ะ คุณชายเจียง ข้ามีนามว่า หยานเฉินหยู่”
หยานเฉินหยู่ก้มหัวเล็กน้อยให้กับเจียงเฉิน
หยานเจิ้นหยุนและคนอื่นๆแสดงอาการตกใจขึ้นมา เพียงแค่มองเพียงครั้งเดียวชายหนุ่มผู้นี้สามารถบอกได้ว่าอาการเจ็บปวดของนางเป็นอย่างไร เจียงเฉินเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้ได้ นั่นทำให้พวกเขาให้ความสำคัญกับเจียงเฉินมากขึ้น
“ขอข้าถามเจ้าอีกนะ เมื่ออาการกำเริบ ร่างกายของเจ้าจะเริ่มสั่น โลหิตจะโดนแช่แข็ง เจ้าจะหายใจลำบาก ถ้าหากเจ้าตายเจ้าจะไม่สามารถรู้สึกถึงอะไรทั้งสิ้นยกเว้นความเจ็บปวดที่ประหลาดเหมือนมีงูอยู่เคลื่อนตัวอยู่ภายในร่างกาย มันจะปวดรุนแรงมากสินะ”
เจียงเฉินถามออกมาอีกครั้ง
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ นั่นเป็นสิ่งที่ข้ารู้สึก”
หยานเฉินหยู่ได้ตกใจยิ่งขึ้น นางไม่สามารถที่จะอธิบายได้ว่าอาการนางมันรู้สึกแบบใด และเมื่อนางหมดสติทุกครั้งจากความเจ็บปวด แต่มีสิ่งหนึ่งที่นางแน่ใจคือเหมือนมีงูเคลื่อนที่ภายในร่างกาย มันบอกได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกายและเริ่มทำลายร่างกาย
“อาการป่วยของเจ้าได้กำเริบมาแล้ว 7 ครั้ง และมันมาทุกๆปี ความหนาวเหน็บในร่างกายยิ่งเพิ่มทวีขึ้นทุกๆครั้ง ข้าพูดถูกหรือไม่ หากสิ่งที่ข้าพูดนั้นถูกต้อง อาการกำเริบครั้งที่ผ่านมาเหมือนมีดาบน้ำแข็งเชือดเฉือนภายในร่างกายจากด้านใน ทำลายทุกสิ่งสินะ”
เจียงเฉินพูดออกมาอีกครั้ง
ทุกๆคนต่างรู้สึกตื่นเต้น พวกเขามองเจียงเฉินเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“สิ่งที่พี่ชายเจียงเฉินพูดมาช่างแม่นยำยิ่งนัก อาการกำเริบครั้งล่าสุดนั้น ความหนาวเหน็บได้แผ่ออกมาด้านนอกร่างกาย พวกข้าไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้นางได้ มันเหมือนดาบน้ำแข็งทำลายทุกอย่างในห้อง เกือบทำลายบ้านของนางไปอีกด้วย”
หยานเจิ้นหยุนตื่นเต้นสุดๆ เหมือนเขาได้พบกับความหวังแล้ว
หยานเหมิงที่อยู่ข้างๆตาเป็นประกาย เขาไม่เคยคาดคิดว่าเจียงเฉินนั้นจะมีความรู้มากมายเช่นนี้ ถ้าหากเจียงเฉินสามารถที่จะรักษาคุณหนูได้ เขาที่เป็นคนพามาก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดีอีกด้วย
“คุณชายเจียงเจ้าคะ โรคนี้สามารถรักษาได้หรือไม่”
ท่าทางของหยานเฉินหยู่นั้นเหมือนคนที่ได้พบแสงสว่างเป็นครั้งแรก
“รักษาได้หรือไม่?”
เจียงเฉินได้หัวเราะออกมาอย่างดีใจ นางได้เกิดมาพร้อมกับ จุดชีพจรหยินทั้งเก้าและร่างเก้าหยินที่สืบทอดมาแต่โบราณ ร่างกายแบบนี้หาได้ยากยิ่งมันปรากฎทุกๆหมื่นปี และไอโง่พวกนี้คิดจะทำลายมันเจียงเฉินรู้สึกเหมือนต่อว่าพวกเขา
“ขอข้าตรวจชีพจรหน่อยนะ คุณหนูหยาน”
เจียงเฉินขอ
“ได้ๆๆ รีบนั่งลงสิหยู่เอ๋อร์ให้น้องเจียงเฉินตรวจชีพจรเจ้า”
หยานเจิ้นหยุนพูดอย่างเร่งรีบ เมื่อเป็นเพียงความหวังเดียว เขาจะไม่ยอมเสียมันไปแน่
“เข้าใจแล้วค่ะ”
หยานเฉินหยู่ ผงกหัวตอบรับ ก่อนที่จะเดินไปช้าๆและนั่งลง แล้วยื่นแขนออกมาให้เจียงเฉิน
เจียงเฉินได้นั่งอยู่ด้านตรงข้ามของหยานเฉินหยู่ เขาวางนิ้วมือสองนิ้วไว้บนแขนของนาง แขนของนางเย็นมาก แต่ผิวของนางเนียนนุ่ม อย่างไรก็ตามครั้งนี้เจียงเฉินจะไม่ยอมให้วอกแวกอีกเป็นครั้งที่สอง
พลังทางจิตของเจียงเฉินแปรเปลี่ยนเป็นกระแสพลังเข้าไปยังร่างกายของหยานเฉินหยู่โดยตรงผ่านนิ้วมือของเขา เขาพบว่าร่างกายของนางในตอนนี้ มีจุดชีพจรหยินทั้งแปดอยู่ ทุกๆสิ่งเหมือนสะพานในร่างกายนางแต่จุดหยินเมอริเดียนทั้งแปดได้ถูกเปิดแล้วนี่ได้ถูกปกคลุมด้วยพลังความร้อนบางอย่าง ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถที่จะตรวจพบได้
หลังจากวินิจฉัยโรคทุกๆส่วนของร่างกายหยานเฉินหยู่ การแสดงออกของเจียงเฉินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ปัง!
เจียงเฉินทุบโต๊ะทำให้โต๊ะไม้กลายเป็นชิ้นๆ
“น่าอับอายอย่างยิ่ง! น่าอับอายอย่างยิ่ง! น่าอับอายอย่างยิ่ง!!”
เจียงเฉินแสดงออกมาอย่างมีโทสะ
เมื่อโดนเจียงเฉินต่อว่า หยานเจิ้นหยุนไม่ได้โกรธแต่อย่างใด พวกเขามองไปยังเจียงเฉินที่กำลังโกรธอย่างใจจดใจจ่อ หยานเฉินหยู่เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ไม่มีผู้ใดทราบว่าเจียงเฉินนั้นโกรธอะไร
“ข้าขอถามพวกท่านทุกคน ทำไมถึงให้นางกินผลมังกรเพลิง”
เจียงเฉินถามอย่างมีโทสะ
“ใช่แล้ว ครั้งสุดท้ายที่อาการกำเริบ อาการมันรุนแรงอย่างมาก พวกเราสามารถทำได้เพียงนำผลมังกรเพลิงไปข่มความหนาวเย็นในตัวนาง”
หยานเจิ้นหยุนพูดออกมา ทุกๆคนต่างยกระดับเจียงเฉินขึ้นอีกในใจพวกเขา แค่สัมผัสชีพจรก็รู้แล้วว่าหยานเฉินหยู่ได้ทานผลไม้มังกรเพลิงเข้าไป
“ดังนั้น พวกท่านได้เตรียมผลมังกรเพลิงให้นางทานอีกครั้ง ดังนั้นมันสามารถช่วยข่มความเย็นในร่างกายนางอย่างนั้นสินะ”
เจียงเฉินนั้นโมโหมาก เขารู้สึกเหมือนว่าเขาคุยกับกลุ่มคนปัญญาอ่อนทั้งเปลืองเวลาและความรู้
“เข้าใจได้ถูกต้องแล้ว”
หยานเจิ้นหยุนตอบตามความจริง เขาได้วางแผนไว้ว่าจะนำผลมังกรเพลิงมาใช้กดข่มอาการหนาวเหน็บของร่างกายนาง
“ไอ้โง่เอ๊ย มันโง่อย่างไม่น่าให้อภัย! ข้าจะบอกพวกท่านตามตรงนะ ถ้าหยานเฉินหยู่ได้ตายไปมันเป็นเพราะท่าน! ไม่ใช่แค่ท่านเป็นสาเหตุที่ทำให้นางต้องตาย แต่เจ้ายังทำลายโอกาสที่อัจฉริยะไร้ผู้เทียบเคียง ข้าไม่สามารถรักษาอาการของนางได้ เชิญพวกท่านไปหาคนอื่นเถอะ ข้าไปล่ะ!”
ตอนนี้เจียงเฉินได้โกรธจริงๆ
“น้องเจียงเฉิน น้องเจียงเฉิน!”
หยานเจิ้นหยุนตื่นตระหนกอย่างยิ่ง และรีบไปหยุดเจียงเฉินไว้ไม่ให้กลับไป คนอื่นๆรู้สึกมีบางสิ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้นเมื่อพวกเขาโดนเจียงเฉินต่อว่าพวกเขาไม่รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย
“น้องเจียงเฉิน มันมีอะไรผิดพลาดหรือ พวกข้าได้ใช้ผลมังกรเพลิงและผลหยางบริสุทธิ์ในการกดข่มอาการหนาวเย็นของหยู่เอ๋อร์ มันผิดหรือ? มันเป็นผลสรุปของเหล่าปรมาจารย์เลยนะ”
ชายชราแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางถามอย่าง งงๆ
“ผลสรุปเxี้ย อะไรนั่น ! ข้าขอบอกอะไรท่านอย่างหนึ่ง หยานเฉินหยู่เกิดมาพร้อมกับเก้าหยินแห่งความสำเร็จ มันเป็นสิ่งที่หายากมากๆมันเกิดขึ้นทุกๆหมื่นปี นางจะเป็นสุดยอดอัจฉริยะฟ้าประทาน เมื่อนางมีสุขภาพแข็งแรง”
เจียงเฉินพูดออกมาด้วยความโกรธยิ่งกว่าโกรธ
“อะไรนะ ! ชีพจรเก้าหยิน!”
ทุกๆคนต่างตกใจ ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน
“ถ้าร่างกายพิเศษเช่นนี้เกิดกับบุรุษมันผู้นั้นพินาศ แต่ถ้าหากมันเกิดกับสตรี มันเป็นเงื่อนไขที่หาได้ยากสตรีนั้นจะเกิดมาพร้อมลักษณะหยิน ร่างกายบุตรสาวท่านได้สร้างเส้นทางความสำเร็จทุกๆปี พวกมันตั้งข้ามร่างกายทั้งหมด แต่ทุกๆครั้งที่ได้สร้างจุดชีพจรขึ้นมา ร่างกายของนางก็จะรู้สึกเจ็บปวด ที่เรียกว่าโรคนั้นมันเกิดจากการสร้างจุดชีพจรขึ้น ตอนนี้ร่างกายของนางนั้นสร้างได้ถึงแปดจุดแล้ว และเมื่อครบเก้าจุดเมื่อไร สุดยอดอัจฉริยะที่มีความสามารถเหนือทุกๆคนก็จะถือกำเนิด แต่ท่านได้ใช้ผลหยางบริสุทธิ์ไปข่มการสร้างจุดชีพจรหยิน ถ้านั่นเป็นสิ่งที่ท่านทำทั้งหมดแล้ว ข้ายังสามารถที่จะรักษานางได้ แต่ท่านยังเอาผลมังกรไฟให้นางทานอีก นี่มันเป็นการทำลายความหวังในการสร้างจุดชีพจรหยินจุดที่เก้า ในตอนนี้แม้แต่เทพก็ไม่สามารถที่จะช่วยนางได้ นางจะไม่มีทางที่จะมีอยู่เกิน 15 ปีได้เลย ถ้าพวกท่านยังจะให้นางทานผลมังกรไฟต่อ นั้นเป็นการเร่งนางไปสู่ความตาย”
เจียงเฉินอธิบายรายละเอียด เขามีความรู้สึกเหมือนว่าชี้แจงให้กลุ่มคนปัญญาอ่อนได้รู้ถึงจุดที่ตัวเองผิดพลาด
ปัง!
สิ่งที่เจียงเฉินพูดออกมาสร้างความตะลึงให้แก่หยานเจิ้นหยุน สีหน้าของหยานเจิ้นหยุนกลับกลายเป็นขาวซีด ร่างกายสั่นเทา ดังนั้น บุตรสาวของเขาไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด และถ้าไม่ใช่เพราะเขาได้พยายามอย่างหนักในการหยุดการสร้างจุดชีพจรหยิน บุตรสาวเขาก็จะอาจเป็นดั่งอัจฉริยะฟ้าประทานในศตวรรษนี้แล้ว ทั้งหมดเป็นความเลินเล่อของเขาเอง เขาได้ทำลายบุตรสาวที่เขารักด้วยมือตัวเอง
“พวกท่านนี่มันกลุ่มพวกโง่ดักดานซะจริง ทำให้ข้าอารมณ์เสียจริงๆ ข้าจะไปแล้ว ไม่ต้องมาส่งข้าหรอก”
เจียงเฉินพูดก่อนที่จะเดินตรงไปยังทางออกห้องโถงประชุม
“น้องเจียงเฉินนนนน”
“อย่าเพิ่งไปน้องเจียงเฉิน”
ยอดฝีมือแก่นมนุษย์สองสามคนได้รีบมาตามเจียงเฉินกลับทันที พวกเขาไม่ได้ใส่ใจว่าโดนเจียงเฉินต่อว่าพวกเขาหรือไม่ ชายหนุ่มผู้นี้เป็นเพียงความหวังเดียวของคุณหนูพวกเขา
“น้องเจียงเฉิน เมื่อเจ้าทราบว่าเป็นจุดชีพจรเก้าหยิน ข้าเชื่อว่าเจ้ามีหนทางในการรักษาบุตรสาวข้า ข้าขอร้องเจ้า ช่วยชีวิตบุตรสาวข้าด้วย ถ้าเจ้าช่วยบุตรสาวข้า ไม่ว่าอะไรข้าก็จะหามาให้เจ้าทันที”
หยานเจิ้นหยุนได้มาตรงหน้าเจียงเฉินพร้อมอ้อนวอนขอร้องเจียงเฉิน
เจียงเฉินแสยะยิ้มในใจ เจียงเฉินกำลังรอคำสัญญาจากหยานเจิ้นหยุนอยู่ อาการของหยานเฉินหยู่คนอื่นๆไม่สามารถรักษานางได้นอกจากเจียงเฉิน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่ สำหรับเขาการรักษานางมันง่ายมาก
*****************************************************
จบจ้า