ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
แปลไทยโดย Takumi Kun************************************************************************
ตาของหยานเหมิงเบิกกว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉินกล่าว เขามองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา ด้วยสีหน้าตื่นเต้น เมื่อเห็นความมั่นใจบนหน้าของชายหนุ่ม ทำให้คิดว่าเจียงเฉินแข็งแกร่งขนาดไหนก่อนหน้านี้ เขาไม่ใช่คนธรรมดา และเขาไม่ได้ดูเหมือนว่าจะโกหก เขารู้วิธีรักษานางจริงๆ
“ท่านลุงหยาน น้องเจียงเฉินเป็นคนที่สุดยอด พวกข้าไม่สามารถที่จะคาดเดาความสามารถของเขาได้โดยใช้สามัญสำนึก ในเมื่อเหล่าปรมาจารย์ไม่สามารถช่วยได้ ข้าพนันว่าน้องเจียงเฉินสามารถช่วยได้”หลังจากผ่านการต่อสู้ถึงชีวิตมา หยานเหมิงได้เลี้ยงทุกคนเหมือนกับเป็นคนของเขา นอกจากนี้ผลหยางบริสุทธิ์ก็ถูกเปิดเผยแล้วจึงไม่จำเป็นต้องซ่อนอีก นอกจากนี้อาการป่วยของคุณหนูก็ไม่ได้เป็นความลับอีกด้วย
“น่าอัศจรรย์ น่าอัศจรรย์ยิ่ง ถ้าน้องชายเจียงเฉินสามารถช่วยชีวิตคุณหนูได้ ตระกูลหยานจะไม่มีวันลืมในสิ่งที่ได้ทำให้ตระกูลหยานเลย ท่านผู้นำตระกูลจะตบรางวัลให้อย่างงาม”
ราวกับว่าได้เห็นถึงความหวังเพียงเล็กน้อย หยานเหมิงทราบถึงอาการของคุณหนูเป็นอย่างดี ผลหยางบริสุทธิ์ทำได้เพียงประคองอาการการแช่แข็งในร่างกายคุณหนู แต่มันไม่สามารถที่จะรักษาได้ถึงต้นตอของโรค ดีที่สุดเพียงยืดอายุคุณหนูออกไป
คุณหนูของพวกเขาเป็นโรคที่หาได้ยากยิ่ง ไม่มีปรมาจารย์คนไหนในเมืองสีชาดมีเงื่อนงำเกี่ยวกับมัน ไม่มีผู้ใดกล้าพูดว่าสามารถรักษาคุณหนูให้หายได้ หยานเหมิงได้สงสัยเจียงเฉินกล่าว ในหลายปีที่ผ่านมานี้ได้พยายามที่จะลองรักษาอาการของคุณหนู และมันได้ให้บทเรียนแก่พวกเขา ยิ่งหวังมาก ก็ยิ่งผิดหวังมากเป็นเงาตามตัว
อย่างไรก็ตาม หากยังมีความหวังอยู่ หากได้ลองดูมันยังดีกว่าให้ความตายมาเยือน มากกว่านั้นคือชายหนุ่มผู้นี้ได้แสดงให้เห็นว่าเขานั้นมีความสามารถ เขาอาจมีทักษะพิเศษก็เป็นได้
“อย่าได้ใส่ใจเลย”
เจียงเฉินโบกพัดแล้วพูดตอบกลับอย่างเฉยเมย สัญญาเรื่องรางวัลจากตระกูลหยานนั้นยังไงเขาก็ไม่ปฎิเสธแน่นอน แค่ช่วยชีวิตหยานเหมิงและผลหยางบริสุทธิ์ยังไม่สามารถทำให้เขาสามารถขอสิ่งตอบแทนที่ดีได้ แต่ถ้าหากเขาสามารถช่วยรักษาคุณหนูให้หายได้ ไม่แค่สามารถบรรลุเป้าหมายของเขาได้และยังสร้างความสัมพันธ์อันดีกับหอคอยหมอกฝนได้อีกด้วยและเมื่อมันได้เกิดขึ้น หอคอยหมอกฝนจะทำทุกวิถีทางที่จะหาสิ่งที่เขาต้องการมาได้
หอคอยหมอกฝนมีกำลังในการซื้อขายมากที่สุดในเมืองสีชาด พวกเขามีธุรกิจค้าขายมากมายแม้แต่ร้านขายยา ร้านยาเป็นกิจการของตระกูลหยานเพียงผู้เดียว พวกเขาพบว่าเมืองสีชาดมีอาคารที่สวยงามขนาดหลายร้อยตารางไมล์ เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศที่งดงาม และเมื่อถึงยามเที่ยงคืนเมืองจะเต็มไปด้วยแสงไฟ เสียงภายในเมืองได้ยินไปถึงด้านนอก
“น้องชายเจียงเฉินเจ้าเห็นตึกที่สูงที่สุดไหม นั่นล่ะคือหอคอยหมอกฝน”หยานเหมิงชี้ไปยังตึกที่สูงที่สุดในเมือง หอคอยสูงกว่า 100 เมตรจะเห็นแสงได้ชัดตามทุกๆชั้น และมีศาลาขนาดใหญ่บนดาดฟ้าอีกด้วย มันเป็นอาคารที่ดูทันสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ
“ไม่แปลกใจที่เมืองสีชาดแข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 28 เมือง แค่บรรยากาศก็เหนือกว่าทุกๆเมืองแล้ว”
เจียงเฉินผงกหัวเห็นด้วยจากใจ ขนาดของเมืองสีชาด เจียงเฉินไม่ได้สนใจเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆในทวีปพระเจ้าล่ะก็ เมืองสีชาดเป็นแค่เมืองเล็กๆเมืองหนึ่งเท่านั้น
เหล่าเมืองโบราณในทวีปพระเจ้านั้นมีม่านพลังปกคลุมอยู่ ม่านพลังนั้นถูกสร้างโดยสุดยอดฝีมือ พวกเขารวบรวมพลังจากสิ่งที่อยู่รอบๆสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับบ่มเพาะพลัง เมืองสีชาดระดับไม่ได้ใกล้เคียงกับเมืองโบราณเหล่านั้นเลย
อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้เวลานานมากในการที่จะไปยังทวีปแห่งพระเจ้า ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้หากเขาต้องการที่จะไปทวีปพระเจ้าจริงๆต้องใช้เวลามากกว่าหลายร้อยปี
“เข้าเมืองกันเถอะ”
หลังจากที่รอดจากสถานการณ์อันตรายมาได้ หยานเหมิงรู้สึกมีความสุข พวกเขาทิ้งเกวียนขนส่งไว้และเร่งฝีเท้าเข้าเมืองสีชาด
ณ หอคอยหมอกฝน
หอคอยหมอกฝนดูแตกต่าง จากดูใกล้ๆ เมื่อยืนข้างๆหน้าทางเข้าและมองไปที่ทางเข้าสีทองคำอร่าม สัมผัสถึงความมั่งคั่งและความมีชื่อเสียงได้
หวังติงและคนอื่นๆดูรอบๆ แม้จะไม่ได้มาเป็นครั้งแรกก็ตาม แต่พวกเขาก็ประทับใจในสิ่งที่หอคอยหมอกฝนมี
“หยานซิง เจ้าพาหวังติงและคนอื่นๆไปชมรอบๆทีนะ ดูแลเขาดีๆและสุภาพกับพวกเขาด้วยล่ะ”
หยานเหมิงบอกคนที่อยู่ข้างๆเขา
“อย่าได้กังวล”
หยานซิงผงกหัวตอบรับ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตระกูลหยาน เขาไม่ได้สนใจอะไรมากกับหวังติงและคนอื่นๆ และตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาคือสหายที่รู้ตื้นลึกหนาบางด้วยกันและได้เผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิตด้วยกัน พวกเขาได้ร่วมสู้ด้วยกันและเกือบที่จะตายไปด้วยกัน เขาจึงดูแลพวกเขาเหมือนสหาย แม้หยานเหมิงไม่ได้ขอให้เขาทำเช่นนั้นก็ตาม
“น้องชายเจียงเฉิน ไปพบผู้นำตระกูลหยานกันเถอะ”
หยานเหมิงมองไปที่เจียงเฉิน
“ตกลง”
เจียงเฉินผงกหัวตอบรับ การตัดสินใจนี้ตรงกับความต้องการของเขา เขาจึงไม่รอช้า
“ไปกันเถอะ”
ในขณะที่พูด หยานเหมิงได้เดินไปยังหอคอยหมอกฝน
เจียงเฉินเริ่มถาม “พวกเราไม่ได้ไปพบท่านผู่นำตระกูลโดยตรงเลยหรือ”
“มีบางสิ่งที่เจ้าควรทราบไว้ก่อน หอคอยหมอกฝนและตระกูลหยานอยู่ติดๆกัน หลังหอคอยคืออาณาเขตตระกูลหยาน โดยหลัก หอคอยหมอกฝนคือทางเข้าหลักสู่ตระกูลหยาน แขกมีเกียรติคนใหญ่คนโตจะเข้าทางด้านหน้า ส่วนคนทั่วไปก็เข้าทางประตูด้านหลัง”
หยานเหมิงอธิบายขณะที่ยิ้มอยู่
“ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว”
เจียงเฉินตระหนักถึงตัวเขาได้เป็นแขกผู้ทรงเกียรติของตระกูลหยาน
พวกเขาได้เข้าหอคอยหมอกฝนที่ส่องสว่าง แม้กระทั่งตอนกลางคืน หอคอยหมอกฝนก็ยังได้ทำธุรกิจ ชั้นแรกเป็นพื้นที่สำหรับค้าขายมีร้านเล็กๆตั้งอยู่จำนวนมาก ร้านค้าพวกนี้ไม่ได้เป็นของตระกูลหยานหรอกนะ พวกเขามาเช่าที่และตระกูลหยานเก็บค่าเช่าที่จากพวกเขา
หยานเหมิงกล่าวแก่เจียงเฉินเกี่ยวกับทุกอย่างของหอคอยหมอกฝนทำอยู่ แต่เมื่อเขาพบว่าเจียงเฉินหมดความสนใจแล้วหลังจากพาเดินดูรอบๆ เขาจึงหยุดอธิบายและดูท่าทีของเจียงเฉิน หยานเหมิงรู้สึกว่าชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าของเขาไม่ได้ดูสนใจในหอคอยหมอกฝนมากนัก
มันเหมือนกับเขาได้เห็นมามากมาย และเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจียงเฉินเป็นเช่นนี้ ทำให้หยานเหมิงรู้สึกแปลกๆ ชายหนุ่มจากเมืองฟ้าหอมนั้นเคยเห็นอะไรใหญ่โตแบบนี้มาก่อนหรือ?
มีทางเดินยาวไปสู่ประตูหลัง หยานเหมิงนำเจียงเฉินข้ามทางเดินไปยังอาณาเขตตระกูลหยาน
อาณาเขตหลักตระกูลหยานมีรูปแบบแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันดูเรียบง่ายและงดงาม บ่อน้ำพุมีความอุดมสมบูรณ์ มีเสียงนกร้องมีดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมหวน ผู้ที่ออกแบบสถานที่นี่ ต้องเป็นคนที่รู้วิธีที่ทำให้ชีวิตมีความสุข
“ท่านลุงหยาน ท่านกลับมาแล้วรึ”
ที่ประตูด้านหน้า ยามสองคนได้กล่าวต่อหยานเหมิงอย่างสุภาพ เห็นได้ชัดว่าหยานเหมิงเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงในตระกูลหยาน เขาเป็นยอดฝีมือฉีไห่ขั้นปลาย และมีโอกาสสูงที่จะทะลวงเข้าสู่แก่นแท้มนุษย์
“ใช่”
หยานเหมิงผงกหัว นำเจียงเฉินเข้าไปพื้นที่ด้านในของตระกูลหยาน
ภายในห้องโถงประชุมขนาดใหญ่ของตระกูลหยาน
“น้องชายเจียงเฉิน ดื่มชารอขณะที่ข้าไปตามท่านผู้นำตระกูลก่อนนะ”
หยานเหมิงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ตกลง”
เจียงเฉินนั่งลงและโบกพัด มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ต้องการลิ้มรสชาเลย
ไม่นานหลังจากนั้น หยานเหมิงได้กลับมาพร้อมคนอีก 6 คน เจียงเฉินได้ตรวจสอบพวกเขาด้วยเซนส์ของพระเจ้า และพบว่าทุกคนอยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์ ความแข็งแกร่งของตระกูลหยานช่างทรงพลังยิ่งนัก ไม่แปลกใจที่จะเป็นหนึ่งในตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองสีชาด
ชายที่เดินนำหน้าคนอื่นมามีอายุราวๆ 40 กว่าปี เขาสวมเชุดคลุมสีขาว และหน้าตาเขาเฉียบแหลม คิ้วของเขาแหลมคมเหมือนดาบ และตาเปล่งประกายดั่งดวงดาว เขามีภาพลักษณ์ของผู้ที่มีเกียรติและทรงอำนาจ ทำให้ทุกคนที่เห็นเขาเคารพ คนผู้นี้คือผู้นำตระกูลหยาน หยานเจิ้นหยุน สำหรับคนอื่นๆก็อยู่ระดับแก่นแท้มนุษย์พวกเขาเป็นสมาชิกหลักของตระกูลหยาน นักรบชั้นแก่นแท้มนุษย์ทุกคนได้อยู่ที่นี่แล้ว มันแสดงให้เห็นถึงว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับคุณหนูหยานจริงจังในฐานะหนึ่งในตระกูลใหญ่ในเมืองสีชาด ตระกูลหยานมีเครือข่ายที่กว้างขวาง พวกเขามีอัจฉริยะจำนวนมากในตระกูล และพวกเขามีนักรบฉีไห่จำนวนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยามนี้คือเที่ยงคืน ตระกูลหยานจึงเงียบมาก นอกเหนือจากนั้นห้องโถงประชุมตระกูลหยานไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปได้
เมื่อหยานเจิ้นหยุนได้มาถึง เขาได้มองตรงไปยังเจียงเฉินทันที เมื่อเขาเห็นว่าเจียงเฉินนั้นเป็นเพียงแค่หนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งคิ้วเขาขมวดขึ้น
“น้องชายเจียงเฉิน ข้าขอขอบคุณเจ้าที่ได้ช่วยชีวิตหยานเหมิงและปกป้องผลหยางบริสุทธิ์เป็นอันดับแรก พวกเราจะตอบแทนเจ้าอย่างดีแน่นอน แต่เจ้าแน่ใจหรือว่าสามารถรักษาบุตรสาวข้าได้”
หยานเจิ้นหยุนพูดเข้าประเด็น เขาแสดงให้เห็นถึงความสุภาพของเขาต่อเจียงเฉิน แต่เขายังไม่แน่ใจว่าเจียงเฉินสามารถที่จะรักษาบุตรสาวของเขาได้หรือเปล่า แค่ช่วยชีวิตหยานเหมิงและปกป้องผลหยางบริสุทธิ์ก็ทำให้เขามีทัศนคติที่ดีต่อเจียงเฉินได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่สามารถที่จะเมินชายหนุ่มที่ทรงพลังได้
“แน่นอน”
เจียงเฉินกล่าวออกมา
“ความภาคภูมิใจดีต่อชายหนุ่มอย่างเจ้า เจ้าช่วยชีวิตหยานเหมิงพวกข้าจะดูแลเจ้าในฐานะสหายของตระกูลหยาน แต่น้องชาย อย่าได้โกหกพวกเรา โรคของหยู่เอ๋อร์นั้นแม้แต่ปรมาจารย์ทั้งหลายยังช่วยไม่ได้เลย”
ชายชราคนหนึ่งกล่าวออกมา มันเห็นได้ชัดว่าเขานั้นไม่เชื่อถือในตัวเจียงเฉินว่ามีความสามารถที่จะรักษาโรคร้ายของคุณหนูได้
“ในเมื่อพวกท่านไม่เชื่อถือในตัวข้า งั้นข้าต้องขอตัวกลับก่อน ไม่จำเป็นที่ต้องขอบคุณข้าหรอกงานของข้าก็เสร็จสิ้นแล้ว”
เมื่อเจียงเฉินพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากตรงไปยังทางออกของห้องโถงประชุม
เมื่อเห็นเจียงเฉินได้ออกไปโดยไม่ได้กล่าวอะไร ทุกคนที่อยู่ที่นั่นใจหายกันถ้วนหน้า
“ช้าก่อนน้องชาย”
หยานเจิ้นหยุนรีบไปรั้งเจียงเฉินไว้ คนอื่นๆต่างคิ้วขมวด ถ้าเป็นชายหนุ่มคนอื่นๆที่กล้าเสียมารยาทต่อหน้าพวกเขา พวกเขาจะจับมาตบตี แต่ชายหนุ่มผู้นี้เป็นคนที่ได้ช่วยตระกูลหยานเอาไว้ และพวกเขาได้ยอมรับว่าเขาช่างแตกต่างจากชายหนุ่มคนอื่นๆ
“เจ้าสามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่าจะรักษาบุตรสาวข้าเช่นไร”
หยานเจิ้นหยุนถามออกมา“ข้าต้องทำการวินิจฉัยโรคของคุณหนูด้วยตาตัวเองเสียก่อน หากท่านไม่ไปขอให้คุณหนูมาที่นี่ บอกข้าเสียเถิดว่าท่านไม่ได้เชื่อถือข้า ข้าจะได้กลับไป”
เจียงเฉินนิ่งเงียบแสดงความโกรธออกมาก่อนที่จะเดินตรงไปยังทางออก
“น้องเจียงเฉิน อย่าได้มีโทสะเลย”
หยานเหมิงได้หยุดเจียงเฉินไว้
“ใช่ กรุณาอย่าได้มีโทสะเลยน้องเจียงเฉิน หยานเหมิงไปพาหยู่เอ๋อร์มาที่นี่หน่อย”
หยานเจิ้นหยุนยิ้มขออภัย นี่เป็นครั้งแรกที่เขายอมเชื่อฟังชายหนุ่มระดับฉีไห่ เขาไม่ได้เห็นความสามารถชายหนุ่มผู้นี้ หรือจะมีเทคนิคพิเศษ เขาคงต้องลองที่จะเสี่ยงดูให้ชายหนุ่มได้ลองดู
ไม่นานนักจากนั้น หยานเหมิงได้กลับมา และด้านหลังเขามีเด็กสาวอยู่ เมื่อเจียงเฉินได้เห็นเด็กสาวผู้นี้แล้ว แม้แต่เจียงเฉินผู้มากประสบการณ์เขายังตาเป็นประกายเมื่อพบเด็กสาวผู้นี้
สาย สวยมาก สวยอย่างปฎิเสธไม่ได้
เด็กสาวผู้นี้สวมกระโปรงสีขาวคาดเข็มขัดไหมสีม่วง นางมีรูปร่างโค้งเว้าได้รูป ผมนุ่มยาวสลวย ผมของนางยาวจนถึงไหล่ นางมีดวงตาสุกใส มีฟันขาวบริสุทธิ์ ริมฝีปากบางสมบูรณ์แบบ แม้ยังไม่แต่งหน้าที รูปร่างหน้าตาของนางไร้ที่ติ สิ่งที่ทำให้นางสวยไร้ที่ติ ไม่เพียงรูปร่างหน้าตานาง ดวงตายังเป็นผลึกใสดั่งน้ำบริสุทธิ์ นางงดงามเหมือนกระดาษสีขาวสะอาด ไร้ที่ติ
***************************************************
จบจ้า อิอิอิ